คนละสไตล์กันเลยครับ
ไลก้าจะไล่โทนเนียน นุ่มแต่คม ภาพมีมิติมากๆ
ในขณะที่ไซส์จะออกคอนทราสต์จัด แต่ไล่โทนสวยเหมือนกัน

สองค่ายนี้ ตัวที่เป็นเลนส์ค่ายแท้ๆแบบหมุนมือเอานี่ดูภาพแล้วเหมือนมีอะไรมาสะกดสายตาเลยครับ

แต่ co-production ร่วมกับค่ายอื่นนี่ผมเฉยๆ
ไม่ว่าจะไลก้าโซนิคหรือโซหนี้ไซส์

ราคาครับ ไซส์ราคาประมาณหนึ่งในสาม-สี่ ของไลก้า
โฟ้กลันเดอร์ราคาประมาณหนึ่งในสิบของไลก้า
แต่คุณภาพและความหล่อถ้าให้ไลก้าเต็ม 1
ไซส์คงประมาณ 0.7-0.8
โฟ้กคง 0.4-0.5
แต่ถ้าเทียบจากราคาแบบ affordable แล้วนี่ โฟ้กจะคุ้มมากครับ

----------------------------------------
ไซส์ชื่อรุ่นจะเรียงตามสูตรการจัดวางชิ้นแก้วครับ เช่น Distagon, Planar, Sonnar ฯลฯ ส่วน T* เป็นเทคโนโลยีการเคลือบชิ้นเลนส์ของไซส์
ในยุคดิจิทัลตอนนี้ไซส์ผลิตจากโรงงานของโคชินะครับ จะมี 4 ส่วนหลักๆคือ
- Otus โอตัส ตัวนี้คือเลนส์ที่ไซส์บอกว่าเป็นการนำประสบการณ์ 120 ปีมารวบรวมแก้ไขแล้วยัดเทคโนโลยีล่าสุดของไซส์เข้าไป รวมถึงดีไซน์ที่เหมือนยุคสมัยแห่งอนาคต ใหญ่ หนัก ใช้หน้าฟิลเตอร์ 95Φยังมีเลย
แต่คุณภาพนี่หายห่วง เอฟกว้างสุดคมจรดขอบ
- Milvus มิลบัส ตัวนี้ก็เลนส์สมัยใหม่ มีบางตัวเอาสูตรจัดเรียงชิ้นแก้วของสมัยเก่ามาใช้ มิลบัสคมแต่ไม่เท่าโอตัส แต่น้ำหนักเบากว่าและพกพาสะดวกกว่ามาก
- Classic คลาสสิค คือชื่อซีรี่ส์ของไซส์ที่ปัจจุบันผลิตออกมารองรับกล้อง SLR ที่ยังใช้งานกันอยู่ เช่น Distagon T* 2,8/28, 1,4/35 และ Planar T* 1,4/50, 1,4/85 ทั้งหลายในยุคดิจิตัล
ทั้งสามซีรีส์ข้างบนเป็น ZE, ZF2 (เมาท์ EF, F)
อีกซีรีส์ที่มีการผลิตอยู่จะเป็น ZM (เมาท์ M) สำหรับมิเรอเลสครับ
ในซีรีส์คลาสสิค Planar จะคมกลางแล้วนัวขอบ เหมาะกับถ่ายพอเทรต ส่วน Distagon จะคมจรดขอบ เหมาะกับการถ่ายแลนด์ ท่องเที่ยว อะครับ (ตัว 2,8/28 ดิสทากอน นี่จะออกกึ่งๆพลานากับดิสทากอน คือรอบๆกลางภาพจะนุ่มนวลขึ้น)

ไลก้าชื่อรุ่นจะเรียงตามความกว้างรูรับแสงอะครับ
Elmar 4.0
Elmarit 2.8
Summarit 2.5
Summicron2.0
Summilux 1.4
Noctilux <1.2