เนื่องจาก จขกท. ต้องกู้สินเชื่อกับ ธอส. เพื่อซื้อบ้าน ขอเรียกว่า บัญชีเงินกู้ที่ 1
และแกมบังคับ (ด้วยความไม่รู้ว่าปฏิเสธได้) ให้ทำประกันคุ้มนิรันดร์ด้วย
จำนวนเงิน 17,xxx บาท เมื่อปี 2548 (ครบสัญญา 2568)
ต่อมาปี 2552 ปิดบัญชีเงินกู้ที่ 1 เรียบร้อย (ใช้ระยะเวลา 5 ปี จากทั้งหมด 20 ปี)
ณ ปี 2552 ไม่ทราบเลยว่าสามารถขอเวนคืนประกันคุ้มนิรันดร์ได้
จากนั้น ก็มีการกู้เพื่อซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกกับ ธอส. อีก 2 บัญชีเงินกู้
ซึ่งแต่ละบัญชีเงินกู้ก็ต่างสาขาธนาคาร

จนกระทั่ง ต้นปี 2560 ได้ไถ่ถอนโฉนด หมดภาระผูกพันกับธอส.
และได้ข้อมูลว่าประกันคุ้มนิรันดร์ สามารถขอเงินเวนคืนได้
วันถัดมาก็ยื่นเรื่องผ่านจนท.สินเชื่อของธอส. สาขาเดียวกับตอนที่เปิดบัญชีเงินกู้ที่ 1
ตอนที่ทำเรื่องจนท.สินเชื่อก็ให้ส่งหลักฐานใบเสร็จรับเงินที่ปิดบัญชีเงินกู้ที่ 1 เมื่อปี 2552
แนบไปพร้อมกับกรมธรรม์ตัวจริง ก็ยังดีใจอยู่ว่าจนท.สินเชื่อกับเราเข้าใจตรงกัน

แต่กลับกลายเป็นว่าบริษัทประกัน คืนเงินให้ตามมูลค่าในปี 2560
*ไม่ใช่มูลค่าในปี 2552 ตามที่ปิดบัญชีเงินกู้ที่ 1*

รบกวนขอคำแนะนำจากท่านผู้รู้ ว่าแบบนี้ถือว่ายุติธรรมแล้วใช่ไหม
ถ้าไม่ ควรทำอย่างไรเพื่อขอความยุติธรรม
ถ้าใช่ ขอทราบเหตุผล เพื่อให้ จขกท.ทำใจยอมรับจำนวนเงินตามที่ได้มา 3,000 กว่าบาท
เพราะตอนนี้กำลังนึกถึงคำว่า "ทำนาบนหลังคน"
จขกท. ต้องเสียเงินเพราะความไม่รู้

ขอบคุณสำหรับความกรุณาค่ะ

เพิ่มเติม
ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะของทุกท่านค่ะ
จุดที่เสียใจและกลับไปแก้ไขไม่ได้คือ น่าจะรู้ตั้งแต่ปี 52
จะได้ไม่ต้องรู้สึกเหมือนถูกบังคับให้จ่ายในสิ่งที่ไม่ต้องการ
ขอให้ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์แก่คนที่ยังไม่รู้เช่นกัน