สวัสดีดีครับผมชอบถ่ายรูปเรื่อยเปื่อย หากว่างจากการทำงานหลักหรือวันหยุด ชอบขับรถไปตามที่ต่างๆ ที่คิดว่าเป็นสถานที่สวยงาม
แต่เรื่องนี้ที่จะเล่าให้ฟังเกิดเมื่อ3ปีที่แล้ว ตอนนั้นทำงานอยู่ใกล้กับสนามบินภูเก็ต และพักใกล้ๆที่ทำงานไม่ไกลจากที่ทำงานเท่าไหร่ สถานที่พักอยู่ใกล้ศาลหลักเมือง ผมเป็นคนที่กลัวผีมากๆ อยู่คนเดียวเงียบๆไม่ได้ชอบหลอน น่าจะเข้าใจคนที่กลัวเห็นอะไรนิดหน่อยผ่านหางตาไม่ได้คิดไปไกล
แต่ไม่รู้ทำไมชอบเจอเรื่องแบบนี้ เจอแบบจังๆก็3ครั้ง แบบได้ยินเสียงและเป็นเงาก็บ่อย มีคนบอกว่าคนเกิดวันอังคารเป็นคนดวงแข็ง ชอบเจอเรื่องเหนือธรรมชาติ ถอนหายใจดังๆ
ขอโทษก่อนนะครับผมเป็นคนเรื่องเรื่องไม่เก่งอ่านแล้วอาจจะไม่เข้าใจบ้าง แต่ที่ผมจะเล่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น
เข้าเรื่องดีกว่า เรื่องนี้มีอยู่ว่า ผมทำงานปกติเป็นพนักงานบริษัท แห่งหนึ่งแถวสนามบินภูเก็ต ทำงานแปดโมงถึงห้าโมงเย็น วันนั้นถ้าจำไม่ผิดเป็นวันพระ แต่ผมเป็นคนอิสลามไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ว่าวันพระคือวันอะไร ของชาวพุทธ แค่รู้ว่าคนพุทธทำบุญและบางคนกินเจ หลังจากผมเลิกงาน ก็จะกลับไปเอากล้องถ่ายรูปที่ห้อง เพื่อจะไปถ่ายรูปส่วนร่วมและจำ บางทีถ้ามีเวลาไม่มากชอบไปที่เดิมๆ ไปถ่ายมุมเดิมๆเพราะแต่ละวันบรรยากาศไม่เคยเหมือนกัน
ออกจากห้องไป ใช้เวลาเดินทางยี่สิบนาทีรีบไปก่อนที่ดวงอาทิตย์จะตก สถานที่ ที่ผมชอบไปคือ หาดในยาง ที่อยู่ใกล้สนามบิน แต่ขับไปอีกหน่อยจะเป็นโรงแรมที่สร้างไม่เสร็จถือว่าร้างไปแล้ว ข้อมูลที่ได้ยินมาคือเขาไปสร้างที่เป็นของอุทยาน เลยไม่ได้สร้างต่อ สถานที่ที่นั้นเคยมีค่ายหนังไปถ่ายทำเรื่องผี
ที่ผมไปถ่ายรูปล่อยก็อยู่ใกล้โรงแรมร้างแห่งนั้น เป็นเกาะเล็กๆ เรียกว่าเกาะปลิง เวลาน้ำทะเลลง มันจะสวยมาก ผมไปถึงก็ หกโมงกว่าๆ เพราะแวะหาของกินที่ตลาดนัดก่อนจะมาถึง วันนั้นเป็นวันที่ดวงอาทิตย์กลมใหญ่สวยมาก ผมก็ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อยตามปกติ ถ่ายรูปแนว Landscap และเดินไปเรื่อยๆจนถึงที่เกาะปลิง เกาะเล็กๆเวลาค่ำๆดูน่ากลัว มีต้นมะพร้าวอยู่ไม่กี่ต้น และต้นไม้ที่ชอบขึ้นตามเกาะเรียกไม่ถูกว่าต้นอะไร มีก้อนหินเล็กใหญ่สลับกันไป ถ่ายรูปเก็บรูปไปเรื่อยๆไม่ได้ดูเวลาว่ากี่โมงแล้ว แต่มันยังมีแสงจะดวงอาทิตย์ที่ตกไปแล้วแต่ไม่สว่างมากพอเห็นทางลงจากเกาะ ผมก็เริ่มเก็บของอุปกรณ์กล้องเข้ากระเป๋า เตรียมกลับบ้าน ตามที่บอกผมเป็นคนที่กลัวผีมากๆ อย่าให้ได้ยินเสียงอะไร ข้างๆหูหรือเห็นอะไรผ่านหางตา อีกอย่างนึงถ้าสมองผมว่างเปล่าไม่คิดเรื่องผีมืดๆผมก็ไม่กลัว ผมก็กำลังเก็บของ แล้วได้ยินเสียงขึ้นมาใกล้หูได้ยินใกล้มากเหมือนมีคนพูดข้างหู เฮลโล่!!!! ผมก็นิ่งแปบ ลองฟังดู มันก็เงียบ ไม่มีอะไรเกินขึ้นคิดในใจว่าสงสัยเสียงมาทางหน้าหาดมีคนฝรั่งพูดกัน
ผมก็เดินลงมาใช้เวลาเดินลงมาจากเกาะไปถึงหน้าหาดใช้เวลาห้านาที เดินไปเรื่อยๆใกล้ถึงหาด ได้ยินอีกรอบ เฮลโล่!! และเหมือนคนตัวใหญ่เดินขึ้นมาจากในน้ำ เห็นด้วยหางตา ผมก็หันไปดูไม่มีใคร คิดใจว่าสงสัยเราตาฝาด เพราะแสงจากมือถือตอนเราจ้องนานๆที่ส่องทาง ผมก็เดินไปต่อน้ำทะเลเริ่มขึ้น เดินเลอะตามชายฝั่ง น้ำทะเลเดิมขึ้นเรื่อยๆ รีบเดินเร็วกลัวว่าทางเดินเก่ามันจะจมน้ำจะสูง แล้วได้ยินมาจากข้างหลัง เฮลโล่!!! เหมือนเดิมแต่รอบนี้มันเหมือนตะโกนใส่ ตกใจหันกลับไปดู เห็นเป็นเงาเกาะมืดๆไม่มีใคร คิดในใจว่าต้องรีบเดินให้เร็วกว่านี้ มันเหมือนมีอะไรจะเกิดขึ้นพอสิ้นสุดความคิดนั้นก็ได้ยินอีกรอบ ขนลุกไปทั้งตัว ได้ยินเหมือนคนกระโดดลงน้ำ และได้ยินคนวิ่งเสียงเท้ากระทบกับน้ำ วิ่งเข้ามาเร็วมาก คิดในใจยืนหลับตาไม่เดินต่อ มะ(แม่) ช่วยผมด้วย ไม่รู้มีอะไรตามมา ซักพักเสียงนั่นก็หายไป ผมลืมตาขึ้นมา แทบหัวใจวาย มีเงาดำๆใหญ่ๆยืนอยู่ในน้ำ เห็นหน้าไม่ชัด แต่มันไม่ใช่คนไทยเป็นเหมือนรนต่างชาติตัวใหญ่ๆ ยืนนิ่งๆในน้ำ ผมรีบจับกระเป๋ากล้องให้ถนัดมือลากมาสะพายข้างหน้าแล้วรีบวิ่ง ไปถึงหน้าหาดที่มีเรือหาปลาหลายลำ จอดอยู่ แล้วเห็นเงาดำๆเดินมาจากข้างหน้า 2คน รอบนี้หัวใจเต้นแรงมากเหมือนหัวใจจะหลุดออกมาจากอกมือสั่นขนลุกไปทั้งตัว ผมยืนนิ่งแล้วได้ยินเสียงเหมือนมีคนตะโกนมา เป็นเสียงสำเนียงใต้ บ่าวเป็นอะไรมาทำอะไรคนเดียวแถวนี้ ผมโล่งใจโชคดีจังสงสัยไม่ใช่ผีผมก็วิ่งเข้าไปหา ห่างจากผม 500 เมตร
ว่างๆเข้ามาต่อใหม่นะคับ
ประสบการณ์จากการออกถ่ายรูปตอนกลางคืน เจอดี!
แต่เรื่องนี้ที่จะเล่าให้ฟังเกิดเมื่อ3ปีที่แล้ว ตอนนั้นทำงานอยู่ใกล้กับสนามบินภูเก็ต และพักใกล้ๆที่ทำงานไม่ไกลจากที่ทำงานเท่าไหร่ สถานที่พักอยู่ใกล้ศาลหลักเมือง ผมเป็นคนที่กลัวผีมากๆ อยู่คนเดียวเงียบๆไม่ได้ชอบหลอน น่าจะเข้าใจคนที่กลัวเห็นอะไรนิดหน่อยผ่านหางตาไม่ได้คิดไปไกล
แต่ไม่รู้ทำไมชอบเจอเรื่องแบบนี้ เจอแบบจังๆก็3ครั้ง แบบได้ยินเสียงและเป็นเงาก็บ่อย มีคนบอกว่าคนเกิดวันอังคารเป็นคนดวงแข็ง ชอบเจอเรื่องเหนือธรรมชาติ ถอนหายใจดังๆ
ขอโทษก่อนนะครับผมเป็นคนเรื่องเรื่องไม่เก่งอ่านแล้วอาจจะไม่เข้าใจบ้าง แต่ที่ผมจะเล่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น
เข้าเรื่องดีกว่า เรื่องนี้มีอยู่ว่า ผมทำงานปกติเป็นพนักงานบริษัท แห่งหนึ่งแถวสนามบินภูเก็ต ทำงานแปดโมงถึงห้าโมงเย็น วันนั้นถ้าจำไม่ผิดเป็นวันพระ แต่ผมเป็นคนอิสลามไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ว่าวันพระคือวันอะไร ของชาวพุทธ แค่รู้ว่าคนพุทธทำบุญและบางคนกินเจ หลังจากผมเลิกงาน ก็จะกลับไปเอากล้องถ่ายรูปที่ห้อง เพื่อจะไปถ่ายรูปส่วนร่วมและจำ บางทีถ้ามีเวลาไม่มากชอบไปที่เดิมๆ ไปถ่ายมุมเดิมๆเพราะแต่ละวันบรรยากาศไม่เคยเหมือนกัน
ออกจากห้องไป ใช้เวลาเดินทางยี่สิบนาทีรีบไปก่อนที่ดวงอาทิตย์จะตก สถานที่ ที่ผมชอบไปคือ หาดในยาง ที่อยู่ใกล้สนามบิน แต่ขับไปอีกหน่อยจะเป็นโรงแรมที่สร้างไม่เสร็จถือว่าร้างไปแล้ว ข้อมูลที่ได้ยินมาคือเขาไปสร้างที่เป็นของอุทยาน เลยไม่ได้สร้างต่อ สถานที่ที่นั้นเคยมีค่ายหนังไปถ่ายทำเรื่องผี
ที่ผมไปถ่ายรูปล่อยก็อยู่ใกล้โรงแรมร้างแห่งนั้น เป็นเกาะเล็กๆ เรียกว่าเกาะปลิง เวลาน้ำทะเลลง มันจะสวยมาก ผมไปถึงก็ หกโมงกว่าๆ เพราะแวะหาของกินที่ตลาดนัดก่อนจะมาถึง วันนั้นเป็นวันที่ดวงอาทิตย์กลมใหญ่สวยมาก ผมก็ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อยตามปกติ ถ่ายรูปแนว Landscap และเดินไปเรื่อยๆจนถึงที่เกาะปลิง เกาะเล็กๆเวลาค่ำๆดูน่ากลัว มีต้นมะพร้าวอยู่ไม่กี่ต้น และต้นไม้ที่ชอบขึ้นตามเกาะเรียกไม่ถูกว่าต้นอะไร มีก้อนหินเล็กใหญ่สลับกันไป ถ่ายรูปเก็บรูปไปเรื่อยๆไม่ได้ดูเวลาว่ากี่โมงแล้ว แต่มันยังมีแสงจะดวงอาทิตย์ที่ตกไปแล้วแต่ไม่สว่างมากพอเห็นทางลงจากเกาะ ผมก็เริ่มเก็บของอุปกรณ์กล้องเข้ากระเป๋า เตรียมกลับบ้าน ตามที่บอกผมเป็นคนที่กลัวผีมากๆ อย่าให้ได้ยินเสียงอะไร ข้างๆหูหรือเห็นอะไรผ่านหางตา อีกอย่างนึงถ้าสมองผมว่างเปล่าไม่คิดเรื่องผีมืดๆผมก็ไม่กลัว ผมก็กำลังเก็บของ แล้วได้ยินเสียงขึ้นมาใกล้หูได้ยินใกล้มากเหมือนมีคนพูดข้างหู เฮลโล่!!!! ผมก็นิ่งแปบ ลองฟังดู มันก็เงียบ ไม่มีอะไรเกินขึ้นคิดในใจว่าสงสัยเสียงมาทางหน้าหาดมีคนฝรั่งพูดกัน
ผมก็เดินลงมาใช้เวลาเดินลงมาจากเกาะไปถึงหน้าหาดใช้เวลาห้านาที เดินไปเรื่อยๆใกล้ถึงหาด ได้ยินอีกรอบ เฮลโล่!! และเหมือนคนตัวใหญ่เดินขึ้นมาจากในน้ำ เห็นด้วยหางตา ผมก็หันไปดูไม่มีใคร คิดใจว่าสงสัยเราตาฝาด เพราะแสงจากมือถือตอนเราจ้องนานๆที่ส่องทาง ผมก็เดินไปต่อน้ำทะเลเริ่มขึ้น เดินเลอะตามชายฝั่ง น้ำทะเลเดิมขึ้นเรื่อยๆ รีบเดินเร็วกลัวว่าทางเดินเก่ามันจะจมน้ำจะสูง แล้วได้ยินมาจากข้างหลัง เฮลโล่!!! เหมือนเดิมแต่รอบนี้มันเหมือนตะโกนใส่ ตกใจหันกลับไปดู เห็นเป็นเงาเกาะมืดๆไม่มีใคร คิดในใจว่าต้องรีบเดินให้เร็วกว่านี้ มันเหมือนมีอะไรจะเกิดขึ้นพอสิ้นสุดความคิดนั้นก็ได้ยินอีกรอบ ขนลุกไปทั้งตัว ได้ยินเหมือนคนกระโดดลงน้ำ และได้ยินคนวิ่งเสียงเท้ากระทบกับน้ำ วิ่งเข้ามาเร็วมาก คิดในใจยืนหลับตาไม่เดินต่อ มะ(แม่) ช่วยผมด้วย ไม่รู้มีอะไรตามมา ซักพักเสียงนั่นก็หายไป ผมลืมตาขึ้นมา แทบหัวใจวาย มีเงาดำๆใหญ่ๆยืนอยู่ในน้ำ เห็นหน้าไม่ชัด แต่มันไม่ใช่คนไทยเป็นเหมือนรนต่างชาติตัวใหญ่ๆ ยืนนิ่งๆในน้ำ ผมรีบจับกระเป๋ากล้องให้ถนัดมือลากมาสะพายข้างหน้าแล้วรีบวิ่ง ไปถึงหน้าหาดที่มีเรือหาปลาหลายลำ จอดอยู่ แล้วเห็นเงาดำๆเดินมาจากข้างหน้า 2คน รอบนี้หัวใจเต้นแรงมากเหมือนหัวใจจะหลุดออกมาจากอกมือสั่นขนลุกไปทั้งตัว ผมยืนนิ่งแล้วได้ยินเสียงเหมือนมีคนตะโกนมา เป็นเสียงสำเนียงใต้ บ่าวเป็นอะไรมาทำอะไรคนเดียวแถวนี้ ผมโล่งใจโชคดีจังสงสัยไม่ใช่ผีผมก็วิ่งเข้าไปหา ห่างจากผม 500 เมตร
ว่างๆเข้ามาต่อใหม่นะคับ