เมื่อต้นปี 2017 ผมเพิ่งยื่นขอวีซ่าเชงเก้นแบบท่องเที่ยวระยะสั้นของประเทศฮังการี พบว่ามีรีวิวเก่าๆของการขอวีซ่าจากประเทศนี้ให้อ่านน้อยมาก คงเป็นเพราะฮังการีไม่ใช่ประเทศท่องเที่ยวยอดฮิตของคนไทย ดังนั้นจึงทำรีวิวนี้ขึ้นมาเพื่อแบ่งปันข้อมูลความรู้สำหรับคนที่คิดจะยื่นขอวีซ่าเชงเก้นของฮังการี
กระทู้อ้างอิงที่พอหาเจอเป็นของปี 2558 ชื่อกระทู้ "เพิ่งไปขอวีซ่าฮังการีมา..."
https://ppantip.com/topic/33655834
ก่อนอื่นขออธิบายหลักการขอวีซ่าเชงเก้นก่อน กฎการขอวีซ่าเชงเก้นนั้น หลายคนยังเข้าใจผิดว่าให้ขอจากประเทศแรกในกลุ่มเชงเก้นที่ไปถึง ซึ่งมันไม่ถูกต้องเลย ความจริงต้องยื่นขอจากประเทศที่เราพักค้างคืนนานสุด เว้นแต่ถ้าพักจำนวนคืนเท่ากัน ถึงจะขอจากประเทศแรกที่เข้า
ตย.ถ้าเราทำแผนการเดินทางแบบนี้ จาก กทม.บินไป อิตาลี พัก 4 คืน แล้วใช้รถไฟไปสวิส พัก 5 คืน จากนั้นบินไปจบทริปที่สเปน พัก 4 คืน
ถ้าเรานำแผนการเดินทางนี้ไปยื่นขอวีซ่าเชงเก้นของอิตาลีหรือสเปน เราจะถูกสถานทูตของทั้งอิตาลีและสเปนปฏิเสธไม่รับทำให้ เพราะตามแผนนี้เราพักค้างคืนที่สวิสนานสุดในทริป ดังนั้นต้องไปขอวีซ่าเชงเก้นของสวิสเท่านั้น
ข้อควรระวังในการขอวีซ่าเชงเก้น
เอกสารหลักฐานต่างๆในการขอวีซ่าเชงเก้น เชื่อว่าคนทั่วไปสามารถเสิร์จเนตหาเองได้ไม่ยาก ผมจะไม่กล่าวถึงอีก แต่จะแนะนำวิธีทำแผนการเดินทางสำรองเพื่อขอวีซ่าเชงเก้นจากประเทศที่เราต้องการ ขอย้ำว่าถ้าเราใช้วีซ่าเชงเก้นแบบผิดกฎอาจโดนจนท.ตม.ส่งตัวกลับได้ทันที กล่าวคือ สมมติว่าเราใช้วีซ่าเชงเก้นเบลเยี่ยม แต่บินเข้าเยอรมันเป็นที่แรก ถ้าจนท.ตม.ของเยอรมันสงสัย ขอดูหลักฐานว่ามีการเดินทางเข้าเบลเยี่ยมหรือไม่ หรือมีใบจองโรงแรมในเบลเยี่ยมหรือไม่ ถ้าเราไม่มีหลักฐานใดมาแสดงก็หมายความว่าเราไม่ได้เข้าเขตประเทศเบลเยี่ยมเลย แต่ดันใช้วีซ่าเชงเก้นเบลเยี่ยม
สรุปว่าเราใช้วีซ่าเชงเก้นผิดระเบียบ โดนตม.เยอรมันส่งกลับยกคณะทัวร์ก็มีมาแล้วนะครับ อย่าประมาทเชียว ดังนั้นถ้าเราขอวีซ่าเชงเก้นจากประเทศแรกที่ไปถึงหรือขอวีซ่าจากประเทศที่พักค้างคืนนานสุดย่อมปลอดภัยแน่นอน ตม.ไม่สงสัยอะไรแน่ และถึงแม้ว่าตม.สงสัย (เคสที่เราใช้วีซ่าจากประเทศที่ไม่ได้เดินทางเข้าเป็นที่แรก) เราก็สามารถอธิบายชี้แจงได้ เพราะมีเอกสารใบจองที่พักและเอกสารการเดินทางเข้าประเทศที่ขอวีซ่าเชงเก้นจริง
อีกเรื่องที่หลายคนยังไม่รู้ คือการใช้วีซ่าเชงเก้นแบบ multiple นั้น จะเข้มงวดในการเข้าประเทศกลุ่มเชงเก้นแค่ครั้งแรกเท่านั้นครับ และควรเข้าประเทศกลุ่มเชงเก้นให้ตรงตามระเบียบของวีซ่าเชงเก้น (ทำตามกฎวีซ่าเชงเก้นนั่นเอง) แต่หลังจากนั้นการเดินทางเข้ากลุ่มเชงเก้นในครั้งต่อไป จะเลือกเข้าประเทศใดและกลับออกจากประเทศใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นประเทศที่ได้วีซ่าเชงเก้นเลยด้วยซ้ำไป
เพราะการขอวีซ่าเชงเก้นแบบ multiple เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าออกกลุ่มประเทศเชงเก้นหลายครั้ง
ตย. ถ้าเรามีทริปการเดินทางแบบนี้
ทริป 1 เดือน ม.ค. บินเข้าไปเที่ยวสวิส (อยู่นานสุด) กับ อิตาลี
ทริป 2 เดือน มี.ค. บินเข้าไปเที่ยวเยอรมัน (อยู่นานสุด) ,ฝรั่งเศส,สเปน
แบบนี้เราต้องขอวีซ่าเชงเก้นสวิสแบบ multiple และถ้าได้รับวีซ่าจำนวนวันยาวครอบคลุมทั้ง 2 ทริป เราก็สามารถใช้วีซ่าแบบ multiple นี้เดินทางได้ทั้ง 2 ทริป โดยทริปที่ 2 เราไม่ได้เดินทางเข้าสวิสเลยด้วยซ้ำ
การจองตั๋วเครื่องบินเพื่อใช้ยื่นขอวีซ่าเชงเก้น ทำเองได้ง่ายมากๆ ไม่ต้องเสียเงินให้เอเยนต์ใดๆ ปริ๊นต์จากเนตได้ฟรี เพราะสถานทูตในเชงเก้นไม่ต้องการให้เราจ่ายเงินค่าตั๋วเครื่องบินหรือค่าที่พักล่วงหน้าก่อนได้รับอนุมัติวีซ่า เพราะไม่อยากให้เราเสียเงินฟรีถ้าวีซ่าไม่ผ่าน
-การจองตั๋วเครื่องบินแบบไปกลับไทย-ยุโรป ให้ใช้วิธีเข้าไปจองตั๋วเครื่องบินที่เวปสายการบิน KLM ทำตามขั้นตอนจนถึงการจ่ายเงิน ให้เลือกจ่ายแบบ bank transfer พอจองเสร็จ ระบบจะส่งใบยืนยันการจอง (confirm booking) มาให้เราทางอีเมล เอาใบจองนั้นไปยื่นขอวีซ่าเชงเก้นได้เลย ถ้าวันรุ่งขึ้นเราไม่ไปจ่ายเงินที่ธนาคาร ใบจองนี้จะหมดอายุทันที แต่ไม่มีปัญหาใดให้เราต้องกังวลใจ
ตย.ถ้าจะไปยื่นขอวีซ่าเชงเก้นในวันที่ 2 เราก็ควรทำเรื่องจองตั๋วเครื่องบินผ่านเวป KLM ภายในวันที่ 1 หรือเช้าวันที่ 2 เพื่อไม่ให้ใบจองหมดอายุในวันที่ยื่นขอวีซ่า แค่นี้ก็เรียบร้อย ระหว่างนั้นถ้าเราไม่ไปจ่ายเงินภายใน 48 ชม. ใบจองจะหมดอายุทันทีไม่มีปัญหาใด พอได้วีซ่าแล้ว เราค่อยตัดสินใจว่าจะซื้อตั๋วเครื่องบินกับสายการบินใดก็ได้
ข้อสำคัญ เราควรยื่นขอวีซ่าแบบบวกวันเพิ่มเผื่อกรณีฉุกเฉิน เช่นสายการบินเปลี่ยนแปลงเวลาบิน เราจะได้ปรับตัวแก้ปัญหาได้ง่าย เพราะบ่อยครั้งที่บางประเทศในกลุ่มเชงเก้นมักจะอนุมัติวีซ่าเท่ากับจำนวนวันตามใบจองตั๋วเครื่องบินแบบพอดีเป๊ะ ถ้าเราเจอเหตุดีเลย์หรือสายการบินเปลี่ยนแปลงเวลาบินแบบข้ามวันขึ้นมาล่ะ ยุ่งยากเลยทีนี้
ตย. สมมติผมเดินทางจริงเข้าเขตเชงเก้น 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 - 11 ก.ย. แต่ผมจะยื่นขอวีซ่าเชงเก้นโดยใช้แผนการเดินทางสำรอง ใช้ใบจองตั๋วเครื่องบินและใบจองที่พักแบบยังไม่ต้องจ่ายเงินก่อน เป็นเข้าเขตเชงเก้นรวม 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 - 12 ก.ย. บวกเพิ่มหัวท้ายอย่างละวัน เท่านี้ก็ปลอดภัยแล้ว (อย่าลืมซื้อประกันภัยให้ครอบคลุมวันเดินทางตามใบจองตั๋วเครื่องบินด้วย) ถ้าสายการบินทำการเปลี่ยนแปลงเวลาบินภายหลังจากที่ได้รับอนุมัติวีซ่า แผนการเดินทางสำรองของเราก็จะกลายเป็นแผนการเดินทางจริงทันที
ขั้นตอนการยื่นขอวีซ่าเชงเก้นฮังการี
1.เข้าไปทำการนัดหมายล่วงหน้าที่เวปของสถานทูตฮังการีในไทย
https://bangkok.mfa.gov.hu/eng เลื่อนลงมาด้านล่างของช่อง READ MORE ให้คลิกที่ช่อง Appointment for visa (ช่องสี่เหลี่ยมมีสัญลักษณ์รูปตารางปฏิทิน) การทำนัดหมายถ้ายื่นพร้อมกัน 2 คน ก็ต้องทำนัดหมายแยก (1 คน 1 เวลา แต่นัดหมายเวลาติดกันได้) ไม่สามารถทำนัดเดียวพร้อมกันได้ แต่วันที่ไปยื่นจริงสามารถยื่นได้พร้อมกัน ไม่งงนะ
-ยื่นคำร้องล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วันก่อนวันเดินทาง
2.การเตรียมเอกสาร เข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่นี่
https://bangkok.mfa.gov.hu/tha/page/konzuli-tajekoztatas
-สิ่งที่ต้องเตรียมเพิ่มเติมจาก list ด้านบน คือ สำเนาบัตรปชช.และสำเนาทะเบียนบ้าน (ไม่ต้องแปลอังกฤษให้ยุ่งยาก ง่ายดีจัง) คนละ 1 ชุด
-อย่าลืมเตรียมเงินสดค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า คนละ 60 ยูโร (ต้องจ่ายเป็นเงินยูโรเท่านั้น)
-รูปถ่าย สี พื้นหลังสีขาว ขนาด 2x2 นิ้ว มีอายุไม่เกิน 6 เดือน (จำได้ว่าใช้แค่รูปเดียวนะ แต่เตรียมไปเผื่อซัก 2 รูปละกัน)
*ข้อสังเกต ไม่เน้นว่ารูปถ่ายขนาดใบหน้าต้องยาวเท่าไหร่ สรุปง่ายๆว่าไม่ซีเรียสเหมือนประเทศอื่นในเชงเก้น ขอแค่รูปสี พื้นหลังขาว ขนาดถูกต้อง 2x2 นิ้วก็พอ อย่าลืมเตรียมรูปไปให้พร้อม เพราะในสถานทูตไม่มีบริการถ่ายรูปนะจ๊ะ
-ข้อพึงระวัง หนังสือเดินทาง (PASSPORT) ต้องมีอายุคงเหลืออย่างน้อย 3 เดือน หลังจากวันที่เดินทางออกนอกเขตเชงเก้น
-หลักฐานการเงินสามารถใช้สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พร้อมรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน (อย่าลืมพกสมุดบัญชีตัวจริงไปด้วย เผื่อจนท.ขอดู แต่พอดูเสร็จก็ส่งตัวจริงคืนให้ทันที)
-เคสผม ทำธุรกิจส่วนตัวไม่มีหลักฐานเอกสารการทำงานใดๆ จึงใช้วิธีเขียนจม.แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ ชี้แจงว่าทำงานอะไร รายได้เท่าไหร่ แค่นั้น
3.สถานทูตฮังการีในกทม.ตอนนี้ย้ายไปอยู่ ชั้น 14 ในตึก park ventures ติดรถไฟฟ้า bts สถานีเพลินจิต มีทางเชื่อมเดินเข้าตึกจากสถานีรถไฟฟ้าได้เลย
-สถานฯทูตจะเปิดทำการสำหรับยื่นเอกสารขอวีซ่าในวันจันทร์ วันพุธ และ วันศุกร์ ระหว่างเวลา 09.00 - 13.00 น.
-ท่านสามารถมารับวีซ่าได้ตามวันที่ระบุไว้ในใบเสร็จรับเงินเป็นต้นไป ในวันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 09.00 - 14.00 น. (ใช้แค่ใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานเพียงใบเดียวในการขอรับพาสปอร์ตคืน เคสของผมยื่นขอพร้อมแฟน แต่ผมได้ใบเสร็จเดียวรวมกัน 2 คน ก็ใช้แค่ใบเสร็จเดียวนี้แหละยื่นขอรับพาสปอร์ตคืนทั้ง 2 เล่ม)
4.ในวันที่ไปยื่นเอกสารขอวีซ่า จนท.จะนัดวันรับคืนพาสปอร์ตทันที โดยระบุวันรับคืนในใบเสร็จรับเงิน เคสของผมนับไปอีก 15 วัน (รวมเสาร์,อาทิตย์) พอดี ผมเลยเดาว่าทุกเคสน่าจะใช้เวลาพิจารณาวีซ่า 15 วันเท่ากันหมด
ข้อดีของการขอวีซ่าเชงเก้นฮังการี
1.ใช้เอกสารน้อยกว่าหลายประเทศในเชงเก้น เช่น
-ไม่ต้องแปลสำเนาบัตรปชช.และทะเบียนบ้าน (ยุ่งยากน้อยกว่าเยอะ)
-ไม่ต้องเสียเงินขอหนังสือรับรองความเป็นเจ้าของบัญชีจากธนาคาร เพราะใช้แค่สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่มีรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน
-ไม่ซีเรียสเรื่องขนาดใบหน้าของรูปถ่าย อันนี้ดีงามมาก เพราะเคยขอวีซ่าเชงเก้นที่ประเทศอื่น ผมมักเจอปัญหาความเข้มงวดเรื่องขนาดใบหน้าในรูปถ่าย
-ไม่ต้องถ่ายสำเนาหน้าพาสปอร์ตที่มีตราประทับวีซ่าเชงเก้นเดิม ถ่ายสำเนาแค่หน้าพาสปอร์ตธรรมดา ประหยัดเอกสารได้อีก
2.จนท.สถานทูตฮังการีให้บริการดีมาก ตอบคำถามทางโทรศัพท์อย่างดี รอสายไม่นาน มีข้อสงสัยอยากถามอะไรโทรไปที่ 02 118-9600
-ที่ตั้งสถานทูตอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต เดินทางสะดวกมาก
3.ประหยัดเงินมากกว่าการขอวีซ่าเชงเก้นที่ประเทศอื่น เพราะยื่นขอกับสถานทูตโดยตรง ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้พวก VFS หรือ TLS เซฟเงินไปราวพันกว่าบาทต่อคน (ผมว่าเยอะพอสมควรนา)
ข้อเสียหรือข้อจำกัดของการขอวีซ่าเชงเก้นฮังการี
1.จนท.สถานทูต (คนไทย) บอกย้ำเลยว่าที่นี่ไม่ให้ multiple ง่ายๆ ต้องมีแผนการเดินทางที่ชัดเจน ขนาดผมเมคแผนการเดินทางเพราะอยากได้วีซ่าเชงเก้นแบบ multiple โดยทำเป็นว่าระหว่างทริปมีการบินออกนอกกลุ่มเชงเก้นไปเที่ยวรัสเซียหรือตุรกี แล้วค่อยบินกลับเข้าเชงเก้นอีกที จนท.คนไทยยังบอกเลยว่าเคสนี้อาจได้แค่วีซ่าเชงเก้นแบบ double entry เท่านั้น
2.จนท.คนเดิมบอกว่าที่นี่เป็นสถานทูตขนาดเล็ก กงศุลมักไม่ให้วีซ่ายาว พูดง่ายๆคืออย่าหวังว่าจะได้อายุวีซ่าแบบยาวๆ (ฝันไปเถอะ) ให้ระยะสั้นหมดรวมทั้ง DURATION OF STAY ด้วย ได้แค่ตามจำนวนวันเดินทางตามแผนการเดินทางที่เรายื่นไปเท่านั้นแหละ แต่อายุวีซ่าอาจเผื่อเพิ่มให้อีกหลายวัน ซึ่งก็มีประโยชน์ไม่มากเท่าไหร่เพราะจำกัดวัน DURATION OF STAY อยู่ดี
ดังนั้นถ้าใครมีแผนไปเที่ยวเชงเก้นทุกปี การขอวีซ่าฮังการีจะไม่เซฟเงินเลย เพราะการให้อายุวีซ่าสั้นๆเท่ากับว่าทุกครั้งที่เดินทาง คุณก็ต้องยื่นขอวีซ่าเชงเก้นใหม่อยู่ดี แต่ถ้าใครไม่มีแผนเดินทางไปเชงเก้นอีก (หลายๆปีถึงจะเดินทางซักครั้ง) เคสแบบนี้ถ้ายื่นขอวีซ่าฮังการีก็จะประหยัดเงินค่าขอวีซ่ามากกว่าประเทศอื่นในเชงเก้น (ราวคนละพันกว่าบาทไทย)
3.ระยะเวลาในการพิจารณาอนุมัติวีซ่า 15 วันเป๊ะ อย่าหวังว่ามายื่นขอที่นี่แล้วจะรู้ผลเร็วแบบ 3-4 วันเหมือนของอิตาลีนะจ๊ะ
สุดท้ายโฆษณากระทู้เก่าของผมเองครับ
1.ปี 2015 "การขอวีซ่าเชงเก้นและรวมทริคการเที่ยวยุโรปแบบประหยัด"
http://ppantip.com/topic/33870954
2.ปี 2015 รีวิวการซื้อ Rolex in Sweden
https://ppantip.com/topic/33883164
3.ปี 2016 ทริปล่องเรือสำราญหมู่เกาะอังกฤษกับ Princess Cruieses มีทั้งหมด 16 ตอน อ่านได้ที่นี่
http://ppantip.com/topic/35599440
4.ปี 2017 “เพียงเพื่อน” รีวิวทริปยุโรป 7 ประเทศ 18 เมือง Part 1 การวางแผนและงบประมาณ วันที่ 1 เวียนนา ชม Belvedere Palace
https://ppantip.com/topic/36586353
5.ปี 2017 เตือนภัย! แก๊งค์มิจฉาชีพในอิตาลี
https://ppantip.com/topic/36546431
6.ปี 2017 รีวิวการซื้อนาฬิกา Vacheron Constantin in Hungary
https://ppantip.com/topic/36658326
7.ปี 2018 เพียงเพื่อน : รีวิวล่องเรือสำราญยุโรป Celebrity X Part 1 สรุปภาพรวมของทริป + การวางแผนและงบประมาณ
https://ppantip.com/topic/37742260
[CR] รีวิวขั้นตอนการขอวีซ่าเชงเก้นฮังการี ปี 2017 (แบบท่องเที่ยวระยะสั้น) พร้อมแจกแจงข้อดีข้อเสีย
กระทู้อ้างอิงที่พอหาเจอเป็นของปี 2558 ชื่อกระทู้ "เพิ่งไปขอวีซ่าฮังการีมา..." https://ppantip.com/topic/33655834
ก่อนอื่นขออธิบายหลักการขอวีซ่าเชงเก้นก่อน กฎการขอวีซ่าเชงเก้นนั้น หลายคนยังเข้าใจผิดว่าให้ขอจากประเทศแรกในกลุ่มเชงเก้นที่ไปถึง ซึ่งมันไม่ถูกต้องเลย ความจริงต้องยื่นขอจากประเทศที่เราพักค้างคืนนานสุด เว้นแต่ถ้าพักจำนวนคืนเท่ากัน ถึงจะขอจากประเทศแรกที่เข้า
ตย.ถ้าเราทำแผนการเดินทางแบบนี้ จาก กทม.บินไป อิตาลี พัก 4 คืน แล้วใช้รถไฟไปสวิส พัก 5 คืน จากนั้นบินไปจบทริปที่สเปน พัก 4 คืน
ถ้าเรานำแผนการเดินทางนี้ไปยื่นขอวีซ่าเชงเก้นของอิตาลีหรือสเปน เราจะถูกสถานทูตของทั้งอิตาลีและสเปนปฏิเสธไม่รับทำให้ เพราะตามแผนนี้เราพักค้างคืนที่สวิสนานสุดในทริป ดังนั้นต้องไปขอวีซ่าเชงเก้นของสวิสเท่านั้น
ข้อควรระวังในการขอวีซ่าเชงเก้น
เอกสารหลักฐานต่างๆในการขอวีซ่าเชงเก้น เชื่อว่าคนทั่วไปสามารถเสิร์จเนตหาเองได้ไม่ยาก ผมจะไม่กล่าวถึงอีก แต่จะแนะนำวิธีทำแผนการเดินทางสำรองเพื่อขอวีซ่าเชงเก้นจากประเทศที่เราต้องการ ขอย้ำว่าถ้าเราใช้วีซ่าเชงเก้นแบบผิดกฎอาจโดนจนท.ตม.ส่งตัวกลับได้ทันที กล่าวคือ สมมติว่าเราใช้วีซ่าเชงเก้นเบลเยี่ยม แต่บินเข้าเยอรมันเป็นที่แรก ถ้าจนท.ตม.ของเยอรมันสงสัย ขอดูหลักฐานว่ามีการเดินทางเข้าเบลเยี่ยมหรือไม่ หรือมีใบจองโรงแรมในเบลเยี่ยมหรือไม่ ถ้าเราไม่มีหลักฐานใดมาแสดงก็หมายความว่าเราไม่ได้เข้าเขตประเทศเบลเยี่ยมเลย แต่ดันใช้วีซ่าเชงเก้นเบลเยี่ยม
สรุปว่าเราใช้วีซ่าเชงเก้นผิดระเบียบ โดนตม.เยอรมันส่งกลับยกคณะทัวร์ก็มีมาแล้วนะครับ อย่าประมาทเชียว ดังนั้นถ้าเราขอวีซ่าเชงเก้นจากประเทศแรกที่ไปถึงหรือขอวีซ่าจากประเทศที่พักค้างคืนนานสุดย่อมปลอดภัยแน่นอน ตม.ไม่สงสัยอะไรแน่ และถึงแม้ว่าตม.สงสัย (เคสที่เราใช้วีซ่าจากประเทศที่ไม่ได้เดินทางเข้าเป็นที่แรก) เราก็สามารถอธิบายชี้แจงได้ เพราะมีเอกสารใบจองที่พักและเอกสารการเดินทางเข้าประเทศที่ขอวีซ่าเชงเก้นจริง
อีกเรื่องที่หลายคนยังไม่รู้ คือการใช้วีซ่าเชงเก้นแบบ multiple นั้น จะเข้มงวดในการเข้าประเทศกลุ่มเชงเก้นแค่ครั้งแรกเท่านั้นครับ และควรเข้าประเทศกลุ่มเชงเก้นให้ตรงตามระเบียบของวีซ่าเชงเก้น (ทำตามกฎวีซ่าเชงเก้นนั่นเอง) แต่หลังจากนั้นการเดินทางเข้ากลุ่มเชงเก้นในครั้งต่อไป จะเลือกเข้าประเทศใดและกลับออกจากประเทศใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นประเทศที่ได้วีซ่าเชงเก้นเลยด้วยซ้ำไป
เพราะการขอวีซ่าเชงเก้นแบบ multiple เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าออกกลุ่มประเทศเชงเก้นหลายครั้ง
ตย. ถ้าเรามีทริปการเดินทางแบบนี้
ทริป 1 เดือน ม.ค. บินเข้าไปเที่ยวสวิส (อยู่นานสุด) กับ อิตาลี
ทริป 2 เดือน มี.ค. บินเข้าไปเที่ยวเยอรมัน (อยู่นานสุด) ,ฝรั่งเศส,สเปน
แบบนี้เราต้องขอวีซ่าเชงเก้นสวิสแบบ multiple และถ้าได้รับวีซ่าจำนวนวันยาวครอบคลุมทั้ง 2 ทริป เราก็สามารถใช้วีซ่าแบบ multiple นี้เดินทางได้ทั้ง 2 ทริป โดยทริปที่ 2 เราไม่ได้เดินทางเข้าสวิสเลยด้วยซ้ำ
การจองตั๋วเครื่องบินเพื่อใช้ยื่นขอวีซ่าเชงเก้น ทำเองได้ง่ายมากๆ ไม่ต้องเสียเงินให้เอเยนต์ใดๆ ปริ๊นต์จากเนตได้ฟรี เพราะสถานทูตในเชงเก้นไม่ต้องการให้เราจ่ายเงินค่าตั๋วเครื่องบินหรือค่าที่พักล่วงหน้าก่อนได้รับอนุมัติวีซ่า เพราะไม่อยากให้เราเสียเงินฟรีถ้าวีซ่าไม่ผ่าน
-การจองตั๋วเครื่องบินแบบไปกลับไทย-ยุโรป ให้ใช้วิธีเข้าไปจองตั๋วเครื่องบินที่เวปสายการบิน KLM ทำตามขั้นตอนจนถึงการจ่ายเงิน ให้เลือกจ่ายแบบ bank transfer พอจองเสร็จ ระบบจะส่งใบยืนยันการจอง (confirm booking) มาให้เราทางอีเมล เอาใบจองนั้นไปยื่นขอวีซ่าเชงเก้นได้เลย ถ้าวันรุ่งขึ้นเราไม่ไปจ่ายเงินที่ธนาคาร ใบจองนี้จะหมดอายุทันที แต่ไม่มีปัญหาใดให้เราต้องกังวลใจ
ตย.ถ้าจะไปยื่นขอวีซ่าเชงเก้นในวันที่ 2 เราก็ควรทำเรื่องจองตั๋วเครื่องบินผ่านเวป KLM ภายในวันที่ 1 หรือเช้าวันที่ 2 เพื่อไม่ให้ใบจองหมดอายุในวันที่ยื่นขอวีซ่า แค่นี้ก็เรียบร้อย ระหว่างนั้นถ้าเราไม่ไปจ่ายเงินภายใน 48 ชม. ใบจองจะหมดอายุทันทีไม่มีปัญหาใด พอได้วีซ่าแล้ว เราค่อยตัดสินใจว่าจะซื้อตั๋วเครื่องบินกับสายการบินใดก็ได้
ข้อสำคัญ เราควรยื่นขอวีซ่าแบบบวกวันเพิ่มเผื่อกรณีฉุกเฉิน เช่นสายการบินเปลี่ยนแปลงเวลาบิน เราจะได้ปรับตัวแก้ปัญหาได้ง่าย เพราะบ่อยครั้งที่บางประเทศในกลุ่มเชงเก้นมักจะอนุมัติวีซ่าเท่ากับจำนวนวันตามใบจองตั๋วเครื่องบินแบบพอดีเป๊ะ ถ้าเราเจอเหตุดีเลย์หรือสายการบินเปลี่ยนแปลงเวลาบินแบบข้ามวันขึ้นมาล่ะ ยุ่งยากเลยทีนี้
ตย. สมมติผมเดินทางจริงเข้าเขตเชงเก้น 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 - 11 ก.ย. แต่ผมจะยื่นขอวีซ่าเชงเก้นโดยใช้แผนการเดินทางสำรอง ใช้ใบจองตั๋วเครื่องบินและใบจองที่พักแบบยังไม่ต้องจ่ายเงินก่อน เป็นเข้าเขตเชงเก้นรวม 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 - 12 ก.ย. บวกเพิ่มหัวท้ายอย่างละวัน เท่านี้ก็ปลอดภัยแล้ว (อย่าลืมซื้อประกันภัยให้ครอบคลุมวันเดินทางตามใบจองตั๋วเครื่องบินด้วย) ถ้าสายการบินทำการเปลี่ยนแปลงเวลาบินภายหลังจากที่ได้รับอนุมัติวีซ่า แผนการเดินทางสำรองของเราก็จะกลายเป็นแผนการเดินทางจริงทันที
ขั้นตอนการยื่นขอวีซ่าเชงเก้นฮังการี
1.เข้าไปทำการนัดหมายล่วงหน้าที่เวปของสถานทูตฮังการีในไทย https://bangkok.mfa.gov.hu/eng เลื่อนลงมาด้านล่างของช่อง READ MORE ให้คลิกที่ช่อง Appointment for visa (ช่องสี่เหลี่ยมมีสัญลักษณ์รูปตารางปฏิทิน) การทำนัดหมายถ้ายื่นพร้อมกัน 2 คน ก็ต้องทำนัดหมายแยก (1 คน 1 เวลา แต่นัดหมายเวลาติดกันได้) ไม่สามารถทำนัดเดียวพร้อมกันได้ แต่วันที่ไปยื่นจริงสามารถยื่นได้พร้อมกัน ไม่งงนะ
-ยื่นคำร้องล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วันก่อนวันเดินทาง
2.การเตรียมเอกสาร เข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่นี่ https://bangkok.mfa.gov.hu/tha/page/konzuli-tajekoztatas
-สิ่งที่ต้องเตรียมเพิ่มเติมจาก list ด้านบน คือ สำเนาบัตรปชช.และสำเนาทะเบียนบ้าน (ไม่ต้องแปลอังกฤษให้ยุ่งยาก ง่ายดีจัง) คนละ 1 ชุด
-อย่าลืมเตรียมเงินสดค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า คนละ 60 ยูโร (ต้องจ่ายเป็นเงินยูโรเท่านั้น)
-รูปถ่าย สี พื้นหลังสีขาว ขนาด 2x2 นิ้ว มีอายุไม่เกิน 6 เดือน (จำได้ว่าใช้แค่รูปเดียวนะ แต่เตรียมไปเผื่อซัก 2 รูปละกัน)
*ข้อสังเกต ไม่เน้นว่ารูปถ่ายขนาดใบหน้าต้องยาวเท่าไหร่ สรุปง่ายๆว่าไม่ซีเรียสเหมือนประเทศอื่นในเชงเก้น ขอแค่รูปสี พื้นหลังขาว ขนาดถูกต้อง 2x2 นิ้วก็พอ อย่าลืมเตรียมรูปไปให้พร้อม เพราะในสถานทูตไม่มีบริการถ่ายรูปนะจ๊ะ
-ข้อพึงระวัง หนังสือเดินทาง (PASSPORT) ต้องมีอายุคงเหลืออย่างน้อย 3 เดือน หลังจากวันที่เดินทางออกนอกเขตเชงเก้น
-หลักฐานการเงินสามารถใช้สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พร้อมรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน (อย่าลืมพกสมุดบัญชีตัวจริงไปด้วย เผื่อจนท.ขอดู แต่พอดูเสร็จก็ส่งตัวจริงคืนให้ทันที)
-เคสผม ทำธุรกิจส่วนตัวไม่มีหลักฐานเอกสารการทำงานใดๆ จึงใช้วิธีเขียนจม.แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ ชี้แจงว่าทำงานอะไร รายได้เท่าไหร่ แค่นั้น
3.สถานทูตฮังการีในกทม.ตอนนี้ย้ายไปอยู่ ชั้น 14 ในตึก park ventures ติดรถไฟฟ้า bts สถานีเพลินจิต มีทางเชื่อมเดินเข้าตึกจากสถานีรถไฟฟ้าได้เลย
-สถานฯทูตจะเปิดทำการสำหรับยื่นเอกสารขอวีซ่าในวันจันทร์ วันพุธ และ วันศุกร์ ระหว่างเวลา 09.00 - 13.00 น.
-ท่านสามารถมารับวีซ่าได้ตามวันที่ระบุไว้ในใบเสร็จรับเงินเป็นต้นไป ในวันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 09.00 - 14.00 น. (ใช้แค่ใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานเพียงใบเดียวในการขอรับพาสปอร์ตคืน เคสของผมยื่นขอพร้อมแฟน แต่ผมได้ใบเสร็จเดียวรวมกัน 2 คน ก็ใช้แค่ใบเสร็จเดียวนี้แหละยื่นขอรับพาสปอร์ตคืนทั้ง 2 เล่ม)
4.ในวันที่ไปยื่นเอกสารขอวีซ่า จนท.จะนัดวันรับคืนพาสปอร์ตทันที โดยระบุวันรับคืนในใบเสร็จรับเงิน เคสของผมนับไปอีก 15 วัน (รวมเสาร์,อาทิตย์) พอดี ผมเลยเดาว่าทุกเคสน่าจะใช้เวลาพิจารณาวีซ่า 15 วันเท่ากันหมด
ข้อดีของการขอวีซ่าเชงเก้นฮังการี
1.ใช้เอกสารน้อยกว่าหลายประเทศในเชงเก้น เช่น
-ไม่ต้องแปลสำเนาบัตรปชช.และทะเบียนบ้าน (ยุ่งยากน้อยกว่าเยอะ)
-ไม่ต้องเสียเงินขอหนังสือรับรองความเป็นเจ้าของบัญชีจากธนาคาร เพราะใช้แค่สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่มีรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน
-ไม่ซีเรียสเรื่องขนาดใบหน้าของรูปถ่าย อันนี้ดีงามมาก เพราะเคยขอวีซ่าเชงเก้นที่ประเทศอื่น ผมมักเจอปัญหาความเข้มงวดเรื่องขนาดใบหน้าในรูปถ่าย
-ไม่ต้องถ่ายสำเนาหน้าพาสปอร์ตที่มีตราประทับวีซ่าเชงเก้นเดิม ถ่ายสำเนาแค่หน้าพาสปอร์ตธรรมดา ประหยัดเอกสารได้อีก
2.จนท.สถานทูตฮังการีให้บริการดีมาก ตอบคำถามทางโทรศัพท์อย่างดี รอสายไม่นาน มีข้อสงสัยอยากถามอะไรโทรไปที่ 02 118-9600
-ที่ตั้งสถานทูตอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต เดินทางสะดวกมาก
3.ประหยัดเงินมากกว่าการขอวีซ่าเชงเก้นที่ประเทศอื่น เพราะยื่นขอกับสถานทูตโดยตรง ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้พวก VFS หรือ TLS เซฟเงินไปราวพันกว่าบาทต่อคน (ผมว่าเยอะพอสมควรนา)
ข้อเสียหรือข้อจำกัดของการขอวีซ่าเชงเก้นฮังการี
1.จนท.สถานทูต (คนไทย) บอกย้ำเลยว่าที่นี่ไม่ให้ multiple ง่ายๆ ต้องมีแผนการเดินทางที่ชัดเจน ขนาดผมเมคแผนการเดินทางเพราะอยากได้วีซ่าเชงเก้นแบบ multiple โดยทำเป็นว่าระหว่างทริปมีการบินออกนอกกลุ่มเชงเก้นไปเที่ยวรัสเซียหรือตุรกี แล้วค่อยบินกลับเข้าเชงเก้นอีกที จนท.คนไทยยังบอกเลยว่าเคสนี้อาจได้แค่วีซ่าเชงเก้นแบบ double entry เท่านั้น
2.จนท.คนเดิมบอกว่าที่นี่เป็นสถานทูตขนาดเล็ก กงศุลมักไม่ให้วีซ่ายาว พูดง่ายๆคืออย่าหวังว่าจะได้อายุวีซ่าแบบยาวๆ (ฝันไปเถอะ) ให้ระยะสั้นหมดรวมทั้ง DURATION OF STAY ด้วย ได้แค่ตามจำนวนวันเดินทางตามแผนการเดินทางที่เรายื่นไปเท่านั้นแหละ แต่อายุวีซ่าอาจเผื่อเพิ่มให้อีกหลายวัน ซึ่งก็มีประโยชน์ไม่มากเท่าไหร่เพราะจำกัดวัน DURATION OF STAY อยู่ดี
ดังนั้นถ้าใครมีแผนไปเที่ยวเชงเก้นทุกปี การขอวีซ่าฮังการีจะไม่เซฟเงินเลย เพราะการให้อายุวีซ่าสั้นๆเท่ากับว่าทุกครั้งที่เดินทาง คุณก็ต้องยื่นขอวีซ่าเชงเก้นใหม่อยู่ดี แต่ถ้าใครไม่มีแผนเดินทางไปเชงเก้นอีก (หลายๆปีถึงจะเดินทางซักครั้ง) เคสแบบนี้ถ้ายื่นขอวีซ่าฮังการีก็จะประหยัดเงินค่าขอวีซ่ามากกว่าประเทศอื่นในเชงเก้น (ราวคนละพันกว่าบาทไทย)
3.ระยะเวลาในการพิจารณาอนุมัติวีซ่า 15 วันเป๊ะ อย่าหวังว่ามายื่นขอที่นี่แล้วจะรู้ผลเร็วแบบ 3-4 วันเหมือนของอิตาลีนะจ๊ะ
สุดท้ายโฆษณากระทู้เก่าของผมเองครับ
1.ปี 2015 "การขอวีซ่าเชงเก้นและรวมทริคการเที่ยวยุโรปแบบประหยัด" http://ppantip.com/topic/33870954
2.ปี 2015 รีวิวการซื้อ Rolex in Sweden https://ppantip.com/topic/33883164
3.ปี 2016 ทริปล่องเรือสำราญหมู่เกาะอังกฤษกับ Princess Cruieses มีทั้งหมด 16 ตอน อ่านได้ที่นี่ http://ppantip.com/topic/35599440
4.ปี 2017 “เพียงเพื่อน” รีวิวทริปยุโรป 7 ประเทศ 18 เมือง Part 1 การวางแผนและงบประมาณ วันที่ 1 เวียนนา ชม Belvedere Palace
https://ppantip.com/topic/36586353
5.ปี 2017 เตือนภัย! แก๊งค์มิจฉาชีพในอิตาลี https://ppantip.com/topic/36546431
6.ปี 2017 รีวิวการซื้อนาฬิกา Vacheron Constantin in Hungary https://ppantip.com/topic/36658326
7.ปี 2018 เพียงเพื่อน : รีวิวล่องเรือสำราญยุโรป Celebrity X Part 1 สรุปภาพรวมของทริป + การวางแผนและงบประมาณ
https://ppantip.com/topic/37742260