[CR] รีวิวการซื้อ Rolex in Sweden

กระทู้เดิมโดนลบ ขอตั้งกระทู้ใหม่นะครับ

ห่างหายจากการโพสต์กระทู้นาฬิกาไปนาน หลังจากสองปีก่อนที่ผมทำรีวิวการซื้อ Rolex 2 เรือน ในอิตาลี ( Yacht master SS blue ) กับสเปน ( Sub date SS green ) ปีที่แล้วไปเที่ยวยุโรปแต่ไม่ได้สอยอะไรกลับมา ส่วนปีนี้กลับไปเที่ยวยุโรปอีกครั้งพร้อมเป้าหมายที่ชัดเจน นั่นคือการตามล่า Rolex Yacht master SS Lady size เพื่อให้เป็นของขวัญสุดพิเศษแก่คุณแฟนที่รัก ( หวังให้เธอแปลกใจกับของขวัญชิ้นโต นาฬิการาคาสูงเรือนแรกในชีวิตของเธอ )

ปกติแฟนผมเธอไม่ได้ใส่นาฬิกา เพราะไม่มีจะใส่บวกกับไม่เคยชินและไม่สนใจนาฬิกาใดๆ เธอเองอยากได้แหวนเพชรมากกว่า แต่ส่วนตัวผมไม่ชอบและไม่สนใจพวกเพชรพลอยใดๆ สนใจแต่นาฬิกา ทุกครั้งที่ผมตระเวนหาซื้อ Rolex ในยุโรป เราสองคนแวะเวียนไปตามร้าน AD Rolex หลายเมืองหลายประเทศในยุโรป ผมลองถามเธอว่า Rolex รุ่นไหนที่เธอมองว่าสวยน่าใส่ คำตอบคือรุ่นนี้เท่านั้นที่ปิ๊งสุด Yacht master SS Lady size และนี่คือที่มาของการตามล่าหาของขวัญสุดพิเศษชิ้นนี้

เนื่องจาก Rolex รุ่นนี้ไม่ฮิตในไทยและน่าจะไม่ฮิตในตปท.ด้วย ผมสืบราคาจากร้านหิ้วไม่ได้เพราะมันไม่ฮิต เลยไม่ค่อยมีใครหิ้วเข้ามาขาย รู้แต่ราคาตั้งในร้าน AD ไทย ราว 330,000 บาท กับส่วนลดปกติไม่ถึงเลขสองหลัก แค่ 8% ซึ่งนับว่าแพงเอาการอยู่ ผมจึงใช้วิธีเช็คราคาจากเวปตปท.เช่น swissluxury เพราะเวปนี้ให้ส่วนลดเยอะ กะว่าถ้าบินไปซื้อที่ยุโรปแล้วต่อรองจนได้ราคาใกล้เคียงกะเวปนี้ก็ถือว่าได้ราคาดีแล้ว พอหักภาษีคืนยิ่งได้ราคาเนตที่ถูกลงไปอีก น่าจะได้ที่ราคาช่วง 230,000-240,000 บาท เอาล่ะ ผมมีราคาในใจแล้ว ว่าควรซื้อที่ราคาเท่าไหร่ คราวนี้ก็ ลุยมันเลยยยยยยยย

ทริปนี้เราเริ่มต้นเดินทางจากดอนเมืองไปกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ค้าง 1 คืน แล้วเดินเที่ยวห้างในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เจอร้าน AD Rolex 2 ร้าน แต่ตั้งอยู่คนละห้างกัน พอลองเข้าไปสอบถามราคาพบเรื่องที่น่าแปลกใจมาก นั่นคือ ราคาตั้งมันไม่เท่ากัน แถมขอส่วนลดได้ต่างกันด้วย ร้านนึงราคาตั้งต่ำกว่าแถมลดให้มากกว่าอีกตะหาก เหลือราคาเนตราว 270,000 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาในไทยพอสมควร แต่เราไม่คิดจะซื้อที่นี่อยู่แล้วเพราะเชื่อว่าบินไปซื้อที่ยุโรปต้องได้ราคาต่ำกว่านี้แน่นอน

สรุป จำไว้ว่าในมาเลเซียราคามันไม่แน่นอน ต้องต่อรองและสำรวจหลายๆร้านถึงจะได้ราคาที่ดีที่สุด

วันต่อมาเราบินด้วยสายการบินกาตาร์ไปกรุง COPENHAGEN DENMARK แวะเปลี่ยนเครื่องที่โดฮา ลองเข้าร้าน AD Rolex ในสนามบินโดฮา พบว่าร้านนี้มีรุ่นสปอร์ตยอดฮิตเกือบครบไลน์ ขาดแค่ GMT SS blue black เท่านั้น ส่วนราคาแน่นอนว่ามันแพงกว่ายุโรปชัวร์ ถ้าใครอยากได้ Rolex Sport SS ยอดฮิตแบบไม่เกี่ยงราคา ถ้าไม่นับร้าน AD ในกทม. สนามบินโดฮาเป็นอีกที่นึงที่มีของค่อนข้างมาก

พอเรามาถึงเมือง COPENHAGEN วันแรกของการเที่ยวก็เจอร้าน AD Rolex โดยบังเอิญ อยู่ไม่ไกลจากย่านเที่ยวยอดฮิต NYHAVN เราเดินไปตามถนนช้อปปิ้งเจอร้านขายนาฬิกา จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ถ้าเจอร้านขายนาฬิกาไม่ว่าจะยี่ห้อใดก็ตาม ถ้าเข้าไปถามหาร้านขาย Rolex เราจะได้รับคำตอบเสมอ เหมือนว่าร้านขายนาฬิกาทุกร้านในยุโรปจะรู้ว่าร้านขาย Rolex มันตั้งอยู่ที่ไหน

พอได้คำตอบเราก็เดินหาจนเจอร้าน AD Rolex เข้าไปถามหารุ่นนี้ คนขายสาวสวยตอบว่าร้านเธอไม่มีรุ่นนี้แต่จะลองโทรถามสาขาใกล้เคียงว่ามีของหรือไม่ เธอโทรคุยอยู่นาน จนได้คำตอบว่ามีเหลือเรือนนึง เอาล่ะสิ ใกล้ความจริงแล้ว ผมจึงเริ่มต่อรองขอส่วนลด เธอก็ยอมลดราคาให้บ้าง แต่มันก็ยังสูงอยู่ดี แม้ว่า เดนมาร์กจะให้ภาษีคืนเรทสูงถึง 19% ก็ตาม ผมจึงขอลดเพิ่มอีกแบบว่าเป็นราคาที่ร้านค้าน่าจะพอยอมรับได้ เธอรีบไปขออนุมัติจากหัวหน้าทันที แต่น่าเสียดายที่หัวหน้าเธอไม่ยอมลดราคาเท่าที่ผมร้องขอ แต่ยอมลดราคาลงจากเดิมอีกนิดหน่อย

อืม ราคาสุดท้ายนี่มันก็นะ พอยอมรับได้แหละ หักภาษีคืนและส่วนลดทุกอย่างแล้ว คงเหลือราว 244,000 บาท แต่นี่เพิ่งเป็นร้านแรกที่เราเจอ อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจดีกว่า เพราะเรายังต้องอยู่เที่ยวในเมืองนี้อีก 2 วัน เดี๋ยววันสุดท้ายค่อยมาซื้อก็ยังได้ สบายมาก เราออกจากร้านนี้มาแบบที่แฟนผมเองยัง งง งง ตกลงเธอจะได้ Rolex จริงๆหรือ เพราะเธอเข้าใจว่าผมพูดเล่น พอใกล้ความจริงเธอก็ดีใจมากที่จะได้นาฬิกาแพงๆเรือนแรกในชีวิต

วันรุ่งขึ้นเรานั่งรถไฟไปเที่ยวหลายเมือง ทั้ง Helsingor , Denmark กับ Helsingborg , Sweden ปิดท้ายด้วยเมืองมัลโมซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสามของสวีเดน ในมัลโมเราหาร้าน AD Rolex เจอจนได้ แต่พอสอบถามก็ไม่มีรุ่นที่เราต้องการ ที่สำคัญหนุ่มสวีเดนคนขายมีสีหน้าที่เรารู้สึกได้ว่าพี่แกไม่ลดราคาแน่ๆ จบข่าวเดินจากมาอย่างไว พร้อมความรู้สึกว่าการตามหาซื้อ Rolex ครั้งนี้อาจยากกว่าที่คิดไว้

หลังจากวันนั้นผมคิดตรองไปมา การซื้อ Rolex ในยุโรปจากประสบการณ์ที่ผ่านมา มันก็ไม่ง่ายนักที่จะเจอรุ่นที่เราต้องการ ราคาสุดท้ายที่ร้านนี้ให้มาก็พอรับได้ อย่าเสี่ยงดีกว่า ไปเมืองอื่นประเทศอื่นอาจไม่มีของก็ได้ เอาล่ะตัดสินใจกลับไปซื้อในวันสุดท้ายดีกว่าเพื่อความชัวร์ แต่เหมือนสวรรค์แกล้ง วันนั้นตรงกับวันหยุดของเดนมาร์กพอดี ร้านค้าปิดหมด ซวยละทีนี้ ต้องไปหาเอาดาบหน้าแทน ปลอบใจแฟนว่าสวีเดนน่าจะมีของ และเคยได้ยินมาว่าราคาถูกด้วยเพราะได้เรทคืนภาษีใกล้เคียงเดนมาร์ก

เย็นวันนั้นเรานั่งรถไฟยาว 5 ชม.จาก Copenhagen ไปกรุง Stockholm SWEDEN และแน่นอนกิจแรกคือการตามล่านาฬิกา ทริคง่ายๆคือการถามข้อมูลที่ตั้งร้านขาย Rolex จากเคาน์เตอร์ให้บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว ( tourism information ) ในสถานีรถไฟกลาง ( central station ) ของทุกเมืองใหญ่ในยุโรป พอรู้แล้วเราก็ลุยต่อทันที

พอหาร้านค้าพบก็รีบเข้าไปสอบถามทันทีว่ามีรุ่นนี้มั๊ย คนขายสาวชาวจีนแต่เกิดในสวีเดนเป็นคนต้อนรับเรา เธอบอกว่าเหลืออยู่เรือนเดียว เราสองคนดีใจมากที่ร้านนี้มีของ ผมจึงเริ่มต่อรองขอส่วนลดทันที เธอตอบอย่างรวดเร็วว่าร้านนี้ไม่มีนโยบายให้ส่วนลดใดๆ คุณจะได้ภาษีคืน 17% เท่านั้น แม้ว่าราคาตั้งของร้านนี้ซึ่งเป็นเงินโครนสวีเดนจะต่ำกว่าร้านในเดนมาร์ก แต่ถ้าไม่ได้ส่วนลดแถมเรทภาษีคืนก็น้อยกว่า ทำให้ราคาสุทธิมันสูงกว่าราวหมื่นบาทเลยทีเดียว ว้า มันไม่ควรเป็นแบบนี้นะ

ผมพยายามเล่าว่าได้ส่วนลดจากร้านค้าในเดนมาร์ก แต่พอเราจะกลับไปซื้อร้านค้าดันปิดเพราะเป็นวันหยุดพิเศษของเดนมาร์ก ขอให้เธอลดราคาให้หน่อย เราจะซื้อทันที เธอตอบแบบสุภาพว่าเสียใจด้วย มันเป็นนโยบายของร้าน เธอไม่มีอำนาจให้ส่วนลดใดๆ แต่สีหน้าเรียบเฉยของเธอทำให้ผมรู้สึกได้ว่าเธอเองก็ไม่ยินดีที่จะลดราคาให้เรา แถมเธอยังบอกอีกว่าในกรุง Stockholm มี AD Rolex แค่ 2 ร้าน และเธอมั่นใจว่าทั้งคู่ไม่มีนโยบายให้ส่วนลดใดๆเหมือนกัน

จบกัน เราเดินออกมาอย่างผิดหวัง แฟนผมเธอเสียใจมากด้วยกลัวว่าจะไม่เจอรุ่นนี้ในประเทศอื่น แล้วราคาก็อาจจะแพงกว่าเดนมาร์กด้วย ถึงแม้ว่าขากลับเราจะต้องบินจากเมือง BERGEN ในนอรเวย์ กลับไปเดนมาร์กเพื่อขึ้นเครื่องบินกลับไทย แต่เครื่องบินออกช่วงเช้า เราไม่สามารถกลับเข้าเมืองไปซื้อนาฬิกาได้ทัน ความหวังต่อไปของเราคือเมืองเฮลซิงกิ ฟินแลนด์

เราเที่ยวโดยล่องเรือสำราญของ COSTA จาก Stockholm ไปเฮลซิงกิ ฟินแลนด์ ใช้ทริคเดิม ถามหาร้านขาย Rolex จากจุดบริการข้อมูลนักท่องเที่ยว จนท.เสิร์ชเนตหาให้เราอย่างไว (เค้าคงแปลกใจ ไอ้นี่แทนที่จะถามหาแหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น ดันถามหาร้านขาย Rolex อีกด้วย) บอกทางแถมแผนที่มาให้ด้วย เราเดินหาจนเจอร้านขาย Rolex รีบเข้าไปทันใด เจอคนขายหญิงวัยกลางคนอัธยาศัยดีมาก เห็นหน้าตากริยาท่าทางของเธอแล้ว ผมรู้สึกได้เลยว่าเธออยากขายมีใจให้บริการและใจดียอมลดราคาให้แน่ๆ

ผมคาดไม่ผิดครับ ทุกอย่างตรงใจหมด เธอใจดีจริงๆ แม้ว่าร้านของเธอจะไม่มีรุ่นที่เราต้องการ แต่เธอโทรคุยกะร้านใกล้เคียง (ผมเดาว่าน่าจะร้านเดียวกันแต่คนละสาขา) พบว่าเหลืออยู่ 1 เรือน โอ้ น่ายินดีมาก เจอคนขายใจดีและมีรุ่นที่เราต้องการซะด้วย โชคดีจริงๆ เธอบอกให้เรารอก่อน เพราะเธอจะเดินไปเอานาฬิกาจากร้านใกล้เคียงมาให้เราดู เรารอไม่นานเธอก็กลับมาพร้อมกล่อง Rolex พอเปิดกล่องเจอนาฬิกาเท่านั้น อ้าว ผิดหวัง มันเป็นรุ่น Yacht master SS ก็จริง แต่มันเป็น Boy size ไม่ใช่ Lady size แบบที่เราต้องการ

เธออธิบายว่า ตัว Lady size Rolex เลิกผลิตราวปีกว่าแล้ว ขนาดเล็กสุดเหลือแต่ Boy size เท่านั้น พร้อมเปิดแคตตาล็อคปีล่าสุดของ Rolex ให้เราดูเพื่อยืนยันว่ามันไม่มีรุ่นนี้แล้ว ร้านค้าทั่วไปก็น่าจะไม่มีของแล้ว อ้าว เพิ่งรู้ว่าเรากำลังตามหาตัวที่มันเลิกผลิตแล้วเหรอเนี่ย ยุ่งล่ะสิ แสดงว่าถ้าเจอรุ่นนี้อีกต้องรีบซื้อทันทีเพราะคงจะหาของได้ไม่ง่ายนัก

ด้วยอัธยาศัยอันดีของเธอ เธอลดราคาให้และบอกว่าเราจะได้ภาษีคืนเรท 17% เป็นเงินยูโร สุทธิเหลือราว 271,000 บาท เอ ราคานี้ถือว่าไม่แพงน่าสนใจ เพราะปกติรุ่นบอยไซส์มีขนาดใหญ่กว่าและราคาจะสูงกว่าเลดี้ไซส์ ผมเลยลองต่อราคาเล่นๆขอลดเพิ่มอีกราวสองหมื่นบาท แต่เธอให้ไม่ได้ นับว่าโชคดีเพราะแฟนผมเธอไม่ชอบไซส์นี้ เพราะข้อมือเธอเล็กมากใส่บอยไซส์ไม่สวยเลย เราจากร้านนี้มาแบบผิดหวัง อุตส่าห์เจอร้านที่มีคนขายใจดียอมลดราคาให้แต่ดันไม่มีของ

เมืองถัดมาที่เรือสำราญเทียบฝั่งคือ St. Petersbourg , Russia เราไม่คาดหวังว่าจะเจอร้ายขาย Rolex ที่นี่

เมืองต่อไปคือ Tallinn , Estonia เราเจอร้านขายนาฬิกาแบรนด์อื่น พอเข้าไปสอบถาม คนขายบอกว่า Estonia ไม่มีร้านขาย Rolex จบกัน ความหวังสุดท้ายคือต้องกลับไปร้านเดิมในกรุง Stockholm , SWEDEN เพราะเรือสำราญ COSTA จบทริปด้วยการย้อนกลับไปเมืองนี้ ถึงตอนนี้แฟนผมเริ่มใจเสีย กลัวว่าผมต้องจ่ายเงินแพงแน่ๆ

เราเที่ยวด้วยการล่องเรือสำราญ 7 คืน 4 เมือง 4 ประเทศ (ตามที่บอกไว้ข้างต้น) พอเรือสำราญกลับมาถึง Stockholm เราก็ตรงไปสถานีรถไฟกลาง ( central station ) เพื่อสอบถามจนท.เคาน์เตอร์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว ให้เค้าเสิร์ชเนตหาร้านขาย Rolex อีกแห่งให้เรา (ไม่อยากเสียฟอร์มกลับไปร้านเดิมอ่ะ) พอได้แผนที่แล้ว เราก็นั่งรถบัสตะลุยหาร้านทันที เจอจนได้ร้านนี้เล็กกว่ามีของน้อยกว่าร้านเดิม เราไม่รอช้ารีบเข้าไปทันใด คนขายสาวถามว่าเรามาจากไหน พอตอบว่าไทยแลนด์ เธอก็เรียกพนักงานสาวอีกคนมาต้อนรับเรา เธอเป็นคนไทยครับ ง่ายเลยทีนี้คุยกันสบายๆไม่ต้องแปลผิดแปลถูกอีกต่อไป (ด้วยความรู้ภาษา Eng ของเราค่อนข้างแย่ทั้งคู่) ดีใจมากหวังว่าเจอคนไทยคงจะให้ส่วนลดได้ง่ายๆ

แต่อนิจจา ร้านนี้ไม่มีของครับ เธอบอกว่ารุ่นนี้เลิกผลิตแล้ว และร้านเธอก็ขายของได้เรื่อยๆ ทำให้เหลือแต่รุ่นใหม่ๆเท่านั้น ผมลองถามรุ่นบอยไซส์ เธอแจ้งราคาพร้อมส่วนลด ปรากฎว่ามันยังแพงกว่าร้านค้าในฟินแลนด์อีก ผมเลยขี้เกียจต่อรองอีก เพราะไงๆแฟนผมเธอก็ไม่ชอบบอยไซส์อยู่แล้ว แต่น่าคิดว่าร้านนี้ยอมให้ส่วนลดบ้าง แต่คนขายสาวไทยก็ใช่ว่าจะลดราคาให้เยอะ ดังนั้นถ้าใครจะไปซื้อที่ร้านนี้ต้องเช็คราคาให้ดีนะครับ อย่าคิดว่าเจอคนขายเป็นคนไทยด้วยกันแล้วเราจะได้ราคาพิเศษเสมอไป

สรุป เราต้องกลับไปตายรังที่ร้านเดิมครับ แปลกใจจัง สวีเดนรวยกว่าไทยเยอะ ดันมีร้านขาย Rolex ในกรุง Stockholm แค่สองร้านเท่านั้น ในขณะที่กทม.มี AD Rolex เป็นสิบแห่ง





กลับมาร้านเดิมแต่คราวนี้บุญส่งผลครับ เราไม่เจอสาวจีนคนเดิม แต่มีหนุ่มสวีเดนมาต้อนรับเราแทน หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ดูทีท่าแล้วคนนี้จิตใจดีน่าจะขอต่อราคาได้ โชคยังดีที่นาฬิการุ่นนี้ที่เหลือเรือนสุดท้ายใน Stockholm มันยังรอเราอยู่ในร้านนี้ เข้าสู่ห้องเชือด เอ้ย ห้องต้อนรับและต่อรองราคา

ชื่อสินค้า:   นาฬิกา Rolex
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่