สวัสดีค่า วันนี้เราจะมาพาทุกคนไปเที่ยวทริปประหยัดกันที่จ.อยุธยา ด้วยงบ 300 บาท!!! One day trip สบายๆสไตล์ 3 สาวสายย่อ พร้อมแล้วไปกันเลยค่า
Start กันที่เวลา 7.30 น.โดยประมาณ ไปขึ้นรถตู้ที่ฟิวเจอร์ออกแต่เช้าจะได้เที่ยวให้หนำใจไปเลย ค่าโดยสารอยู่ที่คนละ 40 บาท จากฟิวเจอร์-ตลาดเจ้าพรหมอยุธยา
ตื่นบ้างหลับบ้างจนมาถึงตลาดเจ้าพรหม ในเวลาประมาณ 9.30 น.มองหารถตุ๊กกันค่ะ นั่งไปลงหน้าวัดมหาธาตุเลย ราคาค่าโดยสารคนละ 10 บาท!!
ถึงแล้ววัดมหาธาตุ พอลงจากรถตุ๊กเราก็ข้ามไปเช่าจักรยานที่ตรงข้ามวัดมหาธาตุทันทีค่ะ ราคา 50 บาท/วัน/คัน เช่ามาทั้งหมด 2 คัน 100 บาท (ในการเช่าจักรยานทางร้านจะขอบัตรประชาชนไว้เพื่อมารับคืนในตอนคืนจักรยาน) แล้วก็ปั่นไปที่วัดมหาธาตุกันเลยย
เดี๋ยวๆปั่นไม่รอกันเลยนะพวกเธอ กลับมารับฉันด้วยย
มาเที่ยวอยุธยาเราต้องมาปั่นจักรยานกันนะ มันถึงจะอิน
พอมาถึงทางเข้าวัดมหาธาตุจะพบตลาดนัดเล็กๆไว้จำหน่ายสินค้าต่างๆทั้งเสื้อผ้าลายช้างไทย ไอศกรีม และอื่นๆ ให้แก่นักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมชม ซึ่งในวันที่พวกเราไปทางวัดมีการงดเว้นค่าเข้าชม พวกเราจึงได้เข้าชมวัดมหาธาตุกันแบบฟรีๆ!! ซึ่งโบราณสถานแห่งแรกที่พวกเราเจอเลยก็คือ พระปรางค์ขนาดใหญ่ และโบราณสถานอีกมากมายเลยค่ะ
พระปรางค์ขนาดใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันพังทลายลงมาหมดแล้ว แต่ราชทูตลังกาที่ได้เคยมาเยี่ยมชมวัดมหาธาตุ ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศไว้ว่า ที่ฐานของพระปรางค์ มีรูปราชสีห์ หมี หงส์ นกยูง กินนร โค สุนัขป่า กระบือ มังกร เรียงรายอยู่โดยรอบ รูปเหล่านี้อาจหมายถึงสัตว์ในป่าหิมพานต์ที่รายล้อมอยู่เชิงเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นแกนกลางของจักรวาล
วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่เชิงสะพานป่าถ่าน ทางทิศตะวันออกของวัดพระศรีสรรเพชญ์ มีสิ่งที่โดดเด่น คือ เศียรพระพุทธรูปกว่าร้อยปีใน รากไม้ โดยเศียรพระพุทธรูป เป็นพระพุทธรูปหินทรายเหลือแค่ส่วนเศียร สำหรับองค์พระนั้นหายไป และเป็นเศียรพระพุทธรูปเป็น ศิลปะอยุธยา วางอยู่ในรากโพธิ์ข้างวิหาร คาดว่าเศียรพระพุทธรูปนี้จะหล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ในสมัยเสียกรุงจนรากไม้ขึ้นปกคลุม ทำให้มีความ งดงามแปลกตา จนเลื่องลือกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและ เป็นที่รู้จักทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ
อ้างอิง :
http://www.paiduaykan.com/76_province/central/ayutthaya/watpramahathat.html
จอดจักรยานไว้แล้วไปเดินเล่นกัน!! หากปั่นจักรยานออกจากวัดมหาธาตุมาตามทาง จะพบกับทางจักรยานที่ร่มรื่นมาก รอบข้างเต็มไปด้วยต้นไม้ จึงขอทิ้งจักรยานไว้แล้วไปถ่ายรูปชิค ๆกันซักหน่อยย
หลังจากเดินชิคๆ กันสักพักเราก็ปั่นกันต่อจนมาถึงวัดหลังคาขาว Mission ต่อไปของพวกเราค่ะ
วัดหลังคาขาว ตั้งอยู่บริเวณบึงพระราม ตำแหน่งที่วัดอยู่ในพื้นที่ด้านทิศเหนือภายในเกาะเมืองอยุธยา ใกล้กับวัดมหาธาตุในพื้นที่ของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กรมศิลปากรได้ประกาศกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานพระนครศรีอยุธยา ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 93 ตอนที่ 102 ลงวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2519 พื้นที่ 1,810 ไร่ และในปี พ.ศ. 2540 กรมศิลปากรได้ประกาศกำหนดเขตที่ดินเพิ่มเติม ซึ่งครอบคลุมเกาะเมืองอยุธยาและพื้นที่รอบนอกเกาะเมืองทุกด้านที่ปรากฏหลักฐานด้านประวัติศาสตร์โบราณคดี พื้นที่โบราณสถานประมาณ 3,000 ไร่
อ้างอิง :
http://www.sac.or.th/databases/archaeology/archaeology/วัดหลังคาขาว
ปั่นไปเรื่อยๆ พาจักรยานข้ามสะพาน ปั่นไปตามทางในสวนสาธารณะบึงพระรามค่ะ เพื่อไปศักการะหลวงพ่อมงคลบพิตร ณ วิหารพระมงคลบพิตร ระหว่างทางของเรานั้นก็จะพบกับโบราณสถานต่างๆ และวิวทิวทัศน์เป็นธรรมชาติที่ร่มรื่นมากค่ะ
เวลา 13.00น. เราก็มาถึงวิหารพระมงคลบพิตร กันค่ะ แต่เนื่องจากขณะนี้วิหารนั้นอยู่ระหว่างการบูรณะ เราจึงไม่มีภาพของวิหารมาฝากนะคะ เข้าไปทำบุญศักการะหลวงพ่อมงคลบพิตรในจุดที่ทางวัดจัดไว้ให้แทนค่ะ ในจุดนี้เราก็ทำบุญหยอดตู้ธูป เทียน น้ำมันประจำวันเกิด น้ำมนต์และเสี่ยงเซียมซีกันไปรวม 90 บาทค่ะ
วิหารพระมงคลบพิตร ถ้าตามพระราพงศาวดารฯบริเวณที่ตั้งวิหารนี้เคยเป็นวัดในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมเพราะระบุว่าโปรดอัญเชิญพระพุทธรูปขนาดใหญ่นามว่า “มงคลบพิตร” มาจากพื้นที่ทางตะวันออกต่อจากนั้นก็ทรงก่อมณฑปครอบ ครั้นถึงรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ โปรดเกล้าให้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์พระมงคลบพิตรขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยโปรดให้ทำบัวหงายคั่นระหว่างพระเกตุมาลากับพระรัศมีส่วนพระวิหารนั้นก็โปรดให้รื้อเครื่องบนออก แล้วก่อหลังคาให้เหมือนดังพระวิหารทั่วไป
วัดมงคลบพิตร เป็นวัดโบราณสำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยที่ตั้งของวัดมงคลบพิตรและพระราชวังโบราณตั้งอยู่ติดกัน นักท่องเที่ยวจึงนิยมเข้ามานมัสการหลวงพ่อมงคลบพิตรก่อนจะเข้าชมพระราชวังโบราณ และบริเวณทางด้านหน้าวิหารวัดพระมงคลบพิตร มีร้านค้าตั้งเรียงรายมากมายหลายร้าน จำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นเมืองแทบทุกชนิด เช่น ปลาตะเพียน เครื่องจักสานเครื่องหวาย มีดอรัญญิก ผลไม้กวน และขนมชนิดต่างๆ เหมาะสำหรับผู้สนใจซื้อสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกต่างๆ
อ้างอิง :
http://m.donmueangairportthai.com/th/popular-destinations/1711/wat-mongkhon-bophit-phra-nakhon-si-ayutthaya
เทคนิคการถ่ายภาพแบบเน้นวิวไม่เน้นคน นางแบบของเรานี่หน้ามืดกันเลยทีเดียว
หลังจากไหว้พระทำบุญเสร็จเราก็เดินมาต่อกันที่โบราณสถานวัดพระสีสรรเพชรและพระราขวังโบราณค่ะ ซึ่งในวันที่ไปก็ไม่มีเก็บค่าเข้าชมเช่นเดียวกับวัดมหาธาตุค่ะ
วัดพระศรีสรรเพชญ ตั้งอยู่ในเขตพระราชวังโบราณ เป็นวัดพุทธาวาสที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาเพื่อประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ ของบ้านเมือง และเก็บอัฐิของพระมหากษัตริย์เปรียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวัง ในกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันเหลือเพียงซากอิฐปูนและเจดีย์สามองค์ที่ตั้งตะหง่านเป็นจุดเด่น แต่ยังคงเป็นจุดที่ดึงความสนใจของนักท่องเที่ยวให้เข้ามา เยี่ยมชม อยู่เสมอ และเมื่อได้ลองจินตนาการดูก็จะรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่และความงดงามของกรุงศรีอยุธยาในสมัยที่ยังเป็นราชธานี
ในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรมพระองค์โปรดเกล้าฯให้สร้าง 'พระที่นั่งจอมทองตั้งอยู่ใกล้ๆ กำแพงทางด้านติดกับวิหารพระมงคลบพิตร เพื่อ ให้เป็นสถานที่ให้พระสงฆ์บอกเล่าหนังสือพระสงฆ์ ราวรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศมีการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดหลวง แห่งนี้เป็นครั้งแรก ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระยาโบราณราชธานินทร์สมุห เทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า ได้ดำเนิน การขุดสมบัติจากกรุภายในเจดีย์ พบพระพุทธรูปเครื่องทองมากมาย และในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามได้มีการบูรณะ วัดนี้จนมีสภาพที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
อ้างอิง :
http://donmueangairportthai.com/th/popular-destinations/1701/wat-phra-sri-sanpetch-phra-nakhon-si-ayutthaya
หลังจากเยี่ยมชมโบราณสถานกันมาสักพักแล้วก็ไปต่อค่ะ กองทัพเราต้องเดินด้วยท้องปั่นต่อไปค่ะ หาร้านที่เราจะฝากท้องไว้ กันค่ะ
รีวิวเที่ยวอยุธยา ด้วยงบ 300 บาท!!
Start กันที่เวลา 7.30 น.โดยประมาณ ไปขึ้นรถตู้ที่ฟิวเจอร์ออกแต่เช้าจะได้เที่ยวให้หนำใจไปเลย ค่าโดยสารอยู่ที่คนละ 40 บาท จากฟิวเจอร์-ตลาดเจ้าพรหมอยุธยา
ตื่นบ้างหลับบ้างจนมาถึงตลาดเจ้าพรหม ในเวลาประมาณ 9.30 น.มองหารถตุ๊กกันค่ะ นั่งไปลงหน้าวัดมหาธาตุเลย ราคาค่าโดยสารคนละ 10 บาท!!
ถึงแล้ววัดมหาธาตุ พอลงจากรถตุ๊กเราก็ข้ามไปเช่าจักรยานที่ตรงข้ามวัดมหาธาตุทันทีค่ะ ราคา 50 บาท/วัน/คัน เช่ามาทั้งหมด 2 คัน 100 บาท (ในการเช่าจักรยานทางร้านจะขอบัตรประชาชนไว้เพื่อมารับคืนในตอนคืนจักรยาน) แล้วก็ปั่นไปที่วัดมหาธาตุกันเลยย
เดี๋ยวๆปั่นไม่รอกันเลยนะพวกเธอ กลับมารับฉันด้วยย
มาเที่ยวอยุธยาเราต้องมาปั่นจักรยานกันนะ มันถึงจะอิน
พอมาถึงทางเข้าวัดมหาธาตุจะพบตลาดนัดเล็กๆไว้จำหน่ายสินค้าต่างๆทั้งเสื้อผ้าลายช้างไทย ไอศกรีม และอื่นๆ ให้แก่นักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมชม ซึ่งในวันที่พวกเราไปทางวัดมีการงดเว้นค่าเข้าชม พวกเราจึงได้เข้าชมวัดมหาธาตุกันแบบฟรีๆ!! ซึ่งโบราณสถานแห่งแรกที่พวกเราเจอเลยก็คือ พระปรางค์ขนาดใหญ่ และโบราณสถานอีกมากมายเลยค่ะ
พระปรางค์ขนาดใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันพังทลายลงมาหมดแล้ว แต่ราชทูตลังกาที่ได้เคยมาเยี่ยมชมวัดมหาธาตุ ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศไว้ว่า ที่ฐานของพระปรางค์ มีรูปราชสีห์ หมี หงส์ นกยูง กินนร โค สุนัขป่า กระบือ มังกร เรียงรายอยู่โดยรอบ รูปเหล่านี้อาจหมายถึงสัตว์ในป่าหิมพานต์ที่รายล้อมอยู่เชิงเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นแกนกลางของจักรวาล
วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่เชิงสะพานป่าถ่าน ทางทิศตะวันออกของวัดพระศรีสรรเพชญ์ มีสิ่งที่โดดเด่น คือ เศียรพระพุทธรูปกว่าร้อยปีใน รากไม้ โดยเศียรพระพุทธรูป เป็นพระพุทธรูปหินทรายเหลือแค่ส่วนเศียร สำหรับองค์พระนั้นหายไป และเป็นเศียรพระพุทธรูปเป็น ศิลปะอยุธยา วางอยู่ในรากโพธิ์ข้างวิหาร คาดว่าเศียรพระพุทธรูปนี้จะหล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ในสมัยเสียกรุงจนรากไม้ขึ้นปกคลุม ทำให้มีความ งดงามแปลกตา จนเลื่องลือกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและ เป็นที่รู้จักทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ
อ้างอิง : http://www.paiduaykan.com/76_province/central/ayutthaya/watpramahathat.html
จอดจักรยานไว้แล้วไปเดินเล่นกัน!! หากปั่นจักรยานออกจากวัดมหาธาตุมาตามทาง จะพบกับทางจักรยานที่ร่มรื่นมาก รอบข้างเต็มไปด้วยต้นไม้ จึงขอทิ้งจักรยานไว้แล้วไปถ่ายรูปชิค ๆกันซักหน่อยย
หลังจากเดินชิคๆ กันสักพักเราก็ปั่นกันต่อจนมาถึงวัดหลังคาขาว Mission ต่อไปของพวกเราค่ะ
วัดหลังคาขาว ตั้งอยู่บริเวณบึงพระราม ตำแหน่งที่วัดอยู่ในพื้นที่ด้านทิศเหนือภายในเกาะเมืองอยุธยา ใกล้กับวัดมหาธาตุในพื้นที่ของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กรมศิลปากรได้ประกาศกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานพระนครศรีอยุธยา ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 93 ตอนที่ 102 ลงวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2519 พื้นที่ 1,810 ไร่ และในปี พ.ศ. 2540 กรมศิลปากรได้ประกาศกำหนดเขตที่ดินเพิ่มเติม ซึ่งครอบคลุมเกาะเมืองอยุธยาและพื้นที่รอบนอกเกาะเมืองทุกด้านที่ปรากฏหลักฐานด้านประวัติศาสตร์โบราณคดี พื้นที่โบราณสถานประมาณ 3,000 ไร่
อ้างอิง : http://www.sac.or.th/databases/archaeology/archaeology/วัดหลังคาขาว
ปั่นไปเรื่อยๆ พาจักรยานข้ามสะพาน ปั่นไปตามทางในสวนสาธารณะบึงพระรามค่ะ เพื่อไปศักการะหลวงพ่อมงคลบพิตร ณ วิหารพระมงคลบพิตร ระหว่างทางของเรานั้นก็จะพบกับโบราณสถานต่างๆ และวิวทิวทัศน์เป็นธรรมชาติที่ร่มรื่นมากค่ะ
เวลา 13.00น. เราก็มาถึงวิหารพระมงคลบพิตร กันค่ะ แต่เนื่องจากขณะนี้วิหารนั้นอยู่ระหว่างการบูรณะ เราจึงไม่มีภาพของวิหารมาฝากนะคะ เข้าไปทำบุญศักการะหลวงพ่อมงคลบพิตรในจุดที่ทางวัดจัดไว้ให้แทนค่ะ ในจุดนี้เราก็ทำบุญหยอดตู้ธูป เทียน น้ำมันประจำวันเกิด น้ำมนต์และเสี่ยงเซียมซีกันไปรวม 90 บาทค่ะ
วิหารพระมงคลบพิตร ถ้าตามพระราพงศาวดารฯบริเวณที่ตั้งวิหารนี้เคยเป็นวัดในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมเพราะระบุว่าโปรดอัญเชิญพระพุทธรูปขนาดใหญ่นามว่า “มงคลบพิตร” มาจากพื้นที่ทางตะวันออกต่อจากนั้นก็ทรงก่อมณฑปครอบ ครั้นถึงรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ โปรดเกล้าให้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์พระมงคลบพิตรขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยโปรดให้ทำบัวหงายคั่นระหว่างพระเกตุมาลากับพระรัศมีส่วนพระวิหารนั้นก็โปรดให้รื้อเครื่องบนออก แล้วก่อหลังคาให้เหมือนดังพระวิหารทั่วไป
วัดมงคลบพิตร เป็นวัดโบราณสำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยที่ตั้งของวัดมงคลบพิตรและพระราชวังโบราณตั้งอยู่ติดกัน นักท่องเที่ยวจึงนิยมเข้ามานมัสการหลวงพ่อมงคลบพิตรก่อนจะเข้าชมพระราชวังโบราณ และบริเวณทางด้านหน้าวิหารวัดพระมงคลบพิตร มีร้านค้าตั้งเรียงรายมากมายหลายร้าน จำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นเมืองแทบทุกชนิด เช่น ปลาตะเพียน เครื่องจักสานเครื่องหวาย มีดอรัญญิก ผลไม้กวน และขนมชนิดต่างๆ เหมาะสำหรับผู้สนใจซื้อสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกต่างๆ
อ้างอิง : http://m.donmueangairportthai.com/th/popular-destinations/1711/wat-mongkhon-bophit-phra-nakhon-si-ayutthaya
เทคนิคการถ่ายภาพแบบเน้นวิวไม่เน้นคน นางแบบของเรานี่หน้ามืดกันเลยทีเดียว
หลังจากไหว้พระทำบุญเสร็จเราก็เดินมาต่อกันที่โบราณสถานวัดพระสีสรรเพชรและพระราขวังโบราณค่ะ ซึ่งในวันที่ไปก็ไม่มีเก็บค่าเข้าชมเช่นเดียวกับวัดมหาธาตุค่ะ
วัดพระศรีสรรเพชญ ตั้งอยู่ในเขตพระราชวังโบราณ เป็นวัดพุทธาวาสที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาเพื่อประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ ของบ้านเมือง และเก็บอัฐิของพระมหากษัตริย์เปรียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวัง ในกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันเหลือเพียงซากอิฐปูนและเจดีย์สามองค์ที่ตั้งตะหง่านเป็นจุดเด่น แต่ยังคงเป็นจุดที่ดึงความสนใจของนักท่องเที่ยวให้เข้ามา เยี่ยมชม อยู่เสมอ และเมื่อได้ลองจินตนาการดูก็จะรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่และความงดงามของกรุงศรีอยุธยาในสมัยที่ยังเป็นราชธานี
ในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรมพระองค์โปรดเกล้าฯให้สร้าง 'พระที่นั่งจอมทองตั้งอยู่ใกล้ๆ กำแพงทางด้านติดกับวิหารพระมงคลบพิตร เพื่อ ให้เป็นสถานที่ให้พระสงฆ์บอกเล่าหนังสือพระสงฆ์ ราวรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศมีการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดหลวง แห่งนี้เป็นครั้งแรก ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระยาโบราณราชธานินทร์สมุห เทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า ได้ดำเนิน การขุดสมบัติจากกรุภายในเจดีย์ พบพระพุทธรูปเครื่องทองมากมาย และในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามได้มีการบูรณะ วัดนี้จนมีสภาพที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
อ้างอิง : http://donmueangairportthai.com/th/popular-destinations/1701/wat-phra-sri-sanpetch-phra-nakhon-si-ayutthaya
หลังจากเยี่ยมชมโบราณสถานกันมาสักพักแล้วก็ไปต่อค่ะ กองทัพเราต้องเดินด้วยท้องปั่นต่อไปค่ะ หาร้านที่เราจะฝากท้องไว้ กันค่ะ