จึงเรียกร้องขอความเป็นธรรม ให้เห็นใจพระ เณร ญาติโยมผู้มีบุญคุณ ผู้มีจิตศรัทธากับวัดให้ถอนกำลังไปเสีย และยกเลิกการใช้กฎหมาย ม.44 ด้วยเถิด ....... เหล่านี้คือ สรรพข้อกล่าวหาของศิษยานุศิษย์พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย พระผู้ปราบมาร ผู้เป็นต้นธาตุต้นธรรม ผู้ทรงฤทธีปาฏิหาริย์ อภิญาญาณ ผู้รู้แจ้งแทงตลอด กล่าวสรรหามาประเคน เพราะอ้างว่ารู้ อ้างว่าเห็นการกระทำเหล่านั้นตลอด อีกอีกด้านคนพวกนี้กลับตาบอด ตาใส ไม่เคยพาดพิง ไม่เคยตำหนิ ติเตียน มุมด้านนี้บ้างเลยนะครับ ในใจเป็นผู้รักความยุติธรรมจริงหรือ

ประเดิมเรื่องแรก :  สองคู่หู พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร พระมหานพพร ต่างพาเหรดมาการันตีว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ผู้เป็นต้นธาตุ ต้นธรรม ขอตายอยู่ในวัด ไม่ไปไหน ด้วยอาการอาพาธหนัก








มหานพพร ยืนยันไม่รู้ ไม่เคยยืนยัน หลวงพ่อธัมมชโย วัดพระธรรมกาย อยู่ในวัด



พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส บอกหลวงพ่ออยู่ในใจและในยูทูป



เคสนี้ไม่มีสาวกท่านใดใครตำหนิ พระสองรูปนี้เลยหรือว่า ท่านได้ทำให้ศีลข้อที่ 4 ด่างพร้อยแล้ว หรือว่าสาวกจะตาบอดในเรื่องนี้


เคสที่ 2 : ต่อมามีการแจกหมายเลขโทรศัพท์ ของรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และลามไปถึงภริยาของรัฐมนตรี เพื่อให้สาวกโทรไปก่อกวนและก่นด่า ถือการคุกคามไหมครับ ถือเป็นกิจของสงฆ์ที่ต้องทำไหมครับ และผิดกฎหมายหรือไม่ครับ หรือว่าสาวกจะตาบอดในเรื่องนี้อีก



เคสที่ 3 การที่พระสงฆ์ระดับ " บริหาร " ของวัดพระธรรมกาย ใช้กำลังกับเจ้าหน้าที่ ของดีเอสไอ เดี๋ยวจะมาอ้างว่า ก็เห็นตัดผมสั้น นึกว่าผู้ชายนะซิ แล้วไงครับ ผู้ชายแล้วพระมีสิทธิ์เข้าไปทำร้ายได้หรือครับ อยู่ห่างกันเป็นร้อยเมตร ยังปรี่เข้ามากระชากกล้องทำร้ายได้อีก เรื่องแบบนี้สาวกเห็นไหมครับ มีสาวกท่านไหนไปตำหนิผ่านเพจของวัด ชุมชนของวัดพระธรรมกายบ้างครับ เอาแต่แหกปากร้องว่าเจ้าหน้าที่ทำร้าย ใช้กำลัง แล้วนี่ครับ สาวกว่าอย่างไร หรือว่าสาวกจะตาบอดในเรื่องนี้อีก




เคสที่ 4 : การระดมเณรจากต่างจังหวัดต่อต้านเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ปกครองเดินทางติดต่อรับเณรกลับบ้าน ผู้ปกครองซึ่งเป็นบิดาของสามเณรรูปหนึ่งถึงกับเข้าโผกอดสามเณร พร้อมระบุทั้งน้ำตาว่า เดินทางมาจากจากจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีพระอาจารย์นำเหล่าบรรดาสามเณรมายังวัดพระธรรมกาย โดยไม่ได้บอกไม่ได้แจ้งผู้ปกครอง ทำให้เณร " ไม่ได้สอบ "



เณรบอกไม่รู้ว่าพามาทำอะไร




แบบนี้เข้าข่ายหลักพาตัวไหมครับ เจตนาดีหรือไม่ครับ แจ้งผู้ปกครองก็ไม่แจ้ง ทำให้เณรขาดสอบ ทีมาเรียกร้องว่าเด็กไปโรงเรียนไม่ได้ ไปลำบาก แล้วไม่มีสาวกท่านใดออกมาตำหนิการกระทำของพระ ไม่ออกมาเรียกร้องสิทธิ์ให้เณรไปเรียนหนังสือไปสอบ บ้างเลยหรือครับ สาวกว่าอย่างไร หรือว่าสาวกจะตาบอดในเรื่องนี้อีกเช่นกัน

เคสที่ 5 : บุกตลาด ยึดตลาด กลุ่มพระสงฆ์และคณะศิษย์ ยึดตลาดกลางคลองหลวงเป็นที่ชุมนุมแม้ว่าการเจรจาระหว่างเจ้าคณะอำเภอคลองหลวงกับตัวแทนพระสงฆ์แกนนำวัดธรรมกาย ก็ไม่เป็นผล ไม่ชอบให้เจ้าหน้าบุกรุกวัด ไม่ชอบให้เขาสร้างความเดือดร้อน แต่ตัวเองกลับทำเสียเอง ถ้าจะมาย้อนถามว่า แล้วไม่ให้ไปอยู่ในตลาด จะให้ไปอยู่ที่ไหน หล่ะ ก็แล้วทำไมไม่ไปอยู่ลานโล่งหลังวัดเล่า กี่ร้อยไร่หล่ะ ที่เอามาทำเป็นศูนย์อบรมอะไนนั่นหน่ะ ที่เอาพระไปทำไร่ทำสวนอยู่ 12 รูปแล้วเขาไปตรวจไปสุทธิ วันนี้ไง ทำไมไม่ไปกัน พื้นที่ของมูลนิธิธรรมกายไม่ใช่หรือ มาเบียบดเบียนอยู่ทำไม ทีนี้พอพระสังฆาธิการผู้ปกครองท้องที่เที่ยวเกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบสถานะภาพพระสงฆ์สามเณร ก็เอาโยมมาข่มขู่เขา ไม่ให้ความร่วมมืออีก แล้วแบบนี้ใช้ได้หรือ สาวกจะไม่ตำหนิหน่อยหรือไง  หรือว่าสาวกจะตาบอดในเรื่องนี้เหมือนเดิม



เที่ยงร้องขอความเป็นธรรมสารพัด ให้คนมองวัดว่าดีเลิศประเสริฐสุด ไม่มีด่างพร้อม ทำตัวเป็นคนตาบอดข้างเดียว ไหนมีสาวกท่านไหน ที่เคยไปตำหนิเรื่องพวกนี้ ในเพจของพระสนิทวงศ์ เพจพระนพดล เพจคนวัดจัดเต็มอะไรนั่นบ้าง โชว์หน่อยซิครัช ดังนั้นมองด้านดีด้านเดียวครับ ด้านเลวๆ ก็ต้องพิจารณาด้วยอันไหนดีก็สาธุไป อันไหนเลว อันไหนชั่ว อันไหนไม่เหมาะ ก็ควรแก้ไขไม่ใช่หรือ หรือว่าวัดนี้เค้าไม่สอนเรื่องพันนี้ ครับ

สุดท้าย เรื่องไข่หาย หมูหาย ของหายสารพัด ทำให้ได้เรียนรู้ว่า พระธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย " ล้มเหลว " โดยสิ้นเชิงในการสอนและเผยแผ่วิชชาธรรมกาย เพราะไม่มีบุคคลผู้ใดแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นศิษยานุศิษย์ทั้งระดับหลาย M ไปจนถึงระดับ SS หรือกระทั่งพระในระดับ เบอร์ 2 ของวัดลงมาถึงสามเณรรูปสุดท้าย ต่างก็ไม่มีใคร " สำเร็จ " วิชชาธรรมกายสักกะคนเดียว เพราะถ้าสำเร็จจริงก็คงนั่งสมาธิทำใจใสๆ เข้าวิชชาธรรมกาย ไปดูแล้วหล่ะว่า ไข่เอย หมูเอย ของที่หายเอย จนกระทั่งป้าย ต้องการอาหาร แผ่นบะเร่อ ใครขโมยไป ใครเอาไปติด แล้วหล่ะ รึ ว่าทั้งวัดนี้ พระธัมมชโย ต้นธาตุ ต้นธรรมคนเดียวที่หยั่งรู้ไปหมดทั้งสามภพ