จับตาช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ "วัดพระธรรมกาย"
ที่สำคัญตอนนี้ภายในวัดมีแต่คนแก่ๆ สูงวัยและพระเณร หากรัฐจะใช้กำลังบุกจับกุมพระธัมมชโย ที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าอยู่ไหนหรือล่องหนไปแล้ว ภาพที่ออกมาจะส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ของศาสนาพุทธและประเทศชาติ
ผมพยายามไม่แตะเรื่อง “วัดพระธรรมกาย” มาตลอด แต่ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วง “หัวเลี้ยวหัวต่อ” ระหว่างวัดพระธรรมกายและเจ้าหน้าที่รัฐ หากไม่พูดเสียบ้างคิดว่าคงตกยุค...!!
ผมยังหาข้อมูลไม่เจอว่าอะไรคือภัยของวัดพระธรรมกายที่มีต่อพระพุทธศาสนา อะไรคือภัยของวัดพระธรรมกายที่ถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ มีแต่วาทกรรมระหว่าง “พระด้วยกันเอง” ใส่ไคล้กันและกันในการเป็นข้อมูล เพื่อ “ทำลายล้าง” วัดพระธรรมกาย คดีสหกรณ์เงินคลองจั่นเป็น “แค่เสี้ยวหนึ่ง” ที่ไร้น้ำหนักในการใช้อำนาจรัฐในการจับกุม “พระธัมมชโย”
หรือแม้กระทั่งคดี “การบุกรุกป่า” สร้างสถานที่ปฎิบัติธรรมที่โคราช มันก็ไม่มีความชอบธรรมเพียงพอ หลายกรณีตอบสังคมไม่ได้ คำว่าสองมาตรฐานจึงกลับมาหลอกหลอนคนไทยอีกครั้ง กลายเป็น “คำฮิต” ไม่ว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหรือรัฐบาลรัฐประหาร
ผมไม่ได้ “ศรัทธา” ต่อวัดพระธรรมกาย บอกตรงๆ ว่าผม “มีอคติ” ด้วยซ้ำไปกับวัดนี้ เหตุผลที่มีอคติ อ่านและเสพข้อมูลจากวาทกรรมเก่าๆ ที่เคยถูกปั้นขึ้นมาพอๆ กับคนไทยจำนวนหนึ่งเสพข่าว “ระบอบทักษิณ” เป็นภัยต่อประเทศชาติ และ “ระบอบวัดพระธรรมกาย” เป็นภัยต่อ “พระพุทธศาสนา”
และที่สำคัญที่ผมไม่ชอบธรรมกาย เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยเป็นชาวพุทธประเภท “หลงวัด” ยอมมอบเงินให้วัดครั้งละจำนวนมากมาย ยอมทิ้งงาน ทั้งงานบ้าน งานประจำ และทั้งยอมลำบากเดินทางมาไกลๆ ทุกวันอาทิตย์และเทศกาลสำคัญ และทราบว่าหลายครอบครัวมีปัญหาเพราะกิดจากวัดแห่งนี้
แต่ผมแอบชอบวัดพระธรรมกาย คือ การบริหารจัดการวัดที่สวยงาม สะอาดเรียบร้อย เป็นระเบียบ วัดมีการจัดโซนที่ชัดเจน ถือว่าวัดอื่นๆ ควรเป็นแบบอย่างในการบริหารจัดการ คนวัดพระธรรมกายส่วนใหญ่ผมว่าเป็นคนพูดจาหวาน อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนมีระเบียบซึ่งถือว่า “เป็นคนดี” ในอุดมคติชาวพุทธทั่วๆ ไป
การที่รัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่รัฐจะใช้กำลังบุกวัดพระธรรมกายควรคิดให้รอบคอบ คิดให้ดี เพราะภายในวัดเฉพาะคน “กินนอนประจำ” ก็มีจำนวนหลายพันคนแล้ว อันนี้ไม่นับบริเวณรอบๆ นอกวัดอีกที่ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีความศรัทธาต่อวัด ซึ่งวัดพระธรรมกายไม่เหมือนวัดอื่นๆ ที่คนรอบวัดส่วนใหญ่ไม่ชอบวัด ไม่ชอบพระภายในวัด แต่วัดพระธรรมกาย “ตรงข้าม” กับวัดส่วนใหญ่...
และที่สำคัญตอนนี้ภายในวัดมีแต่คนแก่ๆ สูงวัยและพระเณร หากรัฐจะเข้าใช้กำลังบุกจับกุม “พระธัมมชโย” ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่า “อยู่ไหน” หรือ “ล่องหน” ไปแล้ว ภาพที่ออกจากจะก่อให้เกิดความเสียหาย และส่งผลกระทบต่อ “ภาพลักษณ์” ทั้งต่อ “ศาสนาพุทธ” และ “ประเทศชาติ” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แน่นอนท่ามกลางความแตกแยกกองเชียร์ ตอนนี้มีคนกลุ่มหนึ่ง ต้องการให้รัฐจัดการเด็ดขาด เข้าไปจับกุมแล้วจ “ถอดจีวร” จับสึกแล้วให้พระธัมมชโย “ติดคุก” แล้วไงต่อ หากคิดว่าเพื่อส่งผลต่อตำแหน่ง “สมเด็จพระสังฆราช” ก็โปรดอย่าคิด เพราะทราบว่าตอนนี้ “สมเด็จวัดปากน้ำ” ท่านยังอาพาธยังไม่ออกจากโรงพยาบาลเลย และที่สำคัญท่านอายุมากแล้ว โปรดให้เกียรติท่านบ้าง
คำถามก็คือว่าตอนนี้ทำไมสถาบันสงฆ์ เจ้าคณะปกครอง คณะสงฆ์จึงนิ่งเฉยเหมือนไม่ให้ความร่วมมือกับ “อำนาจรัฐ” หรือพระสงฆ์ส่วนใหญ่เป็นคนไม่ดีด้วยผมว่าไม่ใช่ ผมเชื่อว่าเรื่อง “วัดพระธรรมกาย” เรื่อง “พระธัมมชโย” มันมีมากกว่าคดีความ มันมีมากกว่าการเมือง ที่ถูกตีหน้าว่าอยู่ “มุมแดง”
ลึกๆ ผมเชื่อว่ามันต้องมีคนกลุ่มหนึ่งประเภท “แค้นฝังลึก” คอยสั่งเชือด “วัดพระธรรมกาย” และ “พระธัมมชโย” ในฐานะคนกลางผมเชื่อแบบนี้ด้วยความบริสุทธิใจจริงๆ...
….................................
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย เปรียญ10 : riwpaalueng@gmail.com... อ่านต่อที่ :
http://www.dailynews.co.th/article/542408
ผมไม่ชอบวัดพระธรรมกาย ผมมีอคติ จากการเสพข้อมูลและสร้างวาทกรรมเดิมๆ หัวเลี้ยวหัวต่อพุทธศาสนา
ที่สำคัญตอนนี้ภายในวัดมีแต่คนแก่ๆ สูงวัยและพระเณร หากรัฐจะใช้กำลังบุกจับกุมพระธัมมชโย ที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าอยู่ไหนหรือล่องหนไปแล้ว ภาพที่ออกมาจะส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ของศาสนาพุทธและประเทศชาติ
ผมพยายามไม่แตะเรื่อง “วัดพระธรรมกาย” มาตลอด แต่ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วง “หัวเลี้ยวหัวต่อ” ระหว่างวัดพระธรรมกายและเจ้าหน้าที่รัฐ หากไม่พูดเสียบ้างคิดว่าคงตกยุค...!!
ผมยังหาข้อมูลไม่เจอว่าอะไรคือภัยของวัดพระธรรมกายที่มีต่อพระพุทธศาสนา อะไรคือภัยของวัดพระธรรมกายที่ถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ มีแต่วาทกรรมระหว่าง “พระด้วยกันเอง” ใส่ไคล้กันและกันในการเป็นข้อมูล เพื่อ “ทำลายล้าง” วัดพระธรรมกาย คดีสหกรณ์เงินคลองจั่นเป็น “แค่เสี้ยวหนึ่ง” ที่ไร้น้ำหนักในการใช้อำนาจรัฐในการจับกุม “พระธัมมชโย”
หรือแม้กระทั่งคดี “การบุกรุกป่า” สร้างสถานที่ปฎิบัติธรรมที่โคราช มันก็ไม่มีความชอบธรรมเพียงพอ หลายกรณีตอบสังคมไม่ได้ คำว่าสองมาตรฐานจึงกลับมาหลอกหลอนคนไทยอีกครั้ง กลายเป็น “คำฮิต” ไม่ว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหรือรัฐบาลรัฐประหาร
ผมไม่ได้ “ศรัทธา” ต่อวัดพระธรรมกาย บอกตรงๆ ว่าผม “มีอคติ” ด้วยซ้ำไปกับวัดนี้ เหตุผลที่มีอคติ อ่านและเสพข้อมูลจากวาทกรรมเก่าๆ ที่เคยถูกปั้นขึ้นมาพอๆ กับคนไทยจำนวนหนึ่งเสพข่าว “ระบอบทักษิณ” เป็นภัยต่อประเทศชาติ และ “ระบอบวัดพระธรรมกาย” เป็นภัยต่อ “พระพุทธศาสนา”
และที่สำคัญที่ผมไม่ชอบธรรมกาย เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยเป็นชาวพุทธประเภท “หลงวัด” ยอมมอบเงินให้วัดครั้งละจำนวนมากมาย ยอมทิ้งงาน ทั้งงานบ้าน งานประจำ และทั้งยอมลำบากเดินทางมาไกลๆ ทุกวันอาทิตย์และเทศกาลสำคัญ และทราบว่าหลายครอบครัวมีปัญหาเพราะกิดจากวัดแห่งนี้
แต่ผมแอบชอบวัดพระธรรมกาย คือ การบริหารจัดการวัดที่สวยงาม สะอาดเรียบร้อย เป็นระเบียบ วัดมีการจัดโซนที่ชัดเจน ถือว่าวัดอื่นๆ ควรเป็นแบบอย่างในการบริหารจัดการ คนวัดพระธรรมกายส่วนใหญ่ผมว่าเป็นคนพูดจาหวาน อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนมีระเบียบซึ่งถือว่า “เป็นคนดี” ในอุดมคติชาวพุทธทั่วๆ ไป
การที่รัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่รัฐจะใช้กำลังบุกวัดพระธรรมกายควรคิดให้รอบคอบ คิดให้ดี เพราะภายในวัดเฉพาะคน “กินนอนประจำ” ก็มีจำนวนหลายพันคนแล้ว อันนี้ไม่นับบริเวณรอบๆ นอกวัดอีกที่ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีความศรัทธาต่อวัด ซึ่งวัดพระธรรมกายไม่เหมือนวัดอื่นๆ ที่คนรอบวัดส่วนใหญ่ไม่ชอบวัด ไม่ชอบพระภายในวัด แต่วัดพระธรรมกาย “ตรงข้าม” กับวัดส่วนใหญ่...
และที่สำคัญตอนนี้ภายในวัดมีแต่คนแก่ๆ สูงวัยและพระเณร หากรัฐจะเข้าใช้กำลังบุกจับกุม “พระธัมมชโย” ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่า “อยู่ไหน” หรือ “ล่องหน” ไปแล้ว ภาพที่ออกจากจะก่อให้เกิดความเสียหาย และส่งผลกระทบต่อ “ภาพลักษณ์” ทั้งต่อ “ศาสนาพุทธ” และ “ประเทศชาติ” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แน่นอนท่ามกลางความแตกแยกกองเชียร์ ตอนนี้มีคนกลุ่มหนึ่ง ต้องการให้รัฐจัดการเด็ดขาด เข้าไปจับกุมแล้วจ “ถอดจีวร” จับสึกแล้วให้พระธัมมชโย “ติดคุก” แล้วไงต่อ หากคิดว่าเพื่อส่งผลต่อตำแหน่ง “สมเด็จพระสังฆราช” ก็โปรดอย่าคิด เพราะทราบว่าตอนนี้ “สมเด็จวัดปากน้ำ” ท่านยังอาพาธยังไม่ออกจากโรงพยาบาลเลย และที่สำคัญท่านอายุมากแล้ว โปรดให้เกียรติท่านบ้าง
คำถามก็คือว่าตอนนี้ทำไมสถาบันสงฆ์ เจ้าคณะปกครอง คณะสงฆ์จึงนิ่งเฉยเหมือนไม่ให้ความร่วมมือกับ “อำนาจรัฐ” หรือพระสงฆ์ส่วนใหญ่เป็นคนไม่ดีด้วยผมว่าไม่ใช่ ผมเชื่อว่าเรื่อง “วัดพระธรรมกาย” เรื่อง “พระธัมมชโย” มันมีมากกว่าคดีความ มันมีมากกว่าการเมือง ที่ถูกตีหน้าว่าอยู่ “มุมแดง”
ลึกๆ ผมเชื่อว่ามันต้องมีคนกลุ่มหนึ่งประเภท “แค้นฝังลึก” คอยสั่งเชือด “วัดพระธรรมกาย” และ “พระธัมมชโย” ในฐานะคนกลางผมเชื่อแบบนี้ด้วยความบริสุทธิใจจริงๆ...
….................................
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย เปรียญ10 : riwpaalueng@gmail.com... อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/article/542408