เมียผมมีชู้ ผมควรทำอย่างไรต่อไปดีครับ

ขอเล่าเลยนะครับ ผมเป็นพนักงานออฟฟิศอยู่บริษัทแห่งหนึ่งในสมุทรสาคร เงินเดือน 3 หมื่น อายุ 42 ปี หน้าตาพอใช้ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ยุ่งเรื่องผู้หญิง ส่วนเมียผม อายุ 30 ปี เป็นสาวโรงงานอยู่ในสมุทรสาครเช่นเดียวกัน ผมพบเธอตอนเธออายุ 20 ส่วนตอนนั้นผมก็ 32 ครับ ที่รู้จักเพราะเธอเป็นญาติแฟนเของพื่อนผม เธอเรียนจบแค่ชั้นประถม ได้ออกมาช่วยแม่เลี้ยงน้อง ๆ เป็นคนตัวเล็กแต่หน้าตาดี นิสัยเรียบร้อย เป็นแม่บ้านแม่เรือน ไม่มีประวัติเสียเรื่องผู้ชาย เราคบกันเป็นแฟนอยู่ 2 ปี แล้วจึงแต่งงานกัน ปัจจุบันแต่งมาครบ 8 ปี เรามีลูกชายที่น่ารักด้วยกัน 1 คน ปัจจุบันอายุ 5 ขวบ เรารักกันมากไม่เคยมีเรื่องทะเละเบาะแว้งอะไรกันที่รุนแรง ผมดูแลเธอให้มีความสุขตามอัตภาพ ส่วนเรื่อง sex เรามี sex กันประมาณไม่เกิน 4 ครั้งต่อเดือนซึ่งถือว่าน้อยมาก เพราะเธอทำงานเหนื่อยไม่ค่อยมีอารมณ์ ส่วนผมนั้นมีแทบทุกวัน แต่ไม่ได้ฝืนใจเธอแต่อย่างใด เพราะผมรักเธอมาก เมียเดินทางไปทำงานโดยรถรับส่งคนงานเป็นแบบนี้อยู่ประมาณเกือบ 7 ปี เวลามีใครมาจีบเธอ เธอก็จะเล่าให้ผมฟังทุกครั้งซึ่งเธอบอกไม่สนใจเพราะเธอมีลูกมีผัวแล้ว จนเธอเปลี่ยนมาทำโรงงานใหม่ใกล้ที่พักและเป็นโรงงานเดียวกับที่แม่ของเธอทำอยู่ด้วย จึงทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น ขอเล่าชีวิตประจำวันของเราก่อน คือ เช้าผมจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปทำงานโดยแวะส่งเธอหน้าโรงงานก่อน (ไปทางเดียวกัน) เย็นเลิกงานผมจะแวะรับเธอ ถ้าเลิก 5 โมง แต่ถ้าวันไหนเธอทำโอที ผมจะกลับเข้าห้องพักก่อนแล้วค่อยไปรับเธอหน้าโรงงานอีกครั้ง ยกเว้นในทุกวันพุธผมจะไม่ได้ไปรับเธอเนื่องจากต้องไปหาลูกชายที่แม่ผมเลี้ยงให้ เธอก็จะโทรให้น้องชายมารับไปส่งห้องพัก หรือบางทีก็ติดรถเพื่อนเธอกลับ เป็นมาอย่างนี้ตลอด และเธอก็เล่าให้ผมฟังอีกว่ามีหัวหน้างานของเธอมาจีบเธอ อายุ 40 ปี หัวล้าน รูปร่างท้วม ๆ ไม่สูง มีลูกมีเมียแล้ว แต่อยู่คนละที (ผมเคยเจอครั้งหนึ่งตอนไปส่งเธอหน้าโรงงาน) เธอบอกเหมือนเดิมว่าไม่สนใจหรอก แก่ก็แก่ หัวก็ล้าน ผมฟังแล้วก็ไม่ได้สนใจอะไร ต่อมาพบว่าไอ้เฮียตัวนี้มันมาคอมเม้นท์ในเฟสเมียผมโดยโพสท์เป็นรูปหัวใจต่าง ๆ แบบว่าไม่เกรงใจว่าผมจะเจอเลยทั้ง ๆ ที่ผมต้องเห็นอยู่แล้ว ผมจึงบอกเมียไปว่าทำไมมันถึงกล้าโพสท์ขนาดนี้ และเธอไปโพสต์ตอบมันทำไม ทำไมไม่รู้จักวางตัว เธอได้แต่เงียบ และวันต่อมาเธอไปบอกกับมันว่าไม่ต้องโพสท์มาหาเธออีก และมันก็ไม่โพสท์อะไรมาอีกนอกจากกด like อย่างเดียว ซึ่งในวันนั้นเองผมจึงเข้าไปสือหาเมียมันในเฟส ก็ได้ทราบว่าเป็นใคร จึงได้ขอเป็นเพื่อนกับเมียมันแต่เมียมันไม่รับแอดผม ผมจึงลืมเรื่องนี้ไปเพราะคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว แต่ผมยังถามเธอเป็นระยะว่ามันยังมาจีบเธออยู่หรือเปล่า เธอบอกว่าก็มาช่วยทำนู่นทำนี้ให้ตลอด ถ้าไม่อยากให้เขามายุ่งก็ต้องให้เธอออกจากงานแหล่ะ แต่เธอยังยืนยันว่าไม่เอาหรอกพวกหัวล้าน เธอบอกว่า “ถ้ารักกันก็ต้องเชื่อใจกันซิ” ผมก็ไว้ใจเธอ ไม่เคยคิดที่จะเช้คโทรศัพท์เธอ หรือคิดจะเช็คเข้าไปเช็คในเฟสของเธอ (ซึ่งที่จริงเป็นของผมที่ให้เธอใช้ ผมสามารถล็อคอินเข้าเช็คได้ตลอด ที่จริงถ้าผมเช็คจะรู้ความจริงเร็วกว่านี้แล้ว)  ซึ่งผมยังคงมีการเตือนเธอเป็นระยะ จนมาถึงวันที่ผมจับได้ว่าเธอมีชู้ คือ
วันอังคารที่  24 มกราคม 2560
เวลา 23.00 น. ซึ่งเป็นวันที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตลูกผู้ชายของผม ถ้าให้เลือกได้ผมขอตายดีกว่าจะเจอกับความรู้สึกนี้ครับ ระหว่างที่ผมนอนดูทีวีอยู่ได้มีเสียง line เด้งขึ้นมา (เมียผมนอนหลับแล้วและลืมปิดเครื่อง) จึงไปเปิดดู พบรูปโปรไฟล์เป็นรู้เด็กผู้ชาย (เป็นรูปลูกมัน) และข้อความว่า “ทำอะไรอยู่ครับคุณ” ตอนนั้นใจผมเริ่มสั่น หน้าเริ่มมืดแล้ว ทำใจดีคิดว่าคงมีผู้ชายมาจีบเฉย ๆ ไม่มีอะไรกัน ผมจึงสวมรอยเป็นเมียผม ส่งสติ๊กเกอร์รูง่วงนอนไปให้ และมันก็ส่งรูปต่าง ๆ มามากมาย สุดท้ายจบลงด้วยข้อความว่า “งั้นนอนพักผ่อนนะ เล็ก เมียรัก” เท่านั้นผมใจสลายทันทีมันเจ็บปวดสุดบรรยายครับ หัวใจผมเต้นแรงมาก และในหัวมันวิ้ง ๆ ไปหมด ผมจึงปลุกเมียขึ้นมาดูข้อความเธออึ้งและเงียบก่อนก่อนจะบอกว่าไม่มีอะไร  “รักกันก็ต้องเชื่อใจกันซิ” ผมคาดครั้นเธอเพราะกล้าใช้คำว่าเมียรักคงไม่ใช่แค่เพิ่งเริ่มจีบกันแน่ เธอเริ่มเผยออกมาว่า “เล็กก็มีใจให้เขาบ้าง” ผมคาดครั้นหนักขึ้นเธอจึงร้องไห้และเข้ามากอดผม บอกขอโทษขอให้ยกโทษให้เธอ และบอกว่าถ้าบอกความจริงแล้ว อย่าทิ้งเธอนะ เธอไม่อยากเสียผมกับลูกไป ผมคาดครั้นต่อว่ามันเป็นใคร (ใจคิดว่าคงเป็นหนุ่มหล่อที่เธอไม่เคยบอกผม) เธอบอกว่าถ้าบอกแล้วพี่อย่าไปทำอะไรเขานะ ผมรับปากว่าไม่หรอก พี่มีแม่กับลูกที่ต้องเลี้ยงต่อไป เธอจึงยอมบอกว่าก็เป็นหัวหน้านั้นแหล่ะ (ที่ตลอดมาเธอบอกว่าไม่เอาหรอก) เจ็บปวดมาก ๆ ครับ เรื่องราวต่าง ๆ ที่เคยทำร่วมกันมามันวิ่งเข้ามาในหัว เช่น บ้านที่ซื้อไว้กำลังจะเสร็จในอีก 3 เดือนนี้ ฯลฯ ผมจึงถามเธอว่าแล้วจะเอาอย่างไร เธอร้องให้หนัก บอกว่ารักผมมากไม่อยากเสียผมกับลูกไป เธอสัญญาว่าจะเลิกยุ่งกับเขา คืนนั้นผมนอนไม่หลับทั้งคืนจริง ๆ ครับ ใจมันเต้นแรงตลอดทั้งคืน ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต อยากจะร้องไห้แต่มันร้องไม่ออก มันจุก ๆ ในอก ทรมารจริง ๆ ครับ
คืนนั้นผมได้ถามรายละเอียดเพิ่มเติมว่าเรื่องมันเป็นมาอย่างไร (ซึ่งยิ่งถามไปก็เจ็บไป พอได้รับคำตอบก็เจ็บหนักขึ้นอีก) เธอเล่าว่าเหตุการณ์เริ่มมาได้ประมาณ 6 เดือนกว่าแล้ว (ก็น่าจะประมาณเดือน กรกฎาคม 2559) โดยเธอจะร่วมกับชู้วางแผนหลอกผมว่าจำทำโอทีเลิก 2 ทุ่มบ้าง 3 ทุ่มบ้าง บอกผมว่าไม่ต้องไปรับจะกลับกับเพื่อนเอง แต่ความจริงเลิก 5 โมงปกติ และนัดไป รร.ม่านรูดกับชู้ หรือจะสะดวกที่สุดก็วันพุธนั้นเอง (เพราะเป็นวันที่ผมไปหาลูก) โดยเธอจะให้น้องเธอขับมอเตอร์ไซค์ไปส่งปากซอยเข้าห้องพักแล้วเดินไปรอที่ลับตาผู้คนหน่อย โดยชายชู้จะขับเก๋งมารับที่จุดนัดพบเพื่อไป ม่านรูดกัน ผมถามว่ามีอะไรกับแล้วกี่ครั้ง ตอบว่า 3 ผมไม่เชื่อ พอคาดครั้นหนัก ๆ ยอมรับว่า 14 ครั้ง (เฉลี่ยะเดือนละประมาณ 2 ครั้ง) โดยเธอจะเป็นคนเลือกวันที่เหมาะสมเองเพราะกลัวว่าผมจะจับได้ ซึ่งเธอจะรับกลับมาให้ทันเวลาที่บอกกับผมไว้ เช่น 2 ทุม ชู้จะมาส่งที่เซเว่นใกล้ห้องพักแล้วเธอก็โทรให้ผมออกไปรับ ถามว่าใช้ถุงยางหรือเปล่า ตอบว่า เปล่าเพราะเธอไม่ชอบเนื่องจากเธอจะเจ็บ (เธอกินยาคลุมตลอด) แล้วเขาทำอะไรให้เธอและเธอทำอะไรให้เขาบ้าง ตอบ ทำให้กันทุกอย่าง (คงไม่ต้องอธิบายอะไรนะครับว่าทำอะไรบ้าง คำว่าทุกอย่างคือทุกอย่างจริง ๆ เพราะผมถามลึกมาก) ทุกครั้งหลังเสร็จกิจเข้าจะให้เงินเธอครั้งละ 1000 บาทเป็นค่าขนม ถามต่อว่าชอบเขาได้อย่างไร ตอบว่าไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าชอบเขาไปได้ยังไง คงเพราะความใกล้ชิด เอาใจเก่ง ปากหวาน คืนนั้นจึงสรุปกันว่าจะให้เธอไปสารภาพผิดกับแม่เธอ และให้แม่เธอร่วมกันไปคุยกับเขาว่าไม่ต้องมายุงกันอีก เช้าวันต่อมา

25 มกราคม 2560
เธอไปทำงานตามปกติ สาย ๆ เธอโทรมาบอกผมว่าสารภาพกับแม่แล้ว แต่แม่เธอไม่กล้าไปคุยกับเขาด้วยเธอจึงไปบอกด้วยตัวเอง ว่าไม่ต้องมายุ่งกันอีก จบกันแค่นี้ ไม่ต้องมาคุยเรื่องส่วนตัว คุยเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น เย็นเลิกงานผมได้คุยกับเธอว่าบอกแม่ว่าอย่างไร เล่ามาให้ตรงกันนะเพราะผมจะโทรไปถามแม่ด้วย เธอจึงยอมรับว่าบอกความจริงกับแม่แค่ว่า ทางผมจับได้ว่าเธอแอบคุบกับหัวหน้า แค่นั้นไม่ได้บอกว่ามีอะไรกันแล้ว ผมจึงบังคับให้เธอโทรไปสาภาพกับแม่เธอ เธอโทรไปแต่ไม่กล้าพูดกลัวแม่เสียใจจึงให้ผมเป็นคนบอกเอง ผมจึงเล่าความจริงไปทั้งหมด และแม่เธอรับปากว่าจะช่วยดูให้

26 มกราคม 2560
ผมถามเพิ่มเติมในประเด็นใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ (เพราะในสมองมันไม่ยอมหยุดคิดครับ) ถามว่าครั้งแรกมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ตอบว่า วันนั้นเธอเป็นตาแดง เขาจึงอาสาพาเธอไปหาหมอที่คลินิก พอขากลับใกล้ถึงห้องพักเป็นทางเปลี่ยวเขาจอดรถและขอมีอะไรด้วยเธอบอกว่าพยายามดิ้นแต่ออกจากรถไม่ได้เนื่องจากถูกล็อคไว้ และสู้แรงเขาไม่ไหมเลยเสียให้เขาในรถ ส่วนครั้งที่ 2 และต่อ ๆ มาก็ไป รร.ม่านรูดกันตลอด ผมถามว่าทำไมถึงได้ไป รร.ม่านรูดนี้ ตอบว่า เธอเป็นคนเลือกเอง เพราะอยู่ในที่ลับตาคนดี (เธอเคยซ้อนรถผมผ่าน รร.นี้มาก่อน)

ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2560 เป็นต้นไป จนปัจจุบัน ผมยังถามประเด็นใหม่ ๆ กับเธอเป็นระยะ ๆ เพื่อให้หายข้องใจและนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์สาเหตุ (เนื่องจากสมองมันไม่ยอมหยุดคิดครับ) สรุปได้ดังนี้
1.  ตอนนี้เขามาคุยอะไรบ้างหรือเปล่า ตอบ เขาคุยเฉพาะวันแรกว่าจะรอเธอถ้าผมทิ้งเธอ และหลังจากนั้นไม่เคยคุยเรื่องส่วนตัวกันอีกเลย พอมาสิ่งงานแค่พยักหน้ารับ
2.  ทำใจได้แล้วเหรอ ตอบ ได้แล้ว ไม่รู้สึกอะไรแล้ว เพราะรักผมกับลูกมาก ไม่เคยคิดจะทิ้งผมไปอยู่กับเขา
3.  ผมไม่ดีตรงไหนถึงได้มีชู้ ตอบ ผมดีกว่าทุกอย่าง ไม่เคยคิดว่าจะทิ้งผมไปอยู่กับชู้
4.  เคยคิดทบทวนตัวเองบ้างหรือเปล่าว่ากล้าทำไปได้อย่างกร ตอบ ก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน แต่รู้สึกผิดอยู่ตลอดที่ไปกับเขา และเคยพูดกับเขาเสมอว่าถ้าเกิดผมจับได้คงรู้นะว่าเธอจะเลือกใคร
5.  คิดว่ตัวเองพร้อมจะยอมมีอะไรกับเขาอยู่แล้วใช่หรือไม่หากเขาคิดจะมีอะไรด้วย ตอบ ไม่
6.  มันเคยพูดว่าอยากอยู่ด้วยกันหรือชวนไปอยู่ด้วยกันหรือไม่ ตอบ ไม่
7.  มันเคยยุให้เลิกกับพี่หรือไม่ ตอบ ไม่เคย
8.  มันเคยบอกว่าจะทำให้ลมผัวหรือไม่ ตอบ ไม่เคย
9.  เธอเคยไปที่ห้องเขาหรือไม่ และเคยพาเขามาที่ห้องตัวเองหรือไม่ ตอบ ไม่ทั้งสอง
10.เคยซื้อของให้กันและกันบ้างหรือไม่ ตอบ ไม่เคยซื้อของให้กัน แต่เขาเคยซื้อของกินมาให้บ้าง

ปัจจุบัน เหตุการณ์ผ่านมา 1 เดือนแล้ว ผมยังอยู่กับเธอ แต่ผมอดไม่ได้ที่จะถามประเด็นใหม่ ๆ อยู่เสมอถ้านึกขึ้นมาได้ ส่วนเธอจะร้องไห้ทุกครั้งที่ผมถาม เธอให้ผมไปรับกลับบ้านทุกวัน เธอสัญญาว่าจะพิสูจน์ตัวเองให้ผมกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้ จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียใหม่จะทุมเทความรักทั้งหมดที่มีให้กับครอบครัวที่เธอรัก และผมเชื่อว่าเธอไม่ได้ยุ่งกับเขาอีกแล้ว และเธอจะทำจริงในสิ่งที่เธอพูด (ผมเห็นแววตาสำนึกผิดของเธอ)

อ้อ..ผมลืมเล่าบางตอนไป หลังจากคืนที่ผมจับได้ว่าเมียมีชู้ ผมจึงใช้ เฟสของเมียผมไปแอดเฟรนด์เมียมันใหม่ ครั้งนี้เมียมันรับแอดผมครับ (คงเป็นเพราะรูปโปรไฟล์เมียผมเป็นรูปผู้หญิงเธอจึงรับแอด) ผมจึงเขียนเล่าความจริงให้เขาฟังทาง inbox เมียมันบอกว่า คน ๆ นี้ถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขามันไม่ยอมรับหรอก ขอให้ผมส่งหลักฐานไปให้ด้วย ผมได้ส่งข้อความที่พวกเขาคุยกับทาง inbox ไปครับ ส่วนข้อความทาง line ที่ผมจับได้นั้น เมียผมถอนการติดตั้ง line ไปแล้ว ผมจึงไม่มีหลักฐานทางนี้ส่งไป (ซึ่งมันหนาแน่นกว่า) ระหว่างที่ผมเขียนข้อความไปเรื่อย ๆ (ซึ่งยังไม่จบเรื่อง) เมียมันก็อันเฟรนด์ผม ครับจึงไม่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อีก แต่ผมก็ให้เบอร์ผมไปแล้วแต่เธอก็ไม่โทรมา ไม่รู้ว่าเชื่อผมหรือเปล่า วันต่อมาทราบจากเมียผมว่า มันมาถามเมียผมว่ารู้เรื่องนี้ไหม (เมียมัน forword ข้อความที่ผมส่งไปทั้งหมดไปให้ผัวเขา) เมียผมตอบว่าไม่รู้เรื่อง (ซึ่งที่จริงเธอรู้) ผมยังไม่เข้าใจว่าเธอจะเชื่อหรือเปล่า 1.อาจไม่เชื่อจึงอันเฟรนด์ผมออก 2.อาจเชื่อแต่ทนรับฟังเรื่องนี้ไม่ได้จึงอันเฟรนด์ผมออก เพื่อน ๆ คิดว่าอย่างไรครับ

โดยส่วนตัวผมพอจะสรุปเรื่องนี้ได้ว่า
1. คนประเภทตัวเฮียแบบนี้มีอยู่ในทุกสังคมครับ มันไม่สนใจว่าตัวเองจะมีลูกมีเมียแล้ว และผู้หญิงเขาจะมีลูกมีผัวแล้ว มันจ้องจะเอาเขาอย่างเดียว
2. เมียผมเป็นคนหัวอ่อน ไม่ทันคนอยู่แล้ว พอโดนตามจีบทุกวันจึงทำให้ลืมความผิดชอบชั่วดี ศีลธรรม การยับยั้งชั่งใจใด ๆ ทั้งหมด มัวแต่หลงใหลได้ปลื้มกับสิ่งเหล่านี้
3. ที่ผมให้อภัยเธอ เพราะผมยังรักเธอ และตัวเธอเองไม่ได้เปึนคนอย่างนั้นตั้งแต่แรก แต่โดนหลอก ผมก็รับฟังและพยายามเริ่มต้นใหม่ทุกวันด้วยความทรมาน พยายามนึกถึงลูก และความรัก พร้อมทั้งเรื่องราวดี ๆ ที่ทำด้วยกันแต่ก่อนมาตลอด 10 ปี  แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าผมจะทนได้นานแค่ไหนเพราะมันทรมานมาก ทุกวันนี้ก็อยู่ด้วยกัน ผมควรทำไงดีครับ เครียดมาก ไม่สมาธิในการทำงานเลยครับ

ท่านทั้งหลายมีความคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ..ผมทำถูกแล้วใช่หรือไม่ หรือควรทำตัวอย่างไรต่อไ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่