สวัสดีครับ เพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนครับ ผมยืม Account ของพี่มาตั้งครับ
เริ่มเลยแล้วกันครับ
ผมเนี่ยจบ ม.6 มา 2 ปีแล้ว ตอน ม.6 เรียนห้องสายวิทย์-คณิต สอบได้คณะสายแพทย์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่ตอนนั้นผมเนี่ยอยากเรียนคณะแพทย์มากเรียนตัดสินใจซิ่ว 1 ปี ซิ่วแบบอยู่บ้าน อ่านหนังสือก็ได้อ่านอยู่บ้าง แต่ไม่เต็มที่ เพราะมีภาระกิจการที่บ้าน + ความขี้เกียจของเราเอง เลยทำให้ปีแรกไม่ติด คะแนน 7 วิชาสามัญ วิชาชีวะ ได้น้อยเกินไป คะแนนรวมไม่ถึงเกณฑ์ เลยตัดสินใจซิ่วอีกปี (ปีนั้น ไม่สอบ GAT/PAT เลยเพราะมุ่ง กสพท. อย่างเดียว)
ซิ่วครั้งที่ 2 ผมก็ยังอยู่บ้านเหมือนเดิม ก็อ่านหนังสือเหมือนเดิม แต่!!!!! ทุกอย่างไม่เหมือนปีที่แล้ว ธุรกิจของทางบ้านย่ำแย่ลง ผมต้องแบกความเครียดเข้ามาในสมอง ต้องช่วยพ่อแม่ทำงานมากขึ้น + ความขี้เกียจ ที่เมื่อก่อนเคยสบาย จึงอ่านหนังสือไม่เต็มที่ ปัญหานี้ผมรู้ดี เหมือนการที่รู้ว่าตุ่มน้ำรั่ว แต่ก็ยังเถน้ำใส่ทุกวัน รู้ว่าต้องอุดรอยรั่วแต่อุดที่ใดก็หลุดทุกที ปีนี้ก็สอบ กสพท ได้คะแนนความถนัดดีมากๆๆๆ(เป็นปีแรกที่ไปเรียน ความถนัดทางแพทย์กับกวดวิชาแห่งหนึ่ง ที่มีพี่หมอสอนจริยธรรม) ส่วนปัญหาเดิม คือ ชีวะ แต่ปีนี้มีมาเพิ่มอีกตัวคือ เคมี แน่นอนคะแนนรวมไม่ผ่านแน่ ผมว่าพ่อกับแม่คงเสียใจมาก ผมก็เสียใจในการกระทำของผมเช่นกัน ผมเสียใจที่ไม่สามารถทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจได้
ผมมานั่งคิดวนไปวนมา อีก 10 กว่าวันจะสอบ GAT/PAT ครั้งนี้ผมสมัคร ผมกะไม่เอาคณะทางสายวิทย์ เพราะตามจริงตัวผมเนี่ยชอบสายกฏหมายมาก แต่วางแผนไว้ว่า เรียนจบ ป.ตรีก่อน แล้วคอยไปเรียนนิติรามเพิ่มเติมอีก เพราะถ้าหากเรียนนิติก่อน คงจะยากที่จะเข้าสายวิทย์ ตัวผมชอบทั้งสายวิทย์+สายกฏหมายน่ะ ยิ่งตอนไปเรียน ความถนัด ได้ไปเรียนกับพี่หมอคนหนึ่ง(ไม่ขอเอ่ยนามสถาบันกวดวิชา) ยิ่งทำให้อยากเป็นหมอมากขึ้น แต่การสอบGAT/PAT ครั้งนี้ผมไม่ค่อยมั่นใจ ตรง PAT1 กลัวทำคะแนนไม่ถึงตามเป้าหมาย ผมจึงคิดเรื่องซิ่วปีหน้า คือครั้งที่ 3 ว่าจะซิ่วดีหรือไม่
เหตุผลที่ทำให้ผมอยากซิ่วครั้งที่ 3 มีดังนี้
1.ผมอยากที่จะเป็นหมอจริงๆ หมอที่มีอุดมการณ์ในการที่จะช่วยเหลือคนป่วยจริงๆ ดั่งพระราชดำรัส พระราชบิดา "I don’t want you to be only a doctor, but I also want you to be a man" ผมเห็นหมอบางคน ร่ำเรียนมาอย่างดีแต่กลับไปกระทำการผิดวิชาชีพ เห็นแล้วอดใจคิดไม่ได้ ทำไมเราถึงไม่ได้โอกาสแบบนั้นบ้าง เราจะรักษาวิชาชีพให้บริสุทธิ์ จะไม่ทำให้เกียรติของความเป็นหมอต้องหม่นหมอง จะไม่ทำให้ภาษีของประชาชนที่ส่งเสียเราเรียนต้องเสียป่าว จะไม่ทำให้ประชาชนและประเทศชาติต้องผิดหวัง จะไม่ทำตัวให้เป็นภาระสังคม
2.ความฝันของพ่อกับแม่คืออยากมีลูกที่เป็นหมอ ซึ่งพี่ชายผมได้เป็นไปแล้ว มันคงเป็นความสุขที่ยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่1ของพ่อและแม่อีก
3.ผมได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่อง สามก๊ก ตอนที่เล่าปี่ไปเชิญขงเบ้ง ต้องเดินทางผ่านป่าเขาไปถึง 3 ครั้งจนสำเร็จได้ขงเบ้งมาช่วยงาน ใยผมแค่สอบซิ่ว 3 ครั้งได้ตามที่ตนปรารถนาจะทำไม่ได้ ถึงแม้เล่าปี่จะไม่สามารถยึดแผ่นดินได้หมด แต่เขาก็ฝากชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ดีกว่าเป็นแค่คนทอเสื่อขายไปวันๆ
ครั้งนี้ผมตั้งใจว่าจะสอบซิ่วใหม่และสัญญากับตัวเองว่าต้องทำให้ได้ จะลดความขี้เกียจลงให้ได้ จะพยายามให้ถึงที่สุด ผมไม่ห่วงหรอกว่าใครจะว่าผมโง่สอบหลายครั้ง ไม่สนใจหรอกว่าเพื่อนจะจบก่อน เพราะสนใจเพียงว่าจบมาแล้วสามารถรับใช้ชาติได้เพียงใด ช่วยเหลือประชาชนได้เท่าไร แล้วทุกคนคิดว่าผมควรจะสอบใหม่อีกรอบหรือป่าวครับแล้วความคิดของผมถูกต้องไหมครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบน่ะครับ
ซิ่วมา 2 ปีแล้วยังไม่ได้คณะที่ชอบ จะซิ่วอีกครั้งดีไหม?
เริ่มเลยแล้วกันครับ
ผมเนี่ยจบ ม.6 มา 2 ปีแล้ว ตอน ม.6 เรียนห้องสายวิทย์-คณิต สอบได้คณะสายแพทย์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่ตอนนั้นผมเนี่ยอยากเรียนคณะแพทย์มากเรียนตัดสินใจซิ่ว 1 ปี ซิ่วแบบอยู่บ้าน อ่านหนังสือก็ได้อ่านอยู่บ้าง แต่ไม่เต็มที่ เพราะมีภาระกิจการที่บ้าน + ความขี้เกียจของเราเอง เลยทำให้ปีแรกไม่ติด คะแนน 7 วิชาสามัญ วิชาชีวะ ได้น้อยเกินไป คะแนนรวมไม่ถึงเกณฑ์ เลยตัดสินใจซิ่วอีกปี (ปีนั้น ไม่สอบ GAT/PAT เลยเพราะมุ่ง กสพท. อย่างเดียว)
ซิ่วครั้งที่ 2 ผมก็ยังอยู่บ้านเหมือนเดิม ก็อ่านหนังสือเหมือนเดิม แต่!!!!! ทุกอย่างไม่เหมือนปีที่แล้ว ธุรกิจของทางบ้านย่ำแย่ลง ผมต้องแบกความเครียดเข้ามาในสมอง ต้องช่วยพ่อแม่ทำงานมากขึ้น + ความขี้เกียจ ที่เมื่อก่อนเคยสบาย จึงอ่านหนังสือไม่เต็มที่ ปัญหานี้ผมรู้ดี เหมือนการที่รู้ว่าตุ่มน้ำรั่ว แต่ก็ยังเถน้ำใส่ทุกวัน รู้ว่าต้องอุดรอยรั่วแต่อุดที่ใดก็หลุดทุกที ปีนี้ก็สอบ กสพท ได้คะแนนความถนัดดีมากๆๆๆ(เป็นปีแรกที่ไปเรียน ความถนัดทางแพทย์กับกวดวิชาแห่งหนึ่ง ที่มีพี่หมอสอนจริยธรรม) ส่วนปัญหาเดิม คือ ชีวะ แต่ปีนี้มีมาเพิ่มอีกตัวคือ เคมี แน่นอนคะแนนรวมไม่ผ่านแน่ ผมว่าพ่อกับแม่คงเสียใจมาก ผมก็เสียใจในการกระทำของผมเช่นกัน ผมเสียใจที่ไม่สามารถทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจได้
ผมมานั่งคิดวนไปวนมา อีก 10 กว่าวันจะสอบ GAT/PAT ครั้งนี้ผมสมัคร ผมกะไม่เอาคณะทางสายวิทย์ เพราะตามจริงตัวผมเนี่ยชอบสายกฏหมายมาก แต่วางแผนไว้ว่า เรียนจบ ป.ตรีก่อน แล้วคอยไปเรียนนิติรามเพิ่มเติมอีก เพราะถ้าหากเรียนนิติก่อน คงจะยากที่จะเข้าสายวิทย์ ตัวผมชอบทั้งสายวิทย์+สายกฏหมายน่ะ ยิ่งตอนไปเรียน ความถนัด ได้ไปเรียนกับพี่หมอคนหนึ่ง(ไม่ขอเอ่ยนามสถาบันกวดวิชา) ยิ่งทำให้อยากเป็นหมอมากขึ้น แต่การสอบGAT/PAT ครั้งนี้ผมไม่ค่อยมั่นใจ ตรง PAT1 กลัวทำคะแนนไม่ถึงตามเป้าหมาย ผมจึงคิดเรื่องซิ่วปีหน้า คือครั้งที่ 3 ว่าจะซิ่วดีหรือไม่
เหตุผลที่ทำให้ผมอยากซิ่วครั้งที่ 3 มีดังนี้
1.ผมอยากที่จะเป็นหมอจริงๆ หมอที่มีอุดมการณ์ในการที่จะช่วยเหลือคนป่วยจริงๆ ดั่งพระราชดำรัส พระราชบิดา "I don’t want you to be only a doctor, but I also want you to be a man" ผมเห็นหมอบางคน ร่ำเรียนมาอย่างดีแต่กลับไปกระทำการผิดวิชาชีพ เห็นแล้วอดใจคิดไม่ได้ ทำไมเราถึงไม่ได้โอกาสแบบนั้นบ้าง เราจะรักษาวิชาชีพให้บริสุทธิ์ จะไม่ทำให้เกียรติของความเป็นหมอต้องหม่นหมอง จะไม่ทำให้ภาษีของประชาชนที่ส่งเสียเราเรียนต้องเสียป่าว จะไม่ทำให้ประชาชนและประเทศชาติต้องผิดหวัง จะไม่ทำตัวให้เป็นภาระสังคม
2.ความฝันของพ่อกับแม่คืออยากมีลูกที่เป็นหมอ ซึ่งพี่ชายผมได้เป็นไปแล้ว มันคงเป็นความสุขที่ยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่1ของพ่อและแม่อีก
3.ผมได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่อง สามก๊ก ตอนที่เล่าปี่ไปเชิญขงเบ้ง ต้องเดินทางผ่านป่าเขาไปถึง 3 ครั้งจนสำเร็จได้ขงเบ้งมาช่วยงาน ใยผมแค่สอบซิ่ว 3 ครั้งได้ตามที่ตนปรารถนาจะทำไม่ได้ ถึงแม้เล่าปี่จะไม่สามารถยึดแผ่นดินได้หมด แต่เขาก็ฝากชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ดีกว่าเป็นแค่คนทอเสื่อขายไปวันๆ
ครั้งนี้ผมตั้งใจว่าจะสอบซิ่วใหม่และสัญญากับตัวเองว่าต้องทำให้ได้ จะลดความขี้เกียจลงให้ได้ จะพยายามให้ถึงที่สุด ผมไม่ห่วงหรอกว่าใครจะว่าผมโง่สอบหลายครั้ง ไม่สนใจหรอกว่าเพื่อนจะจบก่อน เพราะสนใจเพียงว่าจบมาแล้วสามารถรับใช้ชาติได้เพียงใด ช่วยเหลือประชาชนได้เท่าไร แล้วทุกคนคิดว่าผมควรจะสอบใหม่อีกรอบหรือป่าวครับแล้วความคิดของผมถูกต้องไหมครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบน่ะครับ