นี่เป็นการเขียน รีวิว ครั้งแรกของเรา เนื่องจากที่ผ่านมา เราได้เข้ามาอ่านกระทู้ การท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ มาได้ประมาณ 2-3 ปี แล้ว มันเป็นเวลาที่เราเริ่มจะท่องเที่ยวด้วยตัวเอง โดยไม่ใช้บริการทัวร์ ซึ่งเราพบว่า กระทู้เหล่านี้ ได้สร้างประโยชน์มากมาย แก่คนทั่วๆไป
เราเองได้แต่เข้ามาอ่านกระทู้รีวิวท่องเที่ยวหลายครั้ง จนกระทั่ง การเที่ยวพม่า ล่าสุดของเราเมื่อ 22 – 24 มกราคม 2560 ทำให้เรารู้สึกว่า เราเองควรสร้างประโยชน์ให้แก่คนอื่นๆบ้าง ไม่ใช่เป็นฝ่ายรับเพียงอย่างเดียว ถึงเวลาที่จะเป็นฝ่ายให้ซะบ้าง เพราะในการเที่ยวพม่าของเรานั้น เราพบว่า มีข้อมูลบางอย่างที่เราหาไม่พบ (ตัวเองอาจจะหาไม่ดี) หรือหาพบ แต่ไม่ชัดเจน ไม่อัพเดต อะไรประมาณนี้ เราจึงอยากแบ่งปันสิ่งที่เราได้มา ให้แก่คนอื่นๆครับ แต่ตัดสินใจช้า เลยไม่ได้ถ่ายรูปในหลายๆจุดมาแบบละเอียด
มาเริ่มกันเลยครับ อาจจะเป็นการเขียนที่ดี ไม่ดี แบบไหน ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยละกัน แต่หวังว่า จะเกิดประโยชน์แก่คนอื่นๆบ้าง ไม่มากก็น้อยครับ
การเดินทาง
วันแรก
กทม. – ย่างกุ้ง Air Asia เที่ยวบิน 11:35
ย่างกุ้ง แท็กซี่ล้วนๆ แบบ จากจุดต่อจุด ไม่ได้เหมาเป็นวัน
ย่างกุ้ง – พุกาม Night Bus
วันที่สอง
พุกาม E-Bike
พุกาม – ย่างกุ้ง Night Bus
วันที่สาม
ย่างกุ้ง – หงสา Local Bus
หงสา เหมา ตุ๊กตุ๊ก
หงสา – ย่างกุ้ง Local Bus
ย่างกุ้ง – กทม. Air Asia เที่ยวบิน 17:35
ที่พัก ไม่มี เพราะกลางคืนเราเดินทางด้วย Bus จึงนอนบนรถทั้ง 2 คืน
การสื่อสาร เมืองท่องเที่ยวสามารถพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษได้เลยครับ ไม่ต้องกังวลแม้เราจะพูดผิดพูดถูก ก็สื่อสารกันได้ครับ
มาดูรายละเอียดกันครับ
วันที่ 22 มกราคม 2560
เราขับรถส่วนตัวไปจอดแบบค้างคืนที่ดอนเมือง เราจอดรถที่ชั้นใต้ดินของอาคารเที่ยวบินระหว่างประเทศนะครับ ขับลงไปแล้วบอก รปภ.ได้เลยว่าเราจะจอดแบบค้างคืน รปภ. จะหาที่จอดที่ดีๆให้เลยครับ เราจอดแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว รปภ. น่ารักทุกคนครับ วิ่งหาที่จอดรถให้ทุกครั้ง ใครไม่สะดวกก็ใช้บริการแท็กซี่นะครับ ลองตัดสินใจดูเองครับว่าแบบไหนสะดวกและประหยัดกว่า สำหรับเรา ใช้บริการแท็กซี่จะประหยัดกว่า แต่อยากขับรถให้แฟนนั่งสบายๆ เลยขับรถไปเองครับ
เราจอดตั้งแต่ประมาณ 9 โมงครึ่ง วันที่ 22 /01 / 60 จนถึง ประมาณ 20:30 วันที่ 24 /01 / 60 ค่าเสียหาย วันละ 250 บาท รวม 750 บาท
เรา Check-in Air Asia ผ่าน Mobile App มาเรียบร้อยแล้ว จึงไป print Boarding Pass ที่ตู้ Kios เอง โดยตู้ Kios จะตั้งอยู่ด้านนอกของอาคารระหว่างประเทศครับ ข้อดี คือ ไม่ต้องเข้าคิวที่เคาน์เตอร์เช็คอิน ครับ แต่ต้องเข้าไปขอใบ ตม.แถวๆเคาน์เตอร์นะครับ
ปัจจุบัน ตม.จะมีช่องของ passport ไทยโดยเฉพาะครับ และเดี๋ยวนี้ ตม. จะเป็นแบบ Self service ที่ยังมี จนท.คอยช่วยเหลืออยู่ครับ วันที่เราไป คนน้อยจึงค่อนข้างรวดเร็วไม่ต้องรอนาน
Air Asia Flight เราจองล่วงหน้าผ่าน App. เกือบปี ได้ราคาประมาณ 1700 ต่อคน ไม่รวมค่าเลือกที่นั่ง, ฯลฯ รวมทั้งหมดผมเสียหายไป 4,250 บาทต่อ 2 คนครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งครับ แล้วปรับนาฬิกาถอยหลัง ครึ่งชั่วโมง เพราะเวลาที่พม่าช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง Flight ขาไปเวลา 11:35 ถึงย่างกุ้ง เวลาท้องถิ่น 12:25 ครับ
บนเครื่องเราได้พบมิตรภาพที่ดีจากเพื่อนใหม่ชาวพม่า ที่ไปเรียนดอกเตอร์อยู่ที่ปักกิ่ง กำลังจะกลับบ้านที่หงสา ได้พูดคุยกัน เค้าบอกว่า ดีใจและภูมิใจที่เราจะไปเที่ยวหงสา บ้านเกิดของเค้าเป็นอย่างมาก และเพื่อนคนนี้ได้ช่วยเหลือเราเป็นอย่างดีครับ ทั้งๆที่พบกันเป็นเวลาเพียงชั่วโมงครึ่งบนเครื่องเท่านั้น
เพื่อนชาวหงสาเสื้อฟ้าครับ
12:30 โดยประมาณ หลังจากลงจากเครื่องบิน เราก็ผ่านขั้นตอน ตม.ตามปกติ และได้บอกเพื่อนชาวพม่าว่า ลาก่อน หวังว่าจะได้พบกันอีก แต่หลังจากออกจาก ตม.เพื่อนชาวพม่าคนนี้ที่มีพี่สาวมารอรับอยู่ ก็รอเราทำธุระในสนามบินจนเสร็จเลย เราก็แปลกใจว่า เพื่อนคนนี้รออะไร ???
เราไปแลกเงินภายในสนามบิน จาก US Dollar ที่แลกจากเงินบาทในไทยไป เพื่อแลกเป็น Myanmar Kyat จำนวน 200 US. ได้มา 270,000 Kyat เป็นแบงค์ใบละ 10,000 Kyat ล้วนๆ (Rate นี้เปลี่ยนเป็นเงินบาท คือ 1,000 Kyat เท่ากับประมาณ 26 บาท) การแลกเงินนั้นไม่สามารถแลกเงินแบบให้เค้าทอนเป็น US ได้นะครับ เช่น เรามี US ใบละ 100 ไป 3 ใบ แลกไป 200 US จะขอแลก 250 US แล้วให้เค้าทอน US มา 50 US ไม่ได้ครับ ส่วนเงินบาทของเราก็แลก Kyat ได้นะครับ แต่ Rate อาจจะสู้ US ไม่ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นครับ
หลังจากแลกเงินเสร็จ เราก็ไปซื้อ Tourist Sim ของ Telenor ในสนามบินครับ ราคา 15,000 Kyat สามารถใช้ Net ได้ 5 GB. โทรภายในประเทศได้อีก 50 นาที Sim ที่ถูกกว่านี้ก็มีครับ แต่ เราเกรงว่าจะใช้ Net ไม่พอ เลยตัดสินใจซื้อ Sim แบบนี้ โดยไม่ได้ถาม Sim แบบอื่นเลย พนักงานของ Telenor จะจัดการเปลี่ยน Sim และ Setup ให้เรียบร้อย ใช้งานได้ทันที สะดวกรวดเร็วครับ เราใช้เวลาในการแลกเงินและซื้อ Sim ไปประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง เพื่อนใหม่พม่า ชาวหงสาและพี่สาว ก็ยังคงยืนรอเราอยู่ไม่ไปไหน เอ๊ะยังไง
หน้าตา Sim ครับ
ขั้นต่อไปของเราก็คือ เดินทางไป Aung Mingalar Bus Station โดยแท็กซี่ เพื่อซื้อตั๋ว Night Bus ไปพุกาม (Bagan) ค่ำนี้เลย ที่จริงเราพยายามจองตั๋วมาจากเมืองไทยก่อน แต่ไม่สำเร็จ เลยต้องเสียเวลาไปซื้อตั๋วก่อนครับ เพื่อนใหม่ของเรา พาเราเดินไปหน้าอาคารสนามบิน แล้วคุยกับแท็กซี่ด้วยภาษาถิ่น เราก็ไม่รู้ว่าคุยอะไร เดาว่าคงต่อราคาแท็กซี่ให้เราอยู่ ผ่านไป 2 คัน คันที่ 3 ตกลงได้ เพื่อนใหม่พร้อมพี่สาวก็บอกให้เราขึ้นแท็กซี่เลย จะไป Aung Mingalar และเค้ากับพี่สาวก็ขึ้นรถไปด้วย
13:00 โดยประมาณ แท็กซี่ขับออกจากสนามบิน เพื่อนใหม่ของเรา ยิงเบอร์มือถือของเค้าเข้ามือถือของเรา แล้วบอกว่า มีอะไรติดขัด โทรหาเค้าได้เลย ผ่านไปซักระยะ พี่สาวของเพื่อนใหม่ชาวหงสา ก็จ่ายค่าแท็กซี่ไปในราคา 3,000 Kyat
แล้วบอกเราว่า “จ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องจ่ายอีกแล้วนะ”
เราจึงตอบไปว่า “ราคาเท่าไร” เค้าบอกว่า “ไม่เป็นไร เค้าจ่ายให้” เราก็บอกอีกว่า “ไม่ได้ เดี๋ยวเราจ่ายเอง”
เค้าเลยตอบว่า “’งั้นหารกัน ให้เค้า 1,500 แล้วกัน” เราควักใบละ 5,000 ให้เค้า แต่เค้าไม่มีทอน
ระหว่างนั้น แท็กซี่ก็จอด เค้าและพี่สาวลงจากรถ เราก็ลงด้วย นึกว่าถึงแล้ว แต่ปรากฏว่า ไม่ใช่ครับ เค้ากับพี่สาวขอลงก่อน เพื่อเดินทางกลับบ้าน และให้เรานั่งแท็กซี่ต่อไป เราเลยไม่มีโอกาสจ่ายเงินเค้าเลย เท่ากับเค้าเลี้ยงแท็กซี่เราไปซะงั้น รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก
แท็กซี่ขับต่อไป และเราก้อบอกแท็กซี่ว่าให้ไปส่งที่ Elite Express Bus เปิดรูปบนมือถือให้เค้าดูครับ เพระเท่าที่หาข้อมูลมา เดินทางด้วย Night Bus ไปพุกาม (Bagan) นิยมใช้บริการ JJ Express หรือไม่ก็ Elite Express กันครับ เราเลือก Elite Express เพราะราคาถูกกว่า ของ JJ Express ประมาณ 5,000 Kyat แต่รถไม่เหมือนกันนะครับ JJ Express จะเป็นรถ VIP คือ มี 3 ที่นั่งต่อแถว แต่ Elite Express จะมี 4 ที่นั่งต่อแถวครับ แต่พอไปถึง Aung Mingalar ก็พบว่า มีอีกหลายบริษัท ทั้งใหญ่และเล็กมากมาย ให้เลือก อาจมีตัวเลือกที่ดีและถูกกว่านี้ก็ได้ครับ เช่น บริษัท Famous ดูแล้วใหญ่และมีมาตรฐานมากครับ แต่เราก็ไม่มีเวลาเดินสำรวจซะแล้ว
Aung Mingalar Bus Station ใหญ่นะครับ อารมณ์ประมาณ หมอชิต แต่ไม่มีอาคารกลาง ใครอยากไปรถบริษัทอะไร ก็ให้ไปที่อาคารของบริษัทนั้นเลยครับ
13:30 โดยประมาณ แท็กซี่จอดหน้าบริษัท Elite Express เราเดินเข้าไปซื้อตั๋วไป Bagan มีให้เลือก 2 รอบ คือ 20:30 และ 21:30 (ทั้ง 2 รอบ ราคาเท่ากันครับ) ผมเลือกรอบ 21:30 เพราะอยากอยู่ชมความงามของ ชเวดากอง ในตอนค่ำก่อน ในราคา 14,300 Kyat ต่อคน โดยต้องแสดง Passport ให้พนักงาน เพื่อลงรายละเอียดในตั๋วด้วยครับ ระหว่างจ่ายเงินและรอตั๋ว เราถามพนักงานว่า ผมพยายาม Booking ตั๋ว มาก่อน เมื่อ 4-5 วันที่แล้ว ผ่านทาง Web site ของบริษัท (myezyticket.com) แต่ถูก Cancel พนักงานบอกว่า การจองตั๋วนั้น ต้องมาจ่ายเงินภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากจองแล้วเท่านั้น ขณะนั้นเอง มีสายเข้ามือถือของเรา รับสายจึงรู้ว่า เป็นเพื่อนชาวหงสานี่เอง โทรมาถามว่าทุกอย่างเรียบร้อยมั้ย น่ารักมากมายเลยครับ เราบอกว่าโอเคครับ ไม่ต้องเป็นห่วง และในอีก 2 วันข้างหน้าเราจะไปหงสา แล้วจะจ่ายเงินคืนเค้า เสียงในสายของเพื่อนชาวหงสาหัวเราะร่วน และบอกโอเคๆ พนักงานได้บอกให้เรามาถึงบริษัทในเวลา 20:00 เราสอบถามพนักงานถึงสถานที่อาบน้ำ พนักงานแนะนำให้ไปอาบที่ห้องน้ำสาธารณะได้ครับ เราฝากกระเป๋าไว้ที่บริษัทครับ เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว ฝากกระเป๋านี่ เป็นแบบไม่เป็นทางการนะครับ ไม่มีใบรับฝากใดๆ ไปวางกระเป๋าเป้ไว้ห้องด้านหลังขายตั๋วนั่นแหละครับ
หน้าตาตั๋วของ Elite Express ครับ
ออกจากบริษัทก็เดินหาข้าวเที่ยงกิน แต่เดินไปซักพักก็พบว่า ไม่มีร้านไหนที่เรากล้ากินเลย ดูไม่ค่อยสะอาดเท่าที่อยากได้ (คนอื่นๆที่ง่ายกว่าเรา น่าจะหากินได้ไม่ยากครับ) สุดท้ายเราได้เพียงซื้อน้ำอัดลมขวดละ 500 Kyat 2 ขวด เพื่อดื่มแก้กระหาย แล้วตัดสินใจเรียกแท็กซี่เข้าไปในเมืองเลยดีกว่า ไปหากินเอาแถวที่ท่องเที่ยวน่าจะดีกว่า
เป้าหมายแรก เจดีย์โบต๊ะทาวน์ เทพทันใจ เทพกระซิบ ครับ เปิดภาพในมือถือให้แท็กซี่ดู แล้วถามราคา เท่าที่หาข้อมูลมาราคาแท็กซี่ประมาณ 6,00-8,000 Kyat แท็กซี่คันแรกที่เรียก บอกราคามา 7,000 kyat เลยตกลงทันที
14:00 โดยประมาณ ขึ้นรถแล้วไปกันเลยครับ นั่งๆไปรู้สึกว่าทำไมร้อนๆ อ่อ แท็กซี่ไม่ได้เปิดแอร์ครับ ลืมไปเลยว่าเวลาเรียกแท็กซี่ควรถามว่า ให้เปิดแอร์ด้วย แต่คนขับก็ใจดี หรือเห็นสีหน้าเราก็ไม่ทราบได้ เค้าปิดกระจก แล้วเปิดแอร์ทันทีครับ
14: 40 โดยประมาณ เราก็มาถึงที่หมายของเรา แอบคิดในใจว่า เค้าจะเรียกราคาค่าแอร์เพิ่มมั้ย แต่ก็เปล่าเลยครับ จ่ายไป 7,000 Kyat ลงมาเดินหาข้าวกิน ก็ไม่เจออะไรที่กินได้เหมือนเดิม ซื้อไข่นกกระทาทอดในหลุมขนมครกแบบบ้านเรา แต่ของเค้าโรยอะไรป่นๆคล้ายถั่วแต่เค็มๆ เอามารองท้อง 11 ใบ 1,000 Kyat ครับ
แล้วเดินไปเสียค่าเข้าวัด ที่เป็นอาคารหน้าวัด เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่สำหรับชาวต่างชาติ
เข้าไปแล้ว จนท.บอกว่า คนละ 6,000 Kyat จนท.ถามว่ามาจากประเทศอะไร เราบอกไปด้วยความภูมิใจว่า Thailandddd จ่ายเงิน แล้วไปตรงโต๊ะถัดไป จนท.จะให้เรายืนรอ เพื่อถ่ายรูป แล้วก็รอ เค้า Print ตั๋วที่เป็นกระดาษครึ่ง A4 ซึ่งมีหน้าเราติดอยู่บนนั้นมาให้ แล้วบอกเราว่า เข้าไปได้เลยยย จนท.นอกอาคารจะบอกให้เราถอดรองเท้าและถุงเท้าฝากไว้ในช่องวางรองเท้า และเดินเข้าในตัววัด โดย จนท.จะอธิบายอะไรบางอย่าง แต่เราไม่ได้ฟังครับ มัวแต่มองหาว่าจะเดินไปทางไหนต่อ แล้วเราก็เดินเข้าไปใต้เจดีย์ครับ
หน้าตาตั๋วที่นี่ครับ
ข้างในเจดีย์จะเป็นทางเดินรูปแฉกๆ ปิดทองเหลืองอร่ามตลอดทางเดิน สวยงามตามท้องเรื่องครับ ตรงทางเข้าจะมีพระบรมสารีริกธาตุให้เราสักการะ และทำบุญตามกำลังศรัทธา เดินชมไปเรื่อยๆ เราก็จะพบ ชาวพม่า มานั่งสวดมนต์ ภาวนา เป็นระยะๆ ครับ เหมือนที่เห็นในรีวิวเลย ต่อมาเราพบพระพม่า ทักทายเราว่า เป็นคนไทยใช่มั้ย (ภาษาไทยเลยครับ) เราตอบว่าใช่ และเราทั้งสองก็เข้าไปก้มลงกราบท่าน ท่านได้ผูกข้อมือและให้พรเรา เพื่อความเป็นสิริมงคล ครับ เดินวนไปเรื่อยๆ เราก็จะออกมาทางเดิมที่เข้าไปครับ
ภายในเจดีย์ครับ
สิริมงคลอันดีงามครับ
[CR] เที่ยวพม่า 3 วัน 3 เมือง (มือใหมหัดรีวิว) ตอนที่ 1/3
เราเองได้แต่เข้ามาอ่านกระทู้รีวิวท่องเที่ยวหลายครั้ง จนกระทั่ง การเที่ยวพม่า ล่าสุดของเราเมื่อ 22 – 24 มกราคม 2560 ทำให้เรารู้สึกว่า เราเองควรสร้างประโยชน์ให้แก่คนอื่นๆบ้าง ไม่ใช่เป็นฝ่ายรับเพียงอย่างเดียว ถึงเวลาที่จะเป็นฝ่ายให้ซะบ้าง เพราะในการเที่ยวพม่าของเรานั้น เราพบว่า มีข้อมูลบางอย่างที่เราหาไม่พบ (ตัวเองอาจจะหาไม่ดี) หรือหาพบ แต่ไม่ชัดเจน ไม่อัพเดต อะไรประมาณนี้ เราจึงอยากแบ่งปันสิ่งที่เราได้มา ให้แก่คนอื่นๆครับ แต่ตัดสินใจช้า เลยไม่ได้ถ่ายรูปในหลายๆจุดมาแบบละเอียด
มาเริ่มกันเลยครับ อาจจะเป็นการเขียนที่ดี ไม่ดี แบบไหน ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยละกัน แต่หวังว่า จะเกิดประโยชน์แก่คนอื่นๆบ้าง ไม่มากก็น้อยครับ
การเดินทาง
วันแรก
กทม. – ย่างกุ้ง Air Asia เที่ยวบิน 11:35
ย่างกุ้ง แท็กซี่ล้วนๆ แบบ จากจุดต่อจุด ไม่ได้เหมาเป็นวัน
ย่างกุ้ง – พุกาม Night Bus
วันที่สอง
พุกาม E-Bike
พุกาม – ย่างกุ้ง Night Bus
วันที่สาม
ย่างกุ้ง – หงสา Local Bus
หงสา เหมา ตุ๊กตุ๊ก
หงสา – ย่างกุ้ง Local Bus
ย่างกุ้ง – กทม. Air Asia เที่ยวบิน 17:35
ที่พัก ไม่มี เพราะกลางคืนเราเดินทางด้วย Bus จึงนอนบนรถทั้ง 2 คืน
การสื่อสาร เมืองท่องเที่ยวสามารถพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษได้เลยครับ ไม่ต้องกังวลแม้เราจะพูดผิดพูดถูก ก็สื่อสารกันได้ครับ
มาดูรายละเอียดกันครับ
วันที่ 22 มกราคม 2560
เราขับรถส่วนตัวไปจอดแบบค้างคืนที่ดอนเมือง เราจอดรถที่ชั้นใต้ดินของอาคารเที่ยวบินระหว่างประเทศนะครับ ขับลงไปแล้วบอก รปภ.ได้เลยว่าเราจะจอดแบบค้างคืน รปภ. จะหาที่จอดที่ดีๆให้เลยครับ เราจอดแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว รปภ. น่ารักทุกคนครับ วิ่งหาที่จอดรถให้ทุกครั้ง ใครไม่สะดวกก็ใช้บริการแท็กซี่นะครับ ลองตัดสินใจดูเองครับว่าแบบไหนสะดวกและประหยัดกว่า สำหรับเรา ใช้บริการแท็กซี่จะประหยัดกว่า แต่อยากขับรถให้แฟนนั่งสบายๆ เลยขับรถไปเองครับ
เราจอดตั้งแต่ประมาณ 9 โมงครึ่ง วันที่ 22 /01 / 60 จนถึง ประมาณ 20:30 วันที่ 24 /01 / 60 ค่าเสียหาย วันละ 250 บาท รวม 750 บาท
เรา Check-in Air Asia ผ่าน Mobile App มาเรียบร้อยแล้ว จึงไป print Boarding Pass ที่ตู้ Kios เอง โดยตู้ Kios จะตั้งอยู่ด้านนอกของอาคารระหว่างประเทศครับ ข้อดี คือ ไม่ต้องเข้าคิวที่เคาน์เตอร์เช็คอิน ครับ แต่ต้องเข้าไปขอใบ ตม.แถวๆเคาน์เตอร์นะครับ
ปัจจุบัน ตม.จะมีช่องของ passport ไทยโดยเฉพาะครับ และเดี๋ยวนี้ ตม. จะเป็นแบบ Self service ที่ยังมี จนท.คอยช่วยเหลืออยู่ครับ วันที่เราไป คนน้อยจึงค่อนข้างรวดเร็วไม่ต้องรอนาน
Air Asia Flight เราจองล่วงหน้าผ่าน App. เกือบปี ได้ราคาประมาณ 1700 ต่อคน ไม่รวมค่าเลือกที่นั่ง, ฯลฯ รวมทั้งหมดผมเสียหายไป 4,250 บาทต่อ 2 คนครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งครับ แล้วปรับนาฬิกาถอยหลัง ครึ่งชั่วโมง เพราะเวลาที่พม่าช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง Flight ขาไปเวลา 11:35 ถึงย่างกุ้ง เวลาท้องถิ่น 12:25 ครับ
บนเครื่องเราได้พบมิตรภาพที่ดีจากเพื่อนใหม่ชาวพม่า ที่ไปเรียนดอกเตอร์อยู่ที่ปักกิ่ง กำลังจะกลับบ้านที่หงสา ได้พูดคุยกัน เค้าบอกว่า ดีใจและภูมิใจที่เราจะไปเที่ยวหงสา บ้านเกิดของเค้าเป็นอย่างมาก และเพื่อนคนนี้ได้ช่วยเหลือเราเป็นอย่างดีครับ ทั้งๆที่พบกันเป็นเวลาเพียงชั่วโมงครึ่งบนเครื่องเท่านั้น
12:30 โดยประมาณ หลังจากลงจากเครื่องบิน เราก็ผ่านขั้นตอน ตม.ตามปกติ และได้บอกเพื่อนชาวพม่าว่า ลาก่อน หวังว่าจะได้พบกันอีก แต่หลังจากออกจาก ตม.เพื่อนชาวพม่าคนนี้ที่มีพี่สาวมารอรับอยู่ ก็รอเราทำธุระในสนามบินจนเสร็จเลย เราก็แปลกใจว่า เพื่อนคนนี้รออะไร ???
เราไปแลกเงินภายในสนามบิน จาก US Dollar ที่แลกจากเงินบาทในไทยไป เพื่อแลกเป็น Myanmar Kyat จำนวน 200 US. ได้มา 270,000 Kyat เป็นแบงค์ใบละ 10,000 Kyat ล้วนๆ (Rate นี้เปลี่ยนเป็นเงินบาท คือ 1,000 Kyat เท่ากับประมาณ 26 บาท) การแลกเงินนั้นไม่สามารถแลกเงินแบบให้เค้าทอนเป็น US ได้นะครับ เช่น เรามี US ใบละ 100 ไป 3 ใบ แลกไป 200 US จะขอแลก 250 US แล้วให้เค้าทอน US มา 50 US ไม่ได้ครับ ส่วนเงินบาทของเราก็แลก Kyat ได้นะครับ แต่ Rate อาจจะสู้ US ไม่ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นครับ
หลังจากแลกเงินเสร็จ เราก็ไปซื้อ Tourist Sim ของ Telenor ในสนามบินครับ ราคา 15,000 Kyat สามารถใช้ Net ได้ 5 GB. โทรภายในประเทศได้อีก 50 นาที Sim ที่ถูกกว่านี้ก็มีครับ แต่ เราเกรงว่าจะใช้ Net ไม่พอ เลยตัดสินใจซื้อ Sim แบบนี้ โดยไม่ได้ถาม Sim แบบอื่นเลย พนักงานของ Telenor จะจัดการเปลี่ยน Sim และ Setup ให้เรียบร้อย ใช้งานได้ทันที สะดวกรวดเร็วครับ เราใช้เวลาในการแลกเงินและซื้อ Sim ไปประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง เพื่อนใหม่พม่า ชาวหงสาและพี่สาว ก็ยังคงยืนรอเราอยู่ไม่ไปไหน เอ๊ะยังไง
ขั้นต่อไปของเราก็คือ เดินทางไป Aung Mingalar Bus Station โดยแท็กซี่ เพื่อซื้อตั๋ว Night Bus ไปพุกาม (Bagan) ค่ำนี้เลย ที่จริงเราพยายามจองตั๋วมาจากเมืองไทยก่อน แต่ไม่สำเร็จ เลยต้องเสียเวลาไปซื้อตั๋วก่อนครับ เพื่อนใหม่ของเรา พาเราเดินไปหน้าอาคารสนามบิน แล้วคุยกับแท็กซี่ด้วยภาษาถิ่น เราก็ไม่รู้ว่าคุยอะไร เดาว่าคงต่อราคาแท็กซี่ให้เราอยู่ ผ่านไป 2 คัน คันที่ 3 ตกลงได้ เพื่อนใหม่พร้อมพี่สาวก็บอกให้เราขึ้นแท็กซี่เลย จะไป Aung Mingalar และเค้ากับพี่สาวก็ขึ้นรถไปด้วย
13:00 โดยประมาณ แท็กซี่ขับออกจากสนามบิน เพื่อนใหม่ของเรา ยิงเบอร์มือถือของเค้าเข้ามือถือของเรา แล้วบอกว่า มีอะไรติดขัด โทรหาเค้าได้เลย ผ่านไปซักระยะ พี่สาวของเพื่อนใหม่ชาวหงสา ก็จ่ายค่าแท็กซี่ไปในราคา 3,000 Kyat
แล้วบอกเราว่า “จ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องจ่ายอีกแล้วนะ”
เราจึงตอบไปว่า “ราคาเท่าไร” เค้าบอกว่า “ไม่เป็นไร เค้าจ่ายให้” เราก็บอกอีกว่า “ไม่ได้ เดี๋ยวเราจ่ายเอง”
เค้าเลยตอบว่า “’งั้นหารกัน ให้เค้า 1,500 แล้วกัน” เราควักใบละ 5,000 ให้เค้า แต่เค้าไม่มีทอน
ระหว่างนั้น แท็กซี่ก็จอด เค้าและพี่สาวลงจากรถ เราก็ลงด้วย นึกว่าถึงแล้ว แต่ปรากฏว่า ไม่ใช่ครับ เค้ากับพี่สาวขอลงก่อน เพื่อเดินทางกลับบ้าน และให้เรานั่งแท็กซี่ต่อไป เราเลยไม่มีโอกาสจ่ายเงินเค้าเลย เท่ากับเค้าเลี้ยงแท็กซี่เราไปซะงั้น รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก
แท็กซี่ขับต่อไป และเราก้อบอกแท็กซี่ว่าให้ไปส่งที่ Elite Express Bus เปิดรูปบนมือถือให้เค้าดูครับ เพระเท่าที่หาข้อมูลมา เดินทางด้วย Night Bus ไปพุกาม (Bagan) นิยมใช้บริการ JJ Express หรือไม่ก็ Elite Express กันครับ เราเลือก Elite Express เพราะราคาถูกกว่า ของ JJ Express ประมาณ 5,000 Kyat แต่รถไม่เหมือนกันนะครับ JJ Express จะเป็นรถ VIP คือ มี 3 ที่นั่งต่อแถว แต่ Elite Express จะมี 4 ที่นั่งต่อแถวครับ แต่พอไปถึง Aung Mingalar ก็พบว่า มีอีกหลายบริษัท ทั้งใหญ่และเล็กมากมาย ให้เลือก อาจมีตัวเลือกที่ดีและถูกกว่านี้ก็ได้ครับ เช่น บริษัท Famous ดูแล้วใหญ่และมีมาตรฐานมากครับ แต่เราก็ไม่มีเวลาเดินสำรวจซะแล้ว
Aung Mingalar Bus Station ใหญ่นะครับ อารมณ์ประมาณ หมอชิต แต่ไม่มีอาคารกลาง ใครอยากไปรถบริษัทอะไร ก็ให้ไปที่อาคารของบริษัทนั้นเลยครับ
13:30 โดยประมาณ แท็กซี่จอดหน้าบริษัท Elite Express เราเดินเข้าไปซื้อตั๋วไป Bagan มีให้เลือก 2 รอบ คือ 20:30 และ 21:30 (ทั้ง 2 รอบ ราคาเท่ากันครับ) ผมเลือกรอบ 21:30 เพราะอยากอยู่ชมความงามของ ชเวดากอง ในตอนค่ำก่อน ในราคา 14,300 Kyat ต่อคน โดยต้องแสดง Passport ให้พนักงาน เพื่อลงรายละเอียดในตั๋วด้วยครับ ระหว่างจ่ายเงินและรอตั๋ว เราถามพนักงานว่า ผมพยายาม Booking ตั๋ว มาก่อน เมื่อ 4-5 วันที่แล้ว ผ่านทาง Web site ของบริษัท (myezyticket.com) แต่ถูก Cancel พนักงานบอกว่า การจองตั๋วนั้น ต้องมาจ่ายเงินภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากจองแล้วเท่านั้น ขณะนั้นเอง มีสายเข้ามือถือของเรา รับสายจึงรู้ว่า เป็นเพื่อนชาวหงสานี่เอง โทรมาถามว่าทุกอย่างเรียบร้อยมั้ย น่ารักมากมายเลยครับ เราบอกว่าโอเคครับ ไม่ต้องเป็นห่วง และในอีก 2 วันข้างหน้าเราจะไปหงสา แล้วจะจ่ายเงินคืนเค้า เสียงในสายของเพื่อนชาวหงสาหัวเราะร่วน และบอกโอเคๆ พนักงานได้บอกให้เรามาถึงบริษัทในเวลา 20:00 เราสอบถามพนักงานถึงสถานที่อาบน้ำ พนักงานแนะนำให้ไปอาบที่ห้องน้ำสาธารณะได้ครับ เราฝากกระเป๋าไว้ที่บริษัทครับ เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว ฝากกระเป๋านี่ เป็นแบบไม่เป็นทางการนะครับ ไม่มีใบรับฝากใดๆ ไปวางกระเป๋าเป้ไว้ห้องด้านหลังขายตั๋วนั่นแหละครับ
ออกจากบริษัทก็เดินหาข้าวเที่ยงกิน แต่เดินไปซักพักก็พบว่า ไม่มีร้านไหนที่เรากล้ากินเลย ดูไม่ค่อยสะอาดเท่าที่อยากได้ (คนอื่นๆที่ง่ายกว่าเรา น่าจะหากินได้ไม่ยากครับ) สุดท้ายเราได้เพียงซื้อน้ำอัดลมขวดละ 500 Kyat 2 ขวด เพื่อดื่มแก้กระหาย แล้วตัดสินใจเรียกแท็กซี่เข้าไปในเมืองเลยดีกว่า ไปหากินเอาแถวที่ท่องเที่ยวน่าจะดีกว่า
เป้าหมายแรก เจดีย์โบต๊ะทาวน์ เทพทันใจ เทพกระซิบ ครับ เปิดภาพในมือถือให้แท็กซี่ดู แล้วถามราคา เท่าที่หาข้อมูลมาราคาแท็กซี่ประมาณ 6,00-8,000 Kyat แท็กซี่คันแรกที่เรียก บอกราคามา 7,000 kyat เลยตกลงทันที
14:00 โดยประมาณ ขึ้นรถแล้วไปกันเลยครับ นั่งๆไปรู้สึกว่าทำไมร้อนๆ อ่อ แท็กซี่ไม่ได้เปิดแอร์ครับ ลืมไปเลยว่าเวลาเรียกแท็กซี่ควรถามว่า ให้เปิดแอร์ด้วย แต่คนขับก็ใจดี หรือเห็นสีหน้าเราก็ไม่ทราบได้ เค้าปิดกระจก แล้วเปิดแอร์ทันทีครับ
14: 40 โดยประมาณ เราก็มาถึงที่หมายของเรา แอบคิดในใจว่า เค้าจะเรียกราคาค่าแอร์เพิ่มมั้ย แต่ก็เปล่าเลยครับ จ่ายไป 7,000 Kyat ลงมาเดินหาข้าวกิน ก็ไม่เจออะไรที่กินได้เหมือนเดิม ซื้อไข่นกกระทาทอดในหลุมขนมครกแบบบ้านเรา แต่ของเค้าโรยอะไรป่นๆคล้ายถั่วแต่เค็มๆ เอามารองท้อง 11 ใบ 1,000 Kyat ครับ
แล้วเดินไปเสียค่าเข้าวัด ที่เป็นอาคารหน้าวัด เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่สำหรับชาวต่างชาติ
เข้าไปแล้ว จนท.บอกว่า คนละ 6,000 Kyat จนท.ถามว่ามาจากประเทศอะไร เราบอกไปด้วยความภูมิใจว่า Thailandddd จ่ายเงิน แล้วไปตรงโต๊ะถัดไป จนท.จะให้เรายืนรอ เพื่อถ่ายรูป แล้วก็รอ เค้า Print ตั๋วที่เป็นกระดาษครึ่ง A4 ซึ่งมีหน้าเราติดอยู่บนนั้นมาให้ แล้วบอกเราว่า เข้าไปได้เลยยย จนท.นอกอาคารจะบอกให้เราถอดรองเท้าและถุงเท้าฝากไว้ในช่องวางรองเท้า และเดินเข้าในตัววัด โดย จนท.จะอธิบายอะไรบางอย่าง แต่เราไม่ได้ฟังครับ มัวแต่มองหาว่าจะเดินไปทางไหนต่อ แล้วเราก็เดินเข้าไปใต้เจดีย์ครับ
ข้างในเจดีย์จะเป็นทางเดินรูปแฉกๆ ปิดทองเหลืองอร่ามตลอดทางเดิน สวยงามตามท้องเรื่องครับ ตรงทางเข้าจะมีพระบรมสารีริกธาตุให้เราสักการะ และทำบุญตามกำลังศรัทธา เดินชมไปเรื่อยๆ เราก็จะพบ ชาวพม่า มานั่งสวดมนต์ ภาวนา เป็นระยะๆ ครับ เหมือนที่เห็นในรีวิวเลย ต่อมาเราพบพระพม่า ทักทายเราว่า เป็นคนไทยใช่มั้ย (ภาษาไทยเลยครับ) เราตอบว่าใช่ และเราทั้งสองก็เข้าไปก้มลงกราบท่าน ท่านได้ผูกข้อมือและให้พรเรา เพื่อความเป็นสิริมงคล ครับ เดินวนไปเรื่อยๆ เราก็จะออกมาทางเดิมที่เข้าไปครับ