กว่าจะมาถามนี่ . . .ป่านนี้แลคเกอร์ส่วนที่ละลายร่วมไปกับพลาสติก(ถ้วย) คงแห้งไปแล้วมั่ง  เพราะแลคเกอร์เป็นสีเคลือบที่แห้งเร็วกว่าสีประเภทอื่นๆ หากเพิ่งไหลลงไปในท่อ การเทตามด้วย Lacquer Thinner หรือพวกทินเนอร์แห้งไว 3 A ก็พอช่วยได้บ้าง  ส่วนโซดาไฟที่เป็นสารจำพวก "โซเดียมไฮดรอกไซด์" คงช่วยไม่ได้มากเท่าไหร่นัก (จะได้ผลกับคราบไข เศษอาหาร) หากแลคเกอร์แห้งไปแล้วคงไม่ได้ผลเท่าที่ควร  ต้องคอยดูอาการระบายน้ำดูแล้วละ  แลคเกอร์น่าจะไปแห้งค้างตรงข้องอใต้อ่างล้างมือ (U-Trap)  หากมีปัญหาการระบายน้ำก็ดูจุดนี้เป็นลำดับแรก หากพบปัญหาก็ต้องถอดเปลี่ยนใหม่ไปครับ


     กลับมาที่ปัญหาของสีที่ประตูห้องน้ำ เข้าใจว่าเป็นบานไม้หรือไม้อัด  การเลือกใช้แลคเกอร์ไปทาทับบนสีน้ำมันหรือสีน้ำอะครีลิคนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ  ที่เกิดเป็นคราบเหลืองเป็นหย่อมๆก็คงเกิดจากมีส่วนผสมของพลาสติกละลายปะปนลงไปด้วย  ดังนั้นแนะนำวิธีแก้ไขดังนี้  ขัดฟิล์มสีแลคเกอร์เดิมออกด้วยกระดาษทรายเบอร์กลางๆ (อาทิ เบอร์ #120) เมื่อฟิล์มสีแลคเกอร์ออกจนหมดแล้ว แล้วขัดลูบให้ผิวเรียบเนียนด้วยกระดาษทรายละเอียด (เบอร์ #240 หรือ #280)  แล้วจึงค่อยเริ่มระบบทาสีกันใหม่  โดยจะเลือกใช้ "สีน้ำมัน" ทั่วๆไปทาก็ได้ แต่กลิ่นจะแรงหน่อยระหว่างทา และจะมีกลิ่นตกค้างอยู่อีกหลายวัน  

     กรณีเลือกเป็นสีขาว และเป็นบานที่ไม่ค่อยถูกแสงสว่างนัก เช่น บานห้องน้ำ บานห้องเก็บของ >> สีน้ำมันเฉด "สีขาว" จะมีอาการเหลืองตัว (Yellowing) จึงจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีงาช้างไปเรื่อยๆ อันเป็นธรรมชาติของสีน้ำมันทั่วๆไปและน้ำมันวานิชที่เป็น Alkyd Base  ดังนั้นหากชอบจะทาสีขาว แนะนำว่าควรเปลี่ยนมาทาด้วย "สีน้ำมัน สูตรน้ำ" ที่ให้ฟิล์มสีกึ่งเงากึ่งด้าน เป็นประเภท Acrylic Base ซึ่งจะไม่มีอาการเหลืองตัวอย่างที่ว่า กลิ่นก็อ่อนมาก (และไม่มีกลิ่นตกค้างด้วย) ทาง่าย แห้งไวกว่าเยอะ ราคาสูงกว่าสีน้ำมันธรรมดาทั่วๆไปเล็กน้อย  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้