ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อน เราเป็นผู้แทนขายเครื่องมือแพทย์(หรือเรียกสั้นๆว่า เซลล์ )ให้กับบริษัท ว. ย่านซอยสหการประมูล บริษัทนี้เป็นบริษัทใหญ่ขายหลายอย่าง แต่ตัวเราอยู่ในทีมเครื่องมือแพทย์
ก่อนหน้านี้ตัวเราเองกับหัวหน้าสนิทกันมาก ไปไหนไปด้วยกันตลอด สำหรับเราเองนั้นรักหัวหน้าคนนี้เหมือนพี่สาวเลยก็ว่าได้ นางช่วยเหลือเราทุกอย่าง
ทำให้งานเราออกมาราบลื่นตลอด นางหยิบยื่นโอกาศดีๆให้เสมอ เป็นใคร ใครก็รักหัวหน้าแบบนี้
ย้อนกลับไปเมื่อพฤศจิกายน 2559 เซลล์อีกคนได้เอาคำพูดของเราซึ่งบิดเบือนไปจากความเป็นจริงไปบอกหัวหน้า ว่า เราไปบอกกับพนักงานอีกคนว่า
บริษัทจะมีการเอาคนออก ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ใช่เลย หลังจากที่หัวหน้าเราคุยกับเซลล์คนนั้น ท่าทีนางก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่โทรมาเลย โทรไปก็ไม่ค่อยรับสาย จนตัวเราเองนั้นรู้สึกอึดอัด เลยได้คุยกับนางไปตรงๆว่า ช่วงนี้เป็นอะไรหรือเปล่า เราไม่ค่อยได้คุยกันเลย
นางก็บอกว่า นางทราบเรื่องมา นางไม่ค่อยพอใจเรา จนนางพูดมาประโยคนึงว่า ความไว้ใจมีให้ครั้งเดียว เราเองก็งงเลย พยายามจะอธิบายแต่ก็ไม่ฟัง
วันรุ่งขึ้น เรารีบไปบริษัทแต่เช้าเพื่ออธิบาย และ ขอโทษทุกอย่างไม่ว่าจะผิดหรือถูก นางก็บอกว่า พี่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากแล้ว
เราเองก็แอบดีใจ คิดว่าเรื่องมันจะจบ แต่มันกลับแย่ลง สำหรับตัวเราเราก็ทำใจและปลงกับเรื่องที่จะเกิดขึ้น ถ้าจะไม่คุยกันเหมือนเดิม แต่แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออก เราก็โอเครหลังจากนั้นเราก็พยายามปรับตัวไม่ไปก้าวก่ายเรื่องของเค้า ตัวใครตัวมัน แต่ถ้าเป็นเรื่องงานเราก็มีสปิริตพอที่จะทำงานด้วย
พยายามคุยเรื่องงาน แต่สำหรับนางเอง นางไม่รับสาย นางไม่โทรกลับ เหมือนทำให้เรารู้สึกกดดัน
แถมยังให้คนอื่นมารับผิดชอบหน้าที่เราด้วยในบางเรื่อง(ที่รู้เพราะเราสนิทกับลูกค้ามากก ลูกค้าเลยบอก)
ณ.ตอนนั้นเรารู้สึกแย่มาก เลยคิดอยากจะเปลี่ยนงาน เลยค่อยๆหางานใหม่ไปเรื่อยๆๆ พอได้งานใหม่ปุ๊บที่ใหม่เค้าให้เราเริ่มงาน ต้นเดือน เม.ย.60
เราก็เลยแพลนว่าจะแจ้งออก สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ แล้วจะมีผลออกสิ้นเดือน มีนาคม(กฏบริษัทเราแจ้งออก 30 วัน) เราก็เลยได้ไปคุยกับหัวหน้าของนางอีกทีว่าเรามีแพลนจะแจ้งออกสิ้นเดือน กุมภา แล้วจะออก สิ้นเดือน มีนา 60 (วันที่คุยคือวันที่ 10 กุมภา) หัวหน้าของนางก็ทำตามระเบียบ ยื้อ แต่เราก็ได้เล่าปัญหาทั้งหมดให้หัวหน้าของนางฟัง โดยเรายืนยันจะออก
อ้อลืมบอก บริษัทนี้เหมือนกำลังมีปัญหา เลื่อนการจ่ายเงินต่างๆของพนักงานมาโดยตลอด
หัวหน้าของนางก็ได้ไปคุยกับนางว่าจะเอายังไง นางก็บอกว่า นางไม่คุยให้ HR เป็นคนคุย(ที่รู้เพราะหัวหน้าของนางมาบอกเราอีกที)
ไปคุยกันอีท่าไหนก็ไม่รู้ วันจันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 ทาง HR ได้โทรมาแจ้งเราว่าให้เข้าไปที่แผนกหน่อย เราถามว่าเรื่องอะไร ก็ไม่ยอมบอก
จนเราไปถึง HR ก็เรียกเราไปที่ห้องประชุมแล้วถือกระดาษมาให้เราเซ็น เราก็งงใบอะไร แล้ว HR ก็แจ้งว่าทางหัวหน้าของเราได้ทำเรื่องเชิญออก
เราก็ถามไปว่า เราทำผิดอะไร HR ตอบว่า ไม่ได้ทำอะไรผิดเพราะถ้าทำผิดก็โดนไล่ออก แต่อันนี้เชิญออก ได้ผลตอบแทน
เราก็ถามต่อว่า มีผลวันไหน HR ตอบว่า มีผลวันนี้เลย
เราเองแอบช็อค น้ำตาคลอเบ้า ทำไมทำกันแบบนี้
เราเองไม่ได้เสียใจที่ถูกเชิญออก แต่ที่เสียใจคือ
1.จะเชิญออกทำไมไม่แจ้งล่วงหน้า
2.จะเชิญออกน่าจะรอถึงสิ้นเดือนไหม ไม่ใช่มีผลเลย ณ.วันที่แจ้ง
เราไม่ได้ดีใจที่ได้เงินชดเชยเพราะมันไม่ได้เยอะอะไร
แต่เราจะออกอยู่แล้วทำไมถึงไม่จากกันด้วยดี แคร์ความรู้สึกกันบ้าง
ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างคะ
หรือ ใครมีความคิดเห็นยังไง แสดงความคิดเห็นได้นะคะ ยินดีคะ
ประสบการณ์ ถูกเลิกจ้างกระทันหัน (ยุติธรรม?????)
ก่อนหน้านี้ตัวเราเองกับหัวหน้าสนิทกันมาก ไปไหนไปด้วยกันตลอด สำหรับเราเองนั้นรักหัวหน้าคนนี้เหมือนพี่สาวเลยก็ว่าได้ นางช่วยเหลือเราทุกอย่าง
ทำให้งานเราออกมาราบลื่นตลอด นางหยิบยื่นโอกาศดีๆให้เสมอ เป็นใคร ใครก็รักหัวหน้าแบบนี้
ย้อนกลับไปเมื่อพฤศจิกายน 2559 เซลล์อีกคนได้เอาคำพูดของเราซึ่งบิดเบือนไปจากความเป็นจริงไปบอกหัวหน้า ว่า เราไปบอกกับพนักงานอีกคนว่า
บริษัทจะมีการเอาคนออก ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ใช่เลย หลังจากที่หัวหน้าเราคุยกับเซลล์คนนั้น ท่าทีนางก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่โทรมาเลย โทรไปก็ไม่ค่อยรับสาย จนตัวเราเองนั้นรู้สึกอึดอัด เลยได้คุยกับนางไปตรงๆว่า ช่วงนี้เป็นอะไรหรือเปล่า เราไม่ค่อยได้คุยกันเลย
นางก็บอกว่า นางทราบเรื่องมา นางไม่ค่อยพอใจเรา จนนางพูดมาประโยคนึงว่า ความไว้ใจมีให้ครั้งเดียว เราเองก็งงเลย พยายามจะอธิบายแต่ก็ไม่ฟัง
วันรุ่งขึ้น เรารีบไปบริษัทแต่เช้าเพื่ออธิบาย และ ขอโทษทุกอย่างไม่ว่าจะผิดหรือถูก นางก็บอกว่า พี่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากแล้ว
เราเองก็แอบดีใจ คิดว่าเรื่องมันจะจบ แต่มันกลับแย่ลง สำหรับตัวเราเราก็ทำใจและปลงกับเรื่องที่จะเกิดขึ้น ถ้าจะไม่คุยกันเหมือนเดิม แต่แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออก เราก็โอเครหลังจากนั้นเราก็พยายามปรับตัวไม่ไปก้าวก่ายเรื่องของเค้า ตัวใครตัวมัน แต่ถ้าเป็นเรื่องงานเราก็มีสปิริตพอที่จะทำงานด้วย
พยายามคุยเรื่องงาน แต่สำหรับนางเอง นางไม่รับสาย นางไม่โทรกลับ เหมือนทำให้เรารู้สึกกดดัน
แถมยังให้คนอื่นมารับผิดชอบหน้าที่เราด้วยในบางเรื่อง(ที่รู้เพราะเราสนิทกับลูกค้ามากก ลูกค้าเลยบอก)
ณ.ตอนนั้นเรารู้สึกแย่มาก เลยคิดอยากจะเปลี่ยนงาน เลยค่อยๆหางานใหม่ไปเรื่อยๆๆ พอได้งานใหม่ปุ๊บที่ใหม่เค้าให้เราเริ่มงาน ต้นเดือน เม.ย.60
เราก็เลยแพลนว่าจะแจ้งออก สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ แล้วจะมีผลออกสิ้นเดือน มีนาคม(กฏบริษัทเราแจ้งออก 30 วัน) เราก็เลยได้ไปคุยกับหัวหน้าของนางอีกทีว่าเรามีแพลนจะแจ้งออกสิ้นเดือน กุมภา แล้วจะออก สิ้นเดือน มีนา 60 (วันที่คุยคือวันที่ 10 กุมภา) หัวหน้าของนางก็ทำตามระเบียบ ยื้อ แต่เราก็ได้เล่าปัญหาทั้งหมดให้หัวหน้าของนางฟัง โดยเรายืนยันจะออก
อ้อลืมบอก บริษัทนี้เหมือนกำลังมีปัญหา เลื่อนการจ่ายเงินต่างๆของพนักงานมาโดยตลอด
หัวหน้าของนางก็ได้ไปคุยกับนางว่าจะเอายังไง นางก็บอกว่า นางไม่คุยให้ HR เป็นคนคุย(ที่รู้เพราะหัวหน้าของนางมาบอกเราอีกที)
ไปคุยกันอีท่าไหนก็ไม่รู้ วันจันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 ทาง HR ได้โทรมาแจ้งเราว่าให้เข้าไปที่แผนกหน่อย เราถามว่าเรื่องอะไร ก็ไม่ยอมบอก
จนเราไปถึง HR ก็เรียกเราไปที่ห้องประชุมแล้วถือกระดาษมาให้เราเซ็น เราก็งงใบอะไร แล้ว HR ก็แจ้งว่าทางหัวหน้าของเราได้ทำเรื่องเชิญออก
เราก็ถามไปว่า เราทำผิดอะไร HR ตอบว่า ไม่ได้ทำอะไรผิดเพราะถ้าทำผิดก็โดนไล่ออก แต่อันนี้เชิญออก ได้ผลตอบแทน
เราก็ถามต่อว่า มีผลวันไหน HR ตอบว่า มีผลวันนี้เลย
เราเองแอบช็อค น้ำตาคลอเบ้า ทำไมทำกันแบบนี้
เราเองไม่ได้เสียใจที่ถูกเชิญออก แต่ที่เสียใจคือ
1.จะเชิญออกทำไมไม่แจ้งล่วงหน้า
2.จะเชิญออกน่าจะรอถึงสิ้นเดือนไหม ไม่ใช่มีผลเลย ณ.วันที่แจ้ง
เราไม่ได้ดีใจที่ได้เงินชดเชยเพราะมันไม่ได้เยอะอะไร
แต่เราจะออกอยู่แล้วทำไมถึงไม่จากกันด้วยดี แคร์ความรู้สึกกันบ้าง
ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างคะ
หรือ ใครมีความคิดเห็นยังไง แสดงความคิดเห็นได้นะคะ ยินดีคะ