ไช่น่าเดลี - สำนักงานพลังงานแห่งชาติจีน เผย (22 ก.พ.) ว่ามีแผนสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 8 เตา ในปีนี้ (พ.ศ. 2560) รวมกำลังผลิตไฟฟ้า 9.9 กิกะวัตต์
สำนักงานฯ ระบุว่าในจำนวนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่จะสร้างนี้ ได้รวมถึงเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซานเหมิน1 มณฑลเจ้อเจียง, โรงไฟฟ้าฝูชิง4 มณฑลฝูเจี้ยน, โรงไฟฟ้านิวเคลียร์หยางเจียง มณฑลกวางตุ้ง และโรงไฟฟ้าไท่ซาน1 มณฑลกวางตุ้ง
จีนยังเร่งการติดตั้งเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพิ่มที่โรงไฟฟ้าต่างๆ อาทิ โรงไฟฟ้าซานเหมิน3 และ 4 มณฑลฝูเจี้ยน เพื่อให้ได้กำลังผลิตรวมกันตามเป้าหมาย 9.9 กิกะวัตต์
ฮั่น เสี่ยวผิง หัวหน้าศูนย์ข้อมูลไชน่า เอ็นเนอร์จี เน็ต คอนซัลท์ติง ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมฯ ในกรุงปักกิ่งกล่าวว่า การพัฒนาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของจีนเป็นไปตามขั้นตอนมาตรฐานความปลอดภัยสูง
"การสร้างสถานีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปีในการเตรียมงาน เช่นเดียวกับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั้ง 8 แห่งนี้เช่นกัน" ฮั่น กล่าวและว่า จีนอยู่แถวหน้าของเทคโนโลยีนิวเคลียร์ มีประสบการณ์สูงในการก่อสร้างอาคารและดำเนินการสถานีผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์
"หลังจากอุบัติเหตุที่ฟูกูชิมา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนมีนาคม 2554 จีนได้ยกระดับมาตรฐานในภาคพลังงานนิวเคลียร์ใหม่ เพื่อมั่นใจในความปลอดภัย"
จีนยังกระชับความสัมพันธ์แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีกับรัสเซีย และสหรัฐอเมริกาในภาคพลังงานนิวเคลียร์ พร้อมกับสนับสนุนความร่วมมือกับปากีสถาน, ตุรกี, โรมาเนีย และอาร์เจนติน่า
ฮั่น กล่าวว่า เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับในการผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ทั้งเพื่อลดปัญหามลพิษคาร์บอนจากพลังงานถ่านหิน และรองรับการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงส่งออกต่างประเทศด้วย
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แอคเนตา ไรซิ่ง (Agneta Rising) ผู้อำนวยการใหญ่สมาคมนิวเคลียร์โลก ( World Nuclear Association) ได้เคยแสดงความเห็น ระหว่างการประชุมเสวนาด้านพลังงานประจำปี 2559 ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า จีนจะแซงหน้าฝรั่งเศสในการผลิตพลังงานนิวเคลียร์ จนกลายเป็นผู้ผลิตพลังงานนิวเคลียร์อันดับสองของโลกได้ในปี 2563 และจะขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 ของโลกแทนที่สหรัฐฯ ในอีก 10 - 15 ปี
http://manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9600000019175
จีนเผย สร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพิ่ม 8 แห่ง ในปี 2560 รวมกำลังผลิตไฟฟ้า 9.9 กิกะวัตต์
สำนักงานฯ ระบุว่าในจำนวนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่จะสร้างนี้ ได้รวมถึงเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซานเหมิน1 มณฑลเจ้อเจียง, โรงไฟฟ้าฝูชิง4 มณฑลฝูเจี้ยน, โรงไฟฟ้านิวเคลียร์หยางเจียง มณฑลกวางตุ้ง และโรงไฟฟ้าไท่ซาน1 มณฑลกวางตุ้ง
จีนยังเร่งการติดตั้งเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพิ่มที่โรงไฟฟ้าต่างๆ อาทิ โรงไฟฟ้าซานเหมิน3 และ 4 มณฑลฝูเจี้ยน เพื่อให้ได้กำลังผลิตรวมกันตามเป้าหมาย 9.9 กิกะวัตต์
ฮั่น เสี่ยวผิง หัวหน้าศูนย์ข้อมูลไชน่า เอ็นเนอร์จี เน็ต คอนซัลท์ติง ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมฯ ในกรุงปักกิ่งกล่าวว่า การพัฒนาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของจีนเป็นไปตามขั้นตอนมาตรฐานความปลอดภัยสูง
"การสร้างสถานีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปีในการเตรียมงาน เช่นเดียวกับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั้ง 8 แห่งนี้เช่นกัน" ฮั่น กล่าวและว่า จีนอยู่แถวหน้าของเทคโนโลยีนิวเคลียร์ มีประสบการณ์สูงในการก่อสร้างอาคารและดำเนินการสถานีผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์
"หลังจากอุบัติเหตุที่ฟูกูชิมา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนมีนาคม 2554 จีนได้ยกระดับมาตรฐานในภาคพลังงานนิวเคลียร์ใหม่ เพื่อมั่นใจในความปลอดภัย"
จีนยังกระชับความสัมพันธ์แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีกับรัสเซีย และสหรัฐอเมริกาในภาคพลังงานนิวเคลียร์ พร้อมกับสนับสนุนความร่วมมือกับปากีสถาน, ตุรกี, โรมาเนีย และอาร์เจนติน่า
ฮั่น กล่าวว่า เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับในการผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ทั้งเพื่อลดปัญหามลพิษคาร์บอนจากพลังงานถ่านหิน และรองรับการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงส่งออกต่างประเทศด้วย
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แอคเนตา ไรซิ่ง (Agneta Rising) ผู้อำนวยการใหญ่สมาคมนิวเคลียร์โลก ( World Nuclear Association) ได้เคยแสดงความเห็น ระหว่างการประชุมเสวนาด้านพลังงานประจำปี 2559 ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า จีนจะแซงหน้าฝรั่งเศสในการผลิตพลังงานนิวเคลียร์ จนกลายเป็นผู้ผลิตพลังงานนิวเคลียร์อันดับสองของโลกได้ในปี 2563 และจะขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 ของโลกแทนที่สหรัฐฯ ในอีก 10 - 15 ปี
http://manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9600000019175