ฮัลโหลลล ! สวัสดีท่านผู้อ่านนะคะ .. กระทู้นี้จะว่ามารีวิวก็ไม่เชิง เอาเป็นว่าเรียกว่า กระทู้เเบ่งปันประสบการณ์ ละกันเนอะ
เราจะมาเเบ่งปันประสบการณ์การไปเยือนประเทศจีน ที่แพลนว่า จะ ไป คน เดียว .. ลุยเองทุกอย่าง !
ตั้งแต่เดินทาง แพลนที่เที่ยว .. แต่สุดท้ายแล้วเราก็ไม่ได้เที่ยวคนเดียวซะงั้น เรื่องราวเป็นยังไงเดี๋ยวเราเริ่มเล่าเลยละกัน
ปล. เจ้าของกระทู้อ่านภาษาจีนออก(บ้าง) และสามารถสื่อสารได้(นิดหน่อยนะคะ) อารมณ์ฟังเข้าใจ ถามได้ แต่ถ้ามาเร็วๆยาวๆเราก็มีเงิบเหมือนกัน
ส่วนเรื่องอ่านภาษาจีนได้ก็เรียกว่าพออ่านได้ แต่อ่านออกไหมก็เป็นบางคำ สรุปคือ อ่านออก เขียนได้ ฟังได้ พูดได้ แต่นิดหน่อยนะคะ
ดังนั้นสำหรับเรา เรื่องภาษาไม่ค่อยเป็นปัญหาค่ะ
และในกระทู้เราจะแทรก ภาษาจีน(ตัวจีน) คำอ่าน และคำแปล ในบางเหตุการณ์นะคะเพื่อเพิ่มอรรถรสค่ะ
ขอปูพื้นก่อนนะคะ
จากกระทู้รีวิว รีวิวสายการบิน China Eastern Airlines (
https://ppantip.com/topic/36013255) ที่เราไปญี่ปุ่น 8 วัน
ตั้งแต่วันที่ 21-28 Dec 2016 เราไปฉลองคริสมาสที่ 'โตเกียว' .. แต่เรื่องราวที่ญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยมีอะไรค่ะ ที่เที่ยวเหมือนกับที่หลายคนไปมาแล้ว
มันสนุกแบบจืดๆอ่ะค่ะ .. เราอยากแบ่งปันเรื่องราวในปักกิ่งมากกว่า
ที่เราบอกว่าเราแพลนไปคนเดียว จัดการทุกอย่างเองคนเดียวหมดแล้ว .. ไปๆมาๆ รุ่นพี่ที่มหาลัยบอกจะกลับบ้านที่ปักกิ่ง
เราเลยนัดเจอกันที่ปักกิ่งเลยแล้วกัน, เพื่อนคนไต้หวัน (Teng Mao เรียกง่ายๆคือ ม่าว) ก็บอกว่าจะไปเกาหลี ละไปเฉินตู แล้วมาปักกิ่งต่อ
เราก็เลย เอ้อ นัดเจอกันที่ปักกิ่งเลย, อีกคนเราเจอกันใน app Couchsurfing
ชื่อ Evelina (เราจะเรียกว่า อีฟ นะคะ) เราแลก FB กันก่อนมาแล้วก็มานัดกันว่าจะ
จองทัวไปเที่ยว สุสานราชวงศ์หมิงและกำแพงเมืองจีนกัน
นอกจากนี้ เพื่อนๆหลายๆคนที่อยู่จีนเราก็รู้จักผ่าน Couchsurfing กันหมดเลย .. เรา add event ของเราว่าเราจะไป ปักกิ่ง-เทียนจิน
คนจีนก็แอดมาพูดคุย ทำความรู้จักกับเรา .. เราเองก็ยินดีมาก เพราะอยากฝึกภาษาจีนมากๆด้วยค่ะ
app Couchsurfing
แพลนของเราคือ 20 วันในต่างแดน หรือ The Final Trip of 2016 (ทั้งหมดนี้แพลนไปคนเดียวหมดเลยนะคะ)
21-28 Dec 2016 :: อยู่ญี่ปุ่น
29 Dec 2016 :: อยู่ไทย
30 Dec 2016 - 8 Jan 2017 :: อยู่จีน + คืนวันที่ 8 Jan 2017 เที่ยวมาเก๊านิดหน่อย
9 Jan 2017 :: กลับไทยตอนเช้า
บางคนอาจจะมีคำถามตามมาว่า วันที่ 29 จะกลับบมาไทยทำไม ทำไมไม่บินไปปักกิ่งเลย ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ คำตอบคือ : เอาจริงๆตอนแรกเราคิดว่าเงินเราเที่ยวไม่พอทั้งสองประเทศแน่ๆ เลยเลือกไปญี่ปุ่นก่อน แต่แล้วเราดันทำงานงกๆ
เก็บเงินจนมันพอที่จะไปปักกิ่งด้วย เราเลยไม่รีรอที่จะจองตั๋วไปมันให้หมดทั้งสองประเทศเลยค่ะ .. อีกเหตุผลคือ เราจะไปฝึกภาษาจีนด้วยค่ะ
คือเราเรียนภาษาจีนมา เราก็อยากเอาไปใช้กับของจริงเลย .. เลยเลือกไปที่ปักกิ่งก่อน
เกริ่นอีกนิดนะคะ เราอายุ 20 ปีค่ะ ทำงานงกๆเก็บเงินเพื่อไปท่องเที่ยวค่ะ ซึ่งเรารอคอยเวลาที่เราอายุ 20 ปี (ในปี 2016)
เพื่อที่จะทำ passport และ ทำ visa ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ผ่านพ่อแม่ค่ะ .. นั่นเป็นเหตุให้ ในปี 2016 เราไป มาเลเซีย สิงค์โปร ญี่ปุ่น จีน
พ่วงมาเก๊าไปอีกก่อนกลับไทยในเดือนมกราคา ปี 2017 (เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะกับจีน มาเก๊า)
เกริ่นมาเยอะมากกก .. เริ่มเลยนะคะ
☂ Day1 30/12/2016
ขอตัดภาพมาที่เรามาถึง Beijing Capital International Airport เลยนะคะ
ความรู้สึกแรกที่เรามาถึงปักกิ่งคือ ห น า ว ม า ก ~ แต่เราไส่เสื้อขนเป็ดเลยไม่ค่อยเท่าไหร่ .. เราผ่าน ตม. มาแบบชิลๆ มียิ้มเล็กๆให้ ตม ด้วยค่ะ
เรามาถึง Terminal 1-2 แล้วก็ต้องนั่งรถรางไปเอากระเป๋าที่ terminal 3 ซึ่งก็อ่านป้ายเอาค่ะ .. ที่สนามบินนี้มีป้านภาษาจีน อังกฤษ มีเกาหลีด้วยนะคะ
พอเรามาเอากระเป๋าเสร็จ .. ผงาดสิคะ กระเป๋าลาก ล้อพัง ยุบ บุบไปหมดเลยค่ะ แต่ก็ยังโชคดีที่พอลากได้
อันที่จริงเราก็อยากวีนอยู่นะคะ แต่ก็ต้องยอมรับว่ากระเป๋าเรามันก็กรอบๆซื้อมานานแล้วน่าจะหยุดอายุขียแล้วเหมือนกัน
อีกอย่างเราคิดว่าเรียกร้องไปก็เท่านั้น เอาเวลาไปเที่ยวเล่นกีค่ะ .. ตัดภาพมาที่ตอนซื้อซิม คือเราอยากรีบซื้อซืมเลย เพราะจะได้ติดต่อคนที่บ้านได้
เราจ่ายค่าซิมไป 250 RMB / 3 GB (แพงมากกกกก) .. พอได้ซิมแล้วเราก็จัดการติดต่อกับรุ่นพี่ก่อนเลยทันที
ตอนแรกนึกว่ารุ่นพี่พูดเล่นๆที่ว่าจะมารับที่สนามบิน พอติดต่อไปคือเค้ากำลังนั่ง subway มารับเราที่สนามบิน (地铁 ตี้เถี่ย = subway)
เราก็ตื่นเต้นมาก นั่งรอเค้าไม่นาน 10-15 นาทีก็มาเจอกัน .. กระโดดกอดเลยค่ะ คิดถึง นี่ไม่เจอกันตั้งเป็นเดือน (ทั้งที่เรียนที่เดียวกันแต่ก็ไม่ค่อยเจอกัน)
เสร็จแล้วเราก็มาซื้อ บัตร 一卡通 (ํYi Ka Tong) แล้วเติมเงิน 100 RMB + ต่าบัตรไปอีก 20 RMB
ปล. แอบโดน จนท ขายตั๋วดุด้วยค่ะ .. เพราะเค้าถามเป็นภาษาจีน แต่เราฟังไม่ออกเลยลากรุ่นพี่ให้มาคุยแทน
จากนั้นเราก็เข้ามาที่ที่พักของเรา ชื่อ Spring Time Hostel :
https://ppantip.com/topic/36010033
เราจัดการธุระเรียบร้อยแล้ว พอตอนประมาณบ่าย 2 เราก็ออกมาหาอะไรทานกันที่ 前门站 (Qianmen Station)
เพื่อนๆเราหลายคนถามว่า '
ทำไมต้องไส่หน้ากากหน้าตาประหลาด มีจุกแบบนี้ด้วย ?'
คำตอบคือ .. ที่ปักกิ่งมลพิษเยอะมาก ที่เห็นขาวๆไม่ไช่หมอกหนาปกคลุมนะคะ แต่มันคือ
ฝุ่น ค่ะ ไม่ไช่นิดเดียวนะคะ
แต่มันอย่ในอากาศที่หายใจเข้าไป มันมีอยู่ตลอดค่ะ .. ถ้าไม่ไส่ไว้นี่อันตรายต่อระบบทางเดินหายใจค่ะ(แต่เราก็ไม่ค่อยชอบไส่อยู่ดี)
เราเป่ายิงฉุบกันตั้งแต่บน subway แล้วค่ะว่าเย็นนี้จะทานอะไรดี ระหว่า Chinese Hot Pot กับ เป็ดปักกิ่ง
มติเป็นเอกฉันท์ วันนี้เราจะมาลองชิม 'เป็ดปักกิ่งที่ปักกิ่ง' กันเป็นมื้อแรกค่ะ
รุ่นพี่เราเลยพามาที่ร้านนึงในห้างที่ Qianmen Station .. เค้าบอกว่า ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ ชื่อของร้านนี้มีมา 600 ปีแล้ว (อาเค้าเป็นคนจีนบอกมา)
เราก็ลืมถ่ายภาพร้านมา ข้างในอารมณ์ภัตคารเลยค่ะ .. เราจัดการอาหารด้านล่างนี้เรียบร้อยยย และมีแพลนต่อว่า เราจะไปกิน Chinese Hot Potต่อ
พระเอกของงาน
แผ่นแป้ง .. รุ่นพี่บอกว่า สมัยก่อนเค้าเอาเป็ดมากินกับแป้งแบบนี้
ขนมปังก้อนแบบสมัยใหม่ .. รุ่นพี่บอกสมัยนี้เค้าเอาก้อนแป้งมากินกับเป็นแบบนี้
ซุปไข่ปู (เมนูนี้อร่อยมากกก)
จากนั้นเราก็มาเติมพลังรออาหารย่อยกันที่ ร้านขายขนมหวาน
แล้วก็ไปเดินชิลๆ ซื้อของใช้ที่จำเป็นของเราในห้าง .. จากนั้นประมาณ 6 PM-7 PM เราก็มาทานอาหารจีนกันต่อที่ร้านนี้ค่ะ
รุ่นพี่บอกว่าร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ของปักกิ่งเช่นกัน
รุ่นพี่จัดการสั่งอาหารให้ทุกอย่าง (เเพราะเราไม่รู้จะเอาอะไรดี) และแล้วอาหารมื้อเย็นนี้มาแล้วววว
เนื้อเเกะผัด (เราชอบเมนูนี้เป็นพิเศษ) อร่อยมากกก
เมนูนี้เราลืมชื่อค่ะ เราไม่ค่อยชอบ แต่รุ่นพี่บอกมันอร่อยมาก
และตบท้ายด้วยขนมหวานของจีน
พอเต็มอิ่มกับอาหารเสร็จ .. เราก็แยกย้ายกันกลับที่อยู่ของแต่ละคน รุ่นพี่เราก็กลับบ้าน ส่วนเราก็กลับโฮสเทล
เป็นอันว่าวันนี้เเพลนที่เราแพลนมาก็ล่ม แต่เราไม่ซีเรียสค่ะ เรายังอยู่ต่ออีกหลายวัน ยังมีเวลาอีกเยอะ
[CR] รีวิว ลากกระเป๋าไปซู่ซ่าที่ปักกิ่งคนเดียว แต่เพื่อนเที่ยวมีเยอะ
เราจะมาเเบ่งปันประสบการณ์การไปเยือนประเทศจีน ที่แพลนว่า จะ ไป คน เดียว .. ลุยเองทุกอย่าง !
ตั้งแต่เดินทาง แพลนที่เที่ยว .. แต่สุดท้ายแล้วเราก็ไม่ได้เที่ยวคนเดียวซะงั้น เรื่องราวเป็นยังไงเดี๋ยวเราเริ่มเล่าเลยละกัน
ปล. เจ้าของกระทู้อ่านภาษาจีนออก(บ้าง) และสามารถสื่อสารได้(นิดหน่อยนะคะ) อารมณ์ฟังเข้าใจ ถามได้ แต่ถ้ามาเร็วๆยาวๆเราก็มีเงิบเหมือนกัน
ส่วนเรื่องอ่านภาษาจีนได้ก็เรียกว่าพออ่านได้ แต่อ่านออกไหมก็เป็นบางคำ สรุปคือ อ่านออก เขียนได้ ฟังได้ พูดได้ แต่นิดหน่อยนะคะ
ดังนั้นสำหรับเรา เรื่องภาษาไม่ค่อยเป็นปัญหาค่ะ
และในกระทู้เราจะแทรก ภาษาจีน(ตัวจีน) คำอ่าน และคำแปล ในบางเหตุการณ์นะคะเพื่อเพิ่มอรรถรสค่ะ
ขอปูพื้นก่อนนะคะ
จากกระทู้รีวิว รีวิวสายการบิน China Eastern Airlines (https://ppantip.com/topic/36013255) ที่เราไปญี่ปุ่น 8 วัน
ตั้งแต่วันที่ 21-28 Dec 2016 เราไปฉลองคริสมาสที่ 'โตเกียว' .. แต่เรื่องราวที่ญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยมีอะไรค่ะ ที่เที่ยวเหมือนกับที่หลายคนไปมาแล้ว
มันสนุกแบบจืดๆอ่ะค่ะ .. เราอยากแบ่งปันเรื่องราวในปักกิ่งมากกว่า
ที่เราบอกว่าเราแพลนไปคนเดียว จัดการทุกอย่างเองคนเดียวหมดแล้ว .. ไปๆมาๆ รุ่นพี่ที่มหาลัยบอกจะกลับบ้านที่ปักกิ่ง
เราเลยนัดเจอกันที่ปักกิ่งเลยแล้วกัน, เพื่อนคนไต้หวัน (Teng Mao เรียกง่ายๆคือ ม่าว) ก็บอกว่าจะไปเกาหลี ละไปเฉินตู แล้วมาปักกิ่งต่อ
เราก็เลย เอ้อ นัดเจอกันที่ปักกิ่งเลย, อีกคนเราเจอกันใน app Couchsurfing
ชื่อ Evelina (เราจะเรียกว่า อีฟ นะคะ) เราแลก FB กันก่อนมาแล้วก็มานัดกันว่าจะ
จองทัวไปเที่ยว สุสานราชวงศ์หมิงและกำแพงเมืองจีนกัน
นอกจากนี้ เพื่อนๆหลายๆคนที่อยู่จีนเราก็รู้จักผ่าน Couchsurfing กันหมดเลย .. เรา add event ของเราว่าเราจะไป ปักกิ่ง-เทียนจิน
คนจีนก็แอดมาพูดคุย ทำความรู้จักกับเรา .. เราเองก็ยินดีมาก เพราะอยากฝึกภาษาจีนมากๆด้วยค่ะ
app Couchsurfing
แพลนของเราคือ 20 วันในต่างแดน หรือ The Final Trip of 2016 (ทั้งหมดนี้แพลนไปคนเดียวหมดเลยนะคะ)
21-28 Dec 2016 :: อยู่ญี่ปุ่น
29 Dec 2016 :: อยู่ไทย
30 Dec 2016 - 8 Jan 2017 :: อยู่จีน + คืนวันที่ 8 Jan 2017 เที่ยวมาเก๊านิดหน่อย
9 Jan 2017 :: กลับไทยตอนเช้า
บางคนอาจจะมีคำถามตามมาว่า วันที่ 29 จะกลับบมาไทยทำไม ทำไมไม่บินไปปักกิ่งเลย ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เกริ่นมาเยอะมากกก .. เริ่มเลยนะคะ
☂ Day1 30/12/2016
ขอตัดภาพมาที่เรามาถึง Beijing Capital International Airport เลยนะคะ
ความรู้สึกแรกที่เรามาถึงปักกิ่งคือ ห น า ว ม า ก ~ แต่เราไส่เสื้อขนเป็ดเลยไม่ค่อยเท่าไหร่ .. เราผ่าน ตม. มาแบบชิลๆ มียิ้มเล็กๆให้ ตม ด้วยค่ะ
เรามาถึง Terminal 1-2 แล้วก็ต้องนั่งรถรางไปเอากระเป๋าที่ terminal 3 ซึ่งก็อ่านป้ายเอาค่ะ .. ที่สนามบินนี้มีป้านภาษาจีน อังกฤษ มีเกาหลีด้วยนะคะ
พอเรามาเอากระเป๋าเสร็จ .. ผงาดสิคะ กระเป๋าลาก ล้อพัง ยุบ บุบไปหมดเลยค่ะ แต่ก็ยังโชคดีที่พอลากได้
อันที่จริงเราก็อยากวีนอยู่นะคะ แต่ก็ต้องยอมรับว่ากระเป๋าเรามันก็กรอบๆซื้อมานานแล้วน่าจะหยุดอายุขียแล้วเหมือนกัน
อีกอย่างเราคิดว่าเรียกร้องไปก็เท่านั้น เอาเวลาไปเที่ยวเล่นกีค่ะ .. ตัดภาพมาที่ตอนซื้อซิม คือเราอยากรีบซื้อซืมเลย เพราะจะได้ติดต่อคนที่บ้านได้
เราจ่ายค่าซิมไป 250 RMB / 3 GB (แพงมากกกกก) .. พอได้ซิมแล้วเราก็จัดการติดต่อกับรุ่นพี่ก่อนเลยทันที
ตอนแรกนึกว่ารุ่นพี่พูดเล่นๆที่ว่าจะมารับที่สนามบิน พอติดต่อไปคือเค้ากำลังนั่ง subway มารับเราที่สนามบิน (地铁 ตี้เถี่ย = subway)
เราก็ตื่นเต้นมาก นั่งรอเค้าไม่นาน 10-15 นาทีก็มาเจอกัน .. กระโดดกอดเลยค่ะ คิดถึง นี่ไม่เจอกันตั้งเป็นเดือน (ทั้งที่เรียนที่เดียวกันแต่ก็ไม่ค่อยเจอกัน)
เสร็จแล้วเราก็มาซื้อ บัตร 一卡通 (ํYi Ka Tong) แล้วเติมเงิน 100 RMB + ต่าบัตรไปอีก 20 RMB
ปล. แอบโดน จนท ขายตั๋วดุด้วยค่ะ .. เพราะเค้าถามเป็นภาษาจีน แต่เราฟังไม่ออกเลยลากรุ่นพี่ให้มาคุยแทน
จากนั้นเราก็เข้ามาที่ที่พักของเรา ชื่อ Spring Time Hostel : https://ppantip.com/topic/36010033
เราจัดการธุระเรียบร้อยแล้ว พอตอนประมาณบ่าย 2 เราก็ออกมาหาอะไรทานกันที่ 前门站 (Qianmen Station)
เพื่อนๆเราหลายคนถามว่า 'ทำไมต้องไส่หน้ากากหน้าตาประหลาด มีจุกแบบนี้ด้วย ?'
คำตอบคือ .. ที่ปักกิ่งมลพิษเยอะมาก ที่เห็นขาวๆไม่ไช่หมอกหนาปกคลุมนะคะ แต่มันคือ ฝุ่น ค่ะ ไม่ไช่นิดเดียวนะคะ
แต่มันอย่ในอากาศที่หายใจเข้าไป มันมีอยู่ตลอดค่ะ .. ถ้าไม่ไส่ไว้นี่อันตรายต่อระบบทางเดินหายใจค่ะ(แต่เราก็ไม่ค่อยชอบไส่อยู่ดี)
เราเป่ายิงฉุบกันตั้งแต่บน subway แล้วค่ะว่าเย็นนี้จะทานอะไรดี ระหว่า Chinese Hot Pot กับ เป็ดปักกิ่ง
มติเป็นเอกฉันท์ วันนี้เราจะมาลองชิม 'เป็ดปักกิ่งที่ปักกิ่ง' กันเป็นมื้อแรกค่ะ
รุ่นพี่เราเลยพามาที่ร้านนึงในห้างที่ Qianmen Station .. เค้าบอกว่า ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ ชื่อของร้านนี้มีมา 600 ปีแล้ว (อาเค้าเป็นคนจีนบอกมา)
เราก็ลืมถ่ายภาพร้านมา ข้างในอารมณ์ภัตคารเลยค่ะ .. เราจัดการอาหารด้านล่างนี้เรียบร้อยยย และมีแพลนต่อว่า เราจะไปกิน Chinese Hot Potต่อ
พระเอกของงาน
แผ่นแป้ง .. รุ่นพี่บอกว่า สมัยก่อนเค้าเอาเป็ดมากินกับแป้งแบบนี้
ขนมปังก้อนแบบสมัยใหม่ .. รุ่นพี่บอกสมัยนี้เค้าเอาก้อนแป้งมากินกับเป็นแบบนี้
ซุปไข่ปู (เมนูนี้อร่อยมากกก)
จากนั้นเราก็มาเติมพลังรออาหารย่อยกันที่ ร้านขายขนมหวาน
แล้วก็ไปเดินชิลๆ ซื้อของใช้ที่จำเป็นของเราในห้าง .. จากนั้นประมาณ 6 PM-7 PM เราก็มาทานอาหารจีนกันต่อที่ร้านนี้ค่ะ
รุ่นพี่บอกว่าร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ของปักกิ่งเช่นกัน
รุ่นพี่จัดการสั่งอาหารให้ทุกอย่าง (เเพราะเราไม่รู้จะเอาอะไรดี) และแล้วอาหารมื้อเย็นนี้มาแล้วววว
เนื้อเเกะผัด (เราชอบเมนูนี้เป็นพิเศษ) อร่อยมากกก
เมนูนี้เราลืมชื่อค่ะ เราไม่ค่อยชอบ แต่รุ่นพี่บอกมันอร่อยมาก
และตบท้ายด้วยขนมหวานของจีน
พอเต็มอิ่มกับอาหารเสร็จ .. เราก็แยกย้ายกันกลับที่อยู่ของแต่ละคน รุ่นพี่เราก็กลับบ้าน ส่วนเราก็กลับโฮสเทล
เป็นอันว่าวันนี้เเพลนที่เราแพลนมาก็ล่ม แต่เราไม่ซีเรียสค่ะ เรายังอยู่ต่ออีกหลายวัน ยังมีเวลาอีกเยอะ