สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่าน กระทู้นี้เป็นกระทู้แถมนะครับ หลังจากที่ผมทำ Review เที่ยวญี่ปุ่น ตะลุยหิมะ จากโอซาก้าถึงฮอกไกโด ซึ่งต่อจากตอนเดิมผมได้ขึ้นเครื่องบินกลับจากสนามบินฮาเนดะ เพื่อกลับกรุงเทพฯครับ แต่ก่อนที่จะกลับนั้นผมยังจะต้องมาเปลี่ยนเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ สนามบิน Klia2 เสียก่อน ...โดยจะถึง Klia2 เวลา 06.30 โมงเช้า และจะบินกลับกทม.อีกทีตอน 21.30 ครับ ซึ่งมีเวลาเหลือเฟือที่จะเที่ยวข้างนอกได้ 1วันเต็มๆเลย ถ้าพร้อมแล้ว เชิญพบกับการท่องเที่ยวครั้งนี้ได้เลยครับ
กระทู้หลัก >> Link :
https://ppantip.com/topic/36125638
กระทู้วันที่ 12 กพ 60 >>
https://ppantip.com/topic/36150943
---------------------
13 กุมภาพันธ์ 2560 : ถัดจากความเดิม ตอนนี้ผมกำลังบินตรงไปสู่สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ 2 นะครับ ซึ่งมีระยะเวลาในการบินทั้งหมดประมาณ 7ชั่วโมง เวลาที่นั่นก็จะช้ากว่าที่ญี่ปุ่นประมาณ 1ชั่วโมง งานนี้นั่งกันตูดหงิกเหมือนเดิมครับ
กิจกรรมบนเครื่องบินไม่มีอะไรมากครับ แค่ นอน..นอน.....นอน อย่างเดียว คือเพลียมากครับ เที่ยวแหลก 8 วันที่ผ่านมานอนเฉลี่ยคืนละ 2-3ชั่วโมง มีชีวิตอยู่รอดได้ไงเนี่ย (กรุณาเปิดไปอ่านรีวิวตอนที่ 1-8 หากอยากจินตนาการตาม caption)
และแล้ววว...7ชั่วโมงผ่านไป ก็เป็นอิสระภาพซักที เย้ !! ถึงสนามบินจะทำอะไรบ้างน่ะเหรอครับ สิ่งที่คิดไว้มี ดังนี้
1. แลกเงิน (จขกท แลกไปแล้ว 300 ริงกิต แต่สมาชิกในคณะบางท่านยังไม่ได้แลก)
2. หาที่อาบน้ำ (เดี๊ยวตะลอนเที่ยวทั้งวัน ไม่อาบน้ำไม่ไหวแน่นอน คันชัวร์)
3. หาที่ฝากของ (มีสัมภาระติดตัวนิดหน่อยครับ ฝากไว้ดีกว่า ไม่เมื่อย)
ตอนนี้แลกเงินแล้ว ลองเช็คข้อมูลดูพบว่า ที่อาบน้ำกะฝากของนั้น สามารถใช้บริการของโรงแรมในสนามบินได้เลย ชั้น 1F ครับ
เดินลากของมาถึงละครับ ลักษณะคือเป็น Capsule Hotel อาบน้ำคนละ 25ริง (อยากรู้ว่ากี่บาทให้คูณ 8 เอาครับง่ายๆ) ส่วนฝากของ 8ชั่วโมงนี่อยู่ที่ 30ริง ครับ ตู้ใหญ่โครต ยัดกระเป๋า 2-3ใบ สบาย
อาบน้ำฝากของทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย ได้เวลาลุยเดินทางเข้าเมืองครับ เดินมาข้างๆโรงแรม เจอ Bus Ticket เข้า KL Sentral ทันทีครับ ตู้เบอร์ 3 ราคาตั๋วคนละ 13ริงกิต เท่านั้น ถูกมากๆๆ
65นาที ผ่านไป นั่งรถบัสมาลงหน้า KL Sentral เป็นที่เรียบร้อยแล้วจ้า ตอนนี้กำลังมึนครับ ว่าจะไปไงต่อ 555+
สำหรับสถานที่แรกที่เราจะไปวันนี้นั่นก็คือ ตึกแฝดเปรโตรนัส หรือ KLCC ครับ
บรรยากาศภายในรถไฟครับ คล้ายๆ BTS บ้านเรา
มายังสถานี KLCC ก็เดินต่อมาเรื่อยๆ
จะเข้ามาข้างในห้าง Suria KLCC ครับ ใหญ่โตใช้ได้เลย
หากเดินออกไปนอกห้าง จะเห็นบรรยากาศสวยๆครับ มีนักท่องเที่ยวมายืนถ่ายรูปกันเพียบ
หันหลังไป เจอสิ่งนี้ครับ ตั้งตระหง่านอลังการ สาเหตุของคนเยอะๆ 55+
ถ่ายรูปข้างนอกพักนึง ขอเดินเข้าห้างไปนั่งพักก่อน อากาศมันร้อน แหะๆ
เอาละครับเด่วเราเดินทางต่อ ตอนนี้ตั้งใจจะไปที่จตุรัสเมอเดก้าครับ เพื่อไปดูเสาธงที่สูงที่สุดในโลก โดยนั่งรถไฟไปลงสถานี Masjid Jamak ครับ
ออกจากสถานีมาตัวแทบไหม้ครับ เจออากาศ 0องศาที่โตเกียวมา ตอนนี้มาเจออากาศร่วมๆ 40องศาที่มาเล คนละเรื่อง !!
บังเอิญตอนที่ จขกท ไป เค้าปิดปรับปรุงทางครับ ถ่ายรูปได้ใกล้สุดแค่นี้ เห็นเสาธงอยู่ด้านหลังไกลๆ
ผ่านไปแปปเดียวบ่ายสามละครับ สถานที่ต่อไป เราจะนั่งรถไฟ KL Express ไปเมืองปูตราจายากัน ซึ่งเป็นเมืองใหม่ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามและโดดเด่นมากครับ
บรรยากาศในรถไฟ KL Express กว้างขวางสบายมาก เนื่องจากเป็นรถไฟด่วนที่วิ่งไปสนามบินนานาชาติ ค่าตั๋วก็แพงใช่เล่นครับ
ขึ้นมาสถานี Putrajaya ละครับ จะเจอป้าย Sightseeing บริการนำเที่ยว น่าสนใจมากๆๆ น่าเสียดายวันนี้ผมมีเวลาน้อยครับ เลยใช้วิธีลัด นั่งแท็กซี่ไปลงมัสยิดสีชมพูเลย
ถึงละครับ พื้นที่รอบๆมิสยิดสีชมพูเป็นทะเลสาบสวยงาม
หันหลังไปเจอเห็นมัสยิดสีชมพูตั้งอยู่ครับ ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมาก
ด้านล่างสามารถไปถ่ายรูปริมทะเลสาบได้ ส่วนชั้นใต้ดินก็เป็นศูนย์อาหารครับ เนื่องจากมีฝนตกปรอยๆ ผมลองแวะศูนย์อาหารหลบฝนก่อน
นี่ครับอาหารมื้อเย็นวันนี้ รสชาติคล้ายๆแกงกะหรี่ผสมข้าวผัด
จากนั้นออกไปถ่ายรูปมิสยิดสีชมพูกันอีกครั้งครับ คราวนี้ลองเข้าบริเวณด้านในเลย
เสร็จจากมัสยิดสีชมพู ออกมาดูตึกฝั่งตรงข้ามก็สวยงามเช่นกันครับ ชื่อ Istana Darul Ehsan เป็นที่พักของสุลต่านครับ
คราวนี้ จขกท นั่งรถมาลง สะพาน Seri Saujana Bridge อีกหนึ่งจุดชมวิวชื่อดังของเมืองปูตราจายา ซึ่งสวยมากครับ บรรยากาศตอนเย็นๆ พระอาทิตย์กำลังตก
ขอปิดท้ายภาพบรรยากาศดีๆ ด้วยภาพนี้นะครับ
หนึ่งทุ่มแล้วครับ ได้เวลาวาปกลับมายังสนามบินและ โดยผมและคณะนั่งแท็กซี่มาลงยัง KLIA2 เลยครับ หารๆกันแล้วน่าจะประหยัดกว่าค่ารถไฟไปสนามบิน
เอาละครับ สำหรับรีวิว การเดินทาง 9วัน ท่องเที่ยวจากโอซาก้า ยันซัปโปโร แถมพ่วงด้วยกัวลาลัมเปอร์อีกหนึ่งวัน ของผม ก็เดินทางมาถึงตอนจบละครับ จขกท ต้องขอขอบพระคุณเพื่อนๆชาวบูลทุกท่านที่ติดตามการเดินทางครั้งนี้ของผมมาโดยตลอด ซึ่งการเดินทางของผมก็ได้รับประสบการณ์ รวมทั้งมิตรภาพใหม่ๆ ที่คงต้องไปเจอเองถึงจะบรรยายได้ถูกครับ หากเพื่อนๆคนไหนสนใจเรื่องการเดินทาง สามารถสอบถามกันเข้ามาได้ครับ หวังว่าจะได้กลับมาเขียนรีวิวใหม่อีกครั้งครับ หากมีทริปต่อไปนะ ^^ บ๊าย บาย
[CR] Review วันที่ 9 ตะลอนเที่ยวแหลก 1 วัน ในกัวลาลัมเปอร์ ระหว่างรอ Transit เครื่องกลับกรุงเทพฯ
กระทู้หลัก >> Link : https://ppantip.com/topic/36125638
กระทู้วันที่ 12 กพ 60 >> https://ppantip.com/topic/36150943
---------------------
13 กุมภาพันธ์ 2560 : ถัดจากความเดิม ตอนนี้ผมกำลังบินตรงไปสู่สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ 2 นะครับ ซึ่งมีระยะเวลาในการบินทั้งหมดประมาณ 7ชั่วโมง เวลาที่นั่นก็จะช้ากว่าที่ญี่ปุ่นประมาณ 1ชั่วโมง งานนี้นั่งกันตูดหงิกเหมือนเดิมครับ
กิจกรรมบนเครื่องบินไม่มีอะไรมากครับ แค่ นอน..นอน.....นอน อย่างเดียว คือเพลียมากครับ เที่ยวแหลก 8 วันที่ผ่านมานอนเฉลี่ยคืนละ 2-3ชั่วโมง มีชีวิตอยู่รอดได้ไงเนี่ย (กรุณาเปิดไปอ่านรีวิวตอนที่ 1-8 หากอยากจินตนาการตาม caption)
และแล้ววว...7ชั่วโมงผ่านไป ก็เป็นอิสระภาพซักที เย้ !! ถึงสนามบินจะทำอะไรบ้างน่ะเหรอครับ สิ่งที่คิดไว้มี ดังนี้
1. แลกเงิน (จขกท แลกไปแล้ว 300 ริงกิต แต่สมาชิกในคณะบางท่านยังไม่ได้แลก)
2. หาที่อาบน้ำ (เดี๊ยวตะลอนเที่ยวทั้งวัน ไม่อาบน้ำไม่ไหวแน่นอน คันชัวร์)
3. หาที่ฝากของ (มีสัมภาระติดตัวนิดหน่อยครับ ฝากไว้ดีกว่า ไม่เมื่อย)
ตอนนี้แลกเงินแล้ว ลองเช็คข้อมูลดูพบว่า ที่อาบน้ำกะฝากของนั้น สามารถใช้บริการของโรงแรมในสนามบินได้เลย ชั้น 1F ครับ
เดินลากของมาถึงละครับ ลักษณะคือเป็น Capsule Hotel อาบน้ำคนละ 25ริง (อยากรู้ว่ากี่บาทให้คูณ 8 เอาครับง่ายๆ) ส่วนฝากของ 8ชั่วโมงนี่อยู่ที่ 30ริง ครับ ตู้ใหญ่โครต ยัดกระเป๋า 2-3ใบ สบาย
อาบน้ำฝากของทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย ได้เวลาลุยเดินทางเข้าเมืองครับ เดินมาข้างๆโรงแรม เจอ Bus Ticket เข้า KL Sentral ทันทีครับ ตู้เบอร์ 3 ราคาตั๋วคนละ 13ริงกิต เท่านั้น ถูกมากๆๆ
65นาที ผ่านไป นั่งรถบัสมาลงหน้า KL Sentral เป็นที่เรียบร้อยแล้วจ้า ตอนนี้กำลังมึนครับ ว่าจะไปไงต่อ 555+
สำหรับสถานที่แรกที่เราจะไปวันนี้นั่นก็คือ ตึกแฝดเปรโตรนัส หรือ KLCC ครับ
บรรยากาศภายในรถไฟครับ คล้ายๆ BTS บ้านเรา
มายังสถานี KLCC ก็เดินต่อมาเรื่อยๆ
จะเข้ามาข้างในห้าง Suria KLCC ครับ ใหญ่โตใช้ได้เลย
หากเดินออกไปนอกห้าง จะเห็นบรรยากาศสวยๆครับ มีนักท่องเที่ยวมายืนถ่ายรูปกันเพียบ
หันหลังไป เจอสิ่งนี้ครับ ตั้งตระหง่านอลังการ สาเหตุของคนเยอะๆ 55+
ถ่ายรูปข้างนอกพักนึง ขอเดินเข้าห้างไปนั่งพักก่อน อากาศมันร้อน แหะๆ
เอาละครับเด่วเราเดินทางต่อ ตอนนี้ตั้งใจจะไปที่จตุรัสเมอเดก้าครับ เพื่อไปดูเสาธงที่สูงที่สุดในโลก โดยนั่งรถไฟไปลงสถานี Masjid Jamak ครับ
ออกจากสถานีมาตัวแทบไหม้ครับ เจออากาศ 0องศาที่โตเกียวมา ตอนนี้มาเจออากาศร่วมๆ 40องศาที่มาเล คนละเรื่อง !!
บังเอิญตอนที่ จขกท ไป เค้าปิดปรับปรุงทางครับ ถ่ายรูปได้ใกล้สุดแค่นี้ เห็นเสาธงอยู่ด้านหลังไกลๆ
ผ่านไปแปปเดียวบ่ายสามละครับ สถานที่ต่อไป เราจะนั่งรถไฟ KL Express ไปเมืองปูตราจายากัน ซึ่งเป็นเมืองใหม่ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามและโดดเด่นมากครับ
บรรยากาศในรถไฟ KL Express กว้างขวางสบายมาก เนื่องจากเป็นรถไฟด่วนที่วิ่งไปสนามบินนานาชาติ ค่าตั๋วก็แพงใช่เล่นครับ
ขึ้นมาสถานี Putrajaya ละครับ จะเจอป้าย Sightseeing บริการนำเที่ยว น่าสนใจมากๆๆ น่าเสียดายวันนี้ผมมีเวลาน้อยครับ เลยใช้วิธีลัด นั่งแท็กซี่ไปลงมัสยิดสีชมพูเลย
ถึงละครับ พื้นที่รอบๆมิสยิดสีชมพูเป็นทะเลสาบสวยงาม
หันหลังไปเจอเห็นมัสยิดสีชมพูตั้งอยู่ครับ ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมาก
ด้านล่างสามารถไปถ่ายรูปริมทะเลสาบได้ ส่วนชั้นใต้ดินก็เป็นศูนย์อาหารครับ เนื่องจากมีฝนตกปรอยๆ ผมลองแวะศูนย์อาหารหลบฝนก่อน
นี่ครับอาหารมื้อเย็นวันนี้ รสชาติคล้ายๆแกงกะหรี่ผสมข้าวผัด
จากนั้นออกไปถ่ายรูปมิสยิดสีชมพูกันอีกครั้งครับ คราวนี้ลองเข้าบริเวณด้านในเลย
เสร็จจากมัสยิดสีชมพู ออกมาดูตึกฝั่งตรงข้ามก็สวยงามเช่นกันครับ ชื่อ Istana Darul Ehsan เป็นที่พักของสุลต่านครับ
คราวนี้ จขกท นั่งรถมาลง สะพาน Seri Saujana Bridge อีกหนึ่งจุดชมวิวชื่อดังของเมืองปูตราจายา ซึ่งสวยมากครับ บรรยากาศตอนเย็นๆ พระอาทิตย์กำลังตก
ขอปิดท้ายภาพบรรยากาศดีๆ ด้วยภาพนี้นะครับ
หนึ่งทุ่มแล้วครับ ได้เวลาวาปกลับมายังสนามบินและ โดยผมและคณะนั่งแท็กซี่มาลงยัง KLIA2 เลยครับ หารๆกันแล้วน่าจะประหยัดกว่าค่ารถไฟไปสนามบิน
เอาละครับ สำหรับรีวิว การเดินทาง 9วัน ท่องเที่ยวจากโอซาก้า ยันซัปโปโร แถมพ่วงด้วยกัวลาลัมเปอร์อีกหนึ่งวัน ของผม ก็เดินทางมาถึงตอนจบละครับ จขกท ต้องขอขอบพระคุณเพื่อนๆชาวบูลทุกท่านที่ติดตามการเดินทางครั้งนี้ของผมมาโดยตลอด ซึ่งการเดินทางของผมก็ได้รับประสบการณ์ รวมทั้งมิตรภาพใหม่ๆ ที่คงต้องไปเจอเองถึงจะบรรยายได้ถูกครับ หากเพื่อนๆคนไหนสนใจเรื่องการเดินทาง สามารถสอบถามกันเข้ามาได้ครับ หวังว่าจะได้กลับมาเขียนรีวิวใหม่อีกครั้งครับ หากมีทริปต่อไปนะ ^^ บ๊าย บาย