The Salesman : فروشنده : Forushande
“ บางครั้งการแก้แค้นก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดเสมอไป ”
The Salesman (2016) ภาพยนตร์อิหร่านที่เข้าชิงลูกโลกทองคำและได้รางวัลจาก
Cannes Film Festival 2016 มาแล้ว นับว่าไม่ธรรมดาจริงๆ (แต่เห็นชื่อคานส์ทีไร ก็มักจะเป็นหนังดูยากทุกที 555) โดย
The Salesman ได้รับการกำกับโดย
Asghar Farhadi ที่เคยกำกับ
A Separation (2011) มาแล้ว (ได้ทั้งออสการ์และลูกโลกทองคำสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม) ในปีนี้ก็ต้องมาดูกันว่าลุงแก จะทำสถิติชิงออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมต่างประเทศได้อีกครั้งหรือเปล่า (แต่ก็มีโอกาสสูงนะครับ)
The Salesman มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของคู่สามีภรรยาคู่หนึ่ง อีหมัดและรานา ที่ต้องย้ายที่พักหลังจากตึกที่อยู่อาศัยเดิมร้าว เมื่อย้ายมาถึงที่อพาทเมนต์ใหม่ ก็พบว่าสัมภาระของผู้เช่าเดิมยังคงค้างไว้อยู่ที่ห้องอย่างนั้น จะติดต่อหาผู้เช่าเดิม ก็ติดต่อไม่ได้ และแล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ขณะที่อีหมัดออกไปทำงานข้างนอก รานาอาศัยอยู่ในห้องพัก ก็พบบุคคลปริศนา บุกเข้ามาทำสิ่งที่ไม่คาดคิดกับรานา อีหมัดรู้สึกแค้น จึงพยายามตามหาว่าใครเป็นผู้ที่ทำร้ายรานาจนเธอจิตใจยับเยิน
The Salesman คือ หนังดีที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันตึงเครียด
The Salesman คือ หนังดีเรื่องหนึ่งที่ใส่เรื่องราวอันตึงเครียด น่าอึดอัดและสะเทือนใจได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยสไตล์การดำเนินเรื่องแบบหนังเงียบนอกกระแสที่เน้นความสมจริงเป็นหลัก (ไม่คุยเยอะและไม่ได้เดินเรื่องตื่นเต้นอย่างสไตล์ฮอลลีวูด) เรียกได้ว่า ดูเรื่องนี้ ผมรู้สึกเหมือนดูสารคดีชีวิตของครอบครัวๆหนึ่งเลย หนังมีแก่นเรื่องเกี่ยวกับความเจ็บปวด บาดแผลทางใจของผู้ถูกกระทำ ภายใต้กรอบวัฒนธรรมที่นิ่ง ตึงเครียดและเคร่งครัด การแก้แค้น ตอบโต้อีกฝ่ายอย่างสาสม การต่อสู้กับความโกรธเกรี้ยวและผลร้ายจากการไม่ให้อภัยกันและกันในสิ่งที่ยากจะให้อภัย สิ่งเหล่านี้ถูกหล่อหลอมออกมาให้กลายเป็นหนังที่บทเรื่องเฉียบขาด หนักหน่วงและอัดแน่นไปด้วยอารมณ์ที่อ่อนไหว
การดำเนินเรื่องแบบ Asghar Farhadi : นิ่ง เฉียบ น่าอึดอัดและหน่วง
ส่วนการดำเนินเรื่อง ก็เป็นไปตามสไตล์แบบผู้กำกับ
Asghar Farhadi ด้วยลายเซ็นที่เป็นเอกลักษณ์มาก (ถ้าใครเคยดูหนังของลุงแกมาก่อนอย่าง
The Separation ก็จะเข้าใจ) การดำเนินเรื่อง
The Salesman เต็มไปด้วยความ Real นิ่งเงียบ เฉียบและอารมณ์บาดลึก เนิบๆ ไม่หวือหวา แต่รุนแรงและน่าสะเทือนใจ รวมถึงยังดูตลกร้ายในบางฉาก ซึ่งขณะที่เรื่องราวของอีหมัดและรานาดำเนินไปก็จะเล่าตัดสลับกับละครเวทีเรื่อง
Death of a Salesman (Arthur Miller) ที่อีหมัดและรานาได้เป็นตัวละครเอกในละครเวทีเรื่องนี้ ซึ่งละครเวที Death of a Salesman ก็มีเนื้อเรื่องสอดคล้องกับเรื่องราวในชีวิตจริงที่อีหมัดและรานาต้องเผชิญนี่แหละ (ประมาณว่าสามีทำงานหาเงินและแอบไปมีผู้หญิงอื่น ส่วนภรรยาก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย แถมยังค่อนข้างเชื่อใจ ยกย่องสามีด้วย) การตัดสลับไปมาของหนังทำได้อย่างแนบเนียนและยังทำให้หนังมีชั้นเชิงการเล่าเรื่องที่สูงยิ่งขึ้น มี
Symbolic แฝงไว้ตามจุดต่างๆ ทำให้ต้องคิดวิเคราะห์และพยายามซึบซับอารมณ์เรื่องยิ่งขึ้น
ดังนั้นบรรยากาศของหนังโดยรวม จึงอุดมไปด้วยความเครียด เรียบ นิ่ง อึดอัดและหน่วง บรรยากาศของเรื่องที่ดูตึงเครียด ประกอบกับแทบไม่มีการใส่ดนตรีประกอบภาพยนตร์ทำให้รู้สึกเหมือนว่าสิ่งที่เรากำลังดูอยู่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ และในบางฉากที่โทนเริ่มซีเรียสมากขึ้น ก็ใส่ดนตรีด้วยเสียงโทนต่ำลากยาว ทำให้บรรยากาศหน่วง อึดอัดยิ่งขึ้น
ส่วนคำเตือนที่ผมอยากเตือนทุกท่านที่ต้องการไปดู คือ หนังค่อนข้างดูยาก ถ้าใครอยากรู้แนวหนังว่า
The Salesman เป็นยังไง ก็ลองดูตัวอย่างแนวหนังของ
Asghar Farhadi ได้จาก
The Separation เพราะ มีสไตล์หนังที่คล้ายๆกัน หนังไม่ถึงกับน่าเบื่อ แต่จะมีสไตล์การดำเนินเรื่องเราไม่คุ้นเคย เป็นนามธรรมเชิงลึก เราต้องคิดตามสิ่งที่หนังแฝงความนัยสื่อไว้เสมอ ต้องตีความตลอดเวลา ดังนั้นถ้าใครที่เครียดอยู่แล้ว ก็ไม่แนะนำให้ดู เพราะ น่าจะเครียดกว่าเดิม และใครที่ชื่นชอบการดำเนินหนังแบบสนุก ฉับไว ตื่นเต้น The Salesman ก็อาจจะไม่ใช่คำตอบ แต่ถ้าใครเป็นคอหนังรางวัลและต้องการดูแนวหนังที่แปลก นอกกระแส ไม่ซ้ำซาก แถมยังดีกรีระดับเข้าชิงลูกโลกทองคำและ Oscar ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม
The Salesman จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
นักแสดง : แสดงได้ดีเยี่ยมทุกคน
ในส่วนของนักแสดง ผมถือว่าแสดงได้ดีทุกคน (ย้ำว่าแสดงได้ดีทุกคนจริงๆ) แต่ที่เป็นไฮไลท์ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้รับบท
อีหมัด (Shahab Hosseini) และรานา (Taraneh Alidoosti) บทอีหมัดในมาดชายผู้สุขุม นิ่งเรียบ แต่เมื่อเจอกับสิ่งเลวร้ายที่ยากจะรับไหว เขาก็ต้องแบกรับมันเอาไว้ในใจอย่างกดดันและเดือดดาลด้วยไฟแค้น
Shahab Hosseini สามาถถ่ายทอดอารมณ์เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นบทที่ยากพอสมควร
ส่วนบทของ
รานา (Taraneh Alidoosti) เธอสามารถแสดงได้อย่างดีในแง่มุมของภรรยาที่ถูกทำร้ายจนได้รับบาดแผลทางจิตใจ (ซึ่งยับเยินพอสมควร) เธอต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ยากจะให้อภัย ท่ามกลางความกดดันและความน่าอับอาย ภายในกรอบวัฒนธรรมที่เคร่งครัด
อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ
บทนาเซอร์ (Farid Sajjadi Hosseini) ชายแก่ปริศนา ยิ่งในฉากสุดท้ายช่วงจุดไคลแม็กส์หนัง ต้องยอมรับว่าเขาเล่นได้ดีจริงๆ ทั้งดูน่าสงสาร น่าเห็นใจจริงๆ (ซึ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาได้กระทำลงไป)
สรุป
The Salesman สำหรับผมให้คะแนน
8/10 (ความสนุก 7.5/10 แต่แก่นหนัง แง่คิด ชั้นเชิงการเล่าเรื่องและความสะเทือนใจ 9/10) The Salesman คือ หนังดีที่บางคนอาจจะดูสนุกและบางคนอาจจะไม่ชอบ ไม่ถูกแนวหนังมาก (ในฉบับฮอลลีวูด) หนังดำเนินเรื่องด้วยความ Real เนิบๆ ค่อยๆเค้นอารมณ์ด้วยอารมณ์ที่น่าอึดอัด แต่แฝงด้วยแง่คิดและแก่นเรื่องที่หนักแน่น พร้อมกับบรรยากาศสังคมภายในประเทศอิหร่าน ซึ่งเราคงจะไม่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้มากนัก
บางอย่างเรายากจะให้อภัย แต่บางครั้ง เราก็ไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้อีกแล้ว เพราะในบางเวลา การแก้แค้นก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด ความแค้นมันอาจสร้างผลร้ายที่ยากจะให้อภัยยิ่งกว่าเดิม
หากคุณเป็นคอหนังรางวัล คอหนังนอกกระแสหรือเป็นผู้ที่ชื่นชอบการดำเนินเรื่องแบบผู้กำกับ Asghar Farhadi ที่เต็มไปด้วยความลุ่มลึก The Salesman ก็คือหนังที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
“ บางครั้งการแก้แค้นก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดเสมอไป ”
8/10
----------------------------------------------------------------------
Forushande (2016) (Imdb)
Forushande (The Salesman) is the story of a couple whose relationship begins to turn sour during their performance of Arthur Miller's Death of a Salesman.
Director: Asghar Farhadi
Writer: Asghar Farhadi
Stars: Taraneh Alidoosti, Shahab Hosseini, Babak Karimi | See full cast & crew »
----------------------------------------------------------------------
ป.ล. ใครชอบฉากใด ประทับใจหนังหรือคิดเห็นอย่างไร ก็มาพูดคุยกันได้นะครับ เพราะ บางทีก็อาจมีบางจุดที่ผมก็ตกหล่นไปเหมือนกัน (หากรีวิวผิดพลาดประการใดหรือไม่ถูกใจประการใด ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ)
ป.ล.2 หากชอบรีวิวหรืออยากติดตามพูดคุย สามารถติดตามได้ทาง Facebook อีกช่องทางนะครับ
อัพเดท OSCAR WINNER : BEST FOREIGN LANGUAGE FILM
TWO TIME OSCAR AWARD WINNER : ASGHAR FARHADI (เรื่องแรกที่เคยได้คือ
A Separation)
[SR] (Review) The Salesman (2016) : บางครั้งการแก้แค้นก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดเสมอไป
The Salesman (2016) ภาพยนตร์อิหร่านที่เข้าชิงลูกโลกทองคำและได้รางวัลจาก Cannes Film Festival 2016 มาแล้ว นับว่าไม่ธรรมดาจริงๆ (แต่เห็นชื่อคานส์ทีไร ก็มักจะเป็นหนังดูยากทุกที 555) โดย The Salesman ได้รับการกำกับโดย Asghar Farhadi ที่เคยกำกับ A Separation (2011) มาแล้ว (ได้ทั้งออสการ์และลูกโลกทองคำสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม) ในปีนี้ก็ต้องมาดูกันว่าลุงแก จะทำสถิติชิงออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมต่างประเทศได้อีกครั้งหรือเปล่า (แต่ก็มีโอกาสสูงนะครับ)
The Salesman มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของคู่สามีภรรยาคู่หนึ่ง อีหมัดและรานา ที่ต้องย้ายที่พักหลังจากตึกที่อยู่อาศัยเดิมร้าว เมื่อย้ายมาถึงที่อพาทเมนต์ใหม่ ก็พบว่าสัมภาระของผู้เช่าเดิมยังคงค้างไว้อยู่ที่ห้องอย่างนั้น จะติดต่อหาผู้เช่าเดิม ก็ติดต่อไม่ได้ และแล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ขณะที่อีหมัดออกไปทำงานข้างนอก รานาอาศัยอยู่ในห้องพัก ก็พบบุคคลปริศนา บุกเข้ามาทำสิ่งที่ไม่คาดคิดกับรานา อีหมัดรู้สึกแค้น จึงพยายามตามหาว่าใครเป็นผู้ที่ทำร้ายรานาจนเธอจิตใจยับเยิน
The Salesman คือ หนังดีที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันตึงเครียด
The Salesman คือ หนังดีเรื่องหนึ่งที่ใส่เรื่องราวอันตึงเครียด น่าอึดอัดและสะเทือนใจได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยสไตล์การดำเนินเรื่องแบบหนังเงียบนอกกระแสที่เน้นความสมจริงเป็นหลัก (ไม่คุยเยอะและไม่ได้เดินเรื่องตื่นเต้นอย่างสไตล์ฮอลลีวูด) เรียกได้ว่า ดูเรื่องนี้ ผมรู้สึกเหมือนดูสารคดีชีวิตของครอบครัวๆหนึ่งเลย หนังมีแก่นเรื่องเกี่ยวกับความเจ็บปวด บาดแผลทางใจของผู้ถูกกระทำ ภายใต้กรอบวัฒนธรรมที่นิ่ง ตึงเครียดและเคร่งครัด การแก้แค้น ตอบโต้อีกฝ่ายอย่างสาสม การต่อสู้กับความโกรธเกรี้ยวและผลร้ายจากการไม่ให้อภัยกันและกันในสิ่งที่ยากจะให้อภัย สิ่งเหล่านี้ถูกหล่อหลอมออกมาให้กลายเป็นหนังที่บทเรื่องเฉียบขาด หนักหน่วงและอัดแน่นไปด้วยอารมณ์ที่อ่อนไหว
การดำเนินเรื่องแบบ Asghar Farhadi : นิ่ง เฉียบ น่าอึดอัดและหน่วง
ส่วนการดำเนินเรื่อง ก็เป็นไปตามสไตล์แบบผู้กำกับ Asghar Farhadi ด้วยลายเซ็นที่เป็นเอกลักษณ์มาก (ถ้าใครเคยดูหนังของลุงแกมาก่อนอย่าง The Separation ก็จะเข้าใจ) การดำเนินเรื่อง The Salesman เต็มไปด้วยความ Real นิ่งเงียบ เฉียบและอารมณ์บาดลึก เนิบๆ ไม่หวือหวา แต่รุนแรงและน่าสะเทือนใจ รวมถึงยังดูตลกร้ายในบางฉาก ซึ่งขณะที่เรื่องราวของอีหมัดและรานาดำเนินไปก็จะเล่าตัดสลับกับละครเวทีเรื่อง Death of a Salesman (Arthur Miller) ที่อีหมัดและรานาได้เป็นตัวละครเอกในละครเวทีเรื่องนี้ ซึ่งละครเวที Death of a Salesman ก็มีเนื้อเรื่องสอดคล้องกับเรื่องราวในชีวิตจริงที่อีหมัดและรานาต้องเผชิญนี่แหละ (ประมาณว่าสามีทำงานหาเงินและแอบไปมีผู้หญิงอื่น ส่วนภรรยาก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย แถมยังค่อนข้างเชื่อใจ ยกย่องสามีด้วย) การตัดสลับไปมาของหนังทำได้อย่างแนบเนียนและยังทำให้หนังมีชั้นเชิงการเล่าเรื่องที่สูงยิ่งขึ้น มี Symbolic แฝงไว้ตามจุดต่างๆ ทำให้ต้องคิดวิเคราะห์และพยายามซึบซับอารมณ์เรื่องยิ่งขึ้น
ดังนั้นบรรยากาศของหนังโดยรวม จึงอุดมไปด้วยความเครียด เรียบ นิ่ง อึดอัดและหน่วง บรรยากาศของเรื่องที่ดูตึงเครียด ประกอบกับแทบไม่มีการใส่ดนตรีประกอบภาพยนตร์ทำให้รู้สึกเหมือนว่าสิ่งที่เรากำลังดูอยู่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ และในบางฉากที่โทนเริ่มซีเรียสมากขึ้น ก็ใส่ดนตรีด้วยเสียงโทนต่ำลากยาว ทำให้บรรยากาศหน่วง อึดอัดยิ่งขึ้น
ส่วนคำเตือนที่ผมอยากเตือนทุกท่านที่ต้องการไปดู คือ หนังค่อนข้างดูยาก ถ้าใครอยากรู้แนวหนังว่า The Salesman เป็นยังไง ก็ลองดูตัวอย่างแนวหนังของ Asghar Farhadi ได้จาก The Separation เพราะ มีสไตล์หนังที่คล้ายๆกัน หนังไม่ถึงกับน่าเบื่อ แต่จะมีสไตล์การดำเนินเรื่องเราไม่คุ้นเคย เป็นนามธรรมเชิงลึก เราต้องคิดตามสิ่งที่หนังแฝงความนัยสื่อไว้เสมอ ต้องตีความตลอดเวลา ดังนั้นถ้าใครที่เครียดอยู่แล้ว ก็ไม่แนะนำให้ดู เพราะ น่าจะเครียดกว่าเดิม และใครที่ชื่นชอบการดำเนินหนังแบบสนุก ฉับไว ตื่นเต้น The Salesman ก็อาจจะไม่ใช่คำตอบ แต่ถ้าใครเป็นคอหนังรางวัลและต้องการดูแนวหนังที่แปลก นอกกระแส ไม่ซ้ำซาก แถมยังดีกรีระดับเข้าชิงลูกโลกทองคำและ Oscar ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม The Salesman จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
นักแสดง : แสดงได้ดีเยี่ยมทุกคน
ในส่วนของนักแสดง ผมถือว่าแสดงได้ดีทุกคน (ย้ำว่าแสดงได้ดีทุกคนจริงๆ) แต่ที่เป็นไฮไลท์ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้รับบทอีหมัด (Shahab Hosseini) และรานา (Taraneh Alidoosti) บทอีหมัดในมาดชายผู้สุขุม นิ่งเรียบ แต่เมื่อเจอกับสิ่งเลวร้ายที่ยากจะรับไหว เขาก็ต้องแบกรับมันเอาไว้ในใจอย่างกดดันและเดือดดาลด้วยไฟแค้น Shahab Hosseini สามาถถ่ายทอดอารมณ์เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นบทที่ยากพอสมควร
ส่วนบทของรานา (Taraneh Alidoosti) เธอสามารถแสดงได้อย่างดีในแง่มุมของภรรยาที่ถูกทำร้ายจนได้รับบาดแผลทางจิตใจ (ซึ่งยับเยินพอสมควร) เธอต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ยากจะให้อภัย ท่ามกลางความกดดันและความน่าอับอาย ภายในกรอบวัฒนธรรมที่เคร่งครัด
อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ บทนาเซอร์ (Farid Sajjadi Hosseini) ชายแก่ปริศนา ยิ่งในฉากสุดท้ายช่วงจุดไคลแม็กส์หนัง ต้องยอมรับว่าเขาเล่นได้ดีจริงๆ ทั้งดูน่าสงสาร น่าเห็นใจจริงๆ (ซึ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาได้กระทำลงไป)
สรุป
The Salesman สำหรับผมให้คะแนน 8/10 (ความสนุก 7.5/10 แต่แก่นหนัง แง่คิด ชั้นเชิงการเล่าเรื่องและความสะเทือนใจ 9/10) The Salesman คือ หนังดีที่บางคนอาจจะดูสนุกและบางคนอาจจะไม่ชอบ ไม่ถูกแนวหนังมาก (ในฉบับฮอลลีวูด) หนังดำเนินเรื่องด้วยความ Real เนิบๆ ค่อยๆเค้นอารมณ์ด้วยอารมณ์ที่น่าอึดอัด แต่แฝงด้วยแง่คิดและแก่นเรื่องที่หนักแน่น พร้อมกับบรรยากาศสังคมภายในประเทศอิหร่าน ซึ่งเราคงจะไม่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้มากนัก
บางอย่างเรายากจะให้อภัย แต่บางครั้ง เราก็ไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้อีกแล้ว เพราะในบางเวลา การแก้แค้นก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด ความแค้นมันอาจสร้างผลร้ายที่ยากจะให้อภัยยิ่งกว่าเดิม
หากคุณเป็นคอหนังรางวัล คอหนังนอกกระแสหรือเป็นผู้ที่ชื่นชอบการดำเนินเรื่องแบบผู้กำกับ Asghar Farhadi ที่เต็มไปด้วยความลุ่มลึก The Salesman ก็คือหนังที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
Forushande (2016) (Imdb)
Forushande (The Salesman) is the story of a couple whose relationship begins to turn sour during their performance of Arthur Miller's Death of a Salesman.
Director: Asghar Farhadi
Writer: Asghar Farhadi
Stars: Taraneh Alidoosti, Shahab Hosseini, Babak Karimi | See full cast & crew »
ป.ล. ใครชอบฉากใด ประทับใจหนังหรือคิดเห็นอย่างไร ก็มาพูดคุยกันได้นะครับ เพราะ บางทีก็อาจมีบางจุดที่ผมก็ตกหล่นไปเหมือนกัน (หากรีวิวผิดพลาดประการใดหรือไม่ถูกใจประการใด ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ)
ป.ล.2 หากชอบรีวิวหรืออยากติดตามพูดคุย สามารถติดตามได้ทาง Facebook อีกช่องทางนะครับ
อัพเดท OSCAR WINNER : BEST FOREIGN LANGUAGE FILM
TWO TIME OSCAR AWARD WINNER : ASGHAR FARHADI (เรื่องแรกที่เคยได้คือ A Separation)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น