เวลาแมว หมา หรือ สัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ของเราป่วย สิ่งที่เรามักจะทำกันก็คือ รอดูอาการสัก 1-2 หรือาจจะ 3 วัน เพราะเหตุผลหลาย ๆ อย่าง เช่น เขาอาจจะป่วยไม่มาก เราไม่สะดวก ไม่ว่าง กลัวเสียค่ารักษาเยอะ ฯลฯ แต่สุดท้ายก็ต้องพาไป เพราะสงสารเขา กลัวเขาจากเราไป แล้วเขาก็จากเราไปจริง ๆ แถมเสียค่ารักษาเยอะมาก
ผมเคยมีประสบการณ์แบบนี้ แล้วสุดท้ายก็ต้องเสียเขาไปจริง ๆ ตอนหลังพอแมวป่วยผมก็เลยใช้วิธีแบบนี้ครับ คือผมจะดูจากการกินอาหารเป็นหลัก
1.ถ้าป่วยถึงขั้นไม่กินอาหาร เช่น ถ้ากินข้าวเช้า แล้วตลอดทั้งวันไม่กินอะไรอีกเลย เย็นวันนั้น เขาจะถึงมือหมอครับ
2.ถ้าป่วยแล้วกินอาหารเย็น แต่เช้ามาไม่กิน เขาจะถึงมือหมอประมาณ 10 โมง แต่ถ้าคุณหมอไม่ว่าง ก็จะถึงมือหมอไม่เกิน 5 โมงเย็น
สรุปก็คือ แมวของผมถ้าป่วยถึงขั้นไม่กินอาหาร เขาจะถึงมือคุณหมอภายใน 12 ชั่วโมง อย่างช้าไม่เกิน 24 ชั่วโมง ที่ผมทำแบบนี้เพราะว่า
1.ตอนเขาป่วยใหม่ ๆ ร่างกายเขายังดี ยังแข็งแรง เชื้อโรคในตัวยังไม่มาก ถ้าได้รับยา ได้รับการรักษา เขาจะหายได้ง่ายและฟื้นตัวได้เร็ว
2.แต่ถ้าปล่อยไว้หลายวัน พลังงานสะสมเขาก็จะลดลง (เพราะเขาไม่กินอาหาร) เชื้อโรคก็เยอะ ก็จะรักษาได้ยาก อาจจะไม่หายหรือเสียชีวิตไปเลย และถ้าปล่อยจนเขาเป็นหนัก นอกจากอาจจะไม่หายแล้วค่ารักษาจะสูงมากอีกด้วย
3.ข้อนี้สำคัญที่สุด ก็คือ
เวลาเขาป่วยเขาจะทุกข์ทรมานจากการป่วยนั้น ถ้าเราทิ้งเขาไว้นานเท่าไร เขาก็จะยิ่งทรมานมากเท่านั้น (เปรียบเหมือนคนเราไม่สบาย เราก็จะรีบกินยาใช่ไหมครับ)
ทางเดียวที่จะช่วยให้เขาหายจากอาการเจ็บป่วยทรมาน ก็คือรักษาเขาให้หายเร็วที่สุด
ผมจะไม่รอดูอาการ ไม่มานั่งเทียนเดาว่าแมวผมเป็นอะไร ไม่สนใจด้วยว่าค่ารักษาเท่าไร (ผมไม่รวยนะครับแต่เรื่องแมวทำเหมือนรวย) ผมรู้อย่างเดียว แมวผมจะต้องหาย และหายให้เร็วที่สุด้วย ดังนั้นหาหมออย่างเดียว ถ้ารักษากับหมอคนแรกไม่หาย หรือผมไม่แน่ใจ ผมก็จะพาแมวไปหาหมออีกคน (หลายหัวดีกว่าหัวเดียว) ให้ช่วยกันวินิจฉัย
แต่ผมโชคดีที่คุณหมอที่ไปหาประจำค่อนข้างเก่ง วินิจฉัยอาการได้ถูกต้องตลอด แมวผมก็เลยหายอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องพาไปหาหลายหมอ
เคสแรก แมวอายุ 6 เดือน กินเช้า แล้วทั้งวันไม่กิน มีอ้วกด้วย ตกเย็นก็ไปหาหมอ คุณหมอบอกเป็นหัด ฉีดยาให้ แล้วก็ต้องไปฉีดทุกเย็น ฉีดยาทั้งหมด 3 เข็ม พอวันที่ 4 คุณหมอเปลี่ยนเป็นยากิน เช้าวันที่ 5 เขาก็กินอาหารได้ แต่กว่าเขาจะกินได้ ก็ผอมไปเยอะ
เคสที่สอง แมวอายุเกือบ 2 เดือน ตอนค่ำมีอาการซึม ๆ เหมือนจะป่วย แต่ตอนเช้ากินข้าวเช้า แล้วก็นอนซมทั้งวัน ตกเย็นก็ถึงมือคุณหมอ วัดไข้ได้ 105 องศา คุณหมอบอกว่าน่าจะเป็นพยาธิในเลือด ฉีดยาลดไข้ แล้วป้อนยาฆ่าเชื้อของเด็กให้ เช้าวันต่อมา เขากินและวิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ ได้ เหมือนแมวไม่เคยป่วย
วิธีการรักษาแมวป่วยแบบของผม ลองอ่านดูนะครับ อาจจะมีประโยชน์
ผมเคยมีประสบการณ์แบบนี้ แล้วสุดท้ายก็ต้องเสียเขาไปจริง ๆ ตอนหลังพอแมวป่วยผมก็เลยใช้วิธีแบบนี้ครับ คือผมจะดูจากการกินอาหารเป็นหลัก
1.ถ้าป่วยถึงขั้นไม่กินอาหาร เช่น ถ้ากินข้าวเช้า แล้วตลอดทั้งวันไม่กินอะไรอีกเลย เย็นวันนั้น เขาจะถึงมือหมอครับ
2.ถ้าป่วยแล้วกินอาหารเย็น แต่เช้ามาไม่กิน เขาจะถึงมือหมอประมาณ 10 โมง แต่ถ้าคุณหมอไม่ว่าง ก็จะถึงมือหมอไม่เกิน 5 โมงเย็น
สรุปก็คือ แมวของผมถ้าป่วยถึงขั้นไม่กินอาหาร เขาจะถึงมือคุณหมอภายใน 12 ชั่วโมง อย่างช้าไม่เกิน 24 ชั่วโมง ที่ผมทำแบบนี้เพราะว่า
1.ตอนเขาป่วยใหม่ ๆ ร่างกายเขายังดี ยังแข็งแรง เชื้อโรคในตัวยังไม่มาก ถ้าได้รับยา ได้รับการรักษา เขาจะหายได้ง่ายและฟื้นตัวได้เร็ว
2.แต่ถ้าปล่อยไว้หลายวัน พลังงานสะสมเขาก็จะลดลง (เพราะเขาไม่กินอาหาร) เชื้อโรคก็เยอะ ก็จะรักษาได้ยาก อาจจะไม่หายหรือเสียชีวิตไปเลย และถ้าปล่อยจนเขาเป็นหนัก นอกจากอาจจะไม่หายแล้วค่ารักษาจะสูงมากอีกด้วย
3.ข้อนี้สำคัญที่สุด ก็คือ เวลาเขาป่วยเขาจะทุกข์ทรมานจากการป่วยนั้น ถ้าเราทิ้งเขาไว้นานเท่าไร เขาก็จะยิ่งทรมานมากเท่านั้น (เปรียบเหมือนคนเราไม่สบาย เราก็จะรีบกินยาใช่ไหมครับ) ทางเดียวที่จะช่วยให้เขาหายจากอาการเจ็บป่วยทรมาน ก็คือรักษาเขาให้หายเร็วที่สุด
ผมจะไม่รอดูอาการ ไม่มานั่งเทียนเดาว่าแมวผมเป็นอะไร ไม่สนใจด้วยว่าค่ารักษาเท่าไร (ผมไม่รวยนะครับแต่เรื่องแมวทำเหมือนรวย) ผมรู้อย่างเดียว แมวผมจะต้องหาย และหายให้เร็วที่สุด้วย ดังนั้นหาหมออย่างเดียว ถ้ารักษากับหมอคนแรกไม่หาย หรือผมไม่แน่ใจ ผมก็จะพาแมวไปหาหมออีกคน (หลายหัวดีกว่าหัวเดียว) ให้ช่วยกันวินิจฉัย
แต่ผมโชคดีที่คุณหมอที่ไปหาประจำค่อนข้างเก่ง วินิจฉัยอาการได้ถูกต้องตลอด แมวผมก็เลยหายอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องพาไปหาหลายหมอ
เคสแรก แมวอายุ 6 เดือน กินเช้า แล้วทั้งวันไม่กิน มีอ้วกด้วย ตกเย็นก็ไปหาหมอ คุณหมอบอกเป็นหัด ฉีดยาให้ แล้วก็ต้องไปฉีดทุกเย็น ฉีดยาทั้งหมด 3 เข็ม พอวันที่ 4 คุณหมอเปลี่ยนเป็นยากิน เช้าวันที่ 5 เขาก็กินอาหารได้ แต่กว่าเขาจะกินได้ ก็ผอมไปเยอะ
เคสที่สอง แมวอายุเกือบ 2 เดือน ตอนค่ำมีอาการซึม ๆ เหมือนจะป่วย แต่ตอนเช้ากินข้าวเช้า แล้วก็นอนซมทั้งวัน ตกเย็นก็ถึงมือคุณหมอ วัดไข้ได้ 105 องศา คุณหมอบอกว่าน่าจะเป็นพยาธิในเลือด ฉีดยาลดไข้ แล้วป้อนยาฆ่าเชื้อของเด็กให้ เช้าวันต่อมา เขากินและวิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ ได้ เหมือนแมวไม่เคยป่วย