ก้าวเข้าสู่ปีที่๓ ของการร้องเรียนพฤติกรรมอันน่ารังเกียจและไร้สำนึกของนางกันยายน ไก่วิเชียร(นามสมมุติ)
จากวันนั้น จนวันนี้ ไม่มีอะไรดีขึ้น ไม่เคยได้รับการดูและอย่างจริงใจ ไม่เคยรู้สึกถึงความยุติธรรมใดๆจากแพทยสภา
มีแต่คำถามถ่อยๆ เช่น “แล้วจะเอายังไง!!!” “รอได้มั้ยล่ะ” โทรไปสอบถามทีไร พาลให้นึกว่าคุยกับเด็กแว๊นซ์
เบื่อ เหนื่อย เอือม อายและรังเกียจ เลยคิดว่า พอแล้วดีกว่า
ถึงแพทยสภา สำหรับดิฉัน สภาพพวกคุณเหมือนเสือกระดาษ เหมือนพวกหลับใหล โทรไปปลุกทีก็สะดุ้งมาโวยวายที แล้วก็เงียบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าคุณทำงานกันแบบนี้แล้วภูมิใจ เวลารับเงินแล้วไม่รู้สึกกระดากอาย ดิฉันก็ไม่มีอะไรจะพูด แต่ถ้าคุณทำเพื่อปกป้องคนผิด คุณเป็นเช่นไร คงไม่ต้องให้ดิฉันบอกหรอกเนอะ
ถึงนางกันยายน ไก่วิเชียร ผู้ที่บนใบหน้ามีความขาว ใส แต่ไร้.... ฉันพยายามคิดว่าเธอคงจะหิว จึงทำเรื่องน่าอายแบบนั้น แต่ดูจากครอบครัวเธอ
ที่พ่อก็หมอ พี่น้องก็หมอ แม่นี่เภสัชป่ะ ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะเกี่ยวกับฐานะ น่าจะเป็นที่สันดานล้วนๆ จะว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนหรือ กับการที่เธอนำรูปหน้าฉันไปขยายใหญ่ติดหน้าคลินิกพ่อเธอหากินมาหลายปี ก็พอจะเป็นคำตอบว่า เป็นกันทั้งครอบครัว เพราะนั่นเป็นคลินิกที่หากินกันทั้งบ้าน พวกเธอคงไม่อาย แต่ฉันอาย ตอนแรกอายที่มีหน้า(แย่ๆ)ของตัวเองไปติดหราหน้าคลินิกในแหล่งชุมชน แต่ตอนนี้อายที่ต้องมาเบาะแว้งกับครอบครัวอย่างเธอ ครอบครัวที่ทำเรื่องน่าอายให้เป็นเรื่องปกติ เอาเป็นว่า ฉันพอละ เธอไม่อาย แต่Guอาย ถ้าจะระบำกันแท๊กทีมอย่างนี้ ฉันยอม ความรู้น่ะสอนกันได้ แต่สำนึกนี่สอนกันไม่ได้ ต้องปลูกฝังกันมาแต่เด็ก ซึ่งพวกเธอคงไม่ได้รับมา
ใครที่เรียนกับนางกันยายนนี่ก็ไปบอกมันด้วยนะ ว่าอย่าไปหากินแบบนี้กับใครเขา อย่ามักง่าย มันเลวและบาป ก็ไม่รู้ว่าเวลานศ.พ.ไหว้นางนี่ นางจะรู้สึกอะไรมั้ย เช่น ฉันไม่ดีพอให้ใครมาไหว้ ไรงี้อ่ะ แต่รุ่นนี้แล้ว คงไม่รู้สึกอะไรละเนอะ
สำหรับใครที่งง เชิญด้านนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก็ตามนั้นน่ะค่ะ จากวันนั้นถึงวันนี้ เข้าสู่ปีที่สาม ไม่มีอะไรดีขึ้น เงียบกริ๊บ ก็คงต้องสรุปตรงนี้เลยว่า “ถ้าจะไร้...ได้ขนาดนี้ Gu ยอม”
สุดท้าย ขอบคุณจ่าแห่ง Drama addict และหลายๆท่านที่ให้คำแนะนำในวันนั้น
ขอบคุณคุณหมอหลายๆท่านที่แนะนำหลายๆอย่าง
ขอบคุณค่ะ อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17
justice delayed is justice denied
แล้วจะเอายังไง? คำถามจากแพทยสภา
จากวันนั้น จนวันนี้ ไม่มีอะไรดีขึ้น ไม่เคยได้รับการดูและอย่างจริงใจ ไม่เคยรู้สึกถึงความยุติธรรมใดๆจากแพทยสภา
มีแต่คำถามถ่อยๆ เช่น “แล้วจะเอายังไง!!!” “รอได้มั้ยล่ะ” โทรไปสอบถามทีไร พาลให้นึกว่าคุยกับเด็กแว๊นซ์
เบื่อ เหนื่อย เอือม อายและรังเกียจ เลยคิดว่า พอแล้วดีกว่า
ถึงแพทยสภา สำหรับดิฉัน สภาพพวกคุณเหมือนเสือกระดาษ เหมือนพวกหลับใหล โทรไปปลุกทีก็สะดุ้งมาโวยวายที แล้วก็เงียบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าคุณทำงานกันแบบนี้แล้วภูมิใจ เวลารับเงินแล้วไม่รู้สึกกระดากอาย ดิฉันก็ไม่มีอะไรจะพูด แต่ถ้าคุณทำเพื่อปกป้องคนผิด คุณเป็นเช่นไร คงไม่ต้องให้ดิฉันบอกหรอกเนอะ
ถึงนางกันยายน ไก่วิเชียร ผู้ที่บนใบหน้ามีความขาว ใส แต่ไร้.... ฉันพยายามคิดว่าเธอคงจะหิว จึงทำเรื่องน่าอายแบบนั้น แต่ดูจากครอบครัวเธอ
ที่พ่อก็หมอ พี่น้องก็หมอ แม่นี่เภสัชป่ะ ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะเกี่ยวกับฐานะ น่าจะเป็นที่สันดานล้วนๆ จะว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนหรือ กับการที่เธอนำรูปหน้าฉันไปขยายใหญ่ติดหน้าคลินิกพ่อเธอหากินมาหลายปี ก็พอจะเป็นคำตอบว่า เป็นกันทั้งครอบครัว เพราะนั่นเป็นคลินิกที่หากินกันทั้งบ้าน พวกเธอคงไม่อาย แต่ฉันอาย ตอนแรกอายที่มีหน้า(แย่ๆ)ของตัวเองไปติดหราหน้าคลินิกในแหล่งชุมชน แต่ตอนนี้อายที่ต้องมาเบาะแว้งกับครอบครัวอย่างเธอ ครอบครัวที่ทำเรื่องน่าอายให้เป็นเรื่องปกติ เอาเป็นว่า ฉันพอละ เธอไม่อาย แต่Guอาย ถ้าจะระบำกันแท๊กทีมอย่างนี้ ฉันยอม ความรู้น่ะสอนกันได้ แต่สำนึกนี่สอนกันไม่ได้ ต้องปลูกฝังกันมาแต่เด็ก ซึ่งพวกเธอคงไม่ได้รับมา
ใครที่เรียนกับนางกันยายนนี่ก็ไปบอกมันด้วยนะ ว่าอย่าไปหากินแบบนี้กับใครเขา อย่ามักง่าย มันเลวและบาป ก็ไม่รู้ว่าเวลานศ.พ.ไหว้นางนี่ นางจะรู้สึกอะไรมั้ย เช่น ฉันไม่ดีพอให้ใครมาไหว้ ไรงี้อ่ะ แต่รุ่นนี้แล้ว คงไม่รู้สึกอะไรละเนอะ
สำหรับใครที่งง เชิญด้านนี้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้