ถ้าแฟนไม่หยุดช่วยครอบครัวเค้า เราก็จะเลิกกันแล้วค่ะ

ยืม id เพื่อนมานะคะ เราและแฟนคบกันมาประมาณ 4 ปีแล้วค่ะ เริ่มมีทำธุรกิจด้วยกันและวางแผนอนาคตแล้ว แต่ทีนี้ทางแฟนก็ต้องช่วยครอบครัวตลอดซึ่งมันเลยทำให้เราสองคนไม่สามารถขยายธุรกิจได้ซะที

รายได้ตอนนี้รวมกันก็เกินสองแสน ซึ่งดูเหมือนเยอะแต่ทางแฟนก็ยังมีภาระที่บ้าน โดยพ่อและแม่เลี้ยงอายุประมาณ 50 และ 60 ปีไม่ได้ทำงานประจำค่ะ และยังมีน้องสาวต่างแม่ที่ยังเรียนอยู่ โดยแฟนก็ส่งน้องคนนี้เรียนด้วย อยู่รร.เอกชนชื่ขึ้นต้นด้วยเซนต์ค่ะ ตอนแรกทางแม่เลี้ยงอยากจะให้แฟนส่งน้องสาวเรียนอินเตอร์ด้วยซ้ำ ซึ่งทางแฟนก็ปฏิเสธไปเนื่องจากค่าเล่าเรียนมันก็เกินกว่าที่แฟนจะรับได้

แฟนเล่าว่าตั้งแต่โตมาทางครอบครัวก็ไม่เคยได้ส่งเสียค่าเรียนแฟนเท่าไหร่ โดยตั้งแต่เด็กก็เรียนแต่โรงเรียนรัฐใกล้บ้านในต่างจังหวัด พอเข้ามหาลัยก็ต้องทำงานส่งตัวเองทั้งหมด (พอดีแฟนพูดได้หลายภาษาเลยมีงานล่ามที่พอทำส่งเสียตัวเองได้ค่ะ) แต่แม่เลี้ยงจะนำเงินไปส่งน้องสาวเรียนเอกชนตั้งแต่เด็ก พอแฟนเข้ามหาลัยก็เริ่มขอเงินเพื่อที่จะไปส่งน้องสาวเรียน ทีนี้น้องสาวเรียนก็ไม่เก่ง เกรดก็ไม่ดีก็ต้องมาช่วยให้พี่ชายติวให้เพื่อที่สอบได้เกรดดีๆ

นอกจากนี้ทางบ้านแฟนจะชอบขอเงินเพื่อนำไปลงทุน แต่ทางเราและแฟนก็ไม่ทราบว่าเงินที่เคยให้ไปหายไปไหนหมดค่ะ อีกไม่กี่เดือนก็มาขอใหม่บอกว่าจะส่งสินค้าไปขายต่างประเทศ โดยขอยืมเงินไปซื้อวัตถุดิบในการผลิต ตอนนั้นแฟนยังไม่มีเงินเก็บเลยบอกที่บ้านว่าถ้าจะยืมเค้าก็ต้องรูดบัตรเครดิตซึ่งดอกเบี้ยแพงมาก แต่ทางพ่อกับแม่เค้าก็ยังให้แฟนรูดบัตรอยู่ดี หลังจากนั้นพอขายสินค้าได้ก็ไม่เคยพูดถึงเงินต้นที่ยืมไปอีกเลย ซึ่งหลายๆครั้งที่ให้ครอบครัวไปก็ต้องไปยืมเพื่อนรวมถึงยืมเราด้วย รวมๆกันแฟนก็มีหนี้ล้านกว่าๆแล้ว พอไปแวะที่บ้านแต่ละทีทางบ้านแฟนนู้นก็จะใช้แต่ของดีๆ น้องสาวใช้ไอโฟน ใช้รองเท้านักเรียน Hush Puppies ซึ่งถ้าบ้านตัวเองต้องมาใช้เงินคนอื่นก็ควรจะใช้จ่ายประหยัดหน่อยค่ะ

บางทีก็เหนื่อยเพราะว่าเราก็ขยันทำงานกันทั้งสองคน ซึ่งถ้าเราขยายธุรกิจและมีรายได้ต่อเดือนที่สูงกว่านี้ การจะส่งเสียให้พ่อแม่ก็ไม่ได้ยากเลย แต่ว่าเหมือนพอมีเงินเก็บขึ้นมาแทนที่จะไปจ้างคนมาทำงานเพิ่มหรือลงทุนกับการขยาย สุดท้ายเงินก้อนนั้นก็ต้องไปตกอยู่กับครอบครัวแฟน ซึ่งรู้สึกว่าเหมือนเอาเงินไปเผาทิ้งเลย

ตอนนี้ก็เลยบอกเค้าจริงๆว่าถ้าไม่หยุดยังไงก็จะต้องเลิกกันค่ะ เพราะว่าบางทีเงินที่หาได้ทั้งสองคนมันก็เหมือนเงินของเราด้วย ถ้าเค้าไม่เลิกช่วยก็เหมือนให้เราทำงานหนักด้วยเพื่อเอาเงินไปเลี้ยงครอบครัวเค้า ทั้งที่ถ้าเราทำงานน้อยกว่านี้แต่อยู่แบบไม่มีภาระ เราก็สามารถอยู่ได้อย่างสบายๆมีเงินเก็บค่ะ

เพิ่มเติม: ขอขอบคุณทุกความเห็นมากนะคะ เมื่อกี้อาจจะใจร้อนไปหน่อย สรุปไปคุยกับแฟนมาแล้ว แฟนบอกว่าต่อไปเค้าก็จะตัดความช่วยเหลือออกไป เหลือแต่แค่จำเป็นเดือนละไม่กี่หมื่น เพราะเดี๋ยวพอน้องเรียนจบก็คงจะลดภาระลงไปอีก เค้าเล่าๆว่าหลังๆเค้าก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าครอบครัวเค้าก็ไม่ได้หวังดีกับเค้าตลอด ก่อนหน้านี้ไม่นาน แม่เลี้ยงเค้าเคยเชียร์ให้เลิกกับเรา โดยอ้างว่าคบกับเราไปเดี๋ยวเราก็ไม่รักเค้าจริงหรอก เค้าเลยเริ่มอ่านออกว่าจริงๆแล้วแม่เลี้ยงเค้าก็คงไม่อยากให้คบกะเราเพราะว่าทางเค้าจะได้ดูแลฝั่งครอบครัวตลอด แต่ว่าพอเค้ามาทำงานกับเราค่อนข้างจะไปได้ดีเพราะว่าต่างก็มีความสามารถที่ต่างกัน ช่วยเหลือกัน เลยทำให้เริ่มอะไรหลายๆอย่างมาขนาดนี้ได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่