สำหรับ Part 2 นี้ จะเล่าในส่วนของทริปเดย์ทัวร์ครึ่งเช้า ณ มุยเน่ และการเดินทางไปดาลัท ค่ะ
ต่อเนื่องจากกระทู้ที่แล้ว เราอยู่กันที่คลินิกถึงตี 2 ได้นอนพักนิดหน่อย
เมื่อนาฬิกาปลุก คือตี 3 ครึ่ง ก็ต้องตื่น เพราะโปรแกรมทัวร์เราเริ่ม 4.30น. กว่าจะได้ออกจริงๆสลืมสลือกันไป ก็เกือบๆตี 5
แน่นอนคนป่วยไม่ได้มาด้วย พักผ่อนตามอัธยาศัยอยู่ที่พัก จึงมีแค่พวกเราสามคนสำหรับทริปมุยเน่เช้านี้
เรานั่งรถจิ๊ปกันไปประมาณ 45นาที
(อากาศดีมาก ลมเย็นถึงหนาวกันเลยทีเดียว แนะนำให้เอาเสื้อหรือผ้าไปคลุมด้วยจะดีมาก งานนี้มีสั่น!!!)
เมื่อรถถึงจุดหมายแรก “ทะเลทรายขาว” ซึ่งเป็นไฮไลท์ของทริปนี้

ทะเลทรายขาวนี้เป็นสถานที่ดึงดูดและเป็นแรงบันดาลใจให้เราทั้ง 4 คน ต้องออกเดินทางมาเยือน
(แต่ได้มาจริง 3 คน อีกคนยังมาไม่ถึง คิคิ)
ตอนที่ไปถึงนั้นฟ้ายังมืดอยู่ ทำให้พวกเราไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนกัน รู้แต่ว่าเห็นรถจี๊ปที่ไปรับนักท่องเที่ยวมาจอดเรียงรายกันเต็มไปหมด
และคนขับรถของพวกเราก็พาไปดีลรถจี๊ป/เอทีวี (เพื่อที่จะขึ้นไปบนยอดเนินทราย) กับจนท.อีกคนนึงซึ่งคุยภาษาอังกฤษปร๋อเลย
บอกว่ารถจิ๊ปคนละ 200,000 VND เราก็ต่อราคาว่าคนละ 150,000 VND ได้มั๊ย
(เพราะสืบมาแล้วจากในพันทิปนี่หละว่า มันคนละ 150.000 VND)
เค้าก็บอกว่าไม่ได้หรอก ราคานี้แหละ ในใจเราก็คิด #อันที่จริงก็จัดว่าแพง แต่เอาน่ะอยากขึ้นไปถึงบนนั้นไวๆ ไม่อยากเสียเวลา
จะได้ไปทันดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน คนรับเงินก็บอกอย่างดิบดีว่าอีก 1 ชั่วโมงรถจะไปรับพวกเรากลับลงมานะ
เราก็สนุกสนานกันบนรถจิ๊ปมีความสุขกันไป ก่อนจะลงเราก็ได้ย้ำอีกครั้งกับคนที่ขับรถไปส่งพวกเราว่าอีกชั่วโมงนึงจะมารับใช่มั๊ย
จำพวกเราได้หรอคนเยอะมากเลยนะ เค้าบอกว่าจำได้ๆ เดี๋ยวอีกชั่วโมงนึงจะมารับ...
และนี่คือวิวของยอดเนินทะเลทรายขาวในช่วงฟ้าสราง
เมื่อขึ้นไปถึงบนเนินพวกเราก็ดูวิว ถ่ายรูปโน่นนี่กันอย่างสนุกสนาน เห็นรถขับไปขับมาอยู่เรื่อยๆ
เวลาผ่านไปจน 7 โมงนิดๆ ซึ่งครบกำหนดเวลาที่เค้าจะต้องมารับเราแล้ว
หันมองไปรอบกาย 360* ปรากฏว่าไม่เห็นมีคนเหลืออยู่เลย!!!!! ไม่มีใครเลยจริงๆ นอกจากเราสามคน
ด้วยความที่ว่าเราออกเลทเลยคิดว่ายังไม่ครบเวลามั้ง เราก็รออีกสักพัก แต่เพื่อนเราก็ค่อนข้างแน่ใจว่าเลยเวลามาแล้วนะ
ประกอบกับว่าไม่มีวี่แววของรถคันไหนที่จะขึ้นมารับ พวกเราเลยตัดสินใจเดินกลับลงไปข้างล่าง
แต่เราก็ไม่แน่ใจว่าที่ฐานเปลี่ยนรถที่เรานั่งมาตอนเช้านั้นมันมีกี่เจ้า แน่นอนค่ะ เราตัดสินใจเดิน!!!ลงไปที่เต้นท์นั้น
เมื่อเดินไปถึง (ใช้เวลาเดินประมาณ 15นาที)
กลับกลายเป็นร้านเช่าเอทีวี ซึ่งไม่ใช่เจ้าที่พวกเราถูกมาปล่อยแต่แรก ทีนี้ก็หลงของจริงละ ผ่าง!!!
ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน เลยต้องจ้างรถเอทีวีนั้นขับไปหาที่ๆ เราถูกปล่อยอีกที (ด้วยค่าจ้าง 50,000 VND)
ขับไปที่แรกไม่ใช่ ขับไปที่สองอันนี้หละใช่ละ ...ตอนนั้นยอมรับเลยว่าปรี๊ดมาก โมโหมาก
คนที่รับเงินเราไปตอนแรกก็เดินมาดูว่าทำไมเรามากับเอทีวีเจ้านี้ เ
ราก็เลยต่อว่าไปว่า “ทำไมรถคุณไม่ไปรับพวกเรา มันเกินเวลาหนึ่งชั่วโมงที่เราตกลงกันไว้แล้ว
และพวกเราต้องไปเที่ยวที่อื่นต่อ” ผู้ชายคนนี้ที่ตอนแรกพูดปร๋อ ตอนนี้กลับไม่พูดอะไรส้ากกคำ และเดินหนีไป
ทิ้งให้พวกเรายืนงงอยู่ตรงนั้น คราวนี้เราก็ยิ่ง งง!!! กันไปใหญ่ อ้าวเฮ้ยไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า... (ผ่านมาแล้วเฮฮาได้ ^^)
คนขับเอทีวีพยายามคุยกับเราเป็นภาษาอังกฤษว่า “ตอนนี้มันเวลาเช้า พระอาทิตย์ขึ้น ไม่เป็นไรหรอก
พวกคุณควรจะรอ เดี๋ยวก็มีคนขึ้นไปรับเองแหละ” เราก็บอกว่า “เอ้าก็รอเกินชั่วโมงแล้ว จะให้รออีกนานแค่ไหนไม่รู้
บนนั้นก็ไม่มีใครอยู่เลยสักคน แล้วอีกอย่างคือไม่มีทีท่าว่าจะมีใครขึ้นไปรับพวกเราอีกต่างหาก”
เพื่อนเราเลยเดินเข้าไปในเต้นท์จะหาเจ้าของ/ผู้จัดการเพื่อจะคุยกับเค้า
พอเดินเข้าไปมีผู้ชายอยู่ในนั้นเป็นสิบคน ทุกคนมองมาที่พวกเราหมดเลย เพื่อนๆเลยลงมติว่า
“ถ้าเราเสียเวลาเอาเรื่องที่นี่ เราจะไม่ได้เที่ยวที่อื่นละนะ ช่างมันเหอะ ไปเที่ยวที่อื่นให้สนุกๆ ดีกว่า”
ทุกอย่างเลยจบลง แบบ “โอเค ไปก็ได้” แต่อีกใจก็นะ จะไฝว้กะคนท้องถิ่นผู้ชายเป็นสิบ แต่ก็นะ
ด้วยความที่เป็นห่วงสวัสดิภาพกระเหรี่ยงสามคนเหมือนกัน เลยยอมถอนทัพ เห้ออออออ...
แล้วรถก็ออกไปสู่จุดหมายที่สองของทริป คือ “ทะเลทรายแดง” ณ ที่นี่เราถ่ายรูปกันไม่นาน
เพราะว่าเป็นวิวทะเลทรายเหมือนกัน และวิวทะเลทรายขาวนั่นเรียกได้ว่าเหนือกว่า เราก็เก็บรูปไปตามสมควร
จากนั้นมุ่งสู่จุดหมายที่สาม คือ "แฟรี่สตรีม” เป็นธารน้ำไหลขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก
ข้างๆเป็นกำแพงหินปูน หรือหินอะไรสักอย่างสีแดงๆสวยงามแบบธรรมชาติสร้าง ระยะทางจนสุดทางกี่กิโลไม่รู้ เพราะเดินไปไม่ถึง
น่าจะมีน้ำตกมั้ง (ถ้าจำไม่ผิด) พวกเราเดินเข้าไปไกลประมาณนึง เจอมุมสวยๆก็แวะเก็บภาพระหว่างทาง
และขากลับ 9 โมงแล้วหนิ ท้องร้อง เห็นอะไรแปลกๆ สีสันน่าทานทำใหม่ๆ เราเลยจัดไปค่ะ
ขนมนี้เรียกอะไรไม่รู้ รู้แต่อร่อย!!! และอีกเช่นเคย ราคามิตรภาพ ดีงาม
มาถึงจุดสุดท้ายแล้ว “หมู่บ้านชาวประมง” มันดีงามมากๆ แปลกตาไปอีก แต่ด้วยความที่ว่ามันสายแล้ว
เลยได้แต่เก็บภาพเป็นความทรงจำจากข้างบนไม่ได้ลงเดินไปที่ชายหาด (เสียดายๆ)
เราจบทริปกันที่ รร. เวลาประมาณ 9 โมงเกือบครึ่ง
นั่งพักเหนื่อยสักพัก ทานอาหารเช้า (อาหารเช้าที่นี่จานใหญ่มาก อิ่มและอร่อยเลิศค่ะ)
แล้วเราทั้ง 4 คน (รวมคนป่วยด้วย อาการดีขึ้นจากเมื่อวานมาก)ก็เก็บของเตรียมออกเดินทางไปดาลัท
เมืองที่ขึ้นชื่อได้ว่าอากาศเย็นตลอดทั้งปี

จาก รร. เราเรียกแท็กซี่ไปท่ารถทัวร์ค่ะ
คราวนี้เราเดินทางด้วยรถของ The SinhTourist เราก็ไปขึ้นตั๋ว(จองล่วงหน้า)
เราได้ที่นั่งเรียงกันแถวหลังสุด ก่อนรถออกแอร์ก็เย็นดีอยู่หรอก แต่เอ๊ะๆไปๆมาทำไมร้อน แอร์เสีย!!! อะไรจะโชคดีขนาดนั้น
(แหม่!! มุยเน่ที่รัก ทิ้งทวนกันขนาดนี้เลยหรา) ผู้โดยสารทุกคนในรถก็เอาอะไรมาพัดๆกันทุ้กคน ในความโชคร้ายนั้นยังมีโชคดี
คือ ที่เรานั่งแถวหลัง ข้างๆมีหน้าต่างบานเล็กๆเปิดได้นิดหน่อยพอให้ลมเข้าได้เท่านั้นหละ
เราก็หลับกันสบายกันไปด้วยความเหนื่อยอ่อน หลับๆตื่นๆกันไปตลอดทาง ทางจะเป็นขึ้นเขาลงเขา
วนเวียนอยู่อย่างนี้ สองข้างทางมองไปมีแต่ต้นไม้ (ระหว่างทางที่เป็นเขา ไม่มีสัญญาณเน็ทนะจ้ะ)
เวลาผ่านไป 5 ชม.ได้ เราก็เข้าเขตเมือง อากาศภายนอกเริ่มเย็นขึ้น เพราะว่าดาลัดนั้นเป็นเมืองในหุบเขาอากาศจึงเย็นตลอดทั้งปี
พอลงจากรถได้สัมผัสอากาศดีๆนี่มันดีต่อใจมากจริงๆ อากาศอยู่ที่ 16* (ณ เวลาประมาณ 16.30 น.)
สวัสดี ดาลัท ... อากาศดี ทำให้อารมณ์ดี
เราก็เดินตามอากู๊เกิ้ล ไปเรื่อยๆเพื่อจะไป รร.ที่จองไว้ เราพักกันที่ NICE DREAM HOTEL
(อย่าGPS จับที่นี่นะจ้ะ เพราะเดินไปแล้วมันไม่ใช่อ่ะ ให้จับตามชื่อถนน.ที่ รร.นั้นตั้งอยู่) จากจุดลงรถไป รร.ใช้เวลาไม่นานค่ะ
เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ อากาศดีจะทำอะไรก็ได้ ระหว่างทางด้วยความบังเอิญเราเจอร้านขาย “บ่างกัง”
น่าจะเป็นอาหารว่างพื้นบ้านของที่นี่ มันคือแป้งใส่ไข่นกกระทา/ไข่ไก่ แล้วจิ้มกับน้ำมะขามเปียกใส่พริกเผา
ที่เป็นสูตรของทางร้านผสมมาให้แล้ว เห็นคนเยอะดีที่สำคัญคนท้องถิ่นด้วย เราเลยลองชิม เฮ้ย!!!! อร่อย และราคาดีงามอีกแล้ว
หากใครจะมาร้านนี้ ปักหมุดในกูเกิ้ลแม็ป ว่า Bánh Căn Cô Chín
ทางเข้าจะเป็นซอยเล็กๆชันๆ ซึ่งดูเหมือนไม่น่าเข้า แต่เข้าเถอะแล้วจะเจอของอร่อย
(ร้านนี้รอนานหน่อย เพราะคิวยาวจริงๆ) ร้านจะเปิดทุกวัน เช้าตั้งแต่ 7.00 – 11.30 น. แล้วก็เปิดอีกที 15.00 – 18.30 น.
สำหรับสมาชิกของเราติดใจถึงขนาดต้องมากินทุกเย็นเลยทีเดียว หลังจากรองท้องกันแล้ว
ก็ไปเก็บของที่ รร. แล้วเราก็ไปเดินหาอะไรกินกันต่อค่ะ
ที่พักของเรานั้นทำเลดีมากมาย อยู่ใจกลางวงเวียน ซึ่งเป็นถนนคนเดิน/ตลาดนัดกลางคืนของดาลัทเลย
เมื่อสำรวจตลาดสักพัก แล้วเราก็จบที่ร้านนี้ค่ะ เป็นคล้ายๆสุกี้ หรือจิ้มจุ่มของเวียดนาม กินกับขนมจีน สั่งมา 1 ชุด
กินกันไปเบาๆ ราคาก็ปกติ ไม่ถูกและไม่แพงเกินไป
เป็นอันว่าหลงรักดาลัท ไม่ผิดหวังเลยที่เลือกมาใช้เวลาที่ดาลัท 2 วัน
สำหรับพรุ่งนี้ เราจองทริปเดย์ทัวร์ดาลัทกันค่ะ
เราจะไปที่ไหน ติดตาม...ตอนต่อไปนะคะ ^__________^
ตะลุยเวียดนามใต้ (โฮจิมินห์-มุยเน่-ดาลัท) Vietnam2017atriptoremember
Part 1
https://ppantip.com/topic/36135303
Part 3
https://ppantip.com/topic/36157720
Part 4
https://ppantip.com/topic/36157814
[CR] ตะลุยเวียดนามใต้ (โฮจิมินห์-มุยเน่-ดาลัท) Vietnam2017atriptoremember Part 2
เมื่อนาฬิกาปลุก คือตี 3 ครึ่ง ก็ต้องตื่น เพราะโปรแกรมทัวร์เราเริ่ม 4.30น. กว่าจะได้ออกจริงๆสลืมสลือกันไป ก็เกือบๆตี 5
แน่นอนคนป่วยไม่ได้มาด้วย พักผ่อนตามอัธยาศัยอยู่ที่พัก จึงมีแค่พวกเราสามคนสำหรับทริปมุยเน่เช้านี้
เรานั่งรถจิ๊ปกันไปประมาณ 45นาที
(อากาศดีมาก ลมเย็นถึงหนาวกันเลยทีเดียว แนะนำให้เอาเสื้อหรือผ้าไปคลุมด้วยจะดีมาก งานนี้มีสั่น!!!)
เมื่อรถถึงจุดหมายแรก “ทะเลทรายขาว” ซึ่งเป็นไฮไลท์ของทริปนี้
ทะเลทรายขาวนี้เป็นสถานที่ดึงดูดและเป็นแรงบันดาลใจให้เราทั้ง 4 คน ต้องออกเดินทางมาเยือน
(แต่ได้มาจริง 3 คน อีกคนยังมาไม่ถึง คิคิ)
ตอนที่ไปถึงนั้นฟ้ายังมืดอยู่ ทำให้พวกเราไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนกัน รู้แต่ว่าเห็นรถจี๊ปที่ไปรับนักท่องเที่ยวมาจอดเรียงรายกันเต็มไปหมด
และคนขับรถของพวกเราก็พาไปดีลรถจี๊ป/เอทีวี (เพื่อที่จะขึ้นไปบนยอดเนินทราย) กับจนท.อีกคนนึงซึ่งคุยภาษาอังกฤษปร๋อเลย
บอกว่ารถจิ๊ปคนละ 200,000 VND เราก็ต่อราคาว่าคนละ 150,000 VND ได้มั๊ย
(เพราะสืบมาแล้วจากในพันทิปนี่หละว่า มันคนละ 150.000 VND)
เค้าก็บอกว่าไม่ได้หรอก ราคานี้แหละ ในใจเราก็คิด #อันที่จริงก็จัดว่าแพง แต่เอาน่ะอยากขึ้นไปถึงบนนั้นไวๆ ไม่อยากเสียเวลา
จะได้ไปทันดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน คนรับเงินก็บอกอย่างดิบดีว่าอีก 1 ชั่วโมงรถจะไปรับพวกเรากลับลงมานะ
เราก็สนุกสนานกันบนรถจิ๊ปมีความสุขกันไป ก่อนจะลงเราก็ได้ย้ำอีกครั้งกับคนที่ขับรถไปส่งพวกเราว่าอีกชั่วโมงนึงจะมารับใช่มั๊ย
จำพวกเราได้หรอคนเยอะมากเลยนะ เค้าบอกว่าจำได้ๆ เดี๋ยวอีกชั่วโมงนึงจะมารับ...
เวลาผ่านไปจน 7 โมงนิดๆ ซึ่งครบกำหนดเวลาที่เค้าจะต้องมารับเราแล้ว
หันมองไปรอบกาย 360* ปรากฏว่าไม่เห็นมีคนเหลืออยู่เลย!!!!! ไม่มีใครเลยจริงๆ นอกจากเราสามคน
ด้วยความที่ว่าเราออกเลทเลยคิดว่ายังไม่ครบเวลามั้ง เราก็รออีกสักพัก แต่เพื่อนเราก็ค่อนข้างแน่ใจว่าเลยเวลามาแล้วนะ
ประกอบกับว่าไม่มีวี่แววของรถคันไหนที่จะขึ้นมารับ พวกเราเลยตัดสินใจเดินกลับลงไปข้างล่าง
แต่เราก็ไม่แน่ใจว่าที่ฐานเปลี่ยนรถที่เรานั่งมาตอนเช้านั้นมันมีกี่เจ้า แน่นอนค่ะ เราตัดสินใจเดิน!!!ลงไปที่เต้นท์นั้น
กลับกลายเป็นร้านเช่าเอทีวี ซึ่งไม่ใช่เจ้าที่พวกเราถูกมาปล่อยแต่แรก ทีนี้ก็หลงของจริงละ ผ่าง!!!
ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน เลยต้องจ้างรถเอทีวีนั้นขับไปหาที่ๆ เราถูกปล่อยอีกที (ด้วยค่าจ้าง 50,000 VND)
ขับไปที่แรกไม่ใช่ ขับไปที่สองอันนี้หละใช่ละ ...ตอนนั้นยอมรับเลยว่าปรี๊ดมาก โมโหมาก
คนที่รับเงินเราไปตอนแรกก็เดินมาดูว่าทำไมเรามากับเอทีวีเจ้านี้ เ
ราก็เลยต่อว่าไปว่า “ทำไมรถคุณไม่ไปรับพวกเรา มันเกินเวลาหนึ่งชั่วโมงที่เราตกลงกันไว้แล้ว
และพวกเราต้องไปเที่ยวที่อื่นต่อ” ผู้ชายคนนี้ที่ตอนแรกพูดปร๋อ ตอนนี้กลับไม่พูดอะไรส้ากกคำ และเดินหนีไป
ทิ้งให้พวกเรายืนงงอยู่ตรงนั้น คราวนี้เราก็ยิ่ง งง!!! กันไปใหญ่ อ้าวเฮ้ยไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า... (ผ่านมาแล้วเฮฮาได้ ^^)
คนขับเอทีวีพยายามคุยกับเราเป็นภาษาอังกฤษว่า “ตอนนี้มันเวลาเช้า พระอาทิตย์ขึ้น ไม่เป็นไรหรอก
พวกคุณควรจะรอ เดี๋ยวก็มีคนขึ้นไปรับเองแหละ” เราก็บอกว่า “เอ้าก็รอเกินชั่วโมงแล้ว จะให้รออีกนานแค่ไหนไม่รู้
บนนั้นก็ไม่มีใครอยู่เลยสักคน แล้วอีกอย่างคือไม่มีทีท่าว่าจะมีใครขึ้นไปรับพวกเราอีกต่างหาก”
เพื่อนเราเลยเดินเข้าไปในเต้นท์จะหาเจ้าของ/ผู้จัดการเพื่อจะคุยกับเค้า
พอเดินเข้าไปมีผู้ชายอยู่ในนั้นเป็นสิบคน ทุกคนมองมาที่พวกเราหมดเลย เพื่อนๆเลยลงมติว่า
“ถ้าเราเสียเวลาเอาเรื่องที่นี่ เราจะไม่ได้เที่ยวที่อื่นละนะ ช่างมันเหอะ ไปเที่ยวที่อื่นให้สนุกๆ ดีกว่า”
ทุกอย่างเลยจบลง แบบ “โอเค ไปก็ได้” แต่อีกใจก็นะ จะไฝว้กะคนท้องถิ่นผู้ชายเป็นสิบ แต่ก็นะ
ด้วยความที่เป็นห่วงสวัสดิภาพกระเหรี่ยงสามคนเหมือนกัน เลยยอมถอนทัพ เห้ออออออ...
เพราะว่าเป็นวิวทะเลทรายเหมือนกัน และวิวทะเลทรายขาวนั่นเรียกได้ว่าเหนือกว่า เราก็เก็บรูปไปตามสมควร
ข้างๆเป็นกำแพงหินปูน หรือหินอะไรสักอย่างสีแดงๆสวยงามแบบธรรมชาติสร้าง ระยะทางจนสุดทางกี่กิโลไม่รู้ เพราะเดินไปไม่ถึง
น่าจะมีน้ำตกมั้ง (ถ้าจำไม่ผิด) พวกเราเดินเข้าไปไกลประมาณนึง เจอมุมสวยๆก็แวะเก็บภาพระหว่างทาง
เลยได้แต่เก็บภาพเป็นความทรงจำจากข้างบนไม่ได้ลงเดินไปที่ชายหาด (เสียดายๆ)
นั่งพักเหนื่อยสักพัก ทานอาหารเช้า (อาหารเช้าที่นี่จานใหญ่มาก อิ่มและอร่อยเลิศค่ะ)
แล้วเราทั้ง 4 คน (รวมคนป่วยด้วย อาการดีขึ้นจากเมื่อวานมาก)ก็เก็บของเตรียมออกเดินทางไปดาลัท
เมืองที่ขึ้นชื่อได้ว่าอากาศเย็นตลอดทั้งปี
คราวนี้เราเดินทางด้วยรถของ The SinhTourist เราก็ไปขึ้นตั๋ว(จองล่วงหน้า)
เราได้ที่นั่งเรียงกันแถวหลังสุด ก่อนรถออกแอร์ก็เย็นดีอยู่หรอก แต่เอ๊ะๆไปๆมาทำไมร้อน แอร์เสีย!!! อะไรจะโชคดีขนาดนั้น
(แหม่!! มุยเน่ที่รัก ทิ้งทวนกันขนาดนี้เลยหรา) ผู้โดยสารทุกคนในรถก็เอาอะไรมาพัดๆกันทุ้กคน ในความโชคร้ายนั้นยังมีโชคดี
คือ ที่เรานั่งแถวหลัง ข้างๆมีหน้าต่างบานเล็กๆเปิดได้นิดหน่อยพอให้ลมเข้าได้เท่านั้นหละ
เราก็หลับกันสบายกันไปด้วยความเหนื่อยอ่อน หลับๆตื่นๆกันไปตลอดทาง ทางจะเป็นขึ้นเขาลงเขา
วนเวียนอยู่อย่างนี้ สองข้างทางมองไปมีแต่ต้นไม้ (ระหว่างทางที่เป็นเขา ไม่มีสัญญาณเน็ทนะจ้ะ)
เวลาผ่านไป 5 ชม.ได้ เราก็เข้าเขตเมือง อากาศภายนอกเริ่มเย็นขึ้น เพราะว่าดาลัดนั้นเป็นเมืองในหุบเขาอากาศจึงเย็นตลอดทั้งปี
พอลงจากรถได้สัมผัสอากาศดีๆนี่มันดีต่อใจมากจริงๆ อากาศอยู่ที่ 16* (ณ เวลาประมาณ 16.30 น.)
(อย่าGPS จับที่นี่นะจ้ะ เพราะเดินไปแล้วมันไม่ใช่อ่ะ ให้จับตามชื่อถนน.ที่ รร.นั้นตั้งอยู่) จากจุดลงรถไป รร.ใช้เวลาไม่นานค่ะ
เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ อากาศดีจะทำอะไรก็ได้ ระหว่างทางด้วยความบังเอิญเราเจอร้านขาย “บ่างกัง”
ที่เป็นสูตรของทางร้านผสมมาให้แล้ว เห็นคนเยอะดีที่สำคัญคนท้องถิ่นด้วย เราเลยลองชิม เฮ้ย!!!! อร่อย และราคาดีงามอีกแล้ว
หากใครจะมาร้านนี้ ปักหมุดในกูเกิ้ลแม็ป ว่า Bánh Căn Cô Chín
สำหรับสมาชิกของเราติดใจถึงขนาดต้องมากินทุกเย็นเลยทีเดียว หลังจากรองท้องกันแล้ว
ก็ไปเก็บของที่ รร. แล้วเราก็ไปเดินหาอะไรกินกันต่อค่ะ
ที่พักของเรานั้นทำเลดีมากมาย อยู่ใจกลางวงเวียน ซึ่งเป็นถนนคนเดิน/ตลาดนัดกลางคืนของดาลัทเลย
กินกันไปเบาๆ ราคาก็ปกติ ไม่ถูกและไม่แพงเกินไป
สำหรับพรุ่งนี้ เราจองทริปเดย์ทัวร์ดาลัทกันค่ะ
เราจะไปที่ไหน ติดตาม...ตอนต่อไปนะคะ ^__________^
ตะลุยเวียดนามใต้ (โฮจิมินห์-มุยเน่-ดาลัท) Vietnam2017atriptoremember
Part 1 https://ppantip.com/topic/36135303
Part 3 https://ppantip.com/topic/36157720
Part 4 https://ppantip.com/topic/36157814