จุดเริ่มต้นของทริปเราก็มาจากที่เพื่อนๆรีวิวใน Pantip นั่นแหละค่ะ เห็นทุกคนที่ไปแล้วรีวิวมา มันเป็นอะไรที่เฮ้ย!!! ใช่มาก
บรรยากาศเที่ยวสบายๆ ราคาไม่แรงมาก พนักงานออฟฟิศแบบเราๆคงเที่ยวได้ ทริปของเราไปทั้งหมด 4 วันค่ะ
วันแรก ดอนเมือง-โฮจิมินห์-มุยเน่ (นอนมุยเน่)
วันที่ 2 มุยเน่ (ทะเลทรายขาว,ทะเลทรายแดง,แฟรี่สตรีม,หมู่บ้านชาวประมง)-ดาลัท (นอนดาลัท)
วันที่ 3 เที่ยวดาลัท (เดย์ทัวร์) – เดินเล่นรอบดาลัท (นอนดาลัท)
วันที่ 4 ดาลัท(เครื่องบิน)-โฮจิมินห์-ดอนเมือง
ทริปเราเริ่มต้นขึ้นเมื่อสายการบินหางแดงลดราคา เราก็ไม่รอช้าสิค่ะ รีบชักชวนสมาชิก แล้วจองตั๋วกันอย่างรวดเร็ว
ทริปนี้เรามีสมาชิก 4 คนค่ะ งานนี้จองล่วงหน้าข้ามปีเลยทีเดียว (ออกแนวอยากไปมากๆ)
ได้ตั๋วไป-กลับ ในราคา 1,980 บาท จากนั้น ก็จองที่พักที่มุยเน่ และดาลัทค่ะ
การจองก็ง่ายๆเลย เราเลือกจองผ่าน Booking.com เพราะเป็นเว็บที่ไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้า ไปจ่ายวันเข้าพักเลย
สำคัญสามารถยกเลิกการจองล่วงหน้าได้ไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย ระหว่างรอเวลาวันเดินทางเราก็อ่านกระทู้พันทิพไปเรื่อยๆเพื่อเก็บข้อมูล
แล้ววันเวลาแห่งการรอคอยก็มาถึงค่ะ เครื่องบินเราออกเดินทางจาก ดอนเมือง ประมาณ 7.45 น. ของวันเสาร์

ถึงโฮจิมินห์ ประมาณ 9.30 น. ใช้เวลาบิน 1 ชม.30 นาที โดยประมาณ (เวลาเท่ากับเมืองไทยบ้านเรา หมดปัญหาการตั้งเวลา)
เมื่อไปถึงเราก็มุ่งตรงไปที่เค้าเตอร์โทรศัพท์ก่อนเลย เพื่อซื้อซิมการ์ด Internet
เมื่อเราเดินออกจากประตูรับกระเป๋า ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ มีหลายเจ้าให้เลือกมากๆเลย
จากการทำการบ้านมาก่อนและจากการเดินสำรวจราคา (ตามสไตล์แกงค์เด็กเศรษฐศาสตร์)
เราเลือกใช้บริการของ VINAPHONE ค่ะ Internet 5 GB ใช้ได้ 1 เดือน ในราคา 105.000 VND

จากนั้นเรานั่งรถเข้าเมืองค่ะ เนื่องจากวันนี้เราแพลนกันว่าจะพักที่มุยเน่ ดังนั้นจุดหมายแรกที่จะไปก็คือ บริษัทรถทัวร์ค่ะ
ออกจากสนามบิน เลี้ยวขวา จะเจอจุดขึ้นรถประจำทางชัดเจนค่ะ เรานั่งรถสาย 152 (คันสีเขียว)
เข้าเมือง มุ่งสู่ ถ.ฟาร์มงูหลาว ค่ารถคนละ 6.000 VND หรือ ประมาณ 9 บาทไทย ราคามิตรภาพมากกก
เรานั่งกันไปเรื่อยๆ ประมาณ 30 นาที

ตอนแรกอ่านในรีวิวบอกว่าให้ลงตรงวงเวียนตลาดเบนถัน แล้วเดินเลียบสวนสาธารณะมาเรื่อยๆ
แต่จากการสอบถามคุณลุงกระเป๋ารถเมย์และความช่วยเหลือจากสามีภรรยาชาวเวียดนามที่พอจะพูดอังกฤษได้
ทำให้เราพบว่า นั่งเลยจากป้ายเบนถันไป 1 ป้ายค่ะ จะเจอแยกเล็กๆ มีซอยคล้ายๆถนนข้าวสารบ้านเราอยู่ทางขวามือ
ลุงกระเป๋ารถเมย์ก็บอกให้ลง แล้วชี้ๆพร้อมบอกว่า ฟาร์มงูหลาว
เราก็ลงมาแล้วเดินตาม Google map เลยค่ะ (บอกเลยงานนี้กูเกิ้ลแมบช่วยได้จริงๆ)
ไม่นานก็ถึงบริษัทรถทัวร์ Phuong Trang หรือ Futa Bus line สีส้มๆ เราก็ไปขึ้นตั๋วค่ะ

ลืมบอกไปว่าเราจองตั๋วออนไลน์จากเมืองไทย โดยเลือกตั๋วรถนอน ค่ารถคนละ 129.000 VND ค่ะ
พวกเราจองรถรอบ 13.00 น. ทางบริษัทแจ้งว่าต้องมาถึงท่ารถก่อนเวลา 1 ชม. เมื่อเวลาเหลือ เราตัดสินใจมาที่ The SinhTourist
เพื่อจองตั๋วรถจากมุยเน่ -ดาลัท (ราคาคนละ 349.000 VND) และเดย์ทัวร์ที่ดาลัท (ราคาคนละ 264.000 VND ประมาณ 400 บาท )
บริษัทอยู่เยื้องๆกันเลย

กว่าจะจองเสร็จ ก็ใกล้เวลาขึ้นรถแล้วก็เลยหาอะไรง่ายๆในซุปเปอร์แถวนั้นกินรองท้อง
(ในรูปซื้อข้างๆซุปเปเปอร์นะ อร่อยดี ราคาคุณธรรมดี)

ตัดภาพมาที่ท่ารถในเวลาประมาณ 12.30 น. ก็มีรถตู้มารับเราจากบริษัท เพื่อไปต่อรถทัวร์แถวๆชานเมือง
ก่อนขึ้นรถเค้าจะให้เราถอดรองเท้าใส่ไว้ในถุงดำ แล้วก็หิ้วขึ้นรถไป
ขอบอกว่างานนี้ใครนอนชั้นล่างถือว่าพลาด เพราะอาจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ลอยมาได้
(เวลาจองในเน็ท ให้เลือก second floor=ชั้นบน)


นอนๆนั่งๆไปเรื่อยๆ 19.00 น. ก็ถึง มุยเน่ เราเลือกที่พักคือ Joe's Café & Garden รถนอนที่นั่งมาผ่านหน้าที่พักเลย
นับว่าทำเลดีงามและสะดวกมาก ที่พักบรรยากาศดีอบอุ่น และชิวๆ เสียดายเราพักแค่คืนเดียว


ถนนแถวหน้า รร.เป็นเหมือนถนนเลียบชายทะเลแถวพัทยาภูเก็ตบ้านเรา แต่ต่างกันที่ว่าจะสงบและไม่แออัดเท่า
เมื่อวางกระเป๋าเข้าที่พักสิ่งแรกที่ทำเลย คือ อาหารเย็น เราเดินกันไปเรื่อยๆโดยมีคำถามว่ากินร้านไหนถึงอร่อยและดี
แฟน จขกท.เลยมีไอเดียให้ถามคนท้องถิ่น เราก็เลยถามได้ความว่า ร้าน Lam Tong Quan
เราสั่งอาหารกันไปชุดใหญ่ มีทั้งข้าวผัด ปูนึ่ง หอยนางรม ฯลฯ ราคาค่าเสียหายหมดไป เท่าไรจำไม่ได้
แอบแพงแต่ก็เครนะ เพราะปูนี่สด เนื้อหวานและเนื้อแน่นมากจิงๆ

ทุกอย่างราบเรียบ จู่ๆประมาณ 3 ทุ่ม หนึ่งในสมาชิก คือ แฟนเรา เกิดอาการปวดแสบท้องและอาเจียนไม่หยุดตั้งแต่ 3 ทุ่มจนถึง 5 ทุ่ม
พอเห็นอาการไม่ดีขึ้นเลยตัดสินใจไปคลีนิกกัน สอบถามล็อบบี้ รร.บอกว่า คลินิกที่เปิดอยู่มีคลินิกเดียวคือ Vita คลินิก
ประมาณ 800 เมตรจาก รร. แต่ด้วยความที่คนป่วยหมดแรงแล้วเดินไม่ไหว เลยนั่งแท็กซี่ไป รร.แจ้งว่าไม่เกิน 10.000 VND
เมื่อเรียกแท็กซี่ เราบอกว่าไป Vita คลินิกซึ่งอยู่ทางขวามือ แต่แท็กซี่กลับบอกว่าอ๋อๆ Doctor แล้วก็ขับไปทางซ้ายมือ
เราก็อ้าว!!! ทำไมไปคนละทาง ถามย้ำไปอีกแท๊กซี่ก็ตอบคำเดินคือ Doctor นั่งไปไม่นานเมื่อไปถึงพบว่าคลีนิกที่แท๊กซี่พาไปนั้นมันปิด!!! ค่ะ
เรากับเพื่อนก็เริ่มละ คือ อะไรยังไง รอดูต่อไป แท็กซี่กลับรถ ขับผ่านหน้า รร.เรามา นิสเดียวจิงๆถึงคลินิก ค่ารถ 60.000 VND
คือ ณ จุดนั้นโมโหมากเพราะรู้ว่ามันโกง พาไปขับวน ซึ่งเราก็จะไม่ยอมค่ะ (อ่านในรีวิวมาเยอะว่าระวังโดนโกง)
แท็กซี่ก็ไม่ยอมนะคะ นางล๊อครถไม่ให้ออกค่ะ แรงมากจิงๆ แต่ด้วยที่ว่าคนป่วยไม่ไหวแล้วจะเสียเวลาไม่ได้ เลยต้องยอมจ่ายไปค่ะ
พอมาถึงก็บอกพยาบาลว่าเป็นอะไรมา กรอกประวัติเสร็จ พยาบาลรีบเปิดหน้ากระดาษที่เป็นตารางให้ดูราคาค่ารักษา
ราคาพบหมอ 40 USD ค่ะ (ไม่รวมค่ายาและน้ำเกลือนะจ้ะ) โอ้ว!!! แลกเงินมาเผื่อไม่เยอะด้วยสิ เอางัยหละ
แต่ทำงัยได้ คนป่วยไม่ไหวแล้วเลยตกลงรักษาค่ะ หมอให้กินยา และดูอาการ อาการไม่ดีขึ้นเลยเจาะเลือดไปตรวจและให้น้ำเกลือไป 3 ขวดใหญ่

หมดสภาพไปตามๆกัน เราเฝ้าไข้กันที่คลินิกจนถึงตีสอง อาการจึงเริ่มดีขึ้นแต่ยังไม่หยุดอาเจียน
และหมอบอกว่าคนป่วยต้องนอนที่คลินิก ด้วยความที่ตอนเช้าเราซื้อทริปมุยเน่ครึ่งวันเช้า (4.30 น. -8.30 น.)
นัดรถไว้ว่าตี 4.30 น. จะมารับ เราเลยต้องกลับไปพักที่ รร.แล้วให้คนป่วยนอนอยู่กับหมอที่คลินิก
โดยที่เราให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ที่พักเลขห้องเอาไว้ในกรณีฉุกเฉิน
วันแรกก็สนุกแล้ว ใช่ไหมหละ !!!!!! พวกเราจะเจอด่านทดสอบอะไรจากมุยเน่อีก ติดตามตอนต่อไปนะคะ ....
ตะลุยเวียดนามใต้ (โฮจิมินห์-มุยเน่-ดาลัท) Vietnam2017atriptoremember
Part 2
https://ppantip.com/topic/36138709
Part 3
https://ppantip.com/topic/36157720
Part 4
https://ppantip.com/topic/36157814
[CR] ตะลุยเวียดนามใต้ (โฮจิมินห์-มุยเน่-ดาลัท) Vietnam2017atriptoremember
เราจะมาแชร์ประสบการณ์เที่ยวเวียดนามใต้ (โฮจิมินห์-มุยเน่-ดาลัท) ค่ะ
รับรองว่าไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใครแน่นอน
บรรยากาศเที่ยวสบายๆ ราคาไม่แรงมาก พนักงานออฟฟิศแบบเราๆคงเที่ยวได้ ทริปของเราไปทั้งหมด 4 วันค่ะ
วันแรก ดอนเมือง-โฮจิมินห์-มุยเน่ (นอนมุยเน่)
วันที่ 2 มุยเน่ (ทะเลทรายขาว,ทะเลทรายแดง,แฟรี่สตรีม,หมู่บ้านชาวประมง)-ดาลัท (นอนดาลัท)
วันที่ 3 เที่ยวดาลัท (เดย์ทัวร์) – เดินเล่นรอบดาลัท (นอนดาลัท)
วันที่ 4 ดาลัท(เครื่องบิน)-โฮจิมินห์-ดอนเมือง
ทริปนี้เรามีสมาชิก 4 คนค่ะ งานนี้จองล่วงหน้าข้ามปีเลยทีเดียว (ออกแนวอยากไปมากๆ)
ได้ตั๋วไป-กลับ ในราคา 1,980 บาท จากนั้น ก็จองที่พักที่มุยเน่ และดาลัทค่ะ
การจองก็ง่ายๆเลย เราเลือกจองผ่าน Booking.com เพราะเป็นเว็บที่ไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้า ไปจ่ายวันเข้าพักเลย
สำคัญสามารถยกเลิกการจองล่วงหน้าได้ไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย ระหว่างรอเวลาวันเดินทางเราก็อ่านกระทู้พันทิพไปเรื่อยๆเพื่อเก็บข้อมูล
ถึงโฮจิมินห์ ประมาณ 9.30 น. ใช้เวลาบิน 1 ชม.30 นาที โดยประมาณ (เวลาเท่ากับเมืองไทยบ้านเรา หมดปัญหาการตั้งเวลา)
เมื่อไปถึงเราก็มุ่งตรงไปที่เค้าเตอร์โทรศัพท์ก่อนเลย เพื่อซื้อซิมการ์ด Internet
เมื่อเราเดินออกจากประตูรับกระเป๋า ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ มีหลายเจ้าให้เลือกมากๆเลย
จากการทำการบ้านมาก่อนและจากการเดินสำรวจราคา (ตามสไตล์แกงค์เด็กเศรษฐศาสตร์)
เราเลือกใช้บริการของ VINAPHONE ค่ะ Internet 5 GB ใช้ได้ 1 เดือน ในราคา 105.000 VND
จากนั้นเรานั่งรถเข้าเมืองค่ะ เนื่องจากวันนี้เราแพลนกันว่าจะพักที่มุยเน่ ดังนั้นจุดหมายแรกที่จะไปก็คือ บริษัทรถทัวร์ค่ะ
ออกจากสนามบิน เลี้ยวขวา จะเจอจุดขึ้นรถประจำทางชัดเจนค่ะ เรานั่งรถสาย 152 (คันสีเขียว)
เข้าเมือง มุ่งสู่ ถ.ฟาร์มงูหลาว ค่ารถคนละ 6.000 VND หรือ ประมาณ 9 บาทไทย ราคามิตรภาพมากกก
เรานั่งกันไปเรื่อยๆ ประมาณ 30 นาที
แต่จากการสอบถามคุณลุงกระเป๋ารถเมย์และความช่วยเหลือจากสามีภรรยาชาวเวียดนามที่พอจะพูดอังกฤษได้
ทำให้เราพบว่า นั่งเลยจากป้ายเบนถันไป 1 ป้ายค่ะ จะเจอแยกเล็กๆ มีซอยคล้ายๆถนนข้าวสารบ้านเราอยู่ทางขวามือ
ลุงกระเป๋ารถเมย์ก็บอกให้ลง แล้วชี้ๆพร้อมบอกว่า ฟาร์มงูหลาว
เราก็ลงมาแล้วเดินตาม Google map เลยค่ะ (บอกเลยงานนี้กูเกิ้ลแมบช่วยได้จริงๆ)
ไม่นานก็ถึงบริษัทรถทัวร์ Phuong Trang หรือ Futa Bus line สีส้มๆ เราก็ไปขึ้นตั๋วค่ะ
ลืมบอกไปว่าเราจองตั๋วออนไลน์จากเมืองไทย โดยเลือกตั๋วรถนอน ค่ารถคนละ 129.000 VND ค่ะ
พวกเราจองรถรอบ 13.00 น. ทางบริษัทแจ้งว่าต้องมาถึงท่ารถก่อนเวลา 1 ชม. เมื่อเวลาเหลือ เราตัดสินใจมาที่ The SinhTourist
เพื่อจองตั๋วรถจากมุยเน่ -ดาลัท (ราคาคนละ 349.000 VND) และเดย์ทัวร์ที่ดาลัท (ราคาคนละ 264.000 VND ประมาณ 400 บาท )
บริษัทอยู่เยื้องๆกันเลย
กว่าจะจองเสร็จ ก็ใกล้เวลาขึ้นรถแล้วก็เลยหาอะไรง่ายๆในซุปเปอร์แถวนั้นกินรองท้อง
(ในรูปซื้อข้างๆซุปเปเปอร์นะ อร่อยดี ราคาคุณธรรมดี)
ตัดภาพมาที่ท่ารถในเวลาประมาณ 12.30 น. ก็มีรถตู้มารับเราจากบริษัท เพื่อไปต่อรถทัวร์แถวๆชานเมือง
ก่อนขึ้นรถเค้าจะให้เราถอดรองเท้าใส่ไว้ในถุงดำ แล้วก็หิ้วขึ้นรถไป
ขอบอกว่างานนี้ใครนอนชั้นล่างถือว่าพลาด เพราะอาจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ลอยมาได้
(เวลาจองในเน็ท ให้เลือก second floor=ชั้นบน)
นอนๆนั่งๆไปเรื่อยๆ 19.00 น. ก็ถึง มุยเน่ เราเลือกที่พักคือ Joe's Café & Garden รถนอนที่นั่งมาผ่านหน้าที่พักเลย
นับว่าทำเลดีงามและสะดวกมาก ที่พักบรรยากาศดีอบอุ่น และชิวๆ เสียดายเราพักแค่คืนเดียว
ถนนแถวหน้า รร.เป็นเหมือนถนนเลียบชายทะเลแถวพัทยาภูเก็ตบ้านเรา แต่ต่างกันที่ว่าจะสงบและไม่แออัดเท่า
เมื่อวางกระเป๋าเข้าที่พักสิ่งแรกที่ทำเลย คือ อาหารเย็น เราเดินกันไปเรื่อยๆโดยมีคำถามว่ากินร้านไหนถึงอร่อยและดี
แฟน จขกท.เลยมีไอเดียให้ถามคนท้องถิ่น เราก็เลยถามได้ความว่า ร้าน Lam Tong Quan
เราสั่งอาหารกันไปชุดใหญ่ มีทั้งข้าวผัด ปูนึ่ง หอยนางรม ฯลฯ ราคาค่าเสียหายหมดไป เท่าไรจำไม่ได้
แอบแพงแต่ก็เครนะ เพราะปูนี่สด เนื้อหวานและเนื้อแน่นมากจิงๆ
ทุกอย่างราบเรียบ จู่ๆประมาณ 3 ทุ่ม หนึ่งในสมาชิก คือ แฟนเรา เกิดอาการปวดแสบท้องและอาเจียนไม่หยุดตั้งแต่ 3 ทุ่มจนถึง 5 ทุ่ม
พอเห็นอาการไม่ดีขึ้นเลยตัดสินใจไปคลีนิกกัน สอบถามล็อบบี้ รร.บอกว่า คลินิกที่เปิดอยู่มีคลินิกเดียวคือ Vita คลินิก
ประมาณ 800 เมตรจาก รร. แต่ด้วยความที่คนป่วยหมดแรงแล้วเดินไม่ไหว เลยนั่งแท็กซี่ไป รร.แจ้งว่าไม่เกิน 10.000 VND
เมื่อเรียกแท็กซี่ เราบอกว่าไป Vita คลินิกซึ่งอยู่ทางขวามือ แต่แท็กซี่กลับบอกว่าอ๋อๆ Doctor แล้วก็ขับไปทางซ้ายมือ
เราก็อ้าว!!! ทำไมไปคนละทาง ถามย้ำไปอีกแท๊กซี่ก็ตอบคำเดินคือ Doctor นั่งไปไม่นานเมื่อไปถึงพบว่าคลีนิกที่แท๊กซี่พาไปนั้นมันปิด!!! ค่ะ
เรากับเพื่อนก็เริ่มละ คือ อะไรยังไง รอดูต่อไป แท็กซี่กลับรถ ขับผ่านหน้า รร.เรามา นิสเดียวจิงๆถึงคลินิก ค่ารถ 60.000 VND
คือ ณ จุดนั้นโมโหมากเพราะรู้ว่ามันโกง พาไปขับวน ซึ่งเราก็จะไม่ยอมค่ะ (อ่านในรีวิวมาเยอะว่าระวังโดนโกง)
แท็กซี่ก็ไม่ยอมนะคะ นางล๊อครถไม่ให้ออกค่ะ แรงมากจิงๆ แต่ด้วยที่ว่าคนป่วยไม่ไหวแล้วจะเสียเวลาไม่ได้ เลยต้องยอมจ่ายไปค่ะ
พอมาถึงก็บอกพยาบาลว่าเป็นอะไรมา กรอกประวัติเสร็จ พยาบาลรีบเปิดหน้ากระดาษที่เป็นตารางให้ดูราคาค่ารักษา
ราคาพบหมอ 40 USD ค่ะ (ไม่รวมค่ายาและน้ำเกลือนะจ้ะ) โอ้ว!!! แลกเงินมาเผื่อไม่เยอะด้วยสิ เอางัยหละ
แต่ทำงัยได้ คนป่วยไม่ไหวแล้วเลยตกลงรักษาค่ะ หมอให้กินยา และดูอาการ อาการไม่ดีขึ้นเลยเจาะเลือดไปตรวจและให้น้ำเกลือไป 3 ขวดใหญ่
และหมอบอกว่าคนป่วยต้องนอนที่คลินิก ด้วยความที่ตอนเช้าเราซื้อทริปมุยเน่ครึ่งวันเช้า (4.30 น. -8.30 น.)
นัดรถไว้ว่าตี 4.30 น. จะมารับ เราเลยต้องกลับไปพักที่ รร.แล้วให้คนป่วยนอนอยู่กับหมอที่คลินิก
โดยที่เราให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ที่พักเลขห้องเอาไว้ในกรณีฉุกเฉิน
วันแรกก็สนุกแล้ว ใช่ไหมหละ !!!!!! พวกเราจะเจอด่านทดสอบอะไรจากมุยเน่อีก ติดตามตอนต่อไปนะคะ ....
ตะลุยเวียดนามใต้ (โฮจิมินห์-มุยเน่-ดาลัท) Vietnam2017atriptoremember
Part 2 https://ppantip.com/topic/36138709
Part 3 https://ppantip.com/topic/36157720
Part 4 https://ppantip.com/topic/36157814