คำเตือน
กระทู้นี้เหมาะสำหรับ
- คนที่สนใจขับรถเที่ยวเอง
- รสนิยมเที่ยวหรูสวนทางกับเงินในกระเป๋า
- เน้นนอนโรงแรม หรือ Airbnb (ไม่ถูกจริตกับการพักโฮสเทล ว้ายอย่าด่านะ 55)
- หมูที่แข็งแรง สามารถกินจุ และ เดินวันละหลายกิโลได้
ทริปนี้เป็นการพาเที่ยว เยอรมันนี-สวิตเซอร์แลนด์-ฝรั่งเศส โดยการขับรถเที่ยว ยุโรปถือได้ว่าเป็นเส้นทางในฝันของคนที่ชอบขับรถเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากถนนหนทางจะดีมากแล้ว วิวทิวทัศน์ระหว่างเมืองก็สวยงามไม่แพ้กัน
ข้างล่างนี้คือเส้นการเดินทางของเราทั้งทริป เริ่มจากเยอรมัน ไปจบที่ฝรั่งเศส เป็นเวลา 11 วัน 11 เมือง งบประมาณต่อคน ไม่เกิน 70,000 บาทจ้า
แผนการเดินทาง
BKK > Cologne > Frankfurt > Heidelberg > Stuggart > Munich > Fussen > Zurich > Luzerne > Interlaken > Bern > Paris
รถเช่า เลือกยังไงดี
1) ยี่ห้อ
รถเช่ามีหลายยี่ห้อและหลายราคาให้เลือก คนถามมาเยอะมากว่าเลือกยังไง จริงๆแล้วมันก็ตระกูลแฟมมิลี่เดียวกันนี่แหละ แกหลอกชั้นมาตลอด
Avis เป็นบริษัทเดียวกับ Budget, Zipcar and Payless
Hertz เป็นบริษัทเดียวกับ Dollar and Thrifty
Enterprise เป็นบริษัทเดียวกับ Alamo and National
Advantage เป็นบริษัทเดียวกับ E-Z Rent-A-Car
(ข้อมูลเพิ่มเติม ดูได้จาก
http://www.independenttraveler.com/ )
ราคาที่ต่างกัน จริงๆคุณภาพรถไม่ต่างกันมากมาย อย่างรถที่ใช้ Avis เก่าหน่อยก็เอามาใช้ Budget เป็นต้น
ทริปนี้เราเลือกใช้ Sixt ข้อดีคือ
- ราคาถูก เพราะเป็นบริษัทที่มีต้นกำเนิดในเยอรมันนั่นเอง (ตรวจสอบจากเวป
http://www.rentalcars.com/ ก่อนนะจ้ะ)
- ที่รับรถสะดวก อยู่กลางเมือง (*ของบริษัทอื่นส่วนใหญ่ชอบให้รับรถที่สนามบิน*) วิธีนี้จะช่วยประหยัดค่ารถและค่าที่จอดรถเมืองแรกไปเพราะยังไม่ต้องเช่าให้เช่าวันที่เดินทางออกไปอีกเมืองแทน
- ไม่มีค่า young driver (แต่เฉพาะที่เยอรมันนะ sixt ที่ประเทศอื่นก็เก็บ)
- คืนรถประเทศอื่นเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า (เลือกไปคืนฝรั่งเศสเพราะราคาถูกกว่าประเทศอื่น)
2) อายุคนขับ
อย่างที่บอกไปว่าส่วนใหญ่รถเช่าจะกำหนดอายุคนขับ 23 บ้าง 25 บ้าง ต้องดูให้ดีๆเพราะค่า young driver จะแพงขึ้นมาอีกมากทีเดียว
3) ใบขับขี่
ทำใบขับขี่สากลที่ไทย ไม่ต้องสอบจ่ายเงินอย่างเดียว 505 บาท ทำเสร็จรับเลย การันตี 20 นาที ยังกะส่งพิซซ่า
(ดูรายละเอียด
https://www.dlt.go.th/th/driving-license/view.php?_did=90)
4) เกียร์และเครื่องยนต์
รถยุโรปส่วนใหญ่ใช้เกียร์ธรรมดา ราคารถเช่าก็จะถูกกว่าเกียร์ออโต้ ถ้าขับเกียร์ธรรมดาได้ก็จะประหยัดมาก ที่สำคัญให้เลือกรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล จะประหยัดกว่า เพราะทริปนี่เราต้องขับรถทางไกล (มาก)
5) วงเวียน
ศึกษาวิธีการขับไปก่อนช่วยได้มาก อย่างน้อยเรื่องความมั่นใจ เพราะยุโรปใช้วงเวียนเยอะมาก แรกๆขับจะงง เพราะยังกะไม่ถูกว่าจะเข้าจะออกวงเวียนยังไง แต่ขับเรื่อยๆก็ชินไปเอง
6) Autobahn
เยอรมันมีถนนที่เรียกว่า Autobahn คือไม่จำกัดความเร็ว รถเลนซ้ายสุดคือเร็วสุด ถ้าไม่ซิ่งพอ หลบมาเลนอื่นนะ เค้าวิ่งกันเร็วมาก เราไปเหยียบมาแล้ว 240 กม/ชม. (เก็บกดจากไทย เพราะเหยียบได้แถวสีลมไม่เกิน 40) แต่แอบเปลืองน้ำมัน แนะนำว่าเก็บเงินไปกินข้าวดีกว่า อิอิ
ถ้าถามว่าขับรถที่ไหนยากที่สุด เห็นจะเป็นที่ปารีส เพราะเป็นเมืองหลวง ถนนแคบ รถเยอะ โดยเฉพาะแท็กซี่ ขับหวาดเสียวไม่แพ้พี่ไทย เราเลยรู้สึกว่าต้องขับระวังสุดๆที่นี่
7) แผนที่
เดี๋ยวนี้เราสามารถโหลด offline map จาก google map มาใช้ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปิดเน็ตให้เปลืองเน็ตเวลาขับรถ
หรือถ้าเช่ารถพวก BMW บางคันอาจโชคดีแบบเรา มี GPS มากับตัวรถเลยไม่ต้องซื้อเพิ่ม
หาที่พักยังไงดี
สำหรับนักท่องเที่ยวคงหนีไม่พ้น 3 เว็ปหลักๆ Booking, Agoda, Airbnb
ส่วนตัวชอบ Booking ที่สุดเพราะใช้ง่าย แก้ไขข้อมูลสะดวก และเท่าที่ใช้มา ไม่เคยเจอปัญหาเลย ส่วน Agoda บางทีชอบมีเมลล์ให้ส่งรหัสบัตรคอนเฟิร์มใหม่ เรากลัวไม่ปลอดภัย แถมที่พักราคาแพงกว่านิดหน่อย ถ้า Booking ราคาไม่ได้จริงๆ เราถึงจะไปดูเว็ปอื่น
มีทริคสำหรับวิธีการจองคือ
- คนที่ขับรถเที่ยว ให้จองโรงแรมที่
มีที่จอดรถเป็นหลัก เพราะที่จอดรถที่ยุโรปแพงมาก ถ้ายิ่งฟรีได้ยิ่งดี ถ้าไม่ฟรี จองกับโรงแรมส่วนใหญ่เสีย 10-15 ยูโร ต่อคืน เกินกว่านั้นเปลี่ยนโรงแรมค่ะ
- ดูโรงแรมให้ดู season ที่จะไปเที่ยวด้วย ที่ยุโรปส่วนใหญ่ร้อยละ 90 ไม่มีแอร์ค่ะ ซึ่งหน้าร้อนนี่ร้อนจริงยิ่งกว่าไทยอีกค่ะ หากต้องไปช่วงหน้าร้อน จริงๆ ให้หาโรงแรมที่มีแอร์ (หน้าร้อนยุโรปไม่ใช่ช่วงเมษาเหมือนบ้านเรานะคะ จะเป็นช่วง มิย-สค)
- ให้จองแบบ refund ได้ไปก่อน อย่าเพิ่งคิดว่าราคาถูกแล้ว เพราะมันจะมีคนประเภทจองๆไว้ก่อนแล้ว cancel ค่ะ ทีนี้เวลาใกล้ๆเดินทาง เรามากดดูใหม่ จะได้โรงแรมถูกๆเต็มเลยค่ะ แล้วค่อยไป cancel ของเรา
พูดไปยาวเหยียด มาเริ่มทริปกันเลยนะคะ
[CR] ใครๆก็ขับรถเที่ยวได้ | รีวิวทริป 11 วัน 11 เมือง เยอรมันนี – สวิตเซอร์แลนด์ – ฝรั่งเศส
กระทู้นี้เหมาะสำหรับ
- คนที่สนใจขับรถเที่ยวเอง
- รสนิยมเที่ยวหรูสวนทางกับเงินในกระเป๋า
- เน้นนอนโรงแรม หรือ Airbnb (ไม่ถูกจริตกับการพักโฮสเทล ว้ายอย่าด่านะ 55)
- หมูที่แข็งแรง สามารถกินจุ และ เดินวันละหลายกิโลได้
ทริปนี้เป็นการพาเที่ยว เยอรมันนี-สวิตเซอร์แลนด์-ฝรั่งเศส โดยการขับรถเที่ยว ยุโรปถือได้ว่าเป็นเส้นทางในฝันของคนที่ชอบขับรถเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากถนนหนทางจะดีมากแล้ว วิวทิวทัศน์ระหว่างเมืองก็สวยงามไม่แพ้กัน
ข้างล่างนี้คือเส้นการเดินทางของเราทั้งทริป เริ่มจากเยอรมัน ไปจบที่ฝรั่งเศส เป็นเวลา 11 วัน 11 เมือง งบประมาณต่อคน ไม่เกิน 70,000 บาทจ้า
แผนการเดินทาง
BKK > Cologne > Frankfurt > Heidelberg > Stuggart > Munich > Fussen > Zurich > Luzerne > Interlaken > Bern > Paris
รถเช่า เลือกยังไงดี
1) ยี่ห้อ
รถเช่ามีหลายยี่ห้อและหลายราคาให้เลือก คนถามมาเยอะมากว่าเลือกยังไง จริงๆแล้วมันก็ตระกูลแฟมมิลี่เดียวกันนี่แหละ แกหลอกชั้นมาตลอด
Avis เป็นบริษัทเดียวกับ Budget, Zipcar and Payless
Hertz เป็นบริษัทเดียวกับ Dollar and Thrifty
Enterprise เป็นบริษัทเดียวกับ Alamo and National
Advantage เป็นบริษัทเดียวกับ E-Z Rent-A-Car
(ข้อมูลเพิ่มเติม ดูได้จาก http://www.independenttraveler.com/ )
ราคาที่ต่างกัน จริงๆคุณภาพรถไม่ต่างกันมากมาย อย่างรถที่ใช้ Avis เก่าหน่อยก็เอามาใช้ Budget เป็นต้น
ทริปนี้เราเลือกใช้ Sixt ข้อดีคือ
- ราคาถูก เพราะเป็นบริษัทที่มีต้นกำเนิดในเยอรมันนั่นเอง (ตรวจสอบจากเวป http://www.rentalcars.com/ ก่อนนะจ้ะ)
- ที่รับรถสะดวก อยู่กลางเมือง (*ของบริษัทอื่นส่วนใหญ่ชอบให้รับรถที่สนามบิน*) วิธีนี้จะช่วยประหยัดค่ารถและค่าที่จอดรถเมืองแรกไปเพราะยังไม่ต้องเช่าให้เช่าวันที่เดินทางออกไปอีกเมืองแทน
- ไม่มีค่า young driver (แต่เฉพาะที่เยอรมันนะ sixt ที่ประเทศอื่นก็เก็บ)
- คืนรถประเทศอื่นเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า (เลือกไปคืนฝรั่งเศสเพราะราคาถูกกว่าประเทศอื่น)
2) อายุคนขับ
อย่างที่บอกไปว่าส่วนใหญ่รถเช่าจะกำหนดอายุคนขับ 23 บ้าง 25 บ้าง ต้องดูให้ดีๆเพราะค่า young driver จะแพงขึ้นมาอีกมากทีเดียว
3) ใบขับขี่
ทำใบขับขี่สากลที่ไทย ไม่ต้องสอบจ่ายเงินอย่างเดียว 505 บาท ทำเสร็จรับเลย การันตี 20 นาที ยังกะส่งพิซซ่า
(ดูรายละเอียด https://www.dlt.go.th/th/driving-license/view.php?_did=90)
4) เกียร์และเครื่องยนต์
รถยุโรปส่วนใหญ่ใช้เกียร์ธรรมดา ราคารถเช่าก็จะถูกกว่าเกียร์ออโต้ ถ้าขับเกียร์ธรรมดาได้ก็จะประหยัดมาก ที่สำคัญให้เลือกรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล จะประหยัดกว่า เพราะทริปนี่เราต้องขับรถทางไกล (มาก)
5) วงเวียน
ศึกษาวิธีการขับไปก่อนช่วยได้มาก อย่างน้อยเรื่องความมั่นใจ เพราะยุโรปใช้วงเวียนเยอะมาก แรกๆขับจะงง เพราะยังกะไม่ถูกว่าจะเข้าจะออกวงเวียนยังไง แต่ขับเรื่อยๆก็ชินไปเอง
6) Autobahn
เยอรมันมีถนนที่เรียกว่า Autobahn คือไม่จำกัดความเร็ว รถเลนซ้ายสุดคือเร็วสุด ถ้าไม่ซิ่งพอ หลบมาเลนอื่นนะ เค้าวิ่งกันเร็วมาก เราไปเหยียบมาแล้ว 240 กม/ชม. (เก็บกดจากไทย เพราะเหยียบได้แถวสีลมไม่เกิน 40) แต่แอบเปลืองน้ำมัน แนะนำว่าเก็บเงินไปกินข้าวดีกว่า อิอิ
ถ้าถามว่าขับรถที่ไหนยากที่สุด เห็นจะเป็นที่ปารีส เพราะเป็นเมืองหลวง ถนนแคบ รถเยอะ โดยเฉพาะแท็กซี่ ขับหวาดเสียวไม่แพ้พี่ไทย เราเลยรู้สึกว่าต้องขับระวังสุดๆที่นี่
7) แผนที่
เดี๋ยวนี้เราสามารถโหลด offline map จาก google map มาใช้ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปิดเน็ตให้เปลืองเน็ตเวลาขับรถ
หรือถ้าเช่ารถพวก BMW บางคันอาจโชคดีแบบเรา มี GPS มากับตัวรถเลยไม่ต้องซื้อเพิ่ม
หาที่พักยังไงดี
สำหรับนักท่องเที่ยวคงหนีไม่พ้น 3 เว็ปหลักๆ Booking, Agoda, Airbnb
ส่วนตัวชอบ Booking ที่สุดเพราะใช้ง่าย แก้ไขข้อมูลสะดวก และเท่าที่ใช้มา ไม่เคยเจอปัญหาเลย ส่วน Agoda บางทีชอบมีเมลล์ให้ส่งรหัสบัตรคอนเฟิร์มใหม่ เรากลัวไม่ปลอดภัย แถมที่พักราคาแพงกว่านิดหน่อย ถ้า Booking ราคาไม่ได้จริงๆ เราถึงจะไปดูเว็ปอื่น
มีทริคสำหรับวิธีการจองคือ
- คนที่ขับรถเที่ยว ให้จองโรงแรมที่มีที่จอดรถเป็นหลัก เพราะที่จอดรถที่ยุโรปแพงมาก ถ้ายิ่งฟรีได้ยิ่งดี ถ้าไม่ฟรี จองกับโรงแรมส่วนใหญ่เสีย 10-15 ยูโร ต่อคืน เกินกว่านั้นเปลี่ยนโรงแรมค่ะ
- ดูโรงแรมให้ดู season ที่จะไปเที่ยวด้วย ที่ยุโรปส่วนใหญ่ร้อยละ 90 ไม่มีแอร์ค่ะ ซึ่งหน้าร้อนนี่ร้อนจริงยิ่งกว่าไทยอีกค่ะ หากต้องไปช่วงหน้าร้อน จริงๆ ให้หาโรงแรมที่มีแอร์ (หน้าร้อนยุโรปไม่ใช่ช่วงเมษาเหมือนบ้านเรานะคะ จะเป็นช่วง มิย-สค)
- ให้จองแบบ refund ได้ไปก่อน อย่าเพิ่งคิดว่าราคาถูกแล้ว เพราะมันจะมีคนประเภทจองๆไว้ก่อนแล้ว cancel ค่ะ ทีนี้เวลาใกล้ๆเดินทาง เรามากดดูใหม่ จะได้โรงแรมถูกๆเต็มเลยค่ะ แล้วค่อยไป cancel ของเรา
พูดไปยาวเหยียด มาเริ่มทริปกันเลยนะคะ