แม่ดิฉันติดเหล้าหนักมาก หากวันไหนไม่ได้ดื่มจะมีอาการ มือสั่น ใจสั่น แขนขาไม่มีแรง หงุดหงิด และมีอาการหลอน
ดิฉันเคยพาแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลถึง 2 ครั้งแต่กลับมาก็แอบไปดื่มเหมือนเดิม
ครั้งแรก ดิฉันและแฟนกลับบ้านในช่วงวันหยุดยาว ได้โอกาสเลยนั่งคุยกับแม่เรื่องอยากให้เลิกเหล้า เพราะมีผลเสีย บลาๆๆ เกลี่ยกล่อมอยู่นาน แม่บอกว่าแม่ไม่ได้ติด ถ้าแม่ไม่อยากกินก็ไม่กิน เลยขอแม่ว่าเนื่องจากเป็นวันหยุดยาว อยากอยู่กันอย่างมีความสุขแม่ไม่กินได้ไหม แม่ตอบว่าได้ เราก็สบายใจ พอวันที่ 2 แค่นั้นแหละ นั่งคุยเล่นกันสักพัก อยู่ๆแม่มีอาการชัก ดิฉันและแฟนตกใจมากจึงรีบพาแม่ส่งโรงพยาบาลศูนย์แถวบ้าน คุณหมอให้นอนโรงพยาบาลเพื่อดูอาการ
ที่โรงพยาบาล
คืนแรก แม่อาเจียนเยอะมาก และยอมทานข้าวบ้าง
วันที่ 2 กลางวัน เริ่มมีอาการหลอน ไม่ยอมนอน จะลุกเดินตลอด แล้วบ่นอยากกลับบ้าน กลางคืน ไม่ยอมนอนเลย โวยวาย จะลุกเดิน จนพี่ๆพยาบาลต้องช่วยกันกด แล้วเอาเชือกมามัด เพราะแม่แรงเยอะมาก ไม่รู้เอาแรงมาจากไหน ด่ากราดพยาบาลทุกคน คือออกฤทธิ์ ออกเดชสุดๆ จนดิฉันสงสารคนไข้เตียงข้างๆมาก
วันที่ 3 คุณหมอที่ศูนย์แจ้งให้ส่งตัวไปที่ โรงพยายาบาลใหญ่ในตัวเมือง เพราะเนื่องจากอาการหลอนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่ศุนย์ดูแลไม่ไหว กลัวจะเป็นอันตรายกับคนไข้
วันที่ 4 ที่โรงพยายาบาลในตัวเมือง มีเตียงไม่พอ ต้องนอนอยู่ในรถเข็นแบบนอนและมัดมือ มัดเท้า และมัดตัว เนื่องจากดิ้นเยอะมาก คุณหมอได้ให้ยานอนหลับไปหลายรอบมาก เพราะอยากให้ร่างกายแม่ได้พัก เพราะไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว แต่ยานอนหลับไม่เป็นผล คุยคนเดียวตลอดคืน และยังคงดิ้น บ่นด่า จากก้าวร้าว ด่ากราดไม่ได้ผล เริ่มอ่อนลง พูดจาขอร้องดีๆ อยากกลับบ้านบ้าง ให้แก้มัดบ้าง ไปซื้อยาสตรีให้แม่หน่อย (ฉลาดมาก ยาสตรีมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์) อ้อนว้อนดินฉันไม่ได้ผล ก็ร้องเรียกคนอื่นที่เดินผ่านไปผ่านมา บอกพี่จ้าช่วยหนูด้วย สาระพัดวิธีเพื่อให้ได้กินเหล้า ดินฉันสงสารแม่มาก แต่คุณหมอบอกให้อดทนอาการที่เป็นตอนนี้เรียกว่าอาการอยากเหล้า อีก 2-3 วันจะดีขึ้น เฮ้อออ
วันที่ 5 วันที่ 5 หลังจากเริ่มอ่อนแรงลง เพราะเพลียมากและอาการอยากเหล้าน่าจะดีขึ้น เริ่มบ่นปวดฉี่ และอุจจาระ จากที่ 4 วันไม่เข้าห้องน้ำเลยจากนั้นหมอก็ให้แก้มัดได้ ให้ลุกกินข้าวได้ เริ่มคุยรู้เรื่อง และกลับมาเป็นคนเดิม (แม่ตอนไม่ดื่มเหล้าจะน่ารักมาก)
พักอีก 2 วันคุณหมอก็ให้กลับบ้านได้ พร้อมนัดดูอาการต่อเนื่อง ทั้งด้านร่างกาย และสุขภาพจิต
ครั้งที่ 2 (ประมาณ 2 ปี หลังจากครั้งแรก)
รอบนี้ต่างจากรอบแรก เพราะร่างกายอ่อนแอมากจากการดื่มอย่างหนัก ลุกเดินเองไม่ได้ เพ้อ เห็นภาพหลอน ดิฉันจึงนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ เจาะเลือดพบผลเลือดวิกฤตหลายตัว ไตอาจจะวายเฉียบพลันได้ จึงส่งต่อ โรงพยาบาลในเมือง
นอนโรงพยาบาลในเมือง 5 คืน คุณหมอให้ยาถ่ายเพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย เราต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ให้แม่ทั้งคืน ประมาณ 3 คืน อาการก็เริ่มดีขึ้น หมอรอดูผลเลือดอีก 2 วัน โชคดีที่ผลเลือดกลับมาปกติ เลยกลับบ้านได้
แต่ทุกครั้งหลังกลับมาดิฉันจะคุยกับแม่ทุกครั้ง ขอร้องให้อย่ากลับไปดื่มอีก (คุณหมอบอกว่าอาการอยากเหล้ารุนแรงจะไม่เป็นอีกหากคนไข้ไม่กลับไปดื่ม) ถ้าเกิดรักษาไม่หายแล้วผลเลือดแย่กว่านี้ หรือต้องฟอกไตจะทำยังไง แม่ก็รับปาก สุดท้ายก็แอบไปดื่มเหมือนเดิม
ผ่านไปปีกว่า
จนวันนี้เริ่มมีอาการหลอน เดินไหว้ตู้เย็นบ้าง คุยคนเดียวบ้าง ตี 2 ออกไปยืนด่าใครไม่รู้หน้าบ้าน หมาเห่าทั้งคืน
ดิฉันควรจะทำอย่างไรต่อดีค่ะ เครียดมาก มันเหมือนเราพยายามช่วยเขา รักษาเขา แต่เขาไม่เห็นใจเราเลย
ดินฉันก็ต้องทำงาน มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบไม่สามารถอยู่ดูแลเขาได้ตลอด
ขอคำปรึกษาจากทุกคนด้วยค่ะ เผื่อจะมีคำแนะนำที่ดีๆ พิมพ์ไปร้องไห้ไป T_T
พึ่งตั้งกระทู้ครั้งแรก หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะค่ะ
** แก้ไขคำผิด
แม่ติดเหล้าหนักมาก รักษาที่โรงพยายาบาลมาแล้ว 2 ครั้งยังเลิกไม่ได้ ทำอย่างไรดีค่ะ
ดิฉันเคยพาแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลถึง 2 ครั้งแต่กลับมาก็แอบไปดื่มเหมือนเดิม
ครั้งแรก ดิฉันและแฟนกลับบ้านในช่วงวันหยุดยาว ได้โอกาสเลยนั่งคุยกับแม่เรื่องอยากให้เลิกเหล้า เพราะมีผลเสีย บลาๆๆ เกลี่ยกล่อมอยู่นาน แม่บอกว่าแม่ไม่ได้ติด ถ้าแม่ไม่อยากกินก็ไม่กิน เลยขอแม่ว่าเนื่องจากเป็นวันหยุดยาว อยากอยู่กันอย่างมีความสุขแม่ไม่กินได้ไหม แม่ตอบว่าได้ เราก็สบายใจ พอวันที่ 2 แค่นั้นแหละ นั่งคุยเล่นกันสักพัก อยู่ๆแม่มีอาการชัก ดิฉันและแฟนตกใจมากจึงรีบพาแม่ส่งโรงพยาบาลศูนย์แถวบ้าน คุณหมอให้นอนโรงพยาบาลเพื่อดูอาการ
ที่โรงพยาบาล
คืนแรก แม่อาเจียนเยอะมาก และยอมทานข้าวบ้าง
วันที่ 2 กลางวัน เริ่มมีอาการหลอน ไม่ยอมนอน จะลุกเดินตลอด แล้วบ่นอยากกลับบ้าน กลางคืน ไม่ยอมนอนเลย โวยวาย จะลุกเดิน จนพี่ๆพยาบาลต้องช่วยกันกด แล้วเอาเชือกมามัด เพราะแม่แรงเยอะมาก ไม่รู้เอาแรงมาจากไหน ด่ากราดพยาบาลทุกคน คือออกฤทธิ์ ออกเดชสุดๆ จนดิฉันสงสารคนไข้เตียงข้างๆมาก
วันที่ 3 คุณหมอที่ศูนย์แจ้งให้ส่งตัวไปที่ โรงพยายาบาลใหญ่ในตัวเมือง เพราะเนื่องจากอาการหลอนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่ศุนย์ดูแลไม่ไหว กลัวจะเป็นอันตรายกับคนไข้
วันที่ 4 ที่โรงพยายาบาลในตัวเมือง มีเตียงไม่พอ ต้องนอนอยู่ในรถเข็นแบบนอนและมัดมือ มัดเท้า และมัดตัว เนื่องจากดิ้นเยอะมาก คุณหมอได้ให้ยานอนหลับไปหลายรอบมาก เพราะอยากให้ร่างกายแม่ได้พัก เพราะไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว แต่ยานอนหลับไม่เป็นผล คุยคนเดียวตลอดคืน และยังคงดิ้น บ่นด่า จากก้าวร้าว ด่ากราดไม่ได้ผล เริ่มอ่อนลง พูดจาขอร้องดีๆ อยากกลับบ้านบ้าง ให้แก้มัดบ้าง ไปซื้อยาสตรีให้แม่หน่อย (ฉลาดมาก ยาสตรีมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์) อ้อนว้อนดินฉันไม่ได้ผล ก็ร้องเรียกคนอื่นที่เดินผ่านไปผ่านมา บอกพี่จ้าช่วยหนูด้วย สาระพัดวิธีเพื่อให้ได้กินเหล้า ดินฉันสงสารแม่มาก แต่คุณหมอบอกให้อดทนอาการที่เป็นตอนนี้เรียกว่าอาการอยากเหล้า อีก 2-3 วันจะดีขึ้น เฮ้อออ
วันที่ 5 วันที่ 5 หลังจากเริ่มอ่อนแรงลง เพราะเพลียมากและอาการอยากเหล้าน่าจะดีขึ้น เริ่มบ่นปวดฉี่ และอุจจาระ จากที่ 4 วันไม่เข้าห้องน้ำเลยจากนั้นหมอก็ให้แก้มัดได้ ให้ลุกกินข้าวได้ เริ่มคุยรู้เรื่อง และกลับมาเป็นคนเดิม (แม่ตอนไม่ดื่มเหล้าจะน่ารักมาก)
พักอีก 2 วันคุณหมอก็ให้กลับบ้านได้ พร้อมนัดดูอาการต่อเนื่อง ทั้งด้านร่างกาย และสุขภาพจิต
ครั้งที่ 2 (ประมาณ 2 ปี หลังจากครั้งแรก)
รอบนี้ต่างจากรอบแรก เพราะร่างกายอ่อนแอมากจากการดื่มอย่างหนัก ลุกเดินเองไม่ได้ เพ้อ เห็นภาพหลอน ดิฉันจึงนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ เจาะเลือดพบผลเลือดวิกฤตหลายตัว ไตอาจจะวายเฉียบพลันได้ จึงส่งต่อ โรงพยาบาลในเมือง
นอนโรงพยาบาลในเมือง 5 คืน คุณหมอให้ยาถ่ายเพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย เราต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ให้แม่ทั้งคืน ประมาณ 3 คืน อาการก็เริ่มดีขึ้น หมอรอดูผลเลือดอีก 2 วัน โชคดีที่ผลเลือดกลับมาปกติ เลยกลับบ้านได้
แต่ทุกครั้งหลังกลับมาดิฉันจะคุยกับแม่ทุกครั้ง ขอร้องให้อย่ากลับไปดื่มอีก (คุณหมอบอกว่าอาการอยากเหล้ารุนแรงจะไม่เป็นอีกหากคนไข้ไม่กลับไปดื่ม) ถ้าเกิดรักษาไม่หายแล้วผลเลือดแย่กว่านี้ หรือต้องฟอกไตจะทำยังไง แม่ก็รับปาก สุดท้ายก็แอบไปดื่มเหมือนเดิม
ผ่านไปปีกว่า
จนวันนี้เริ่มมีอาการหลอน เดินไหว้ตู้เย็นบ้าง คุยคนเดียวบ้าง ตี 2 ออกไปยืนด่าใครไม่รู้หน้าบ้าน หมาเห่าทั้งคืน
ดิฉันควรจะทำอย่างไรต่อดีค่ะ เครียดมาก มันเหมือนเราพยายามช่วยเขา รักษาเขา แต่เขาไม่เห็นใจเราเลย
ดินฉันก็ต้องทำงาน มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบไม่สามารถอยู่ดูแลเขาได้ตลอด
ขอคำปรึกษาจากทุกคนด้วยค่ะ เผื่อจะมีคำแนะนำที่ดีๆ พิมพ์ไปร้องไห้ไป T_T
พึ่งตั้งกระทู้ครั้งแรก หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะค่ะ
** แก้ไขคำผิด