ฟันธงเลยรึ ฉลามเขียว...กล้าหาญถึงขนาดเขียนฟันธงว่า ผู้ครองอำนาจจะพ่ายแพ้ในสงครามสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเลยเชียวรึ
ไม่อย่างนั้นมั้ง เพราะเรื่องนี้แม้ขณะนี้จะมีม็อบมาอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลแล้ว แต่ก็วงแคบ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประชาชนส่วนใหญ่เป็นมวลรวมทั่วประเทศ
ก็ตอบเลยนะครับว่า การเอา ฮ.กองทัพบก ไปล่าสัตว์ที่ป่าทุ่งใหญ่รเรศวร แล้ว ฮ.ตกที่บางเลน ซากสัตว์เกลื่อนประจาน ตอนแรกก็เรื่องเล็กๆ และสื่อมวลชนก็มีแค่หนังสือพิมพ์กระดาษ ไม่มีสื่อโซเชียลออนไลน์เป็นรายวินาทีของประชาชนทุกคนอย่างทุกวันนี้ แต่เหตุการณ์นั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นให้คนไทยทั่วประเทศลุกฮือขึ้นมา โค่น “ระบอบการปกครอง ถนอม-ประภาส-ณรงค์” ลงไปอย่างราบคาบ...และทำให้ประชาชนไทยป็นใหญ่ในแผ่นดินอยู่ได้แป๊บนึง 3 ปี จาก 14 ตุลาคม2516 ถึง 6 ตุลาคม 2519 ประชาชนก็สิ้นอำนาจ เผด็จการทหารกลับมาอย่างอำมหิตกว่าเก่า
ผมนายฉลามเขียว วันนี้ควรจะเขียนเรื่อง ใช้อำนาจมาตรา 44 ยึดพื้นที่วัดธรรมกาย เป็น “เขตควบคุมพิเศษ” เพื่อไล่ล่าตามจับ “ธัมมชโย” เพราะผมเพิ่งจะเขียนไปให้ท่านโค่นลัทธิล่อลวงบริจาคเงินมโหฬารในไทยพุทธ แต่ผมยังไม่เขียนเรื่องนี้นะครับ เพราะ หนึ่งละ ผมไม่แน่ใจว่าธรรมกายเป็นลัทธิล่อลวงบริจาคเงินมโหฬารรึไม่ สองละ ผมยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเป็นงานโชว์ที่ซับซ้อนเกินกว่าที่เราได้เห็นแก่ตาจากสื่อมวลชนรึไม่
ยึดธรรมกาย รอแป๊บค่อยเขียนก็ได้.....
วันนี้ผมเห็นศึกสงคราม ...ในเหตุการณ์ที่ประชาชนชาวกระบี่กับสงขลา ยกเข้ามาชุมนุมอยู่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อต่อต้านไม่ให้รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่อำเภอเทพา สงขลา กับอำเภอเหนือคลอง กระบี่
ใช่ครับ ถ้าหากมองอย่างผิวเผินมันก็แค่เรื่องของคนสองอำเภอ ขณะที่ประเทศไทยกว้างใหญ่ไพศาลมาก คนจังหวัดอื่นไม่รับรู้ด้วยหรอก นั่นก็อาจจะเป็นมุมมองที่ถูก แต่ผมมองเห็นปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น เพราะผมได้อ่านจากข้อเขียนของ “ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร” นักเคลื่อนไหวเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ชื่อเรื่อง... ไม่เรียกว่า ‘ทรราช’ แล้วจะให้เรียกว่าอย่างไร
ผมอ่านแล้วตะลึง....
เพราะได้มีการผูกโยงเอาหลายเรื่องราวที่จะทำให้ประเทศไทยและประชาชนไทยสูญเสียผลประโยชน์มโหฬาร มารวมไว้ ทั้งเรื่อง การจะยอมให้ประเทศจีนระเบิดแก่งหินกลางแม่น้ำโขง ที่อาจจะส่งผลเสียใหญ่ถึงขนาดที่ทำให้ไทยเสียดินแดน หากทางน้ำในแม่น้ำโขงเกิดเปลี่ยนมากัดเซาะแผ่นดินไทย
หงอจีน....เพราะโลกตะวันตกกับอเมริกา ไม่ยอมรับ มีคบ ระบอบการปกครองเผด็จการทหาร จะเป็นตัวเร้าหัวใจคนไทยฝ่ายประชาชนธิปไตยให้ลุกโพลงได้ง่าย
เช่นเดียวกับ โรงไฟฟ้าถ่านหินปักษ์ใต้ ประชาชนไทยทั่วไปอาจจะยังไม่รู้ว่า “นายทุนใหญ่” ใครที่แอบไปซื้อเหมืองถ่านหินเอาไว้ แต่บรรดานักเคลื่อนไหวพิทักษ์ฝั่งทะเลอันดามัน - รู้ และเขียนเผยแพร่ข้อมูลกันอยู่อย่างเร่าร้อน
ผมไม่รู้จักถ่านหินอย่างลึกซึ้ง เคยครั้งเดียวร่วมคณะผู้ใหญ่ไปทำข่าวต่างประเทศ ได้มีโอกาเดินเฉียดกองถ่านหินที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิง ...มันเหม็นมาก
แค่กลิ่นของถ่านหินก็หายใจแทบไม่ออก แล้วเมื่อมันถูกเผาปล่อยแก๊สพิษออกมาก็ยิ่งร้ายกาจน่าสะพึงกลัว ซึ่งเหล่านี้หาไม่ยากในข้อมูลทางวิชาการผลร้ายจากการเผาถ่านหิน
ม็อบต่อต้านถ่านหินที่มาปักหลักชุมนุมกันที่ทำเนียบรัฐบาลในเวลานี้ ประกาศแล้วจะอยู่ไปจนกว่ารัฐบาลจะหยุด ซึ่งรัฐบาลจะหยุดหรือ เพราะ คณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ โดยท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานการประชุมด้วยตัวเอง ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อตอนเช้า 17 ก.พ.2560 เพิ่งลงมติแล้วให้เดินหน้าสร้างทั้ง 2 โรง ด้วยเหตุผลชะงักงัน เพราะต้องทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่มาแล้ว 2 ปี
ม็อบต่อต้านถ่านหินคนไม่มาก แต่มีที่แตกต่างจากหลายๆม็อบ
1.มาในสถานการณ์รัฐประหาร กล้าพอที่จะมาชุมนุมท้าทาย ก็เพื่อรักษาผลประโยชน์ของท้องถิ่นตัวเอง เพื่อรักษาสภาพชีวิตตัวเองเอาไว้ หมายความว่า ไม่กลัว
2.ทุกคนมีโทรศัพท์มือถือในมือ เท่ากับ “มีสื่อออนไลน์รายวินาทีอยู่ในมือ” สามารถที่จะส่งรูป ส่งข่าว ส่งคลิป ออกไปให้พี่น้องทางบ้านได้เห็นอย่างสดๆ ซึ่งปรัชญาของสื่อมวลนก็คือ ผู้ครองสื่อคือผู้ครองความได้เปรียบ ดังนั้นเมื่อประชาชนเป็นเจ้าของสื่อเอง ก็ย่อมครองความได้เปรียบ นอกจากนี้ยังมีเฟชบุ้คชื่อบัญชี “หยุดถ่านหินกระบี่” เป็นศูนย์กลางอีกด้วยก็ยิ่งทำให้มีพลัง
ที่จริงผมก็อยากจบข้อเขียนอย่างหล่อ ด้วยการบอกผู้ครองอำนาจในขณะนี้ว่า ถ้าท่านใช้ความรุนแรงปราบม็อบโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ทำเนียบรัฐบาลแล้วละก็ มันจะเป็น Beginning of the end ...จุดเริ่มต้นของจุดจบ
ผมไม่ใช้คำนี้หรอกครับ เพราะ
มันเลยจุด Beginning มาตั้งนานแล้ว
ฉลามเขียว
17 กุมภาพันธ์ 2560
http://www.voicetv.co.th/blog/462717.html
<<< ฉลามเขียว : โรงไฟฟ้าถ่านหิน - ศึกที่ผู้ครองอำนาจจะแพ้ >>>
ไม่อย่างนั้นมั้ง เพราะเรื่องนี้แม้ขณะนี้จะมีม็อบมาอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลแล้ว แต่ก็วงแคบ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประชาชนส่วนใหญ่เป็นมวลรวมทั่วประเทศ
ก็ตอบเลยนะครับว่า การเอา ฮ.กองทัพบก ไปล่าสัตว์ที่ป่าทุ่งใหญ่รเรศวร แล้ว ฮ.ตกที่บางเลน ซากสัตว์เกลื่อนประจาน ตอนแรกก็เรื่องเล็กๆ และสื่อมวลชนก็มีแค่หนังสือพิมพ์กระดาษ ไม่มีสื่อโซเชียลออนไลน์เป็นรายวินาทีของประชาชนทุกคนอย่างทุกวันนี้ แต่เหตุการณ์นั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นให้คนไทยทั่วประเทศลุกฮือขึ้นมา โค่น “ระบอบการปกครอง ถนอม-ประภาส-ณรงค์” ลงไปอย่างราบคาบ...และทำให้ประชาชนไทยป็นใหญ่ในแผ่นดินอยู่ได้แป๊บนึง 3 ปี จาก 14 ตุลาคม2516 ถึง 6 ตุลาคม 2519 ประชาชนก็สิ้นอำนาจ เผด็จการทหารกลับมาอย่างอำมหิตกว่าเก่า
ผมนายฉลามเขียว วันนี้ควรจะเขียนเรื่อง ใช้อำนาจมาตรา 44 ยึดพื้นที่วัดธรรมกาย เป็น “เขตควบคุมพิเศษ” เพื่อไล่ล่าตามจับ “ธัมมชโย” เพราะผมเพิ่งจะเขียนไปให้ท่านโค่นลัทธิล่อลวงบริจาคเงินมโหฬารในไทยพุทธ แต่ผมยังไม่เขียนเรื่องนี้นะครับ เพราะ หนึ่งละ ผมไม่แน่ใจว่าธรรมกายเป็นลัทธิล่อลวงบริจาคเงินมโหฬารรึไม่ สองละ ผมยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเป็นงานโชว์ที่ซับซ้อนเกินกว่าที่เราได้เห็นแก่ตาจากสื่อมวลชนรึไม่
ยึดธรรมกาย รอแป๊บค่อยเขียนก็ได้.....
วันนี้ผมเห็นศึกสงคราม ...ในเหตุการณ์ที่ประชาชนชาวกระบี่กับสงขลา ยกเข้ามาชุมนุมอยู่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อต่อต้านไม่ให้รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่อำเภอเทพา สงขลา กับอำเภอเหนือคลอง กระบี่
ใช่ครับ ถ้าหากมองอย่างผิวเผินมันก็แค่เรื่องของคนสองอำเภอ ขณะที่ประเทศไทยกว้างใหญ่ไพศาลมาก คนจังหวัดอื่นไม่รับรู้ด้วยหรอก นั่นก็อาจจะเป็นมุมมองที่ถูก แต่ผมมองเห็นปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น เพราะผมได้อ่านจากข้อเขียนของ “ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร” นักเคลื่อนไหวเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ชื่อเรื่อง... ไม่เรียกว่า ‘ทรราช’ แล้วจะให้เรียกว่าอย่างไร
ผมอ่านแล้วตะลึง....
เพราะได้มีการผูกโยงเอาหลายเรื่องราวที่จะทำให้ประเทศไทยและประชาชนไทยสูญเสียผลประโยชน์มโหฬาร มารวมไว้ ทั้งเรื่อง การจะยอมให้ประเทศจีนระเบิดแก่งหินกลางแม่น้ำโขง ที่อาจจะส่งผลเสียใหญ่ถึงขนาดที่ทำให้ไทยเสียดินแดน หากทางน้ำในแม่น้ำโขงเกิดเปลี่ยนมากัดเซาะแผ่นดินไทย
หงอจีน....เพราะโลกตะวันตกกับอเมริกา ไม่ยอมรับ มีคบ ระบอบการปกครองเผด็จการทหาร จะเป็นตัวเร้าหัวใจคนไทยฝ่ายประชาชนธิปไตยให้ลุกโพลงได้ง่าย
เช่นเดียวกับ โรงไฟฟ้าถ่านหินปักษ์ใต้ ประชาชนไทยทั่วไปอาจจะยังไม่รู้ว่า “นายทุนใหญ่” ใครที่แอบไปซื้อเหมืองถ่านหินเอาไว้ แต่บรรดานักเคลื่อนไหวพิทักษ์ฝั่งทะเลอันดามัน - รู้ และเขียนเผยแพร่ข้อมูลกันอยู่อย่างเร่าร้อน
ผมไม่รู้จักถ่านหินอย่างลึกซึ้ง เคยครั้งเดียวร่วมคณะผู้ใหญ่ไปทำข่าวต่างประเทศ ได้มีโอกาเดินเฉียดกองถ่านหินที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิง ...มันเหม็นมาก
แค่กลิ่นของถ่านหินก็หายใจแทบไม่ออก แล้วเมื่อมันถูกเผาปล่อยแก๊สพิษออกมาก็ยิ่งร้ายกาจน่าสะพึงกลัว ซึ่งเหล่านี้หาไม่ยากในข้อมูลทางวิชาการผลร้ายจากการเผาถ่านหิน
ม็อบต่อต้านถ่านหินที่มาปักหลักชุมนุมกันที่ทำเนียบรัฐบาลในเวลานี้ ประกาศแล้วจะอยู่ไปจนกว่ารัฐบาลจะหยุด ซึ่งรัฐบาลจะหยุดหรือ เพราะ คณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ โดยท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานการประชุมด้วยตัวเอง ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อตอนเช้า 17 ก.พ.2560 เพิ่งลงมติแล้วให้เดินหน้าสร้างทั้ง 2 โรง ด้วยเหตุผลชะงักงัน เพราะต้องทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่มาแล้ว 2 ปี
ม็อบต่อต้านถ่านหินคนไม่มาก แต่มีที่แตกต่างจากหลายๆม็อบ
1.มาในสถานการณ์รัฐประหาร กล้าพอที่จะมาชุมนุมท้าทาย ก็เพื่อรักษาผลประโยชน์ของท้องถิ่นตัวเอง เพื่อรักษาสภาพชีวิตตัวเองเอาไว้ หมายความว่า ไม่กลัว
2.ทุกคนมีโทรศัพท์มือถือในมือ เท่ากับ “มีสื่อออนไลน์รายวินาทีอยู่ในมือ” สามารถที่จะส่งรูป ส่งข่าว ส่งคลิป ออกไปให้พี่น้องทางบ้านได้เห็นอย่างสดๆ ซึ่งปรัชญาของสื่อมวลนก็คือ ผู้ครองสื่อคือผู้ครองความได้เปรียบ ดังนั้นเมื่อประชาชนเป็นเจ้าของสื่อเอง ก็ย่อมครองความได้เปรียบ นอกจากนี้ยังมีเฟชบุ้คชื่อบัญชี “หยุดถ่านหินกระบี่” เป็นศูนย์กลางอีกด้วยก็ยิ่งทำให้มีพลัง
ที่จริงผมก็อยากจบข้อเขียนอย่างหล่อ ด้วยการบอกผู้ครองอำนาจในขณะนี้ว่า ถ้าท่านใช้ความรุนแรงปราบม็อบโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ทำเนียบรัฐบาลแล้วละก็ มันจะเป็น Beginning of the end ...จุดเริ่มต้นของจุดจบ
ผมไม่ใช้คำนี้หรอกครับ เพราะ
มันเลยจุด Beginning มาตั้งนานแล้ว
ฉลามเขียว
17 กุมภาพันธ์ 2560
http://www.voicetv.co.th/blog/462717.html