สวัสดีค่ะ เราอยากจะมาเล่าประสบการณ์ เรื่องราวเล็กๆของชีวิตเราที่ผ่านมา ประสบอยู่ และกำลังจะพบเจอค่ะ
ย้อนกลับไปช่วงเกือบสองปีที่แล้ว ตอนนั้นเราอายุ 25 ปี เรียนจบป.ตรีตามเกณฑ์จากมหาวิทยาลัยที่ดี เกรดดี หน้าที่การงานดี รายได้ดีถึงดีมาก กำลังเลี้ยงดูแม่อย่างสุขสบาย แม่ไม่ต้องทำงานหาเช้ากินค่ำอีก ชีวิตเรากำลังไปได้สวย เรามีแฟนที่คบหากันมาเกือบสองปี เป็นแฟนคนแรกของเรา มีดีมีร้าย แต่ทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี แฟนเราเริ่มงานใหม่มาได้หลายเดือน งานใหม่ไปได้สวย รายได้ดี เรามีแพลนไปเที่ยวมากมายทั้งในและต่างประเทศ มีไลฟ์สไตล์ที่ฟุ่มเฟือยได้อย่างไม่เดือดร้อน กินอาหารแพงๆนอกบ้านได้ตลอด อยากได้อะไรก็ซื้อได้ เอาจริงๆ ตอนนั้นรู้สึกชีวิตดี๊ดีมาก ตั้งใจว่าจะเที่ยว จะใช้ชีวิตกันก่อนสักสองปี แล้วค่อยเก็บเงินแต่งงาน ตอนนั้นคงสัก 28-29 มีลูกสัก 30 น่าจะกำลังดี
จนประจำเดือนเราไม่ยอมมา... เล่าให้ฟังก่อนว่าเราเป็นคนที่มีความรู้เรื่องนี้ดีมาก ปกติประจำเดือนเราไม่สม่ำเสมอ คาดว่าไข่จะตกไม่สม่ำเสมอ เคยคุยกับแฟนว่าถ้าแต่งงาน ต้องมีลูกยากแน่ๆ รอบเดือนเราเคยห่างแบบ 34 วันด้วย จนวันนั้น เป็นวันที่ 35 ประจำเดือนเราก็ยังไม่มา เราบอกแฟน มันแปลกๆแล้วนะ แฟนเราไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาให้ เราตรวจ มันขึ้น 2 ขีดจางๆ ในใจเรารู้แล้วว่า ต้องใช่แน่ๆ แต่เรายังไม่อยากยอมรับ เราคุยกับแฟน มันจะเป็นไปได้ยังไง คือทั้งเดือนนั้น เรากับแฟนมีอะไรกันครั้งเดียว แต่ใช่ค่ะ... ไม่ได้ป้องกัน ใช่วิธีหลั่งนอก เราเลยตัดสินใจจะไปตรวจเลือดในวันถัดมา เอาให้รู้ชัดๆไปเลย เราไปเจาะเลือดทิ้งไว้แล้วไปทำธุระ แฟนเรารอผล ส่งผลมาให้ทางโทรศัพท์
โป๊ะเชะ ฮอร์โมนขึ้นสูงมาก ตอนนั้นปล่อยโฮเลยค่ะ ไม่มีความสุขเลย รู้สึกชีวิตพัง พัง พัง... ตอนนั้นเรากำลังคิดจะเปลี่ยนงาน อยากทำตามฝัน อยากเป็นแอร์ กำลังฟิตหุ่น อยากลองสมัครสักครั้ง รู้สึกตัวเองก็มีศักยภาพพอ แค่ยังไม่เคยลองเลยสักครั้ง มันเป็นความฝันของเราที่อยากท่องเที่ยวรอบโลก (โดยไม่ต้องอออกเงินเอง) แล้วมันก็พัง เราไม่เคยทำให้แม่เสียใจมาก่อน แม่บอกว่าเราไม่เคยทำให้แม่ผิดหวังเสียใจมาก่อนเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เราเป็นลูกที่แม่ภูมิใจมาตลอด เราเรียนหนังสือได้ดี ไม่เคยนอกลู่นอกทางอะไร แม่มักจะเอาเราไปอวดเสมอๆ มันเป็นความรู้สึกที่แย่มาก เราทำให้คนที่เรารักที่สุดเสียใจ ความภูมิใจในตัวเองของเราหายไป เราไม่รู้สึกเคารพตัวเองอีกแล้ว เรารู้สึกเกลียดตัวเอง เราไม่พร้อม เราพลาด...
Step ต่อมา คือ เราจะทำยังไงต่อไป จะไปต่อ หรือจะถอยหลังกลับไป... ส่วนตัวเอง เราบอกเลยว่าเราไม่รู้สึกว่าการทำแท้งเป็นเรื่องเลวร้าย สำหรับเราการเกิดมามีชีวิตไม่ได้ดีสำหรับทุกคน สำหรับบางคนการไม่เกิดมาน่าจะดีเสียกว่า เราเป็นเด็กที่เกิดมากับครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ เราต้องการมีครอบครัวทีสมบูรณ์มาโดยตลอด ถ้าเรามีลูก เราอยากจะพร้อมจริงๆ แต่ตอนนั้นเราไม่พร้อมเอาซะเลย
วันแรกที่เรารู้ข่าว ทั้งเราและแฟนบอกครอบครัวทั้งคู่ ทุกคนพร้อมจะเคารพการตัดสินใจของเรา เรายอมรับเลยเราลังเลมาก ถ้าเราเอาเค้าออก เราไม่มั่นใจเลยว่าเราจะให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิตได้มั้ย เราจะเดินหน้าไปต่อได้จริงๆหรอ แต่ถ้าเราตัดสินใจไม่เอาออก เราจะเป็นแม่ที่ดีได้จริงๆหรอ เรากลัวที่จะรู้สึกว่า ลูกจะมาทำลายอนาคตเรา ทำลายความฝัน ทำลายชีวิตเรา แล้วเราจะโทษลูก และชีวิตเค้าจะต้องแย่มากแน่ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น การไม่เกิดมาน่าจะดีซะกว่า
เราคุยกับแฟน แฟนพร้อมจะแต่งงาน เค้าไม่อยากให้เอาออก แต่เค้าก็เคารพการตัดสินใจของเรา แม่เราบอกแม่เราจะเลี้ยงหลานเอง ครอบครัวแฟนก็จะจัดงานแต่งงานให้ แต่เชื่อมั้ยว่า เราร้องไห้ตลอดเวลา ร้องอยู่หลายวัน ร้องอย่างที่ไม่เคยร้องมาก่อนในชีวิต เรามองบันได เราอยากตกบันไดเหมือนในละคร (ซึ่งไม่ได้ทำนะ) เราเข้าห้องน้ำทุกครั้งหวังจะให้มีเลือด ให้แท้งออกมาเอง เราเครียดมาก จนเราบอกให้แฟนพาเราไปหาจิตแพทย์ เราไปคุยกับหมอมันจุดประกายอะไรเราหลายๆอย่างนะ หมอบอกว่าที่เรากลัวว่าเราจะเกลียดลูก หมอว่ามันคือสัญชาติญาณความเป็นแม่ที่ปกป้องลูกนะ เรากลับมาคิดและเราก็เห็นด้วยกับหมอ
อะไรคือความไม่พร้อมสำหรับเรา มันน่าจะเป็นแค่เรื่องของจิตใจที่ยังไม่พร้อมจะก้าวไปไกลขนาดนั้น จริงๆแล้วเรามีศักยภาพจะมีลูกนะ เราอาจจะเด็ก แต่เราทำได้ และเราก็ตัดสินใจแต่งงานกับแฟนเรา สร้างครอบครัว มีลูกไปด้วยกัน งานแต่งงานเราอาจจะไม่ใหญ่โต ทุกอย่างมันฉุกละหุกมาก แต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดี เรามานั่งดูคลิปงานแต่งงานตัวเองบ่อยๆ ถึงแม้จะไม่ใช่งานแต่งในฝัน แต่มันก็เป็นความจริง ดีกว่าไม่ได้แต่งถูกมั้ย 5555
ตอนนี้ลูกเราเกือบขวบนึงแล้ว เรากับลูกก็โตไปด้วยกัน เรากับแฟนซื้อบ้านใหม่ มีลูกที่น่ารัก เรารักลูกมากๆ แม่เราก็รักหลานมากๆ ลูกกลายเป็นคนที่เติมเต็มความสุขในครอบครัว เรารู้สึกว่าเราตัดสินใจถูกแล้ว ลูกคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับเรา มีคนเคยบอกว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ดีเสมอ" เราว่าไม่ใช่นะ ในความคิดเรา มันอยู่ที่ว่าเราจะมองสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วยังไง และจะทำสิ่งที่ "กำลังจะเกิด" ให้มันดีรึเปล่า
เราไม่ได้กำลังจะบอกว่า การท้องก่อนแต่ง ท้องในวันที่ไม่พร้อม หรือการไม่ป้องกัน เป็นสิ่งที่ดี ตรงกันข้ามเลย มันแย่มาก ความรู้สึกตอนนั้นคือแย่ที่สุด ถ้าไม่พร้อม ต้องป้องกัน ขนาดเราท้องในวันที่เราเรียนจบแล้ว รับผิดชอบกับการกระทำตัวเองได้แล้ว ยังรู้สึกแย่เอามากๆ ถ้ามันเกิดขึ้นในวัยเรียนล่ะ มันจะแย่ขนาดไหน จนถึงตอนนี้ เราก็ไม่ได้ภูมิใจในตัวเองในเรื่องที่เราท้อง แต่เราแค่มีสุขกับในทุกวันที่เราเป็น เราปรับมุมมองชีวิต ทุกอย่างที่เกิดขึ้น อาจจะผิดแผนจากที่เคยวางไว้ เราก็เปลี่ยนทางเดินใหม่ ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นทางเดินที่ไม่สวยงามหนิ มันสวยงามในแบบของมัน
ขอบคุณทุกคนมากที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ ขอตัวไปเลี้ยงลูกก่อนนะคะ 5555
สวัสดีค่ะ
ท้องก่อนแต่ง / ท้องไม่พร้อม
ย้อนกลับไปช่วงเกือบสองปีที่แล้ว ตอนนั้นเราอายุ 25 ปี เรียนจบป.ตรีตามเกณฑ์จากมหาวิทยาลัยที่ดี เกรดดี หน้าที่การงานดี รายได้ดีถึงดีมาก กำลังเลี้ยงดูแม่อย่างสุขสบาย แม่ไม่ต้องทำงานหาเช้ากินค่ำอีก ชีวิตเรากำลังไปได้สวย เรามีแฟนที่คบหากันมาเกือบสองปี เป็นแฟนคนแรกของเรา มีดีมีร้าย แต่ทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี แฟนเราเริ่มงานใหม่มาได้หลายเดือน งานใหม่ไปได้สวย รายได้ดี เรามีแพลนไปเที่ยวมากมายทั้งในและต่างประเทศ มีไลฟ์สไตล์ที่ฟุ่มเฟือยได้อย่างไม่เดือดร้อน กินอาหารแพงๆนอกบ้านได้ตลอด อยากได้อะไรก็ซื้อได้ เอาจริงๆ ตอนนั้นรู้สึกชีวิตดี๊ดีมาก ตั้งใจว่าจะเที่ยว จะใช้ชีวิตกันก่อนสักสองปี แล้วค่อยเก็บเงินแต่งงาน ตอนนั้นคงสัก 28-29 มีลูกสัก 30 น่าจะกำลังดี
จนประจำเดือนเราไม่ยอมมา... เล่าให้ฟังก่อนว่าเราเป็นคนที่มีความรู้เรื่องนี้ดีมาก ปกติประจำเดือนเราไม่สม่ำเสมอ คาดว่าไข่จะตกไม่สม่ำเสมอ เคยคุยกับแฟนว่าถ้าแต่งงาน ต้องมีลูกยากแน่ๆ รอบเดือนเราเคยห่างแบบ 34 วันด้วย จนวันนั้น เป็นวันที่ 35 ประจำเดือนเราก็ยังไม่มา เราบอกแฟน มันแปลกๆแล้วนะ แฟนเราไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาให้ เราตรวจ มันขึ้น 2 ขีดจางๆ ในใจเรารู้แล้วว่า ต้องใช่แน่ๆ แต่เรายังไม่อยากยอมรับ เราคุยกับแฟน มันจะเป็นไปได้ยังไง คือทั้งเดือนนั้น เรากับแฟนมีอะไรกันครั้งเดียว แต่ใช่ค่ะ... ไม่ได้ป้องกัน ใช่วิธีหลั่งนอก เราเลยตัดสินใจจะไปตรวจเลือดในวันถัดมา เอาให้รู้ชัดๆไปเลย เราไปเจาะเลือดทิ้งไว้แล้วไปทำธุระ แฟนเรารอผล ส่งผลมาให้ทางโทรศัพท์
โป๊ะเชะ ฮอร์โมนขึ้นสูงมาก ตอนนั้นปล่อยโฮเลยค่ะ ไม่มีความสุขเลย รู้สึกชีวิตพัง พัง พัง... ตอนนั้นเรากำลังคิดจะเปลี่ยนงาน อยากทำตามฝัน อยากเป็นแอร์ กำลังฟิตหุ่น อยากลองสมัครสักครั้ง รู้สึกตัวเองก็มีศักยภาพพอ แค่ยังไม่เคยลองเลยสักครั้ง มันเป็นความฝันของเราที่อยากท่องเที่ยวรอบโลก (โดยไม่ต้องอออกเงินเอง) แล้วมันก็พัง เราไม่เคยทำให้แม่เสียใจมาก่อน แม่บอกว่าเราไม่เคยทำให้แม่ผิดหวังเสียใจมาก่อนเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เราเป็นลูกที่แม่ภูมิใจมาตลอด เราเรียนหนังสือได้ดี ไม่เคยนอกลู่นอกทางอะไร แม่มักจะเอาเราไปอวดเสมอๆ มันเป็นความรู้สึกที่แย่มาก เราทำให้คนที่เรารักที่สุดเสียใจ ความภูมิใจในตัวเองของเราหายไป เราไม่รู้สึกเคารพตัวเองอีกแล้ว เรารู้สึกเกลียดตัวเอง เราไม่พร้อม เราพลาด...
Step ต่อมา คือ เราจะทำยังไงต่อไป จะไปต่อ หรือจะถอยหลังกลับไป... ส่วนตัวเอง เราบอกเลยว่าเราไม่รู้สึกว่าการทำแท้งเป็นเรื่องเลวร้าย สำหรับเราการเกิดมามีชีวิตไม่ได้ดีสำหรับทุกคน สำหรับบางคนการไม่เกิดมาน่าจะดีเสียกว่า เราเป็นเด็กที่เกิดมากับครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ เราต้องการมีครอบครัวทีสมบูรณ์มาโดยตลอด ถ้าเรามีลูก เราอยากจะพร้อมจริงๆ แต่ตอนนั้นเราไม่พร้อมเอาซะเลย
วันแรกที่เรารู้ข่าว ทั้งเราและแฟนบอกครอบครัวทั้งคู่ ทุกคนพร้อมจะเคารพการตัดสินใจของเรา เรายอมรับเลยเราลังเลมาก ถ้าเราเอาเค้าออก เราไม่มั่นใจเลยว่าเราจะให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิตได้มั้ย เราจะเดินหน้าไปต่อได้จริงๆหรอ แต่ถ้าเราตัดสินใจไม่เอาออก เราจะเป็นแม่ที่ดีได้จริงๆหรอ เรากลัวที่จะรู้สึกว่า ลูกจะมาทำลายอนาคตเรา ทำลายความฝัน ทำลายชีวิตเรา แล้วเราจะโทษลูก และชีวิตเค้าจะต้องแย่มากแน่ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น การไม่เกิดมาน่าจะดีซะกว่า
เราคุยกับแฟน แฟนพร้อมจะแต่งงาน เค้าไม่อยากให้เอาออก แต่เค้าก็เคารพการตัดสินใจของเรา แม่เราบอกแม่เราจะเลี้ยงหลานเอง ครอบครัวแฟนก็จะจัดงานแต่งงานให้ แต่เชื่อมั้ยว่า เราร้องไห้ตลอดเวลา ร้องอยู่หลายวัน ร้องอย่างที่ไม่เคยร้องมาก่อนในชีวิต เรามองบันได เราอยากตกบันไดเหมือนในละคร (ซึ่งไม่ได้ทำนะ) เราเข้าห้องน้ำทุกครั้งหวังจะให้มีเลือด ให้แท้งออกมาเอง เราเครียดมาก จนเราบอกให้แฟนพาเราไปหาจิตแพทย์ เราไปคุยกับหมอมันจุดประกายอะไรเราหลายๆอย่างนะ หมอบอกว่าที่เรากลัวว่าเราจะเกลียดลูก หมอว่ามันคือสัญชาติญาณความเป็นแม่ที่ปกป้องลูกนะ เรากลับมาคิดและเราก็เห็นด้วยกับหมอ
อะไรคือความไม่พร้อมสำหรับเรา มันน่าจะเป็นแค่เรื่องของจิตใจที่ยังไม่พร้อมจะก้าวไปไกลขนาดนั้น จริงๆแล้วเรามีศักยภาพจะมีลูกนะ เราอาจจะเด็ก แต่เราทำได้ และเราก็ตัดสินใจแต่งงานกับแฟนเรา สร้างครอบครัว มีลูกไปด้วยกัน งานแต่งงานเราอาจจะไม่ใหญ่โต ทุกอย่างมันฉุกละหุกมาก แต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดี เรามานั่งดูคลิปงานแต่งงานตัวเองบ่อยๆ ถึงแม้จะไม่ใช่งานแต่งในฝัน แต่มันก็เป็นความจริง ดีกว่าไม่ได้แต่งถูกมั้ย 5555
ตอนนี้ลูกเราเกือบขวบนึงแล้ว เรากับลูกก็โตไปด้วยกัน เรากับแฟนซื้อบ้านใหม่ มีลูกที่น่ารัก เรารักลูกมากๆ แม่เราก็รักหลานมากๆ ลูกกลายเป็นคนที่เติมเต็มความสุขในครอบครัว เรารู้สึกว่าเราตัดสินใจถูกแล้ว ลูกคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับเรา มีคนเคยบอกว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ดีเสมอ" เราว่าไม่ใช่นะ ในความคิดเรา มันอยู่ที่ว่าเราจะมองสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วยังไง และจะทำสิ่งที่ "กำลังจะเกิด" ให้มันดีรึเปล่า
เราไม่ได้กำลังจะบอกว่า การท้องก่อนแต่ง ท้องในวันที่ไม่พร้อม หรือการไม่ป้องกัน เป็นสิ่งที่ดี ตรงกันข้ามเลย มันแย่มาก ความรู้สึกตอนนั้นคือแย่ที่สุด ถ้าไม่พร้อม ต้องป้องกัน ขนาดเราท้องในวันที่เราเรียนจบแล้ว รับผิดชอบกับการกระทำตัวเองได้แล้ว ยังรู้สึกแย่เอามากๆ ถ้ามันเกิดขึ้นในวัยเรียนล่ะ มันจะแย่ขนาดไหน จนถึงตอนนี้ เราก็ไม่ได้ภูมิใจในตัวเองในเรื่องที่เราท้อง แต่เราแค่มีสุขกับในทุกวันที่เราเป็น เราปรับมุมมองชีวิต ทุกอย่างที่เกิดขึ้น อาจจะผิดแผนจากที่เคยวางไว้ เราก็เปลี่ยนทางเดินใหม่ ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นทางเดินที่ไม่สวยงามหนิ มันสวยงามในแบบของมัน
ขอบคุณทุกคนมากที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ ขอตัวไปเลี้ยงลูกก่อนนะคะ 5555
สวัสดีค่ะ