เนื่องในโอกาสที่เมื่อวานทีมแพ้ #เดี๋ยว
เลยขอเอาประวัติน้องพูสุดน่ารักของทีมเรา (เราในทีนี้คือ BVB ค่ะ 555) มาฝากค่ะ
รู้สึกจะเป็นข่าวกับหลายๆทีมในอังกฤษอยู่ช่วงนึง
แถมลิเวอร์พูลยังเคยถูกลิเวอร์พูลยื่นซื้อมาหลายรอบ (น่าจะ 2 รอบ)
แต่ทางนี้หยิ่งค่ะ ไม่ขาย 55555555555555555555
Zorc เคยออกมาประกาศเองเลยว่า "ขายไม่เว้ยยยย หยุดยื่นมาได้แล้ววว"
แต่เอาจริงๆสำหรับพี่ ย้ายก็ดี ไม่ย้ายก็ไม่เป็นไรนะลูกนะ อิอิ
เกริ่นมาเยอะแล้ว ไปทำความรู้จักหนุ่มเมกันบอยคนนี้กันค่ะ
ปี 2016 ในเกมยูฟ่าแชมป์เปียนลีครอบแบ่งกลุ่ม โบรุซเซียร์ ดอร์ทมุนด์ โคจรมาพบกับเรอัล มาดริดอีกครั้ง หลายปีก่อน มาดริดมีอดีตที่ไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่นักกับดอร์ทมุนด์ แต่สำหรับแฟนๆดอร์ทมุนด์ มันช่างเป็นเกมแห่งความภาคภูมิใจ การยิงประตูใส่ยอดทีมแบบเรอัล มาดริดได้ถึง 4 ประตูด้วยนักเตะขวัญใจของทีมในเวลานั้นอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้คือช่วงเวลาอันน่าจดจำ ในการพบกันครั้งนี้ แฟนๆดอร์ทมุนด์ได้แต่หวังว่า ทีมเราคงไม่ใช่ทีมที่โชคร้าย แม้นักเตะชุดเดิมที่เคยพบกับมาดริดเมื่อคราวนู้น แทบจะหายออกไปจากทีมกันจนหมดแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความมั่นใจของดอร์ทมุนด์ลดน้อยถอยลงไปแต่อย่างใด เพราะ ถ้าเป็นที่อื่นเราอาจพูดอะไรไม่ได้มาก
แต่ถ้าที่นี่คือ เวสฟาเลน สตาดิโอน
มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้มาเยือนแน่นอน
ในการพบกันในปี 2016 นี้ มีนักเตะเพียง 3 คนเท่านั้นที่เป็นผู้เล่นชุดเดียวกับที่เคยเจอมาดริดเมื่อ 4 ปีก่อน นั่นคือ ชเมลเซอร์, พิสเช็ค และ เกิธเซ (ที่พึ่งคัมแบ็คมาในปีนี้ด้วยซ้ำ) นอกนั้นที่เหลือ ยังไม่เคยพบปะเจอหน้าเรอัล มาดริด หรือสไตล์การเล่นของพวกเขามาก่อนเลย และถ้าจะพูดถึงจำนวนคนที่เคยพบกัน ทางฝั่งมาดริดเองก็บอกได้ว่า นักเตะที่เคยเจอดอร์ทมุนด์คราวที่แล้วตอนนี้ก็มีแค่ 5 คน นั่นคือ วาราน, รามอส, โรนัลโด้, เบนเซม่า, โมดริช ซึ่งก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่
แต่ความน่าภูมิใจของแฟนๆดอร์ทมุนด์ในทีมชุดนี้มันอยู่ที่ จำนวนผู้เล่นที่เหลือของดอร์ทมุนด์มีแต่ "เด็กๆ" ทั้งนั้น!!! แต่กลับสามารถสู้กับมาดริดชุดแชมป์เก่าชุดนี้ได้อย่างสนุกเลยเดียว แถมจบลงด้วยสกอร์เสมอ มันเป็นอีกนัดที่เราจะรู้สึกภูมิใจในตัวนักเตะของเรา
ในช่วง 2-1 ขณะที่เรอัล มาดริดกำลังจะจบเกม ทำลายอาถรรพ์ไม่เคยชนะดอร์ทมุนด์เลยใน 5 ครั้งล่าสุดที่เจอกัน คนที่ดับฝันนั้นของนักเตะและแฟนๆมาดริด คือ อันเดร เชอร์เล ดาวเตะเยอรมันที่พึ่งย้ายมาร่วมทีมในปีนี้ และ คนที่เรากำลังจะพูดถึง คือ เด็กหนุ่มที่พึ่งฉลองวันเกิดอายุ 18 ปี กองกลางร่างเล็กที่ชื่อ คริสเตียน พูลิซิซ คนที่แอสซิสต์เพิ่มสถิติให้มาดริด ยังคงไม่สามารถเอาชนะดอร์ทมุนด์ได้ต่อไป ใน 6 นัดล่าสุดที่เจอกันที่รังเหย้าของเสือเหลือง
หลายๆคนที่ติดตามข่าวคราวฟุตบอลอยู่บ่อยๆ อาจคุ้นชื่อของ คริสเตียน พูลิซิซ ดาวรุ่งดอร์ทมุนด์คนนี้อยู่บ้าง
เหตุผลที่เกมนี้สนุกและน่าพูดถึงสำหรับผู้เขียนในฐานะที่เป็นทั้งแฟนมาดริด และแฟนดอร์ทมุนด์ (และดันมาเจอกันเอง ทำใจหนักมาก) ก็เพราะนักเตะของดอร์ทมุนด์ชุดนี้น่าสนใจมาก นักเตะเด็กๆที่ทูเคิลพยายามดันขึ้นมาทีมใหญ่ อย่าง คริสเตียน พูลิซิซ นั้นอาจเรียกได้ว่า ต้องจับเบ้าตามองเลยทีเดียว
คริสเตียนเป็นเด็กอเมริกัน แดนที่ฟุตบอลถูกเรียกว่าซ้อคเกอร์ แต่สเก๊าของดอร์ทมุนด์ไปเจอมาตั้งแต่ตอนอายุ 16 ตอนนั้นคริสเตียนลงเล่นทีมชาติชุด U17 ในเกมกระชับมิตรกับบราซิล และยิง 1 ประตูให้ทีมชนะ ที่นี่เองที่เขาได้พบกับสเก๊าของดอร์ทมุนด์ ทีมสเก๊าอยากได้คริสเตียนมาร่วมทีมมาก จนในที่สุดต้นปี 2015 คริสเตียนก็ย้ายไปอยู่เยอรมันและเซ็นสัญญากับดอร์ทมุนด์ และลงเล่นในทีม U17 เลื่อนสู่ U19 และ ใช้เวลาราวๆ 1 ปีในการขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ คริสเตียนมีรายชื่อติดชุดใหญ่ครั้งแรกในเดือนมกราคม 2016
เราไม่แน่ใจว่าในนัดชิงรายการเยาวชนเกมนั้นในอเมริกา สเก๊าของดอร์ทมุนด์มองเห็นอะไรในตัวพูลิซิซ แต่เราก็ได้เห็นมันกับตาแล้วเช่นกันเมื่อได้ดูเกมของดอร์ทมุนด์อย่างต่อเนื่อง นี่เป็นเด็กอเมริกันที่เล่นบอลได้ไม่เหมือนนักเตะอเมริกันคนก่อนๆที่เคยโด่งดังในยุโรปเท่าไหร่ ที่จริงการเล่นของพูลิซิซเหมือนได้ส่วนผสมของนักเตะรุ่นพี่ทั้งสองคน (คลิ้นท์ และแลงดอน) สิ่งที่เป็นจุดเด่นของพูลิซิซคือ ความสด กล้าแลก กล้าได้กล้าเสีย ไม่กลัวกองหลัง และเฟิร์สทัชเป็นเยี่ยม เป็นนักเตะที่จบสกอร์จังหวะเดียว ไม่ยึกยัก ซึ่งจุดนี้จะคล้ายกับคลินท์ เดมพ์ซี่มาก ที่เป็นพวกจบสกอร์จังหวะเดียว ไม่ยึกยักเหมือนกัน แต่เพราะพูลิซิซร่างเล็กจึงมีจุดด้อยด้านการเบียดปะทะและเสียบอลง่าย
ขณะที่การเล่นของพูลิซิซก็ทำให้เรานึกถึงนักเตะอเมริกันอีกคนที่เคยโด่งดังมาก่อน นั่นคือ แลงดอน โดโนแวน ขวัญใจมหาชนคนอเมริกันในยุคเดียวกับที่เดวิด เบคแฮมอยู่อเมริกา เบคแฮมจากยูไนเต็ดหรือจะสู้โดโนแวน นั่นคือสิ่งที่โดโนแวนเคยทำได้ การจบสกอร์อันสวยงาม ลูกเล่นและเทคนิคอันแพรวพราว ทักษะรอบด้าน ทั้งการครองบอล การเลี้ยงบอล การไปกับบอล แลงดอนทำสิ่งนี้ได้ครบถ้วน (ในยุคพีคๆ) นี่คือสิ่งที่ปรากฏในตัวของพูลิซิซวัย 17 เช่นเดียวกัน ความเร็วเป็นเลิศ เทคนิคการจบสกอร์อันหลากหลาย เฟิร์สทัช ความฉลาดเล่น นี่คือสิ่งที่เด็กอเมริกันวัย 17 ทำได้ ซึ่งนี่เป็นสิ่งเดียวกับที่โค้ชทีมอคาเดมี่ของพูลิซิซเคยบอกไว้ จุดเด่นของพูลิซิซ คือ ความเร็วและทักษะรอบด้าน รวมทั้งความสามารถในการปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งพูลิซิซได้พิสูจน์มันมาแล้ว เขาย้ายมาจากอเมริกามาลงเล่นให้ทีม U19 และทีมสำรองอยู่ปีเดียว ทำผลงานกับทีม U17-19 ได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยิงทั้งแอสซิต โชว์ฟอร์มสดได้ไม่นาน ทูเคิลก็เรียกขึ้นทีมใหญ่ และพาไปทัวร์กับทีมในช่วงปรีซีซั่นด้วย หลังลงเล่นในบุนเดสลิกาได้ 7 นัด พูลิซิซก็ยิงประตูแรกของตัวเองให้กับดอร์ทมุนด์ และทำสถิติเป็นนักเตะต่างชาติที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในบุนเดสลิกาทันที ตอนนั้นแลงดอน โดโนแวนรุ่นพี่ ได้ทวีตแซวขำๆว่า
"ด้วยอายุ 17 ปีคริสเตียนทำประตูในบุนเดสลีกาได้มากกว่าเขากับเทย์เลอร์รวมกันเสียอีก"
โดย แลงดอน โดโนแวน และเทย์เลอร์ ทเวลแมน เคยเล่นในบุนเดสลีกาทั้งคู่
แลงดอนอยู่ทั้งเลเวอร์ฯและบาเยิร์น ส่วน เทย์เลอร์อยู่ 1860 มิวนิค
ออพชั่นสำคัญที่พูลิซิซมีติดตัวมา เขาจบสกอร์ได้เด็ดขาดแบบคลิ้นท์ เดมพ์ซี่ และไปกับบอลได้สวยงามเหมือนแลงดอน แต่สิ่งที่รุ่นพี่มีไม่เท่าพูลิซิซคือ ทั้งคลินท์และแลงดอนล้วนแล้วแต่เป็นกองหน้าตำแหน่งหน้าต่ำ คุ้นเคยกับเกมบุกและไม่ค่อยมีส่วนกับเกมรับ แต่นั่นคือสิ่งที่พูลิซิซกลับทำได้ดี แม้จะมีจุดด้อยด้านการยืนตำแหน่งและเรื่องการเสียบอลง่าย แต่เขาเป็นกองกลางที่เล่นเกมรับได้ดี และมีอาวุธสำคัญเป็นเกมเคาร์เตอร์ แอ็ทแทคสุดอันตราย ด้วยความเร็วและการมองหาช่องการทำประตูอยู่เสมอ นี่คือสิ่งที่เรามองว่า คริสเตียน พูลิซิซ ฉายแววของการเป็นนักบอลชั้นเยี่ยมได้เร็วกว่าพี่ๆนักเตะอเมริกันคนอื่นๆ และอย่าลืมว่า เขาพึ่งอายุ 17 เท่านั้น ต้องภาวนาให้เขาสามารถผ่านพ้นช่วงนักเตะดาวรุ่งไปได้ด้วยดีด้วยเถอะ
ลงเล่นกับบุนเดสลิกาได้เพียง 7 นัดเขาก็ยิงประตูแรกของตัวเอง แล้วประตูที่ 2 ก็ตามมาในเกมลีกเกมที่ 8 ของตัวเขาเอง นั่นคือสิ่งที่พูลิซิซทำได้ใน 4 เดือนแรกกับทีมใหญ่ของดอร์ทมุนด์ และ 4 เดือนต่อมา ในเดือนกันยา 2016 เขาก็โด่งดังไปทั่วอเมริกา ในฐานะนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูให้อเมริกาในเกมคัดเลือดฟุตบอลโลก และเด็กที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอเมริกา แถมยิงคนเดียวอีก 2 ประตู
.. นาทีนั้น จะมีแฟนๆซ้อคเกอร์ชาวอเมริกันคนไหนไม่รู้จักชื่อของคริสเตียน พูลิซิซบ้าง ..
จากเด็กหนุ่มที่ยิงได้ 1 ประตูได้เกมเยาวชนตอนอายุ 16
จนถึงประตูสร้างประวัติศาสตร์ในเยอรมัน
สู่การแจ้งเกิดในระดับชาติตอนอายุ 17
และนี่คือ ขวัญใจอเมริกันชนคนล่าสุด ลูกรักคนใหม่ของแฟนๆโบรุซเซีย ดอร์ทมุนด์
เด็กหนุ่มจากเฮอร์เช สหรัฐอเมริกา
"คริสเตียน พูลิซิซ"
[BVB] … From Soccer to Fußball เส้นทางจากอเมริกาสู่เยอรมันของ Christian Pulisic …
เลยขอเอาประวัติน้องพูสุดน่ารักของทีมเรา (เราในทีนี้คือ BVB ค่ะ 555) มาฝากค่ะ
รู้สึกจะเป็นข่าวกับหลายๆทีมในอังกฤษอยู่ช่วงนึง
แถมลิเวอร์พูลยังเคยถูกลิเวอร์พูลยื่นซื้อมาหลายรอบ (น่าจะ 2 รอบ)
แต่ทางนี้หยิ่งค่ะ ไม่ขาย 55555555555555555555
Zorc เคยออกมาประกาศเองเลยว่า "ขายไม่เว้ยยยย หยุดยื่นมาได้แล้ววว"
แต่เอาจริงๆสำหรับพี่ ย้ายก็ดี ไม่ย้ายก็ไม่เป็นไรนะลูกนะ อิอิ
เกริ่นมาเยอะแล้ว ไปทำความรู้จักหนุ่มเมกันบอยคนนี้กันค่ะ
ปี 2016 ในเกมยูฟ่าแชมป์เปียนลีครอบแบ่งกลุ่ม โบรุซเซียร์ ดอร์ทมุนด์ โคจรมาพบกับเรอัล มาดริดอีกครั้ง หลายปีก่อน มาดริดมีอดีตที่ไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่นักกับดอร์ทมุนด์ แต่สำหรับแฟนๆดอร์ทมุนด์ มันช่างเป็นเกมแห่งความภาคภูมิใจ การยิงประตูใส่ยอดทีมแบบเรอัล มาดริดได้ถึง 4 ประตูด้วยนักเตะขวัญใจของทีมในเวลานั้นอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้คือช่วงเวลาอันน่าจดจำ ในการพบกันครั้งนี้ แฟนๆดอร์ทมุนด์ได้แต่หวังว่า ทีมเราคงไม่ใช่ทีมที่โชคร้าย แม้นักเตะชุดเดิมที่เคยพบกับมาดริดเมื่อคราวนู้น แทบจะหายออกไปจากทีมกันจนหมดแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความมั่นใจของดอร์ทมุนด์ลดน้อยถอยลงไปแต่อย่างใด เพราะ ถ้าเป็นที่อื่นเราอาจพูดอะไรไม่ได้มาก
มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้มาเยือนแน่นอน
ในการพบกันในปี 2016 นี้ มีนักเตะเพียง 3 คนเท่านั้นที่เป็นผู้เล่นชุดเดียวกับที่เคยเจอมาดริดเมื่อ 4 ปีก่อน นั่นคือ ชเมลเซอร์, พิสเช็ค และ เกิธเซ (ที่พึ่งคัมแบ็คมาในปีนี้ด้วยซ้ำ) นอกนั้นที่เหลือ ยังไม่เคยพบปะเจอหน้าเรอัล มาดริด หรือสไตล์การเล่นของพวกเขามาก่อนเลย และถ้าจะพูดถึงจำนวนคนที่เคยพบกัน ทางฝั่งมาดริดเองก็บอกได้ว่า นักเตะที่เคยเจอดอร์ทมุนด์คราวที่แล้วตอนนี้ก็มีแค่ 5 คน นั่นคือ วาราน, รามอส, โรนัลโด้, เบนเซม่า, โมดริช ซึ่งก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่
แต่ความน่าภูมิใจของแฟนๆดอร์ทมุนด์ในทีมชุดนี้มันอยู่ที่ จำนวนผู้เล่นที่เหลือของดอร์ทมุนด์มีแต่ "เด็กๆ" ทั้งนั้น!!! แต่กลับสามารถสู้กับมาดริดชุดแชมป์เก่าชุดนี้ได้อย่างสนุกเลยเดียว แถมจบลงด้วยสกอร์เสมอ มันเป็นอีกนัดที่เราจะรู้สึกภูมิใจในตัวนักเตะของเรา
ในช่วง 2-1 ขณะที่เรอัล มาดริดกำลังจะจบเกม ทำลายอาถรรพ์ไม่เคยชนะดอร์ทมุนด์เลยใน 5 ครั้งล่าสุดที่เจอกัน คนที่ดับฝันนั้นของนักเตะและแฟนๆมาดริด คือ อันเดร เชอร์เล ดาวเตะเยอรมันที่พึ่งย้ายมาร่วมทีมในปีนี้ และ คนที่เรากำลังจะพูดถึง คือ เด็กหนุ่มที่พึ่งฉลองวันเกิดอายุ 18 ปี กองกลางร่างเล็กที่ชื่อ คริสเตียน พูลิซิซ คนที่แอสซิสต์เพิ่มสถิติให้มาดริด ยังคงไม่สามารถเอาชนะดอร์ทมุนด์ได้ต่อไป ใน 6 นัดล่าสุดที่เจอกันที่รังเหย้าของเสือเหลือง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลายๆคนที่ติดตามข่าวคราวฟุตบอลอยู่บ่อยๆ อาจคุ้นชื่อของ คริสเตียน พูลิซิซ ดาวรุ่งดอร์ทมุนด์คนนี้อยู่บ้าง
เหตุผลที่เกมนี้สนุกและน่าพูดถึงสำหรับผู้เขียนในฐานะที่เป็นทั้งแฟนมาดริด และแฟนดอร์ทมุนด์ (และดันมาเจอกันเอง ทำใจหนักมาก) ก็เพราะนักเตะของดอร์ทมุนด์ชุดนี้น่าสนใจมาก นักเตะเด็กๆที่ทูเคิลพยายามดันขึ้นมาทีมใหญ่ อย่าง คริสเตียน พูลิซิซ นั้นอาจเรียกได้ว่า ต้องจับเบ้าตามองเลยทีเดียว
คริสเตียนเป็นเด็กอเมริกัน แดนที่ฟุตบอลถูกเรียกว่าซ้อคเกอร์ แต่สเก๊าของดอร์ทมุนด์ไปเจอมาตั้งแต่ตอนอายุ 16 ตอนนั้นคริสเตียนลงเล่นทีมชาติชุด U17 ในเกมกระชับมิตรกับบราซิล และยิง 1 ประตูให้ทีมชนะ ที่นี่เองที่เขาได้พบกับสเก๊าของดอร์ทมุนด์ ทีมสเก๊าอยากได้คริสเตียนมาร่วมทีมมาก จนในที่สุดต้นปี 2015 คริสเตียนก็ย้ายไปอยู่เยอรมันและเซ็นสัญญากับดอร์ทมุนด์ และลงเล่นในทีม U17 เลื่อนสู่ U19 และ ใช้เวลาราวๆ 1 ปีในการขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ คริสเตียนมีรายชื่อติดชุดใหญ่ครั้งแรกในเดือนมกราคม 2016
เราไม่แน่ใจว่าในนัดชิงรายการเยาวชนเกมนั้นในอเมริกา สเก๊าของดอร์ทมุนด์มองเห็นอะไรในตัวพูลิซิซ แต่เราก็ได้เห็นมันกับตาแล้วเช่นกันเมื่อได้ดูเกมของดอร์ทมุนด์อย่างต่อเนื่อง นี่เป็นเด็กอเมริกันที่เล่นบอลได้ไม่เหมือนนักเตะอเมริกันคนก่อนๆที่เคยโด่งดังในยุโรปเท่าไหร่ ที่จริงการเล่นของพูลิซิซเหมือนได้ส่วนผสมของนักเตะรุ่นพี่ทั้งสองคน (คลิ้นท์ และแลงดอน) สิ่งที่เป็นจุดเด่นของพูลิซิซคือ ความสด กล้าแลก กล้าได้กล้าเสีย ไม่กลัวกองหลัง และเฟิร์สทัชเป็นเยี่ยม เป็นนักเตะที่จบสกอร์จังหวะเดียว ไม่ยึกยัก ซึ่งจุดนี้จะคล้ายกับคลินท์ เดมพ์ซี่มาก ที่เป็นพวกจบสกอร์จังหวะเดียว ไม่ยึกยักเหมือนกัน แต่เพราะพูลิซิซร่างเล็กจึงมีจุดด้อยด้านการเบียดปะทะและเสียบอลง่าย
ขณะที่การเล่นของพูลิซิซก็ทำให้เรานึกถึงนักเตะอเมริกันอีกคนที่เคยโด่งดังมาก่อน นั่นคือ แลงดอน โดโนแวน ขวัญใจมหาชนคนอเมริกันในยุคเดียวกับที่เดวิด เบคแฮมอยู่อเมริกา เบคแฮมจากยูไนเต็ดหรือจะสู้โดโนแวน นั่นคือสิ่งที่โดโนแวนเคยทำได้ การจบสกอร์อันสวยงาม ลูกเล่นและเทคนิคอันแพรวพราว ทักษะรอบด้าน ทั้งการครองบอล การเลี้ยงบอล การไปกับบอล แลงดอนทำสิ่งนี้ได้ครบถ้วน (ในยุคพีคๆ) นี่คือสิ่งที่ปรากฏในตัวของพูลิซิซวัย 17 เช่นเดียวกัน ความเร็วเป็นเลิศ เทคนิคการจบสกอร์อันหลากหลาย เฟิร์สทัช ความฉลาดเล่น นี่คือสิ่งที่เด็กอเมริกันวัย 17 ทำได้ ซึ่งนี่เป็นสิ่งเดียวกับที่โค้ชทีมอคาเดมี่ของพูลิซิซเคยบอกไว้ จุดเด่นของพูลิซิซ คือ ความเร็วและทักษะรอบด้าน รวมทั้งความสามารถในการปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งพูลิซิซได้พิสูจน์มันมาแล้ว เขาย้ายมาจากอเมริกามาลงเล่นให้ทีม U19 และทีมสำรองอยู่ปีเดียว ทำผลงานกับทีม U17-19 ได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยิงทั้งแอสซิต โชว์ฟอร์มสดได้ไม่นาน ทูเคิลก็เรียกขึ้นทีมใหญ่ และพาไปทัวร์กับทีมในช่วงปรีซีซั่นด้วย หลังลงเล่นในบุนเดสลิกาได้ 7 นัด พูลิซิซก็ยิงประตูแรกของตัวเองให้กับดอร์ทมุนด์ และทำสถิติเป็นนักเตะต่างชาติที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในบุนเดสลิกาทันที ตอนนั้นแลงดอน โดโนแวนรุ่นพี่ ได้ทวีตแซวขำๆว่า
"ด้วยอายุ 17 ปีคริสเตียนทำประตูในบุนเดสลีกาได้มากกว่าเขากับเทย์เลอร์รวมกันเสียอีก"
โดย แลงดอน โดโนแวน และเทย์เลอร์ ทเวลแมน เคยเล่นในบุนเดสลีกาทั้งคู่
แลงดอนอยู่ทั้งเลเวอร์ฯและบาเยิร์น ส่วน เทย์เลอร์อยู่ 1860 มิวนิค
ออพชั่นสำคัญที่พูลิซิซมีติดตัวมา เขาจบสกอร์ได้เด็ดขาดแบบคลิ้นท์ เดมพ์ซี่ และไปกับบอลได้สวยงามเหมือนแลงดอน แต่สิ่งที่รุ่นพี่มีไม่เท่าพูลิซิซคือ ทั้งคลินท์และแลงดอนล้วนแล้วแต่เป็นกองหน้าตำแหน่งหน้าต่ำ คุ้นเคยกับเกมบุกและไม่ค่อยมีส่วนกับเกมรับ แต่นั่นคือสิ่งที่พูลิซิซกลับทำได้ดี แม้จะมีจุดด้อยด้านการยืนตำแหน่งและเรื่องการเสียบอลง่าย แต่เขาเป็นกองกลางที่เล่นเกมรับได้ดี และมีอาวุธสำคัญเป็นเกมเคาร์เตอร์ แอ็ทแทคสุดอันตราย ด้วยความเร็วและการมองหาช่องการทำประตูอยู่เสมอ นี่คือสิ่งที่เรามองว่า คริสเตียน พูลิซิซ ฉายแววของการเป็นนักบอลชั้นเยี่ยมได้เร็วกว่าพี่ๆนักเตะอเมริกันคนอื่นๆ และอย่าลืมว่า เขาพึ่งอายุ 17 เท่านั้น ต้องภาวนาให้เขาสามารถผ่านพ้นช่วงนักเตะดาวรุ่งไปได้ด้วยดีด้วยเถอะ
ลงเล่นกับบุนเดสลิกาได้เพียง 7 นัดเขาก็ยิงประตูแรกของตัวเอง แล้วประตูที่ 2 ก็ตามมาในเกมลีกเกมที่ 8 ของตัวเขาเอง นั่นคือสิ่งที่พูลิซิซทำได้ใน 4 เดือนแรกกับทีมใหญ่ของดอร์ทมุนด์ และ 4 เดือนต่อมา ในเดือนกันยา 2016 เขาก็โด่งดังไปทั่วอเมริกา ในฐานะนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูให้อเมริกาในเกมคัดเลือดฟุตบอลโลก และเด็กที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอเมริกา แถมยิงคนเดียวอีก 2 ประตู
จากเด็กหนุ่มที่ยิงได้ 1 ประตูได้เกมเยาวชนตอนอายุ 16
จนถึงประตูสร้างประวัติศาสตร์ในเยอรมัน
สู่การแจ้งเกิดในระดับชาติตอนอายุ 17
และนี่คือ ขวัญใจอเมริกันชนคนล่าสุด ลูกรักคนใหม่ของแฟนๆโบรุซเซีย ดอร์ทมุนด์
เด็กหนุ่มจากเฮอร์เช สหรัฐอเมริกา
"คริสเตียน พูลิซิซ"