ผมมีความคิด ปราถนาดี อยากมาแชร์ แต่อาจมีเรื่องเข้าใจผิด / ไม่รู้. ท่านผู้อ่านก็ช่วยแนะนำด้วย เพราะไม่ได้อยู่ในวงการข้าว.
สมมุติว่า ผู้ซื้อชอบข้าวสารขายตรงจากชาวนา เพราะอร่อย และอยากช่วยชาวนา จึงอยากซื้ออีกครั้งหน้า แต่มีมอด.
มอดก็ไม่ได้น่ากลัว มีสิดี เพราะบ่งชี้ว่า ปลอดภัยกว่าม่มี. (ชาวนาเอาไปโฆษณาด้วย จะเหมาะไหม?)
ตอนซาว ก็ออกไปง่ายแล้ว แต่เพื่อให้ง่ายขึ้นอีก น่าจะมีวิธีที่ง่าย สะดวก ทุกบ้านทำได้ ในการหยุดการเพิ่มจำนวนมอด
โดยนำข้าวไปตากแดด คอยไล่มอด ถือว่ายุ่งยาก เสียเวลา.. ทำอย่างไร ให้ง่ายกว่านั้น และได้ผล โดยเพียงชาวนำแนะนำ และผู้ซื้อก็ไปทำเอง?
ผมลองมา 1 วิธี อยากให้ไปลองกันดู แล้วช่วยมายืนยันกัน เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ว่า ได้ผลไหม และสะดวกหรือไม่.
วิธีการง่าย ในการจัดการมอดของผมคือ
จัดข้าวสารมีมอดใส่ ถุงละประมาณ 1-2 กก. แล้วใส่ช่องฟรีซ ของตู้เย็น รุ่งเช้าก็เอาออก. ใส่ถุงถัดไป. (ใส่หลายถุง พร้อมกันก็ได้ หากพื้นที่มีพอ)
ขอคิด แบบคนช่างคิดว่า..
ต่อไป ผู้บริโภคสนใจสุขภาพ อาจเลือกซื้อ ข้าวแบบไม่บรรจุสุญญากาศ เพราะอยากเห็นมอด และกล้าซื้อจากชาวนาทุกคน. แบบนี้ ช่วยชาวนาทุกคน.
ข้อดีคือ ไม่ต้องใช้สารเคมี หรือใช้น้อย. ไม่ต้องมีขั้นตอนสุญญากาศ ที่อาจต้องลงทุนเพิ่ม. ผู้บริโภคนิยมซื้อ ข้าวขายตรง เพราะอยากช่วยชาวนา.
หากผมเข้าใจถูก และวิธีนี้ ได้ผลดี พอใจกัน.
ชาวนาอาจบรรจุถุงละ 2 กก. เพื่อให้สะดวกต่อการนำเข้าช่องฟรีซ ของบ้านเรือนส่วนใหญ่ เพื่อความสะดวกของผู้บริโภค เพราะแบ่งไปถุงเล็ก อาจทำให้หกเลอะ และเพิ่มงานได้.
ผู้บริโภค อาจนำข้าวที่ซื้อแล้ว ทยอยใส่ช่องฟรีซ โดยเหลือไว้ถุงหนึ่ง เพื่อดูว่า มอดขึ้นหรือไม่. เมื่อขึ้นแล้ว ก็ดีใจ ว่าได้ข้าวดี แล้วก็ค่อยเอาเข้าช่องฟรีซ.
แบบนี้ ดีไหมครับ?
===
หา tag ให้ตรงประเด็นยากจัง!
ไม่มีใครสนใจชาวนา?
ช่วยคิดให้ชาวนา เพื่อชาวนา เพื่อขายตรง กรณีปัญหามอด
สมมุติว่า ผู้ซื้อชอบข้าวสารขายตรงจากชาวนา เพราะอร่อย และอยากช่วยชาวนา จึงอยากซื้ออีกครั้งหน้า แต่มีมอด.
มอดก็ไม่ได้น่ากลัว มีสิดี เพราะบ่งชี้ว่า ปลอดภัยกว่าม่มี. (ชาวนาเอาไปโฆษณาด้วย จะเหมาะไหม?)
ตอนซาว ก็ออกไปง่ายแล้ว แต่เพื่อให้ง่ายขึ้นอีก น่าจะมีวิธีที่ง่าย สะดวก ทุกบ้านทำได้ ในการหยุดการเพิ่มจำนวนมอด
โดยนำข้าวไปตากแดด คอยไล่มอด ถือว่ายุ่งยาก เสียเวลา.. ทำอย่างไร ให้ง่ายกว่านั้น และได้ผล โดยเพียงชาวนำแนะนำ และผู้ซื้อก็ไปทำเอง?
ผมลองมา 1 วิธี อยากให้ไปลองกันดู แล้วช่วยมายืนยันกัน เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ว่า ได้ผลไหม และสะดวกหรือไม่.
วิธีการง่าย ในการจัดการมอดของผมคือ
จัดข้าวสารมีมอดใส่ ถุงละประมาณ 1-2 กก. แล้วใส่ช่องฟรีซ ของตู้เย็น รุ่งเช้าก็เอาออก. ใส่ถุงถัดไป. (ใส่หลายถุง พร้อมกันก็ได้ หากพื้นที่มีพอ)
ขอคิด แบบคนช่างคิดว่า..
ต่อไป ผู้บริโภคสนใจสุขภาพ อาจเลือกซื้อ ข้าวแบบไม่บรรจุสุญญากาศ เพราะอยากเห็นมอด และกล้าซื้อจากชาวนาทุกคน. แบบนี้ ช่วยชาวนาทุกคน.
ข้อดีคือ ไม่ต้องใช้สารเคมี หรือใช้น้อย. ไม่ต้องมีขั้นตอนสุญญากาศ ที่อาจต้องลงทุนเพิ่ม. ผู้บริโภคนิยมซื้อ ข้าวขายตรง เพราะอยากช่วยชาวนา.
หากผมเข้าใจถูก และวิธีนี้ ได้ผลดี พอใจกัน.
ชาวนาอาจบรรจุถุงละ 2 กก. เพื่อให้สะดวกต่อการนำเข้าช่องฟรีซ ของบ้านเรือนส่วนใหญ่ เพื่อความสะดวกของผู้บริโภค เพราะแบ่งไปถุงเล็ก อาจทำให้หกเลอะ และเพิ่มงานได้.
ผู้บริโภค อาจนำข้าวที่ซื้อแล้ว ทยอยใส่ช่องฟรีซ โดยเหลือไว้ถุงหนึ่ง เพื่อดูว่า มอดขึ้นหรือไม่. เมื่อขึ้นแล้ว ก็ดีใจ ว่าได้ข้าวดี แล้วก็ค่อยเอาเข้าช่องฟรีซ.
แบบนี้ ดีไหมครับ?
===
หา tag ให้ตรงประเด็นยากจัง!
ไม่มีใครสนใจชาวนา?