อีกไม่กี่เดือน จะเข้าหน้าร้อนกันแล้ว ญี่ปุ่นก็ยังคงเป็นเมืองที่นิยมของคนไทยอยู่ดี เราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เที่ยวญีปุ่นทุกฤดู วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ โหด มันส์ ฮา ที่โอซาก้า เกียวโต หน้าร้อนมากๆๆมาให้ชมกันนะคะ ที่มาไม่มีอะไรมากเลยคะเพราะเจอตั้วถูกคะ หน้าร้อนไม่ค่อยมีคนมามั้ง 555+ คำว่าร้อนของเขานิ ร้อนกว่าไทยนะคะ ประกาศว่าใครจะไปเที่ยวกับเรามั่ย ไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน แล้วพี่ๆก็ติดต่อมา เป็นพี่ที่อยู่คณะเดียวกัน ทุกคนน่ารักมาก Friendly มากๆ
เตรียมตัวเดินทางคะ
1. จองตั๋วเครื่องบิน Airasia เจ้าเก่า ใครๆก็บินได้ แลกแต้มเพลินเลยจ้า
2. จองที่พัก โรงแรม แต่เกิด Accident ขึ้น จองโรงแรมผิดเดือน ความผิดมหัน แถมจ่ายไปแล้วด้วย
ไม่ได้เงินคืนคะ เพิ่งมาดู 1 วันก่อนเดินทาง ปล.ทุกคนนับเดือนให้ถูกเลขด้วยนะคะ ไม่งั้นจะเป็นแบบเรา
3. ศึกษาเส้นทางทั้งหมด วิธีการเดินทาง ปริ้นแผนที่
4. จองที่พักใหม่ เลยไปจองใน Airbnb
วันที่ 1 เดินทาง และนอนสนามบิน Kansai
ออกเดินทางวันแรก พีคคะพีคคคคค เปิดกล้องที่สนามบิน อ๊ากกกก ไม่ได้เอาแบตกล้องมา จะร้องไห้จริงๆนะ กลับไปไม่ทันแล้ว ที่ชาร์จก็ไม่ได้เอามา ทริปนี้รูปไม่สวยนะคะ ถ่ายจากมือถือเอา เซงมากๆ 555+ เบื่อตัวเอง เอาออกไปชาร์จเมื่อคืนแล้วลืมแน่ๆ ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ตอนบ่ายสามโมง
สั่งอาหารมาจากทางอินเตอร์เน็ตเรียบร้อย ข้าวไก่เทอริยากิ
เดินทางมาถึงสนามบิน Kansai เวลา 23.30 น.
รถไฟหมดแล้ว เราต้องนอนสนามบิน ประสบการณ์นอนสนามบินครั้งแรก ครั้งเดียวเกินพอ 555+ ลงจากเครื่องบินมา ต้องเปลี่ยน Terminal มาอันหลัก และผ่าน ตม เข้าเมือง
ตอนแรกจะไปนอนในเลาธ์ เต็มค่าาาาา TT ตายล้าววว
เดินไปเรื่อยๆหาพื้นที่ว่างๆ
สุดท้ายก็ได้พื้นที่ มีปลั๊กไฟนอนพื้นกันเลย เอาคอมไปด้วย นั่งฟังเพลงชิวๆ
นอนไม่หลับคะ เจ้าหน้าที่เดินตรวจตลอด เดินไปซื้อของกินใน LAWSON มาตุนกัน
วันที่ 2 : นั่งรถไฟ HARAKU ไปเกียวโต,โดทงโบริ
ตื่นมาตอนเช้าไปอาบน้ำ ตึกฝั่งตรงข้าม ราคา 400 เยน อาบได้ 30 นาที
จากนั่นไปหาข้าวเช้ารับประทาน ราคาไม่แพง 500 เยนในสนามบิน
หน้าตาอาหาร 500 เยน อร่อยใช้ได้
พอ 7 โมง JR Information office เปิดละ ก็ไปซื้อตั้ว ICOCA and HARAKU ราคา 4060 Yen ต่อใบ ได้บัตรเติมเงินและตั้วไปกลับ สนามบิน หน้าตาบัตร ICOCA และตั้วรถไฟ HARAKU
รอจน 08.00 น. ให้ Information ชั้น 1 เปิด ไปซื้อตั้ว Osaka Amazing Pass2 Days 3000 Yen ใช้เข้าสถานที่ต่างๆได้ฟรีเลย
หน้าตารถไฟ Haraku ที่นั่งยาวไป Kyoto ได้เลย
ภายในรถไฟที่เรานั่งไป เกียวโต
ถึงแล้วสถานีเกียวโต เอาของใส่ Locker ค่าLocker มีตั้งแต่ราคา 300 -700 Yen แล้วแต่ Size แล้วไปเดินเล่นในเมืองกัน
นั่งรถไฟท้องถิ่นของเกียวโต ไป Fushimi Inari ให้นั่ง JR สาย Nara ลงที่ป้าย Inari
บริเวณวัดเสาแดง มีขายแป้งย่าง 300 เยน
น้ำที่เขาตักกันทำตามเขาไป 555+
รอบๆ Fushimi Inari
คือด้วยความร้อนมาก และเมื่อคืนไม่ได้นอนแบบเต็มที่ ทำให้ร่างกายเพลียสุดขีดทำให้พอเท่านี้ ตอนแรกหาที่เที่ยวเยอะมากไปหาของอะไรเย็นๆกินกันดีกว่า มันร้อนขนาดที่ 40 องศา ไม่อยากทำอะไรเลยคะร้อนกว่าไทยอีก
ร้าน Cafe บริเวณวัดเสาแดง แพนเค้กชาเขียวถั่วแดง
Blue Hawaii
ฮันนี่โทล สั่งมาและกินด้วยกัน เหมือนต้องสั่งให้ครบทุกคน งงมาก เสียค่าเสียหาย หารคนละ 700 เยน ไม่แพงมาก ถือว่าราคานี้รับได้ สำหรับ 5 จานมาเกียวโตแค่ที่เดียวก็ใช้บัตร ICOCA ที่มี นั่งรถไฟกลับมาที่สถานี Namba เข้าที่พัก มีคนมารับที่สถานีรถไฟเราพักกันที่ #601 Namaba!Shinimamiya!Cozy! จองผ่าน Airbnb ลงสถานี Shin-Imamiya ทางออก 9 คะ
หน้าตาห้องพักคะเป็นห้องใต้หลังคา ตอนแรกเรามีปัญหากับแอร์ เพราะเราใช้รีโมตแอร์ไม่เป็น มันร้อนมาก แถมแม่บ้านก็เป็นคนจีนพูดอังกฤษไม่ได้เลยพออยู่ไปช่างก็มาซ่อมให้ ก็โอเคขึ้น (คือพวกเราไปเปิดฮีทเตอร์ 555+)
พอเย็นๆเราก็ออกไป Namba Station
เดินเล่นเรียบคลองไปเรื่อยๆ เจอร้านอาหารเยอะแยะเลย
ด้วยความอยากกิน เลยเลือกราเมง น้ำซุปเข้มข้นและชามใหญ่มาก กินคนเดียวไม่ไหว ราคา 750 Yen
ส่วนตัวสั่งข้าวหน้าเนื้อย่างมา ราคา 500 Yen
ไปซื้อของกันต่อที่ Donkiสาขานี้ใหญ่พอสมควร หอบของกลับบ้านกัน
วันที่ 3 : พระราชวัง,Cafeแมว, Shinsaibashi
ตื่นมาเตรียมของ ทำอาหารเช้าให้ทุกคนกิน
จานช้อน แก้วน้ำ เตรียมมาจากบ้าน น่ารักมุ้งมิ้งที่สุดละ ทำอาหารเช้าง่ายๆ คิคิ โชคดีวัสถุดิบซื้อจากใต้ดึกที่พักได้เลย เสร็จแล้ว ขนมปังไข่ดาว ไส้กรอก แฮม และสลัดผักปลอดสารพิษ น่ากินชะมะล๊าาา
ทริปนี้เราไม่รีบออกจากที่พัก 10 โมงทุกวัน แตะนั่นเราเอง 555 ชิวๆ
วันนี้เราจะไปพระราชวังกันก่อน วิธีเดินทางคือลงสถานี Tanimachi-Yon 4 chome
เดินไกลพอสมควรจากสถานี ร้อนมากๆ มองหาร้านไอติมกันก่อน ได้ไอติมมาแล้ว ชาเขียว 500 เยน แพงกว่า โตเกียว อีก
เดินเข้ามาถึงข้างใน เจอคนรุมๆกัน ทำอะไรกัน อ่อ! ร้านขายทาโกยากิ
ซื้อมา 1 ถ้วย 550 เยน แล้วเอาแบ่งกันกิน รู้สึกว่ามันเละๆ เฉยๆ 55+
หลังจากนั่นพาพี่ไปส่งที่ Cafe อีคนพาไปมันแพ้ขนแมว มากๆๆ ไม่ไกลจาก พระราชวัง ส่วนตัวเองและป้าก็เดินเล่นซื้อของฝาก
ไปกันต่อย่าน Shinsaibashi ย่าน Shopping ของที่นี่เลย เป็นตรอกสองฝั่งถนน
เริ่มหิว หาอะไรกิน เห็นร้านอาหารเป็นเซต
และข้าวหน้าหมูทอด ข้าว พร้อมซุป 850 เยนอิ่มมากแล้วก็เดินเล่นกันต่อถึงเย็น ก็ตัดสินใจกลับที่พัก
หน้าที่พักมี Supermarket อารมณ์ Lotus Express
ได้ข้าวปั้นลดราคา มา 2 กล่อง ลดราคา ถูกมากกกกก
วันที่ 4 : ใส่กิมาโน
วันนี้ทำอาหารเช้าง่าย คือมาม่า ใส่ไข่และแฮม คนละชาม
ประมาณ 10 โมงออกจากที่พัก ไป Osaka Museum Of Housing and Living ลงสถานี Tenjibashisuji 6-Chome ทางออก 3
แสดงบัตร Amazing Osaka Pass เข้าฟรี รอใส่กิมาโนกัน
หลังจากใส่ชุดเดินเล่นในเมืองเสร็จเราไปต่อ
ที่ป้ายกุลิโกะ สถานีเดิมลง Namba Station
ด้วยความอยากลอง KFC ของที่นี่ จะบอกว่ารสชาติ ไม่ไหวอย่างแรง 555+ เค็มอย่างเดียวไม่มีรสชาติอื่นผสม ทุกคนบอกว่านี่คือจุดบอดของทริปนี้
ไม่โอเคไปกินอย่างอื่นต่อ 555+ จบลง อีกวัน เพราะเสียเวลาไปกับการรอใส่ชุด ได้คิวรอบบ่าย กลับทีพักไปเอากระเป๋า
นั่ง Haruku กลับสนามบิน
เราสามารถเอาบัตร ICOCA คืนได้ที่ Office JR ตรงนี้นะ
เชคอินล่วงหน้ามาแล้ว แค่โหลดกระเป๋า เอาเวลาไปทิ้งใน Duty Free แทน ออกเดินทาง ตอน 00.15 น.
วันที่ 4 : เดินทางถึงไทย
จบลงแล้วกับทริปวุ่นวาย 555+ ลืมกระทั่งแบตกล้อง เอากล้องมาให้หนักแต่ไม่ได้ใช้ ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนน๊าที่มาผจญภัยด้วยกัน
[CR] หน้าร้อนญี่ปุ่น เที่ยวไหนดี? ไปคะ Osaka,Tokyo งบละ 13,500 ต่อทริป (ไม่รวมช้อปปิ้ง)😂
อีกไม่กี่เดือน จะเข้าหน้าร้อนกันแล้ว ญี่ปุ่นก็ยังคงเป็นเมืองที่นิยมของคนไทยอยู่ดี เราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เที่ยวญีปุ่นทุกฤดู วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ โหด มันส์ ฮา ที่โอซาก้า เกียวโต หน้าร้อนมากๆๆมาให้ชมกันนะคะ ที่มาไม่มีอะไรมากเลยคะเพราะเจอตั้วถูกคะ หน้าร้อนไม่ค่อยมีคนมามั้ง 555+ คำว่าร้อนของเขานิ ร้อนกว่าไทยนะคะ ประกาศว่าใครจะไปเที่ยวกับเรามั่ย ไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน แล้วพี่ๆก็ติดต่อมา เป็นพี่ที่อยู่คณะเดียวกัน ทุกคนน่ารักมาก Friendly มากๆ
เตรียมตัวเดินทางคะ
1. จองตั๋วเครื่องบิน Airasia เจ้าเก่า ใครๆก็บินได้ แลกแต้มเพลินเลยจ้า
2. จองที่พัก โรงแรม แต่เกิด Accident ขึ้น จองโรงแรมผิดเดือน ความผิดมหัน แถมจ่ายไปแล้วด้วย
ไม่ได้เงินคืนคะ เพิ่งมาดู 1 วันก่อนเดินทาง ปล.ทุกคนนับเดือนให้ถูกเลขด้วยนะคะ ไม่งั้นจะเป็นแบบเรา
3. ศึกษาเส้นทางทั้งหมด วิธีการเดินทาง ปริ้นแผนที่
4. จองที่พักใหม่ เลยไปจองใน Airbnb
วันที่ 1 เดินทาง และนอนสนามบิน Kansai
ออกเดินทางวันแรก พีคคะพีคคคคค เปิดกล้องที่สนามบิน อ๊ากกกก ไม่ได้เอาแบตกล้องมา จะร้องไห้จริงๆนะ กลับไปไม่ทันแล้ว ที่ชาร์จก็ไม่ได้เอามา ทริปนี้รูปไม่สวยนะคะ ถ่ายจากมือถือเอา เซงมากๆ 555+ เบื่อตัวเอง เอาออกไปชาร์จเมื่อคืนแล้วลืมแน่ๆ ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ตอนบ่ายสามโมง
สั่งอาหารมาจากทางอินเตอร์เน็ตเรียบร้อย ข้าวไก่เทอริยากิ
เดินทางมาถึงสนามบิน Kansai เวลา 23.30 น.
รถไฟหมดแล้ว เราต้องนอนสนามบิน ประสบการณ์นอนสนามบินครั้งแรก ครั้งเดียวเกินพอ 555+ ลงจากเครื่องบินมา ต้องเปลี่ยน Terminal มาอันหลัก และผ่าน ตม เข้าเมือง
ตอนแรกจะไปนอนในเลาธ์ เต็มค่าาาาา TT ตายล้าววว
เดินไปเรื่อยๆหาพื้นที่ว่างๆ
สุดท้ายก็ได้พื้นที่ มีปลั๊กไฟนอนพื้นกันเลย เอาคอมไปด้วย นั่งฟังเพลงชิวๆ
นอนไม่หลับคะ เจ้าหน้าที่เดินตรวจตลอด เดินไปซื้อของกินใน LAWSON มาตุนกัน
วันที่ 2 : นั่งรถไฟ HARAKU ไปเกียวโต,โดทงโบริ
จากนั่นไปหาข้าวเช้ารับประทาน ราคาไม่แพง 500 เยนในสนามบิน
หน้าตาอาหาร 500 เยน อร่อยใช้ได้
พอ 7 โมง JR Information office เปิดละ ก็ไปซื้อตั้ว ICOCA and HARAKU ราคา 4060 Yen ต่อใบ ได้บัตรเติมเงินและตั้วไปกลับ สนามบิน หน้าตาบัตร ICOCA และตั้วรถไฟ HARAKU
รอจน 08.00 น. ให้ Information ชั้น 1 เปิด ไปซื้อตั้ว Osaka Amazing Pass2 Days 3000 Yen ใช้เข้าสถานที่ต่างๆได้ฟรีเลย
หน้าตารถไฟ Haraku ที่นั่งยาวไป Kyoto ได้เลย
ภายในรถไฟที่เรานั่งไป เกียวโต
ถึงแล้วสถานีเกียวโต เอาของใส่ Locker ค่าLocker มีตั้งแต่ราคา 300 -700 Yen แล้วแต่ Size แล้วไปเดินเล่นในเมืองกัน
นั่งรถไฟท้องถิ่นของเกียวโต ไป Fushimi Inari ให้นั่ง JR สาย Nara ลงที่ป้าย Inari
บริเวณวัดเสาแดง มีขายแป้งย่าง 300 เยน
น้ำที่เขาตักกันทำตามเขาไป 555+
รอบๆ Fushimi Inari
คือด้วยความร้อนมาก และเมื่อคืนไม่ได้นอนแบบเต็มที่ ทำให้ร่างกายเพลียสุดขีดทำให้พอเท่านี้ ตอนแรกหาที่เที่ยวเยอะมากไปหาของอะไรเย็นๆกินกันดีกว่า มันร้อนขนาดที่ 40 องศา ไม่อยากทำอะไรเลยคะร้อนกว่าไทยอีก
ร้าน Cafe บริเวณวัดเสาแดง แพนเค้กชาเขียวถั่วแดง
Blue Hawaii
ฮันนี่โทล สั่งมาและกินด้วยกัน เหมือนต้องสั่งให้ครบทุกคน งงมาก เสียค่าเสียหาย หารคนละ 700 เยน ไม่แพงมาก ถือว่าราคานี้รับได้ สำหรับ 5 จานมาเกียวโตแค่ที่เดียวก็ใช้บัตร ICOCA ที่มี นั่งรถไฟกลับมาที่สถานี Namba เข้าที่พัก มีคนมารับที่สถานีรถไฟเราพักกันที่ #601 Namaba!Shinimamiya!Cozy! จองผ่าน Airbnb ลงสถานี Shin-Imamiya ทางออก 9 คะ
หน้าตาห้องพักคะเป็นห้องใต้หลังคา ตอนแรกเรามีปัญหากับแอร์ เพราะเราใช้รีโมตแอร์ไม่เป็น มันร้อนมาก แถมแม่บ้านก็เป็นคนจีนพูดอังกฤษไม่ได้เลยพออยู่ไปช่างก็มาซ่อมให้ ก็โอเคขึ้น (คือพวกเราไปเปิดฮีทเตอร์ 555+)
พอเย็นๆเราก็ออกไป Namba Station
เดินเล่นเรียบคลองไปเรื่อยๆ เจอร้านอาหารเยอะแยะเลย
ด้วยความอยากกิน เลยเลือกราเมง น้ำซุปเข้มข้นและชามใหญ่มาก กินคนเดียวไม่ไหว ราคา 750 Yen
ส่วนตัวสั่งข้าวหน้าเนื้อย่างมา ราคา 500 Yen
ไปซื้อของกันต่อที่ Donkiสาขานี้ใหญ่พอสมควร หอบของกลับบ้านกัน
วันที่ 3 : พระราชวัง,Cafeแมว, Shinsaibashi
ตื่นมาเตรียมของ ทำอาหารเช้าให้ทุกคนกิน
จานช้อน แก้วน้ำ เตรียมมาจากบ้าน น่ารักมุ้งมิ้งที่สุดละ ทำอาหารเช้าง่ายๆ คิคิ โชคดีวัสถุดิบซื้อจากใต้ดึกที่พักได้เลย เสร็จแล้ว ขนมปังไข่ดาว ไส้กรอก แฮม และสลัดผักปลอดสารพิษ น่ากินชะมะล๊าาา
ทริปนี้เราไม่รีบออกจากที่พัก 10 โมงทุกวัน แตะนั่นเราเอง 555 ชิวๆ
วันนี้เราจะไปพระราชวังกันก่อน วิธีเดินทางคือลงสถานี Tanimachi-Yon 4 chome
เดินไกลพอสมควรจากสถานี ร้อนมากๆ มองหาร้านไอติมกันก่อน ได้ไอติมมาแล้ว ชาเขียว 500 เยน แพงกว่า โตเกียว อีก
เดินเข้ามาถึงข้างใน เจอคนรุมๆกัน ทำอะไรกัน อ่อ! ร้านขายทาโกยากิ
ซื้อมา 1 ถ้วย 550 เยน แล้วเอาแบ่งกันกิน รู้สึกว่ามันเละๆ เฉยๆ 55+
หลังจากนั่นพาพี่ไปส่งที่ Cafe อีคนพาไปมันแพ้ขนแมว มากๆๆ ไม่ไกลจาก พระราชวัง ส่วนตัวเองและป้าก็เดินเล่นซื้อของฝาก
ไปกันต่อย่าน Shinsaibashi ย่าน Shopping ของที่นี่เลย เป็นตรอกสองฝั่งถนน
เริ่มหิว หาอะไรกิน เห็นร้านอาหารเป็นเซต
และข้าวหน้าหมูทอด ข้าว พร้อมซุป 850 เยนอิ่มมากแล้วก็เดินเล่นกันต่อถึงเย็น ก็ตัดสินใจกลับที่พัก
หน้าที่พักมี Supermarket อารมณ์ Lotus Express
ได้ข้าวปั้นลดราคา มา 2 กล่อง ลดราคา ถูกมากกกกก
วันนี้ทำอาหารเช้าง่าย คือมาม่า ใส่ไข่และแฮม คนละชาม
ประมาณ 10 โมงออกจากที่พัก ไป Osaka Museum Of Housing and Living ลงสถานี Tenjibashisuji 6-Chome ทางออก 3
แสดงบัตร Amazing Osaka Pass เข้าฟรี รอใส่กิมาโนกัน
หลังจากใส่ชุดเดินเล่นในเมืองเสร็จเราไปต่อ
ที่ป้ายกุลิโกะ สถานีเดิมลง Namba Station
ด้วยความอยากลอง KFC ของที่นี่ จะบอกว่ารสชาติ ไม่ไหวอย่างแรง 555+ เค็มอย่างเดียวไม่มีรสชาติอื่นผสม ทุกคนบอกว่านี่คือจุดบอดของทริปนี้
ไม่โอเคไปกินอย่างอื่นต่อ 555+ จบลง อีกวัน เพราะเสียเวลาไปกับการรอใส่ชุด ได้คิวรอบบ่าย กลับทีพักไปเอากระเป๋า
นั่ง Haruku กลับสนามบิน
เราสามารถเอาบัตร ICOCA คืนได้ที่ Office JR ตรงนี้นะ
เชคอินล่วงหน้ามาแล้ว แค่โหลดกระเป๋า เอาเวลาไปทิ้งใน Duty Free แทน ออกเดินทาง ตอน 00.15 น.