หลังจากภาคที่แล้วตามถล่มแก๊งมาเฟียที่มาฆ่าหมาของเขาตาย ในภาคนี้ จอห์น วิค (คีอานู รีฟส์) ที่ต้องกลับเข้าวงการหลังจากวางมือไปแล้ว หลังจากที่อดีตเพื่อนร่วมงานวางแผนเข้าควบคุมองค์กรมือสังหารลับระดับนานาชาติ ด้วยพันธะเลือดที่เคยให้ไว้ว่าจะช่วยเหลือ จอห์นจึงต้องเดินทางไปยังโรมที่เขาต้องรับมือกับบรรดานักฆ่าที่อันตรายที่สุดในโลก
และจากนี้คือเบื้องลึกเบื้องหลังของการถ่ายทำหนังแอ็คชั่นเรื่องนี้
1. ก่อนหน้าการถ่ายทำ คีอานู รีฟ ในวัย 52 ปี (อย่าถูกหน้าแกหลอกอายุเอานะ) ต้องไปฝึกการใช้อาวุธสารพัดรูปแบบกับทีมงานมืออาชีพ โดยเฉพาะการใช้ต่อสู้แบบ Close Quarters Battle (CQB) ซึ่งหมายถึงการต่อสู้ในพื้นที่ที่มีขอบเขตจำกัด ด้วยอาวุธที่จำกัดด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่าพี่รีฟของเราทำได้ดีไม่มีที่ติ
2. นอกจากนี้ คีอานู รีฟ ยังใช้เวลา 4 เดือนเต็มๆ หมดไปกับการฝึกศิลปะการต่อสู้บราซิล ที่ภาคนี้ จอห์น วิค ต้องใช้การต่อสู้สไตล์ยูยิตสูเกือบทั้งเรื่อง รวมถึงยูโดและอาวุธต่างๆ
(กว่าการถ่ายทำจะจบ หลายคนก็บอกว่า อีกหน่อยรีฟคงได้ใช้ศิลปะการต่อสู้สักแขนงเป็นเข้าจริงๆ จนได้)
3. หลังจากเคยแสดงร่วมกันมาแล้วใน The Matrix Revolutions (2003) รีฟและลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น นักแสดงรุ่นใหญ่ก็ได้กลับมาเล่นหนังด้วยกันในรอบ 14 ปี (ซึ่งแชด-ผู้กำกับออกมาบอกว่า พอรู้ว่าได้เล่นหนังด้วยกันอีกครั้งกับฟิชเชิร์น รีฟก็ออกอาการดีใจอย่างออกหน้าออกตามาก)
ทั้งนี้ ฟิชเบิร์นและรีฟนั้นเป็นเพื่อนรักกันในชีวิตจริง และในฤดูร้อนปี 2015 หลังจากนัดพบกัน ฟิชเบิร์นก็บอกรีฟว่าเขาชอบหนังภาคแรกมากๆ และหวังว่าถ้ามีภาคสอง เขาจะได้ร่วมแสดงด้วยนะ (ล็อบบี้มาแล้วนะ)
4. ประโยคสุดจี๊ดในหนังที่จอห์น วิค (รีฟ) พูดกับโบเวอรี่ คิง (ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น) ว่า “ผมเดาเอาว่าคุณคงมีทางเลือกนะ” เป็นการล้อคำจากหนัง The Matrix ที่ทั้งสองเคยแสดงด้วยกัน และในเรื่องนั้น ตัวละครของฟิชเบิร์นพูดประโยคนี้ไว้
5. แม้จอห์น วิคจะอายุมากขึ้น และตัวคีอานู รีฟ จะอายุมากขึ้นก็ตาม แต่บทบู๊ในเรื่องก็ไม่ได้บันยะบันยังแต่ประการใด “ภาคนี้ผมไม่ได้กระโจนหรือกระโดดจากบันไดลงมาชั้นล่างอีกแล้วอ้ะ-ผมถูกโยนลงมาเลย” (TT)
6. หลังอ่านบท คีอานู รีฟ ถึงกับสะท้อนใจว่าทำไมจอห์น วิค ตัวละครของเขามันถึงได้ซวยขนาดนี้ “แชด (ผู้กำกับ) ดูสนุกกับการแกล้งจอห์นมากเลย ให้โดนรถชน โยนเขาออกมาจากหน้าต่าง ให้โดนยิงอีกนิดซิ ซึ่งทั้งหมดเนี่ย มันยิ่งทำให้จอห์นกลายเป็นบุคคลที่ดุและอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ ล่ะ” คีอานู รีฟ ให้สัมภาษณ์ (อาจจะอยากบอกผู้กำกับด้วยว่า ตอนแสดงมันเหนื่อยเด้อ TT)
7. หนังได้รูบี้ โรส สาวมาดเท่จากซีรีย์สุดฮิต “Orange is the New Black” มารับบทเป็นสาวใบ้มือสังหารที่ใช้ทั้งมีดทั้งปืนได้คล่องสุดๆ (จริงๆ ระยะหลัง บทสาวเหี้ยมลุคเท่แบบนี้ โรสเกือบจะกวาดเรียบหมดแล้วนะ)
8. ภาคนี้มีศพเกลื่อนถึง 141 ศพ ใครสมาธิดีหน่อยลองนับนะ
9. คีอานู รีฟ ต้องฝึกศิลปะการต่อสู้ Gun-Fu 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 10 สัปดาห์ ยิงกระสุน 1000-1500 นัด ต่อการฝึกหนึ่งครั้ง จนกว่าเขาจะจำน้ำหนักและสัมผัสของปืนได้
“การซ้อมด้วยกระสุนจริงทำให้คุณเรียนรู้ว่าร่างกายคุณจะรู้สึกและตอบสนองอย่างไร ถ้าว่ากันตรงๆ แล้ว มันไม่มีวิธีอื่นที่เรียนรู้ได้หรอก ถ้าคุณไม่ได้ยิงมันจริงๆ” รีฟกล่าว
10. ฉากเด็ดของเรื่องนี้คือ ฉากโรงอาบน้ำโบราณกลางกรุงโรม ที่ซึ่ง จอห์น วิค ใช้ศิลปะการต่อสู้คร่าชีวิตมือสังหารไป 35 ศพ (!!)
11. John Wick: Chapter 2 ยังเป็นหนังเรื่องแรกที่ได้ถ่ายทำในศูนย์กลางขนส่งเวิลด์ เทรด เซนเตอร์ มูลค่ากว่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งทำหน้าที่เป็นฉากหลังให้กับการดวลกันระหว่าง จอห์น วิค และศัตรู ทั้งคู่ใช้ปืนเก็บเสียง สองมือปืนเลยต้องไล่ล่ากันในฉากสาดกระสุนที่เงียบที่สุดเป็นประวัติกาลผ่านทางเดินในสถานีรถไฟใต้ดิน
12. นอกจากนี้ ภาคนี้ จอห์น วิค ยังต้องใช้รถยนต์เป็นส่วนหนึ่งของอาวุธที่เขาใช้ต่อสู้ด้วย ทำให้คีอานู รีฟ (ที่ออกตัวว่า “ผมชอบซิ่งนะ”) ต้องกลับรถแบบ 180 องศา และการเลี้ยวหักศอก 90 องศา 45 องศาด้วย
13. คีอานู รีฟ ยืนยันอย่างอารมณ์ดีว่า “ไม่ว่ายังไงเมื่อไหร่ แต่การฆ่าหมาของจอห์น วิค คือเรื่องต้องห้ามนะครับ” (หัวเราะ)
เจอกับจอห์น วิค ได้ทุกโรงภาพยนตร์ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2017 นี้นะจ๊ะ
ฝากบล็อก-เพจ สำหรับติดตามข่าวสาร-แลกเปลี่ยนกันเรื่องภาพยนตร์ด้วยนะคะ
Page:
https://www.facebook.com/llkhimll
Blog:
http://llkhimll.wordpress.com/
13 เรื่องที่คุณควรรู้ก่อนไปดู John Wick: Chapter 2 (2017)
หลังจากภาคที่แล้วตามถล่มแก๊งมาเฟียที่มาฆ่าหมาของเขาตาย ในภาคนี้ จอห์น วิค (คีอานู รีฟส์) ที่ต้องกลับเข้าวงการหลังจากวางมือไปแล้ว หลังจากที่อดีตเพื่อนร่วมงานวางแผนเข้าควบคุมองค์กรมือสังหารลับระดับนานาชาติ ด้วยพันธะเลือดที่เคยให้ไว้ว่าจะช่วยเหลือ จอห์นจึงต้องเดินทางไปยังโรมที่เขาต้องรับมือกับบรรดานักฆ่าที่อันตรายที่สุดในโลก
และจากนี้คือเบื้องลึกเบื้องหลังของการถ่ายทำหนังแอ็คชั่นเรื่องนี้
1. ก่อนหน้าการถ่ายทำ คีอานู รีฟ ในวัย 52 ปี (อย่าถูกหน้าแกหลอกอายุเอานะ) ต้องไปฝึกการใช้อาวุธสารพัดรูปแบบกับทีมงานมืออาชีพ โดยเฉพาะการใช้ต่อสู้แบบ Close Quarters Battle (CQB) ซึ่งหมายถึงการต่อสู้ในพื้นที่ที่มีขอบเขตจำกัด ด้วยอาวุธที่จำกัดด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่าพี่รีฟของเราทำได้ดีไม่มีที่ติ
2. นอกจากนี้ คีอานู รีฟ ยังใช้เวลา 4 เดือนเต็มๆ หมดไปกับการฝึกศิลปะการต่อสู้บราซิล ที่ภาคนี้ จอห์น วิค ต้องใช้การต่อสู้สไตล์ยูยิตสูเกือบทั้งเรื่อง รวมถึงยูโดและอาวุธต่างๆ
(กว่าการถ่ายทำจะจบ หลายคนก็บอกว่า อีกหน่อยรีฟคงได้ใช้ศิลปะการต่อสู้สักแขนงเป็นเข้าจริงๆ จนได้)
3. หลังจากเคยแสดงร่วมกันมาแล้วใน The Matrix Revolutions (2003) รีฟและลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น นักแสดงรุ่นใหญ่ก็ได้กลับมาเล่นหนังด้วยกันในรอบ 14 ปี (ซึ่งแชด-ผู้กำกับออกมาบอกว่า พอรู้ว่าได้เล่นหนังด้วยกันอีกครั้งกับฟิชเชิร์น รีฟก็ออกอาการดีใจอย่างออกหน้าออกตามาก)
ทั้งนี้ ฟิชเบิร์นและรีฟนั้นเป็นเพื่อนรักกันในชีวิตจริง และในฤดูร้อนปี 2015 หลังจากนัดพบกัน ฟิชเบิร์นก็บอกรีฟว่าเขาชอบหนังภาคแรกมากๆ และหวังว่าถ้ามีภาคสอง เขาจะได้ร่วมแสดงด้วยนะ (ล็อบบี้มาแล้วนะ)
4. ประโยคสุดจี๊ดในหนังที่จอห์น วิค (รีฟ) พูดกับโบเวอรี่ คิง (ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น) ว่า “ผมเดาเอาว่าคุณคงมีทางเลือกนะ” เป็นการล้อคำจากหนัง The Matrix ที่ทั้งสองเคยแสดงด้วยกัน และในเรื่องนั้น ตัวละครของฟิชเบิร์นพูดประโยคนี้ไว้
5. แม้จอห์น วิคจะอายุมากขึ้น และตัวคีอานู รีฟ จะอายุมากขึ้นก็ตาม แต่บทบู๊ในเรื่องก็ไม่ได้บันยะบันยังแต่ประการใด “ภาคนี้ผมไม่ได้กระโจนหรือกระโดดจากบันไดลงมาชั้นล่างอีกแล้วอ้ะ-ผมถูกโยนลงมาเลย” (TT)
6. หลังอ่านบท คีอานู รีฟ ถึงกับสะท้อนใจว่าทำไมจอห์น วิค ตัวละครของเขามันถึงได้ซวยขนาดนี้ “แชด (ผู้กำกับ) ดูสนุกกับการแกล้งจอห์นมากเลย ให้โดนรถชน โยนเขาออกมาจากหน้าต่าง ให้โดนยิงอีกนิดซิ ซึ่งทั้งหมดเนี่ย มันยิ่งทำให้จอห์นกลายเป็นบุคคลที่ดุและอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ ล่ะ” คีอานู รีฟ ให้สัมภาษณ์ (อาจจะอยากบอกผู้กำกับด้วยว่า ตอนแสดงมันเหนื่อยเด้อ TT)
7. หนังได้รูบี้ โรส สาวมาดเท่จากซีรีย์สุดฮิต “Orange is the New Black” มารับบทเป็นสาวใบ้มือสังหารที่ใช้ทั้งมีดทั้งปืนได้คล่องสุดๆ (จริงๆ ระยะหลัง บทสาวเหี้ยมลุคเท่แบบนี้ โรสเกือบจะกวาดเรียบหมดแล้วนะ)
8. ภาคนี้มีศพเกลื่อนถึง 141 ศพ ใครสมาธิดีหน่อยลองนับนะ
9. คีอานู รีฟ ต้องฝึกศิลปะการต่อสู้ Gun-Fu 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 10 สัปดาห์ ยิงกระสุน 1000-1500 นัด ต่อการฝึกหนึ่งครั้ง จนกว่าเขาจะจำน้ำหนักและสัมผัสของปืนได้
“การซ้อมด้วยกระสุนจริงทำให้คุณเรียนรู้ว่าร่างกายคุณจะรู้สึกและตอบสนองอย่างไร ถ้าว่ากันตรงๆ แล้ว มันไม่มีวิธีอื่นที่เรียนรู้ได้หรอก ถ้าคุณไม่ได้ยิงมันจริงๆ” รีฟกล่าว
10. ฉากเด็ดของเรื่องนี้คือ ฉากโรงอาบน้ำโบราณกลางกรุงโรม ที่ซึ่ง จอห์น วิค ใช้ศิลปะการต่อสู้คร่าชีวิตมือสังหารไป 35 ศพ (!!)
11. John Wick: Chapter 2 ยังเป็นหนังเรื่องแรกที่ได้ถ่ายทำในศูนย์กลางขนส่งเวิลด์ เทรด เซนเตอร์ มูลค่ากว่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งทำหน้าที่เป็นฉากหลังให้กับการดวลกันระหว่าง จอห์น วิค และศัตรู ทั้งคู่ใช้ปืนเก็บเสียง สองมือปืนเลยต้องไล่ล่ากันในฉากสาดกระสุนที่เงียบที่สุดเป็นประวัติกาลผ่านทางเดินในสถานีรถไฟใต้ดิน
12. นอกจากนี้ ภาคนี้ จอห์น วิค ยังต้องใช้รถยนต์เป็นส่วนหนึ่งของอาวุธที่เขาใช้ต่อสู้ด้วย ทำให้คีอานู รีฟ (ที่ออกตัวว่า “ผมชอบซิ่งนะ”) ต้องกลับรถแบบ 180 องศา และการเลี้ยวหักศอก 90 องศา 45 องศาด้วย
13. คีอานู รีฟ ยืนยันอย่างอารมณ์ดีว่า “ไม่ว่ายังไงเมื่อไหร่ แต่การฆ่าหมาของจอห์น วิค คือเรื่องต้องห้ามนะครับ” (หัวเราะ)
เจอกับจอห์น วิค ได้ทุกโรงภาพยนตร์ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2017 นี้นะจ๊ะ
ฝากบล็อก-เพจ สำหรับติดตามข่าวสาร-แลกเปลี่ยนกันเรื่องภาพยนตร์ด้วยนะคะ
Page: https://www.facebook.com/llkhimll
Blog: http://llkhimll.wordpress.com/