พอดีวางแผนจะไปเที่ยวเกาะกัน แต่เพื่อนเป็น "โรคกลัวฉลาม" ไม่ยอมไป
พี่แกเล่าให้ฟังว่า ตอนเด็กๆ ดูหนังเรื่อง Jaws แล้วกลัวน้ำลึก ประมาณว่า กลัวฉลามโผล่มาจากใต้น้ำทะเลสีเข้มๆ
ผมว่ามันแปลกจัง แต่ดูในเน็ต เห็นว่ามีคนเป็นโรคกลัวนี้เยอะมาก เรียกว่า Fear of Sharks Phobia
มีประเภท Galeophobia (โรคกลัวครีบฉลาม) Selachophobia (โรคกลัวฉลาม)
อาการจะใจเต้นแรง หายใจหอบ แน่นหน้าอก เหงื่อแตก ดูอาการแล้วน่าเป็นห่วงถ้าจะไปเที่ยวเกาะกัน
เลยต้องเปลี่ยนแผนเที่ยวใหม่
คนที่เป็นโรคกลัวแบบแปลกๆ เท่าที่อ่านเจอ และไม่คิดว่ามันจะมีจริงๆ น่าจะเป็น
โรคกลัวหัวเข่า (Genuphobia)
โรคกลัวหนังสือ (Bibliophobia)
โรคกลัวการนั่ง (Cathisophobia)
โรคกลัวคอมพิวเตอร์ (Cyberphobia)
โรคกลัวเลขแปด (Octophobia)
โรคกลัวสีม่วง (Porphyrophobia)
โรคกลัวปัสสาวะหรือน้ำปัสสาวะ (Urophobia)
โรคกลัวเมฆ (Nephophobia)
โรคกลัวคำยาว (Hippopotomonstrosesquippedaliophobia) ดูจะ ironic ไปนะ รู้ว่าเค้ากลัว ยังตั้งชื่อโรคให้ยาวไปอีก 555
ที่มา
https://www.dek-d.com/board/view/2077018/
ปล. ผมเป็นโรค Mageirocophobia (โรคกลัวการทำอาหาร) เพราะทำอาหารไม่อร่อย 555 (ล้อเล่นครับ)
แล้วเพื่อนๆ มีใครกลัวอะไรแบบแปลกๆ บ้างครับ อยากรู้ อิอิ
เห็นเพื่อนๆ บางคนถามถึงวิธีรักษาโรคกลัว ซึ่งวิธีการบำบัดรักษาเบื้องต้นของ specific phobia
ที่เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะความกลัวของแต่ละคน (เฉพาะกรณีเท่านั้น)
ได้แก่ การรักษาด้วยพฤติกรรมบำบัด (behavioral therapy) ชนิดที่เรียกว่า exposure therapy
หลักการง่าย ๆ ของการรักษาอันนี้ คือให้เผชิญกับสิ่งที่กลัว เมื่อผู้ป่วยทนได้รับไหว ก็จะค่อย ๆ
เพิ่มขนาดความรุนแรงของสิ่งที่กลัวเข้าไปเช่น ในคนไข้ที่กลัวสุนัข ขั้นแรก อาจจะให้จับตุ๊กตาสุนัขก่อน
(บางคนที่ phobia มาก ๆ อาจกลัวได้แม้กระทั่งรูปภาพหรือตุ๊กตาสุนัข) เมื่อผู้ป่วยอยู่ได้ ทนได้โดยไม่รู้สึกกลัวแล้ว
ขั้นต่อไปก็จะเพิ่มขนาดความกลัวขึ้นอีก เช่น จากตุ๊กตาก็เปลี่ยนเป็นให้อยู่กับลูกสุนัขในระยะห่างสัก 5 เมตร
เมื่ออยู่ได้จนหายกลัว ก็ค่อย ๆ เลื่อนสุนัขเข้ามาใกล้เข้าเรื่อยๆ ขั้นสุดท้ายก็อาจเปลี่ยนเป็นสุนัขตัวโตขึ้น
จนกระทั่งไม่มีความกลัวอีกต่อไป
ส่วนการรักษาด้วยยานั้น ไม่ได้เป็นการรักษาหลักในPhobia โดยยาจะให้เพียงเพื่อช่วยลดความกลัวในช่วงแรกเท่านั้น
แต่ยาไม่สามารถทำให้หายได้นะครับ ต้องทำพฤติกรรมบำบัดด้วยเสมอ
“You gain strength, courage and confidence by every experience in which you really stop to look fear in the face.
You must do the thing which you think you cannot do.”
Eleanor Roosevelt
"คุณได้รับความเข้มแข็ง ความกล้าหาญ และความมั่นใจ จากทุก ๆ ประสบการณ์ที่คุณหยุดหนี
แล้วหันมาสบตากับความกลัว คุณต้องทำในสิ่งที่คุณคิดว่าคุณทำไม่ได้"
เอลินอร์ รูสเวลท์
ข้อมูลจาก "
สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย"
มีใครเป็น "โรคกลัว" (Phobia) แบบแปลกๆ บ้างครับ
พี่แกเล่าให้ฟังว่า ตอนเด็กๆ ดูหนังเรื่อง Jaws แล้วกลัวน้ำลึก ประมาณว่า กลัวฉลามโผล่มาจากใต้น้ำทะเลสีเข้มๆ
ผมว่ามันแปลกจัง แต่ดูในเน็ต เห็นว่ามีคนเป็นโรคกลัวนี้เยอะมาก เรียกว่า Fear of Sharks Phobia
มีประเภท Galeophobia (โรคกลัวครีบฉลาม) Selachophobia (โรคกลัวฉลาม)
อาการจะใจเต้นแรง หายใจหอบ แน่นหน้าอก เหงื่อแตก ดูอาการแล้วน่าเป็นห่วงถ้าจะไปเที่ยวเกาะกัน
เลยต้องเปลี่ยนแผนเที่ยวใหม่
คนที่เป็นโรคกลัวแบบแปลกๆ เท่าที่อ่านเจอ และไม่คิดว่ามันจะมีจริงๆ น่าจะเป็น
โรคกลัวหัวเข่า (Genuphobia)
โรคกลัวหนังสือ (Bibliophobia)
โรคกลัวการนั่ง (Cathisophobia)
โรคกลัวคอมพิวเตอร์ (Cyberphobia)
โรคกลัวเลขแปด (Octophobia)
โรคกลัวสีม่วง (Porphyrophobia)
โรคกลัวปัสสาวะหรือน้ำปัสสาวะ (Urophobia)
โรคกลัวเมฆ (Nephophobia)
โรคกลัวคำยาว (Hippopotomonstrosesquippedaliophobia) ดูจะ ironic ไปนะ รู้ว่าเค้ากลัว ยังตั้งชื่อโรคให้ยาวไปอีก 555
ที่มา https://www.dek-d.com/board/view/2077018/
ปล. ผมเป็นโรค Mageirocophobia (โรคกลัวการทำอาหาร) เพราะทำอาหารไม่อร่อย 555 (ล้อเล่นครับ)
แล้วเพื่อนๆ มีใครกลัวอะไรแบบแปลกๆ บ้างครับ อยากรู้ อิอิ
เห็นเพื่อนๆ บางคนถามถึงวิธีรักษาโรคกลัว ซึ่งวิธีการบำบัดรักษาเบื้องต้นของ specific phobia
ที่เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะความกลัวของแต่ละคน (เฉพาะกรณีเท่านั้น)
ได้แก่ การรักษาด้วยพฤติกรรมบำบัด (behavioral therapy) ชนิดที่เรียกว่า exposure therapy
หลักการง่าย ๆ ของการรักษาอันนี้ คือให้เผชิญกับสิ่งที่กลัว เมื่อผู้ป่วยทนได้รับไหว ก็จะค่อย ๆ
เพิ่มขนาดความรุนแรงของสิ่งที่กลัวเข้าไปเช่น ในคนไข้ที่กลัวสุนัข ขั้นแรก อาจจะให้จับตุ๊กตาสุนัขก่อน
(บางคนที่ phobia มาก ๆ อาจกลัวได้แม้กระทั่งรูปภาพหรือตุ๊กตาสุนัข) เมื่อผู้ป่วยอยู่ได้ ทนได้โดยไม่รู้สึกกลัวแล้ว
ขั้นต่อไปก็จะเพิ่มขนาดความกลัวขึ้นอีก เช่น จากตุ๊กตาก็เปลี่ยนเป็นให้อยู่กับลูกสุนัขในระยะห่างสัก 5 เมตร
เมื่ออยู่ได้จนหายกลัว ก็ค่อย ๆ เลื่อนสุนัขเข้ามาใกล้เข้าเรื่อยๆ ขั้นสุดท้ายก็อาจเปลี่ยนเป็นสุนัขตัวโตขึ้น
จนกระทั่งไม่มีความกลัวอีกต่อไป
ส่วนการรักษาด้วยยานั้น ไม่ได้เป็นการรักษาหลักในPhobia โดยยาจะให้เพียงเพื่อช่วยลดความกลัวในช่วงแรกเท่านั้น
แต่ยาไม่สามารถทำให้หายได้นะครับ ต้องทำพฤติกรรมบำบัดด้วยเสมอ
“You gain strength, courage and confidence by every experience in which you really stop to look fear in the face.
You must do the thing which you think you cannot do.”
Eleanor Roosevelt
"คุณได้รับความเข้มแข็ง ความกล้าหาญ และความมั่นใจ จากทุก ๆ ประสบการณ์ที่คุณหยุดหนี
แล้วหันมาสบตากับความกลัว คุณต้องทำในสิ่งที่คุณคิดว่าคุณทำไม่ได้"
เอลินอร์ รูสเวลท์
ข้อมูลจาก "สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย"