พึ่ง present thesis ปโทไปครับ เนื้อหาสายมนุษยวิทยา ชาติพรรณวรรณา
สิ่งที่ผมจะแชร์เปป็นแค่ประสบการณ์ของ lab ผม ม.ผมเป็นม.ที่ดังม.หนึ่งในญี่ปุ่น
ไม่อยากเหมารวม เพราะเดี๋ยวจะไปขัดใจสาวกญี่ปุ่นบางคน
และอีกอย่าง ผมก็ไม่ได้เรียนสาขาแนวเทคโนโลยีนะครับ เขาคงมีอะไรดีกว่าบ้านเรา อย่างน้อยก็อุปกรณ์ต่างๆที่เราต้องแลกเปลี่ยนความรู้กะเขา
ผมมาpost เพื่อเป็นข้อมูลหนึ่งสำหรับคนที่จะมาเรียนต่อ จะหาว่าผมถล่มระบบการศึกษาก็เชิญครับ แต่ไม่ควรอ่านต่อ เพราะมันจะบาดใจท่านมากๆ
ผมอยากมาเรียนที่ญี่ปุ่นเพราะมโนว่าที่นี่คงมีอะไรพิเศษ นอกจากเป็นพุทธ เป็น asia เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว
ยังมีคนเก่งๆสายผมหลายๆคนระดับโลกที่คนฝรั่งยอมรับ มีเทคโนโลยี มีระเบียบ มีคนที่มีจิตใจดีงาม สังเกตเวลาไปเที่ยว จะมีแต่คนสุภาพๆ
เห็นแบบนี้ก็ลืมไปเลยว่า ญี่ปุ่นมีข่าวเสมอเรื่องคนชอบฆ่าตัวตาย การศึกษาที่บอกว่าดีหนักหนาก็ชื่นชมจนลืมไปเลยว่าเคยมีข่าวเด็กโดนแกล้ง โดนล้อเลียน มโนเองว่าทุกอย่างดีไปหมด ไม่งั้นคงไม่ได้มา
เรื่องที่อยากจะบอกคือเพื่อไม่ให้คนมโนไปเอง แล้วชั่งใจดูว่าถ้าเจอแบบนี้จะรับได้หรือเปล่า ทุกวันนี้เราเห็นข้อดีของคนอื่น จนกลายเป็นดูถูกบ้านเมืองเราเอง จนลืมแยกแยะไปว่า ทุกอย่างมันมีข้อดี ข้อเสีย พอไปแตะข้อเสียของญี่ปุ่น บางคนรับไม่ได้ นึกว่ามีแต่ข้อดี
ผมมาพูดครั้งนี้ ไม่ได้มาอวยญี่ปุ่นครับ และก็คิดว่าไม่จำเป็นว่าเมื่อผมเขียนสิ่งไม่ดีแล้วผมจะต้องเขียนสิ่งที่ดีด้วย คงไม่เขียนอะไรรอบด้านขนาดนั้น
ก็อาจเขียนถ้ามีเวลานะครับ อยากจะเล่า เพราะมีคนต่างชาติเพื่อนผม ที่เขาคิดว่าที่นี่ดี จนชะล่าใจที่จะทำอะไรดีไปหลายอย่าง
เพราะอย่างที่บอก มีเจตนาเพื่อเตือนว่าอย่ามโน ใครรับไม่ได้ เชิญปิดครับ ไม่ต้องอ่าน เข้าเรื่องเลย
- เรื่องจำนวนนักเรียน/จำนวนครู
lab ผมมีเด็ก 17-20คน/ครู1คน ไม่มีผู้ช่วยครับ เอาปี4ป.ตรี มาเรียนกะป.โทปี1-2
โดยทั่วไป จะมีเด็กที่จะจบในแต่ละปี ประมาณ10คน หมายความว่าเด็กเหล่านี้ ต้องการเวลาจากอ.เป็นพิเศษ
ในความเป็นจริง ทุกคนจะมีเวลาคุยกะอ.15-20นาที/ อาทิตย์ เพราะอ.มีชื่อเสียง เป็นคนดัง งานยุ่ง
อยากเปรียบเทียบกะอ.ไทย มหาวิทยาลัยผม ตอนตรวจงาน thesis ครู3-4คน รุมเด็ก1คนครับ อ.ที่ไทย ของม.ผม จบนอกทุกคน อังกฤษ อเมริกา ที่บอกงี้เพราะว่าอ.ญี่ปุ่นกันเองจะปลื้มอ.ที่จบมาจากนอกกันมากๆเลย ก็ผิดหวังบ้างที่เลือกมาญี่ปุ่น นศต่างชาติที่เคยมาแลกเปลี่ยนที่ไทย แล้วมาเรียนที่นี่ เขาบอกไทยเอาใจใส่กว่าครับ
อ.ที่ไทยมีเวลาให้เยอะกว่า ความคิดหลากหลายกว่าเพราะมีหลายคนครับ (ที่บอกว่าม.ผม เพราะเดี๋ยวจะมีคนบอกว่า วันก่อนยังเห็นมีเด็กต่างชาติที่มาเรียน ม.เอกชนในไทยแล้วบ่นอยู่เลย ผมเลยไม่เหมาม.ทุกที่ในไทยครับ ม.ผม ของ.รัฐครับ)
- เรื่องการแชร์ความรู้ระหว่างนักเรียนกะนักเรียน
การแลกเปลี่ยนความรู้ระกว่างนักเรียนหลายๆคน เป็นสิ่งที่จะทำให้เราฉลาดขึ้นเยอะเลย เป็นสิ่งสำคัญที่นศป.โท ควรทำ
ยิ่งเอาความรู้ของป.โท มาแชร์ให้นร ปี4ฟัง ถ้าผมปี4 คงดีใจมากเลย
แต่ถ้าถามว่าแล้วมันได้ผลรึเปล่า ของผมว่าไม่ค่อยได้ครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆอีก
เช่น เนื้อหาที่คุณเอามาแชร์ คุณศึกษาแค่เปลือกรึเปล่า ข้อสรุปคืออะไร แล้วอ.คุณรอบรู้เรื่องนั้นกะคุณด้วยรึเปล่า หรือเมื่อพูดจบแล้วมีการถกอะไรยังไงต่อ ซึ่งที่ผมเจอ คือตรงข้ามครับ สมัยนี้เศรษฐกิจไม่ดีหรือด้วยเหตุใดๆก็ตาม นศ เตรียมเนื้อหาแค่1วันครับ อาจเป็นเพราะเขาเล่นลงหน่วยกิตทั้งหมดให้ครบภายใน1เทอมครับ คงนึกออกว่าเด็กต่างชาติเขาก็ลงตามปกติ เนื้อหาที่วิเคราะห์ คุณภาพต่างกันแน่นอน
- การทำงานpart time/ กิจกรรมชมรม / เรียน
ก่อนหน้าจะมา รู้สึกเด็กนศญี่ปุ่นเซียน มีรายการหนึ่งบอกปกติเขาจะทำกิจกรรมชมรม ทำงานpart timeไปด้วยพร้อมกะเรียน
นศใน labของผมก็ทำครับ เน้นงานนอก แถมยังลงหน่วยกิตเยอะๆ เขาให้ลงภายใน1ปี ก็เป็นลงทุกอย่างภายใน1เทอม ผลที่เห็นคือ ไม่มาทำงานกลุ่มครับ งานกลุ่มทีไร นศต่างชาติเป็นคนนำตลอด จะมาอีกทีตอนใกล้ๆจะส่ง มาแบบมึนๆ ทำอะไรไม่เป็นเพราะไม่ได้ศึกษาก่อนมาทำ
ในวันที่มีlecture จะมาหลับ คุณครูจะสนทนากะชาวต่างชาติแทน
งานนอกที่ทำก็เช่นเป็นเด็กเสริฟ ไม่เกี่ยวกะสายอาชีพที่ตนเรียน
ปัจจัยอื่นๆที่สนับสนุนให้เกิดการเบี้ยวนัด ไม่มาทำงานกลุ่มก็เช่น job hunting หางานกันตั้งแต่ปี1 ป.โท
ไว้มาต่อครับ
ประสบการณ์เรียนปริญญาที่ญี่ปุ่น อยากแชร์สำหรับคนที่กำลังคิดจะมา
สิ่งที่ผมจะแชร์เปป็นแค่ประสบการณ์ของ lab ผม ม.ผมเป็นม.ที่ดังม.หนึ่งในญี่ปุ่น
ไม่อยากเหมารวม เพราะเดี๋ยวจะไปขัดใจสาวกญี่ปุ่นบางคน
และอีกอย่าง ผมก็ไม่ได้เรียนสาขาแนวเทคโนโลยีนะครับ เขาคงมีอะไรดีกว่าบ้านเรา อย่างน้อยก็อุปกรณ์ต่างๆที่เราต้องแลกเปลี่ยนความรู้กะเขา
ผมมาpost เพื่อเป็นข้อมูลหนึ่งสำหรับคนที่จะมาเรียนต่อ จะหาว่าผมถล่มระบบการศึกษาก็เชิญครับ แต่ไม่ควรอ่านต่อ เพราะมันจะบาดใจท่านมากๆ
ผมอยากมาเรียนที่ญี่ปุ่นเพราะมโนว่าที่นี่คงมีอะไรพิเศษ นอกจากเป็นพุทธ เป็น asia เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว
ยังมีคนเก่งๆสายผมหลายๆคนระดับโลกที่คนฝรั่งยอมรับ มีเทคโนโลยี มีระเบียบ มีคนที่มีจิตใจดีงาม สังเกตเวลาไปเที่ยว จะมีแต่คนสุภาพๆ
เห็นแบบนี้ก็ลืมไปเลยว่า ญี่ปุ่นมีข่าวเสมอเรื่องคนชอบฆ่าตัวตาย การศึกษาที่บอกว่าดีหนักหนาก็ชื่นชมจนลืมไปเลยว่าเคยมีข่าวเด็กโดนแกล้ง โดนล้อเลียน มโนเองว่าทุกอย่างดีไปหมด ไม่งั้นคงไม่ได้มา
เรื่องที่อยากจะบอกคือเพื่อไม่ให้คนมโนไปเอง แล้วชั่งใจดูว่าถ้าเจอแบบนี้จะรับได้หรือเปล่า ทุกวันนี้เราเห็นข้อดีของคนอื่น จนกลายเป็นดูถูกบ้านเมืองเราเอง จนลืมแยกแยะไปว่า ทุกอย่างมันมีข้อดี ข้อเสีย พอไปแตะข้อเสียของญี่ปุ่น บางคนรับไม่ได้ นึกว่ามีแต่ข้อดี
ผมมาพูดครั้งนี้ ไม่ได้มาอวยญี่ปุ่นครับ และก็คิดว่าไม่จำเป็นว่าเมื่อผมเขียนสิ่งไม่ดีแล้วผมจะต้องเขียนสิ่งที่ดีด้วย คงไม่เขียนอะไรรอบด้านขนาดนั้น
ก็อาจเขียนถ้ามีเวลานะครับ อยากจะเล่า เพราะมีคนต่างชาติเพื่อนผม ที่เขาคิดว่าที่นี่ดี จนชะล่าใจที่จะทำอะไรดีไปหลายอย่าง
เพราะอย่างที่บอก มีเจตนาเพื่อเตือนว่าอย่ามโน ใครรับไม่ได้ เชิญปิดครับ ไม่ต้องอ่าน เข้าเรื่องเลย
- เรื่องจำนวนนักเรียน/จำนวนครู
lab ผมมีเด็ก 17-20คน/ครู1คน ไม่มีผู้ช่วยครับ เอาปี4ป.ตรี มาเรียนกะป.โทปี1-2
โดยทั่วไป จะมีเด็กที่จะจบในแต่ละปี ประมาณ10คน หมายความว่าเด็กเหล่านี้ ต้องการเวลาจากอ.เป็นพิเศษ
ในความเป็นจริง ทุกคนจะมีเวลาคุยกะอ.15-20นาที/ อาทิตย์ เพราะอ.มีชื่อเสียง เป็นคนดัง งานยุ่ง
อยากเปรียบเทียบกะอ.ไทย มหาวิทยาลัยผม ตอนตรวจงาน thesis ครู3-4คน รุมเด็ก1คนครับ อ.ที่ไทย ของม.ผม จบนอกทุกคน อังกฤษ อเมริกา ที่บอกงี้เพราะว่าอ.ญี่ปุ่นกันเองจะปลื้มอ.ที่จบมาจากนอกกันมากๆเลย ก็ผิดหวังบ้างที่เลือกมาญี่ปุ่น นศต่างชาติที่เคยมาแลกเปลี่ยนที่ไทย แล้วมาเรียนที่นี่ เขาบอกไทยเอาใจใส่กว่าครับ
อ.ที่ไทยมีเวลาให้เยอะกว่า ความคิดหลากหลายกว่าเพราะมีหลายคนครับ (ที่บอกว่าม.ผม เพราะเดี๋ยวจะมีคนบอกว่า วันก่อนยังเห็นมีเด็กต่างชาติที่มาเรียน ม.เอกชนในไทยแล้วบ่นอยู่เลย ผมเลยไม่เหมาม.ทุกที่ในไทยครับ ม.ผม ของ.รัฐครับ)
- เรื่องการแชร์ความรู้ระหว่างนักเรียนกะนักเรียน
การแลกเปลี่ยนความรู้ระกว่างนักเรียนหลายๆคน เป็นสิ่งที่จะทำให้เราฉลาดขึ้นเยอะเลย เป็นสิ่งสำคัญที่นศป.โท ควรทำ
ยิ่งเอาความรู้ของป.โท มาแชร์ให้นร ปี4ฟัง ถ้าผมปี4 คงดีใจมากเลย
แต่ถ้าถามว่าแล้วมันได้ผลรึเปล่า ของผมว่าไม่ค่อยได้ครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆอีก
เช่น เนื้อหาที่คุณเอามาแชร์ คุณศึกษาแค่เปลือกรึเปล่า ข้อสรุปคืออะไร แล้วอ.คุณรอบรู้เรื่องนั้นกะคุณด้วยรึเปล่า หรือเมื่อพูดจบแล้วมีการถกอะไรยังไงต่อ ซึ่งที่ผมเจอ คือตรงข้ามครับ สมัยนี้เศรษฐกิจไม่ดีหรือด้วยเหตุใดๆก็ตาม นศ เตรียมเนื้อหาแค่1วันครับ อาจเป็นเพราะเขาเล่นลงหน่วยกิตทั้งหมดให้ครบภายใน1เทอมครับ คงนึกออกว่าเด็กต่างชาติเขาก็ลงตามปกติ เนื้อหาที่วิเคราะห์ คุณภาพต่างกันแน่นอน
- การทำงานpart time/ กิจกรรมชมรม / เรียน
ก่อนหน้าจะมา รู้สึกเด็กนศญี่ปุ่นเซียน มีรายการหนึ่งบอกปกติเขาจะทำกิจกรรมชมรม ทำงานpart timeไปด้วยพร้อมกะเรียน
นศใน labของผมก็ทำครับ เน้นงานนอก แถมยังลงหน่วยกิตเยอะๆ เขาให้ลงภายใน1ปี ก็เป็นลงทุกอย่างภายใน1เทอม ผลที่เห็นคือ ไม่มาทำงานกลุ่มครับ งานกลุ่มทีไร นศต่างชาติเป็นคนนำตลอด จะมาอีกทีตอนใกล้ๆจะส่ง มาแบบมึนๆ ทำอะไรไม่เป็นเพราะไม่ได้ศึกษาก่อนมาทำ
ในวันที่มีlecture จะมาหลับ คุณครูจะสนทนากะชาวต่างชาติแทน
งานนอกที่ทำก็เช่นเป็นเด็กเสริฟ ไม่เกี่ยวกะสายอาชีพที่ตนเรียน
ปัจจัยอื่นๆที่สนับสนุนให้เกิดการเบี้ยวนัด ไม่มาทำงานกลุ่มก็เช่น job hunting หางานกันตั้งแต่ปี1 ป.โท
ไว้มาต่อครับ