โลกหลอน......ของเมริสาและแอนนา (เรื่องสั้น 2 ตอนจบ)

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 1




             เมริสานึกขอบคุณตัวเองกับการใส่ใจเก็บรักษามีดผ่าตัดที่อดีตแฟนคนเก่าเคยมอบให้เป็นของขวัญวันเกิดแบบเล่นๆ มากกว่าจะเป็นจริงเป็นจังเมื่อหลายปีก่อน  เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่มีมีดเล่มพิเศษคมกริบสามารถเฉือนเนื้อคนออกเป็นชิ้นบางเรียบโดยไม่เปลืองแรงอย่างกำลังทำในตอนนี้ ความคมของใบมีดผ่าตัดทำให้การแล่เนื้อบริเวณตำแหน่งที่ตั้งของหัวใจเป็นไปด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย ชิ้นเนื้อยังสั่นระริกไหวราวมีเศษเสี้ยวของกระแสชีวิตติดฝังมาด้วย  

             ร่างของเมธีผู้เป็นสามีสภาพเปลือยท่อนบนถูกมัดตรึงอยู่กับเก้าอี้ใหญ่ตัวโปรดในห้องนั่งเล่นอย่างไม่มีทางดิ้นหลุด นัยน์ตาเบิกโพลงสะบัดหัวไปมาด้วยความเจ็บปวด ไม่มีสรรพสำเนียงใดออกมาจากปากถนัดชัดคำเพราะมีผ้ามัดปิดสนิทแน่น

             “มันเจ็บสะใจดีใช่ไหมคะที่รัก”  หญิงสาวในชุดนอนลายกุหลาบแดงตัวโปรดก้มหน้าลงกระซิบข้างหูของแฟนหนุ่มด้วยสีหน้าเปี่ยมสุขสะใจ ขณะมือลูบไล้ทรวงอกโชกเลือด พยายามซึมซับความเจ็บทรมานทุกอณูเลือด พัดลมบนเพดานชราภาพกำลังพาใบพัดคร่ำคร่าฝานอากาศครวญครางไม่หยุดหย่อน

             “สารู้ว่าธีต้องเจ็บปวดสาแก่ใจอย่างแน่นอน แต่อยากจะบอกให้รู้ก่อนว่านี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น สาเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดีอย่างดีพิถีพิถันทุกขั้นตอนรับรองไม่ขาดตกบกพร่อง เพื่อธีคนเดียวเท่านั้น  เห็นไหมล่ะคะ...ว่าสาก็เป็นผู้หญิงทำอะไรอย่างมีระบบระเบียบเป็นเหมือนกัน  รู้นะคะว่าสารักธีแค่ไหน”

             พูดจบหญิงสาวก็ยืดตัวตรงอย่างไม่ยอมให้ความอ่อนแอลากกระชากไหล่ให้งองุ้มลง  เอียงคอมองร่างของแฟนหนุ่มด้วยใบหน้าสงบเยือกเย็นอย่างชวนขนลุก เพียงแววตามีส่วนผสมของความวิปลาสคลาดเคลื่อนเต้นเร่าร้าวร้ายลึกอยู่ภายใน จับจ้องมองไปยังทรวงอกชุ่มเลือดของแฟนหนุ่มที่เต็มไปด้วยบาดแผลแห่งการชำแหละอย่างใคร่ครวญว่าจะเชือดเฉือนต่อไปอย่างไรดีจึงจะสาสมกับความผิด รสชาติของคมมีดผ่าตัดมีกลิ่นพิเศษเฉพาะตัวจนอยากจะแลบลิ้นเลียคมมีดคมกริบให้เชือดเฉือนลิ้นลิ้มรสคมมีดบางเบา

             เมธีเป็นสามีผู้ดีพร้อมแทบทุกอย่าง... ดีจนแทบจะกลายร่างเป็นเทพติดปีกโบยบินขึ้นไปบนฟากฟ้าได้ สองปีผ่านไปหลังการแต่งงานเขาปฏิบัติหน้าที่ของหัวหน้าครอบครัวด้วยดีไม่มีบกพร่อง  มันควรจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป ถ้าไม่เพราะเธอเริ่มรู้ระแคะระคายว่าสามีคนโปรดกับเลขาหน้าหวาน มีประชุมเชิงปฏิบัติการนอกเวลากันสองต่อสองในห้องเช่าหรูของเลขาคนเก่ง จากนั้นเส้นทางแห่งกลีบกุหลาบหอมหวานสวยงามตามทางรักก็มีพายุมืดดำถล่มล่มลงสู่หุบเหวนรกทันที เรื่องราวเลวร้ายหนักลงไปอีกเมื่อเธอสืบทราบว่าคนทั้งคู่กำลังหาทางกำจัดเธอออกไปจากเส้นทางชีวิตอย่างแนบเนียน โดยมีจำนวนเงินประกันวงเงินมากพอจะเป็นทุนเริ่มต้นของการชีวิตรักใหม่ใสหวานของพวกเขา

             คนอย่างเมริสาต้องจัดการปัญหาของเธอเอง เหมือนจัดการงานบ้าน ซึ่งไม่ได้ยากเย็นอะไรมากมาย แค่เก็บกวาดสิ่งของให้เข้าที่เข้าทาง ส่วนเกินเก็บลงถังขยะ บางอย่างแยกชิ้นส่วนขุดหลุมกลบฝัง ไม่ต้องเก็บไว้ในบ้านเป็นที่ระลึกให้ยุ่งยากมากความ ใครก็ทำได้ สิ่งสกปรกต้องถูกกำจัดทิ้งเพื่อไม่ให้เป็นปัญหาต่อสุขภาพกายใจในภายหลัง

             บริเวณอกด้านซ้ายของเมธีถูกตัดเฉือนทั้งเป็นลึกซับอิ่มเลือดจนแทบเห็นหัวใจระริกร้าว เธอกำลังคิดว่าจะใช้ปลายมีดกรีดกลางใจทีละน้อยเพื่อดูข้างในว่าหัวใจคนทรยศเป็นอย่างไร หรือจะเปลี่ยนเป็นกรีดคว้านดวงตาเล่ห์ร้ายที่มักหาโอกาสมองหญิงอื่นเสมอเมื่ออยู่นอกสายตาของภรรยา  ดวงตาที่ไม่เคยมองแบบเพียงพอประหยัดรักมักน้อยเลยสักวัน แต่ถ้าให้เปิดกะโหลกดูสมองแบบฮันนิบาล เธอก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ มันยากเกินไป

             ขณะกำลังตัดสินใจ หูแว่วเสียงเหมือนมีคนกำลังหัวเราะ  หญิงสาวขมวดคิ้วก่อนหันไปมอง ไม่น่าเชื่อว่าเสียงหัวเราะจะดังมาจากปากของเมธีผู้ถูกมัดร่างปิดปากแน่นหนาอยู่กับเก้าอี้ตัวใหญ่  ไม่มีทางเป็นไปได้... แต่โสตประสาทของเธอไม่มีทางผิดพลาดอย่างแน่นอน ในบ้านหลังนี้มีเพียงเธอกับสามีสุดที่รักเท่านั้น

             เมธีกำลังนั่งหัวเราะอยู่บนเก้าอี้จริงๆ สายตาเป็นสิ่งยืนยันชัดเจน เขากำลังหัวเราะจนตัวสั่นกระตุกอย่างสนุกสนานเสียเต็มประดา ผ้ามัดปิดปากหลุดลุ่ยออกมาอย่างไม่น่าเป็นไปได้ ปากแสยะอ้าขยับไหวผิดธรรมชาติราวนอกเหนือการควบคุม องคาพยพใบหน้ากำลังเคลื่อนไหวบิดเบี้ยววิปริตผิดรูปและลุกลามล้ำไปทั่วตัวจนร่างกายบิดไหวไปมาชวนขนลุกขนพอง ขณะกำลังตื่นตะลึงร่างของชายหนุ่มลุกพรวดพราดขึ้นมาอย่างกะทันหัน เก้าอี้นั่งแตกกระจัดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยพร้อมกับร่างวิปริตผิดรูป ปากอ้าถาโถมกางมือไขว่คว้ากลางอากาศตรงเข้ามาหาหญิงสาวผู้ยืนตะลึงแบบไม่ทันตั้งตัว เธอมองไม่เห็นอะไรนอกจากใบหน้าสยดสยองของแฟนหนุ่มขยายใหญ่เต็มความรู้สึก และเสียงหัวเราะแหบห้าวเสียดประสาทกึกก้องสะท้านสะเทือน ลมหายใจกลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้งฟุ้งเต็มจมูก

             “กรี๊ด...!”

             เสียงกรีดร้องกระชากร่างของหญิงสาวให้ลุกพรวดพราดขึ้นมาจากเตียงด้วยอาการตื่นตระหนกอกสั่นขวัญแขวน เสียงของเธอนั่นเองดึงตัวเองให้หลุดออกมาจากฝันร้าย

             เมริสาพยายามสูดลมหายใจแรงๆ สงบจิตใจ หันมองรอบห้องนอนเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งน่าสะพรึงกลัวไม่ได้หลุดตามออกมาจากความฝัน โคมไฟจากหัวเตียงส่องให้เห็นสภาพห้องนอนอยู่ในสภาพปกติจะเป็น  ผนังห้องเป็นสีเขียวอ่อนอย่างที่เธอโปรดปราน  มันเป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ เธอไม่ได้ฆ่าสามีของตัวเองอย่างแน่นอน แม้ว่าอยากจะทำเหลือเกิน....อยากเชือดอยากสับทำบะช่อเป็นอาหารทุกมื้อ... ความรู้สึกพิเศษบางอย่างยังคงติดตรึงชัดเจนกำซาบความรู้สึกจากฝันร้าย ราวกับการใช้กระดาษทิชชูเหนียวนุ่มซับรสแห่งความสะใจเอาไว้ทุกหยดหยาดของความตาย

             เมธีหายไปไหน..เขาควรจะนอนอยู่ข้างๆ เหมือนทุกคืน เมริสาขมวดคิ้วพลางใช้นิ้วมือกดขมับที่กำลังปวดหนึบขึ้นมา  หรือว่าเขาจะออกไปเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ด้านนอกห้องนอนห่างออกไปไม่ไกลนัก ความเป็นไปได้มีเพียงอย่างเดียวเพราะคิดหาเหตุผลเหตุการณ์อย่างอื่นไม่ออก

             หญิงสาวนั่งรอแฟนหนุ่มอยู่พักใหญ่เพราะประสาทยังคงระทึกกับฝันร้ายจนไม่อาจข่มใจล้มตัวลงนอนต่อไปได้ ..ไม่มีอะไรมากมาย...ก็แค่เดินออกไปห้องน้ำ ดูว่าเขาทำอะไรอยู่จึงนานผิดปกติ ยอมเสียเวลาเพื่อความแน่ใจก็เท่านั้น คิดได้จึงลงจากเตียงตรงไปกดสวิทซ์ไฟข้างผนังเพิ่มแสงสว่างในห้องให้มากขึ้น บรรยากาศจะได้สว่างกระจ่างชัด ผีจะกล้าบ้าเลือดเสนอหน้ามาหลอนมาหลอนก็ให้มันรู้ไป

             ห้องน้ำอยู่ถัดออกไปจากห้องเก็บของบริเวณบันไดทางขึ้นจากห้องนั่งเล่นชั้นล่าง มีแสงไฟลอดออกมาจากใต้บานประตูแสดงว่ามีคนอยู่ในห้องน้ำจริงๆ เมริสากัดริมฝีปากส่ายหน้าอย่างขัดใจว่าทำไมสามีตัวร้ายเข้าห้องน้ำนานเหลือเกิน อย่าบอกนะว่าเป็นลมตายคาห้องน้ำ หูแว่วเสียงกุกกักขยับไหวดังชัดเจน ฟังแล้วไม่เหมือนคนกำลังทำภารกิจปกติ ความสงสัยทำให้หญิงสาวลองผลักบานประตูเบาๆ พบว่ามันไม่ได้ล็อคจากด้านใน จึงตัดสินใจผลักประตูเข้าไปโดยแรงด้วยความขุ่นมัวในหัวใจ อ้าปากจะต่อว่าแต่แล้วต้องชะงักค้าง

             เมธีอยู่ในกางเกงชุดนอนเปลือยท่อนบนคุกเข่าอยู่ข้างอ่างอาบน้ำมีเลือดเปื้อนแต่งแต้มเต็มร่างกาย มือขวากำมีดผ่าตัดกำลังเฉือนเชือดลงไปยังร่างนอนเหยียดยาวในอ่างอย่างเมามัน  มือเรียวขาวซีดข้างหนึ่งห้อยแกว่งไปมาข้างขอบอ่าง สายตาของหญิงสาวมองข้ามไหล่ของเขาไปตามสัญชาตญาณ มองเห็นใบหน้าขาวซีดปากอ้าดวงตาเบิกโพลงของเหยื่อคมมีดชัดเจน....  ร่างของเธอนั่นเอง

             โสตประสาทลั่นเปรียะถี่ยิบราวสมองกำลังระเบิดออกความรู้สึกอึงอลราวถูกกระชากลากหล่นลงไปในปลักล่มฝันร้ายมืดมน ร่างแข็งทื่อประสาทชาค้าง ชายหนุ่มค่อยหันหน้ามองชำเลืองมองด้วยใบหน้าแสยะยิ้ม แต่แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งร้ายหมายขวัญระอุวิญญาณฆาตกรขณะลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆพร้อมกับเค้นเสียงบาดลึกความรู้สึก

            “สา..คุณคิดจะฆ่าผมเหรอ ฆ่าผมแล้วหนีไปอยู่กับแฟนเก่าของคุณ...ไม่ใจร้ายมากไปหน่อยเหรอที่รัก”

            พูดจบมือเปื้อนเลือดเอื้อมมือหยิบศีรษะขาดจากร่างไร้วิญญาณในอ่างอาบน้ำยื่นตรงมาแกว่งไกวแทบจะชนเข้ากับใบหน้าของเมริสาผู้ยืนตกตะลึง เศษเนื้อห้อยรุ่งริ่งน่าเกลียดบริเวณลำคอ บอกให้รู้ว่าคนตัดยังขาดประสบการณ์ในการเชือด ยังไม่เป็นงานระดับมาสเตอร์พีช
จะมีใครสักกี่คนกันจะมีโอกาสมองเห็นศีรษะของตัวเองอยู่ต่อหน้าต่อตาแบบนี้

             ดาวนับร้อยนับพันกระจายเต็มหน้า สัมปชัญญะของหญิงสาวระเบิดกระจายเป็นลูกไฟออกไปทุกทิศทางจนกลับกลายเป็นความเวิ้งว้างว่างเปล่า


             “คุณคะ   คุณเป็นอะไรไปคะ”

             เสียงหวานใสใครบางคนกังวานในโสตประสาท เมริสาพบว่าตัวเองกำลังนอนตัวสั่นใจสั่นอยู่บนเตียงในห้องผนังทาสีขาวสะอาดตา สิ่งแรกในสายตาคือนางพยาบาลชุดสีขาวก้มหน้าลงมาจ้องมองพลางเขย่าไหล่ด้วยสีหน้าท่าทางเป็นห่วง  

            โรงพยาบาล ... กำลังอยู่ในโรงพยาบาล.... ความทรงจำหมุนวนเวียนเปลี่ยนไปมาแบบไร้ทิศทางก่อนประกอบเป็นรูปเป็นร่างทีละน้อย แต่ยังไม่กระจ่างสว่างชัดว่าทำไมถึงมาอยู่ในโรงพยาบาลได้ เจ็บไข้ได้ป่วยอะไรกันแน่ นางพยาบาลและกลิ่นยาฆ่าเชื้อจางๆ ในอากาศยืนยันว่าไม่ได้อยู่ผิดที่ผิดทาง

             ไม่....มันไม่เหมือนกันตื่นจากความฝัน.....แต่เหมือนภาพยนตร์เปลี่ยนฉากกะทันหันมากกว่า

             แล้วทำไมแขนขาของเธอถูกรัดมัดด้วยอุปกรณ์บางอย่างจนไม่อาจขยับเขยื้อนหรือลุกขึ้นนั่งได้   มันจะต้องมีอะไรบางอย่างผิดพลาดอย่างแน่นอน

             “อ้อ...อย่าเพิ่งพูดอะไรนะคะ  เสียใจที่เราต้องมัดคุณไว้ เพราะคุณทำร้ายตัวเอง”

             ยังไม่ทันจะได้ตอบโต้อะไร นางพยาบาลสาวชุดขาวสะอาดตาก็ชะโงกหน้าเข้ามาบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม  ริมฝีปากของนางพยาบาลระบายสีแดงสดจัดจ้านขับเค้นรอยยิ้มให้ชัดเจนเด่นมากขึ้น ขนตางอนยาวกะพริบถี่ทำให้ขนลุกโดยไม่มีเหตุผล หญิงสาวอยากจะโต้เถียงอะไรแรงๆ สักประโยคแต่เปลี่ยนใจหลับตาอย่างคนกำลังระงับสติอารมณ์สุดชีวิต   ยัยบ้า...คนอย่างฉันมีหรือจะทำร้ายตัวเอง ไม่มีวันเสียหรอก   ถ้าฉันจะฆ่าใครสักคนต้องเป็นคนอื่น….เธอเป็นคนแรกล่ะยัยปากแดง

            ว่าแต่มันเรื่องบ้าอะไร...มาอยู่โรงพยาบาลนรกแห่งนี้ได้อย่างไรกัน มีบางอย่างไม่ถูกต้อง...ไม่สมเหตุสมผลและไม่สมจริง พอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็ต้องตกใจเมื่อพบว่านางพยาบาลหน้าขาวปากแดงยังคงก้มจ้องหน้ามองลงมาอย่างเดิมราวหุ่นปั้น เส้นผมยาวสบายปรกปะระหน้า  รอยยิ้มค้างคาและริมฝีปากแดงอวบอิ่มรวมทั้งแววตาที่ไม่สามารถอธิบายอะไรได้ ทำให้รู้สึกเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ

             ลองขยับศีรษะไปมา ใบหน้าของสาวพยาบาลก็ขยับเคลื่อนเลื่อนตามไปด้วย แต่ยังคงคอเอียงเมียงมองเหมือนเดิม  เมริสาหลับตาลงอย่างสับสนในชีวิตและความรู้สึก ทำไมทุกอย่างมันดูผิดปกติไปหมด

             เมธี....ใช่แล้ว  คนที่ควรจะมาช่วยเหลือดูแลเธอควรจะเป็นเขา  แล้วนี่หายหัวไปไหน  หรือว่ากำลังไปกกกอดกับเมียน้อยอย่างมีความสุขใต้แสงเทียนและเงาจันทร์ ความคิดพอพุ่งวูบ ความเจ็บใจก็ตามมาโดยไม่ต้องร้องขอ...ในสภาวะย่ำแย่แบบนี้ควรมีคนรักอยู่เคียงข้างไม่ใช่หรือ

             “เมธี...เขาอยู่ไหน”   ความสับสนปนสะทกสะท้อนใจทำให้หญิงสาวลืมตาขึ้นมาหลุดปากถามนางพยาบาลวิปริตจนได้

             “ใครกันคะ...เมธี”  นางพยาบาลส่ายหน้าย้อนถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย ปลายเส้นผมปัดไปมากับปลายจมูกของเมริสาอย่างน่ารำคาญ “ตอนคุณไม่ได้สติเห็นละเมอพูดชื่อนี้บ่อยๆ  เขาเป็นใครกันคะ”



.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่