เท่าที่เราทราบกันคือดาวอังคาร ณ เวลานี้ ปราศจากสิ่งมีชีวิต เป็นสีแดงแห้ง แต่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอมา หลายคนที่ศึกษาเกี่ยวกับดาวเคราะห์แดงนี้ยอมรับว่ามันเคยมีการไหลของแม่น้ำและทะเลสาบเมื่อหลายพันปีก่อน ปัญหาเดียวคือนักวิทยาศาสตร์ไม่แน่ใจว่าดาวเคราะห์จะอบอุ่นพอที่จะรองรับน้ำในสถานะของเหลวได้

ตั้งแต่การไปเยือนดาวอังคารเมื่อประมาณสี่ปีครึ่งที่ผ่านมา รถสำรวจจากนาซ่าค้นพบหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าเคยมีแหล่งน้ำอยู่ใน Gala Crater (พื้นที่ลงจอดบนดาวอังคาร) เมื่อประมาณ 3.5 พันล้านปีก่อน อย่างไรก็ตาม เป็นที่เชื่อกันว่าดวงอาทิตย์สามารถทำให้เกิดพลังงานประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหากกรณีนี้เป็นจริง นั่นหมายความว่าปัจจัยอื่นๆ อาจมีส่วนสนับสนุนให้ดาวอังคารมีความอบอุ่นพอที่น้ำจะสามารถอยู่ได้ในรูปแบบของเหลว

บางคนเชื่อว่าบรรยากาศดาวอังคารนั้น มีความอุดมสมบูรณ์ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่กักความร้อน ถ้าเป็นจริงนี่อาจอธิบายได้ว่าดาวเคราะห์สีแดงเองก็สามารถที่จะเก็บความร้อนได้มากพอสำหรับน้ำในสถานะของเหลว ซึ่งถ้าเป็นจริงนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าก๊าซจะละลายลงไปในน้ำบนดาวอังคารและสร้างสิ่งที่เรียกว่ากรดคาร์บอนิก

กล่าวกันว่ากรดดังกล่าวเป็นที่รู้จักว่าจะกัดกร่อนหินใต้น้ำ และผลิตสิ่งที่เรียกว่าแร่ธาตุคาร์บอเนต แต่ปัญหาคือรถสำรวจยังไม่พบร่องรอยใดๆ ของแร่คาร์บอเนตในหิน หรือเป็นไปได้ว่าคาร์บอเนตอาจมีอยู่แต่มีปริมาณน้อยเกินกว่าที่จะตรวจพบโดยเครื่องมือ


ที่มา TechSpot