กระทู้แรกเลยแฮะ
สวัสดีครับ ผมเป็นคุณพ่อลูกหนึ่งคนนึงที่เฝ้าไข้ลูกเองทุกครั้งที่เข้า รพ. และลูกผมก็ดันป่วยบ่อยซะด้วยสิ ผมเลยต้องมีอันเข้าๆ ออก รพ.บ่อยๆ จน รปภ.เรียกผมว่าอาจารย์ ร้านกาแฟให้ส่วนลดพนักงานเพราะเข้าใจผิดว่าผมเป็นหมอประจำที่นี่
ทุกๆ ครั้งที่ผมนอนเฝ้าไข้ลูกผมมักจะไป รพ.เอกชนแห่งหนึ่งย่านสะพานควาย เพราะรักที่นี่โตมากับที่นี่เลย แต่สิ่งที่ทำให้ผมกังวลคือห้องที่นี่กำแพงมันบางมากถึงมากที่สุด แค่ตดยังได้ยินกันเลย เสียงเด็กร้องไม่ต้องพูดถึงแต่คนเป็นพ่อแม่ทุกคนเห็นใจกันและกันอยู่แล้วครับ เด็กร้องพ่อแม่ทุกคนเหนื่อยไม่มีใครมานั่งโกรธกันแน่นอน แต่ที่น่าโกรธคือ เสียงที่มาจากพ่อแม่และญาติๆ กันเองนี่แหละครับ
วันนี้ ผมพิมพ์กระทู้นี้ผมเองก็ยังนอนไม่ได้จากเสียงของห้องข้างๆ ที่คุยกันดังมากๆ น่าจะมีกันหลายคนเลยทีเดียว ดังจนผมนึกว่านั่งคุยกันอยู่ตรงข้างเตียง และนี่ไม่ใช้ครั้งแรกที่ผมเจอเหตุการณ์แบบนี้ ปีที่แล้วผมเจอคุณแม่วัยรุ่นพาเพื่อนๆ มาหกเจ็ดคนสักเต็มตัวทุกคนแต่อันนั้นไม่ใช่ประเด็นคนสักไม่ใช่คนไม่ดี แต่ประเด็นคือ ตีหนึ่งแล้วยังไม่กลับยังส่งเสียงดังโหวกเหวกโวยวาย ผมเลยไปนั่งข้างนอกแล้วก็มีวัยรุ่นสองคนกำลังเปิดประตูเข้าห้องผมผมรีบวิ่งไปถามว่าคุณทำอะไรห้องผมซึ่งในห้องมีแต่ลูกกับภรรยาผมอยู่ เค้าบอกขอโทษครับเข้าผิดห้อง วันนั้นผมหลอนจนไม่ได้นอนทั้งคืนเลย
ผมได้ระบุลงในจดหมายติชมว่า ทำไมเราไม่จำกัดเวลาญาติที่จะเยี่ยมล่ะ? เช่นนอกเหนือจากคนเฝ้าไข้ก็ไม่ควรเกินห้าทุ่มเพราะเป็นเวลาพักผ่อนของเด็กๆ แล้ว? หรือป้ายตัวโตๆ ห้ามส่งเสียงดังหลังห้าทุ่มเป็นต้น ผมเคยเจอขนาดที่ว่า ญาติมาเยี่ยมเกือบยี่สิบคน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีนะ เด็กป่วยต้องการกำลังใจ แต่เสียงนี่ไม่ต้องพูดถึงยิ่งกว่างานตรุษจีนอีกครับ
จึงอยากเรียนท่านผู้ปกครองที่พาบุตรหลานไปรักษาตัวที่ รพ.ทั้งเอกชนและรัฐบาลว่า หลังสี่ห้าทุ่มพยามเบาเสียงลงสักนิดเถอะครับ ญาติเพื่อนๆ ก็ให้กลับกันตามเวลาปกติ เพราะเด็กที่ป่วยแล้วเวลาตื่นจะงอแงมากด้วยพิษไข้หรือว่าอะไรก็แล้วแต่
กราบขอบคุณทุกๆ ท่านครับ ยังไงร่วมแสดงความเห็นกันได้นะครับเพื่อให้เกิดการพัฒนา ผมจะนำกระทู้นี้ส่งให้กับ รพ. ดูด้วยครับเพื่อให้นำความเห็นผู้ปกครองทุกๆ ท่านนำไปปรับปรุงให้ดีขึ้น
ขอบคุณครับ
ฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ที่เฝ้าลูกที่ป่วยตอนกลางคืน
สวัสดีครับ ผมเป็นคุณพ่อลูกหนึ่งคนนึงที่เฝ้าไข้ลูกเองทุกครั้งที่เข้า รพ. และลูกผมก็ดันป่วยบ่อยซะด้วยสิ ผมเลยต้องมีอันเข้าๆ ออก รพ.บ่อยๆ จน รปภ.เรียกผมว่าอาจารย์ ร้านกาแฟให้ส่วนลดพนักงานเพราะเข้าใจผิดว่าผมเป็นหมอประจำที่นี่
ทุกๆ ครั้งที่ผมนอนเฝ้าไข้ลูกผมมักจะไป รพ.เอกชนแห่งหนึ่งย่านสะพานควาย เพราะรักที่นี่โตมากับที่นี่เลย แต่สิ่งที่ทำให้ผมกังวลคือห้องที่นี่กำแพงมันบางมากถึงมากที่สุด แค่ตดยังได้ยินกันเลย เสียงเด็กร้องไม่ต้องพูดถึงแต่คนเป็นพ่อแม่ทุกคนเห็นใจกันและกันอยู่แล้วครับ เด็กร้องพ่อแม่ทุกคนเหนื่อยไม่มีใครมานั่งโกรธกันแน่นอน แต่ที่น่าโกรธคือ เสียงที่มาจากพ่อแม่และญาติๆ กันเองนี่แหละครับ
วันนี้ ผมพิมพ์กระทู้นี้ผมเองก็ยังนอนไม่ได้จากเสียงของห้องข้างๆ ที่คุยกันดังมากๆ น่าจะมีกันหลายคนเลยทีเดียว ดังจนผมนึกว่านั่งคุยกันอยู่ตรงข้างเตียง และนี่ไม่ใช้ครั้งแรกที่ผมเจอเหตุการณ์แบบนี้ ปีที่แล้วผมเจอคุณแม่วัยรุ่นพาเพื่อนๆ มาหกเจ็ดคนสักเต็มตัวทุกคนแต่อันนั้นไม่ใช่ประเด็นคนสักไม่ใช่คนไม่ดี แต่ประเด็นคือ ตีหนึ่งแล้วยังไม่กลับยังส่งเสียงดังโหวกเหวกโวยวาย ผมเลยไปนั่งข้างนอกแล้วก็มีวัยรุ่นสองคนกำลังเปิดประตูเข้าห้องผมผมรีบวิ่งไปถามว่าคุณทำอะไรห้องผมซึ่งในห้องมีแต่ลูกกับภรรยาผมอยู่ เค้าบอกขอโทษครับเข้าผิดห้อง วันนั้นผมหลอนจนไม่ได้นอนทั้งคืนเลย
ผมได้ระบุลงในจดหมายติชมว่า ทำไมเราไม่จำกัดเวลาญาติที่จะเยี่ยมล่ะ? เช่นนอกเหนือจากคนเฝ้าไข้ก็ไม่ควรเกินห้าทุ่มเพราะเป็นเวลาพักผ่อนของเด็กๆ แล้ว? หรือป้ายตัวโตๆ ห้ามส่งเสียงดังหลังห้าทุ่มเป็นต้น ผมเคยเจอขนาดที่ว่า ญาติมาเยี่ยมเกือบยี่สิบคน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีนะ เด็กป่วยต้องการกำลังใจ แต่เสียงนี่ไม่ต้องพูดถึงยิ่งกว่างานตรุษจีนอีกครับ
จึงอยากเรียนท่านผู้ปกครองที่พาบุตรหลานไปรักษาตัวที่ รพ.ทั้งเอกชนและรัฐบาลว่า หลังสี่ห้าทุ่มพยามเบาเสียงลงสักนิดเถอะครับ ญาติเพื่อนๆ ก็ให้กลับกันตามเวลาปกติ เพราะเด็กที่ป่วยแล้วเวลาตื่นจะงอแงมากด้วยพิษไข้หรือว่าอะไรก็แล้วแต่
กราบขอบคุณทุกๆ ท่านครับ ยังไงร่วมแสดงความเห็นกันได้นะครับเพื่อให้เกิดการพัฒนา ผมจะนำกระทู้นี้ส่งให้กับ รพ. ดูด้วยครับเพื่อให้นำความเห็นผู้ปกครองทุกๆ ท่านนำไปปรับปรุงให้ดีขึ้น
ขอบคุณครับ