ประสบการณ์การเสริมจมูกครั้งแรก
สวัสดีค่ะ เราชื่อตุ๊กติ๊กนะคะเราจะมาแชร์ประสบการณ์การเสริมจมูกครั้งแรกค่ะ ก่อนอื่นเราต้องขอบอกก่อนเลยนะคะว่าเราไม่ได้มาโฆษณาให้คลินิก หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับทางคลินิกเลย แต่เรารู้สึกประทับใจบริการของที่นี่ค่ะ คุณหมอให้คำปรึกษาได้ดีมาก (ถึงแม้ว่าเราจะมีคำถามเยอะแยะเต็มไปหมดแต่คุณหมอก็ไม่รำคาญเราเลยค่ะ) คุณหมอเป็นกันเอง ใจดี และมือเบามากกก ส่วนพนักงานก็เอาใจใส่และบริการดีด้วยค่ะ ที่สำคัญที่นี่รับประกันนานถึง 1 ปีเชียวค่ะ
จริงๆจมูกเราไม่ค่อยโด่งค่ะ เวลาแต่งหน้าก็ต้องไฮไลท์บริเวณจมูก (ซึ่งทำให้เสียเวลาในการแต่งหน้าในส่วนนี้มาก) ก็เลยอยากจะเสริมจมูกค่ะ แต่ก็กลัว ทั้งกลัวเจ็บ กลัวทำแล้วไม่สวย ทำแล้วไม่เข้ากับหน้า เลยยังไม่ได้ทำซักที พอดีเพื่อนแนะนำ AES Clinic ที่ The JAS รามอินทราว่า ทำสวย ราคาไม่แพง ไม่ hard sale ก็เลยลองไปปรึกษาดูค่ะ
คุณหมออธิบายว่าอาจจะเสริมได้ไม่โด่งมากเพราะเนื้อน้อย ถ้าเสริมโด่งมากๆ จะเสี่ยงต่อการทะลุค่ะ หลังจากปรึกษาหมอแล้วยังตัดสินใจไม่ได้ นั่งคิดไปคิดมา ใจนึงก็อยากทำ ใจนึงก็กลัวเจ็บ ในที่สุดก็ตัดสินใจทำค่ะ ได้คิวประมาณ 1 เดือน คุณหมอแนะนำให้งดอาหารเสริมและยาทุกชนิด 1 สัปดาห์ก่อนวันนัด ในช่วงที่รอเราก็หาข้อมูลวิธีปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดเสริมจมูกค่ะ (ซื้อของใช้มาตุนไว้เรียบร้อย เช่น หมอนล๊อคคอ , cool pack อันนี้จำเป็นมากค่ะ เพราะเราต้องใช้ประคบหลังจากที่ผ่าตัดมา เราซื้อมา 2 อันค่ะ แช่ช่องฟรีซไว้เลย เวลาใช้จะได้สลับกัน , น้ำเกลือขวดใหญ่เลยค่ะ เพราะต้องใช้ทำความสะอาดแผล และต้องใช้เช็ดหน้า ได้ยินมาว่าจะล้างหน้าไม่ได้ค่ะ, cotton Bud และ setทำแผลอื่นๆ จริงๆทางคลินิกจะให้มาอยู่แล้วแต่เรากลัวไม่พอเลยซื้อมาไว้เพิ่มค่ะ ^^ อ้อ เกือบลืม คุณหมอแนะนำว่า ถ้าทานใบบัวบกไปด้วยจะช่วยลดอาการบวมช้ำได้ดี เราก็เลยซื้อเป็นใบบัวบกอัดแคปซูลของอภัยภูเบศรค่ะ)
เมื่อถึงวันนัดเราก็ทานข้าวเช้าไปเรียบร้อยค่ะ(เวลานัด 10 โมง) ก่อนเสริมจมูกพนักงานก็ให้ทานยาและให้เราล้างหน้าก่อน 1 รอบ หลังจากล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว คุณหมอได้ตรวจจมูกและวัดจมูกอีกครั้ง จากนั้นพนักงานได้ทำความสะอาดหน้าและรูจมูกด้วยยาฆ่าเชื้อ(มีกลิ่นฉุนๆหน่อยค่ะ) ก่อนการผ่าตัด หมอแจ้งเราว่าจะฉีดยาชา(ตอนนี้ใจเต้นแรงมากตุ๊บๆต่อมๆเลยค่ะ) เข็มแรกเจ็บนิดนึงประมาณ 1-2 วินาที จากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไร คุณหมอมือเบามาก ระหว่างทำหมอก็จะคุยกับเราไปพร้อมเปิดเพลงบรรเลงเบาๆให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ใช้เวลา 30 นาที - 1 ชั่วโมง คุณหมอจะให้ดูกระจก ให้เราดูว่าชอบมั้ย อยากปรับตรงใหน ถ้าเราโอเคคุณหมอก็จะเย็บแผลปิด (ที่นี่จะไม่มีการวางยาสลบนะคะ จะใช้วิธีฉีดยาชาค่ะ ซึ่งข้อดีของการฉีดยาชาคือ เราสามารถดูทรงจมูกไปพร้อมกับคุณหมอได้ค่ะ)
หลังออกจากห้องผ่าตัด พนักงานจะอธิบายวิธีการดูแลทำความสะอาดแผล การรับประทานยา การประคบเย็น ร้อน วิธีการดูแลจมูกหลังทำ จากนั้นรับยาพร้อมชุดทำแผลและนัดตัดไหมค่ะ
หลังออกจากห้องผ่าตัดซักพักจมูกก็เริ่มบวม เราก็ประคบเย็นตลอดเลยค่ะ ในระหว่างทางกลับบ้านเราก็ประคบไปด้วย (ขอน้ำแข็งจากทางคลินิกกลับมาด้วยค่ะ อิอิ จมูกเราบวมประมาณ 4 วันค่ะ ตอนบวมเหมือนอวตารเราเลยไม่กล้าโชว์ เราประคบเย็นประมาณ 3 วัน หลังจากนั้นก็เปลี่ยนประคบอุ่น ซักประมาณ 1 สัปดาห์ จมูกก็หายบวม 555 ออกไปซ่าได้แล้ว
ในที่สุดก็มาถึงวันตัดไหม ตอนที่ตัดไหมก็ใจเต้นตุ๊บๆต่อมๆแต่น้อยกว่าตอนที่มาเสริมค่ะ จริงๆตัดไหมจะว่าไม่เจ็บเลยก็ไม่ใช่ ก็มีเจ็บจี๊ดๆบางจุดที่ตัดไหม แต่ก็ไม่มากค่ะ ศรีทนได้ 55555++ 😆😆
หลังเสริมครบ 1 เดือนแล้วค่ะ สวยแล้วค่ะ👍😁
[CR] รีวิวเสริมจมูกกับคุณหมอน้ำปังมาก ที่ AES clinic
สวัสดีค่ะ เราชื่อตุ๊กติ๊กนะคะเราจะมาแชร์ประสบการณ์การเสริมจมูกครั้งแรกค่ะ ก่อนอื่นเราต้องขอบอกก่อนเลยนะคะว่าเราไม่ได้มาโฆษณาให้คลินิก หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับทางคลินิกเลย แต่เรารู้สึกประทับใจบริการของที่นี่ค่ะ คุณหมอให้คำปรึกษาได้ดีมาก (ถึงแม้ว่าเราจะมีคำถามเยอะแยะเต็มไปหมดแต่คุณหมอก็ไม่รำคาญเราเลยค่ะ) คุณหมอเป็นกันเอง ใจดี และมือเบามากกก ส่วนพนักงานก็เอาใจใส่และบริการดีด้วยค่ะ ที่สำคัญที่นี่รับประกันนานถึง 1 ปีเชียวค่ะ
จริงๆจมูกเราไม่ค่อยโด่งค่ะ เวลาแต่งหน้าก็ต้องไฮไลท์บริเวณจมูก (ซึ่งทำให้เสียเวลาในการแต่งหน้าในส่วนนี้มาก) ก็เลยอยากจะเสริมจมูกค่ะ แต่ก็กลัว ทั้งกลัวเจ็บ กลัวทำแล้วไม่สวย ทำแล้วไม่เข้ากับหน้า เลยยังไม่ได้ทำซักที พอดีเพื่อนแนะนำ AES Clinic ที่ The JAS รามอินทราว่า ทำสวย ราคาไม่แพง ไม่ hard sale ก็เลยลองไปปรึกษาดูค่ะ
คุณหมออธิบายว่าอาจจะเสริมได้ไม่โด่งมากเพราะเนื้อน้อย ถ้าเสริมโด่งมากๆ จะเสี่ยงต่อการทะลุค่ะ หลังจากปรึกษาหมอแล้วยังตัดสินใจไม่ได้ นั่งคิดไปคิดมา ใจนึงก็อยากทำ ใจนึงก็กลัวเจ็บ ในที่สุดก็ตัดสินใจทำค่ะ ได้คิวประมาณ 1 เดือน คุณหมอแนะนำให้งดอาหารเสริมและยาทุกชนิด 1 สัปดาห์ก่อนวันนัด ในช่วงที่รอเราก็หาข้อมูลวิธีปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดเสริมจมูกค่ะ (ซื้อของใช้มาตุนไว้เรียบร้อย เช่น หมอนล๊อคคอ , cool pack อันนี้จำเป็นมากค่ะ เพราะเราต้องใช้ประคบหลังจากที่ผ่าตัดมา เราซื้อมา 2 อันค่ะ แช่ช่องฟรีซไว้เลย เวลาใช้จะได้สลับกัน , น้ำเกลือขวดใหญ่เลยค่ะ เพราะต้องใช้ทำความสะอาดแผล และต้องใช้เช็ดหน้า ได้ยินมาว่าจะล้างหน้าไม่ได้ค่ะ, cotton Bud และ setทำแผลอื่นๆ จริงๆทางคลินิกจะให้มาอยู่แล้วแต่เรากลัวไม่พอเลยซื้อมาไว้เพิ่มค่ะ ^^ อ้อ เกือบลืม คุณหมอแนะนำว่า ถ้าทานใบบัวบกไปด้วยจะช่วยลดอาการบวมช้ำได้ดี เราก็เลยซื้อเป็นใบบัวบกอัดแคปซูลของอภัยภูเบศรค่ะ)
เมื่อถึงวันนัดเราก็ทานข้าวเช้าไปเรียบร้อยค่ะ(เวลานัด 10 โมง) ก่อนเสริมจมูกพนักงานก็ให้ทานยาและให้เราล้างหน้าก่อน 1 รอบ หลังจากล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว คุณหมอได้ตรวจจมูกและวัดจมูกอีกครั้ง จากนั้นพนักงานได้ทำความสะอาดหน้าและรูจมูกด้วยยาฆ่าเชื้อ(มีกลิ่นฉุนๆหน่อยค่ะ) ก่อนการผ่าตัด หมอแจ้งเราว่าจะฉีดยาชา(ตอนนี้ใจเต้นแรงมากตุ๊บๆต่อมๆเลยค่ะ) เข็มแรกเจ็บนิดนึงประมาณ 1-2 วินาที จากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไร คุณหมอมือเบามาก ระหว่างทำหมอก็จะคุยกับเราไปพร้อมเปิดเพลงบรรเลงเบาๆให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ใช้เวลา 30 นาที - 1 ชั่วโมง คุณหมอจะให้ดูกระจก ให้เราดูว่าชอบมั้ย อยากปรับตรงใหน ถ้าเราโอเคคุณหมอก็จะเย็บแผลปิด (ที่นี่จะไม่มีการวางยาสลบนะคะ จะใช้วิธีฉีดยาชาค่ะ ซึ่งข้อดีของการฉีดยาชาคือ เราสามารถดูทรงจมูกไปพร้อมกับคุณหมอได้ค่ะ)
หลังออกจากห้องผ่าตัด พนักงานจะอธิบายวิธีการดูแลทำความสะอาดแผล การรับประทานยา การประคบเย็น ร้อน วิธีการดูแลจมูกหลังทำ จากนั้นรับยาพร้อมชุดทำแผลและนัดตัดไหมค่ะ
หลังออกจากห้องผ่าตัดซักพักจมูกก็เริ่มบวม เราก็ประคบเย็นตลอดเลยค่ะ ในระหว่างทางกลับบ้านเราก็ประคบไปด้วย (ขอน้ำแข็งจากทางคลินิกกลับมาด้วยค่ะ อิอิ จมูกเราบวมประมาณ 4 วันค่ะ ตอนบวมเหมือนอวตารเราเลยไม่กล้าโชว์ เราประคบเย็นประมาณ 3 วัน หลังจากนั้นก็เปลี่ยนประคบอุ่น ซักประมาณ 1 สัปดาห์ จมูกก็หายบวม 555 ออกไปซ่าได้แล้ว
ในที่สุดก็มาถึงวันตัดไหม ตอนที่ตัดไหมก็ใจเต้นตุ๊บๆต่อมๆแต่น้อยกว่าตอนที่มาเสริมค่ะ จริงๆตัดไหมจะว่าไม่เจ็บเลยก็ไม่ใช่ ก็มีเจ็บจี๊ดๆบางจุดที่ตัดไหม แต่ก็ไม่มากค่ะ ศรีทนได้ 55555++ 😆😆
หลังเสริมครบ 1 เดือนแล้วค่ะ สวยแล้วค่ะ👍😁
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น