สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกคน วันนี้พวกเราจะพาทุกคนไปรู้จักกรุงเทพให้มากขึ้น โดยทริปนี้มีความพิเศษตรงที่พวกเรามีคอนเซปว่า จะเที่ยวยังไงให้พอเพียงตรงตามคำสอนของพ่อหลวงรัชกาลที่9
คือจริงๆอ่ะนะพวกเราวางแผนไปเที่ยวกัน ก็คิดกันว่าจะไปที่ไหนดี ที่ใช้งบน้อย ใกล้ๆ และมีคุณค่าต่อการจดจำ คิดแล้วคิดอีก แต่คิดไม่ออก แต่บังเอิ๊ญมีเพื่อนชวนไปสนามหลวง ระหว่างทางที่เดินผ่านก็เห็นสถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยมากมายที่น่าสนใจ แล้วก็บังเอิ๊ญญญญญญญญญญญ ดันมารู้อีกว่าช่วงนี้สถานที่ท่องเที่ยวมากมายเปิดให้เข้าชมฟรี ไม่คิดเงินสักบาทเลยจ้าาาาาาาาาาาาา เข้าทางดิแบบนี้ เลยรวมกลุ่มเพื่อนจัดทริปไปเที่ยว 1 วัน กะว่าจะเอาให้คุ้ม ไปตั้งแต่เช้ายันเย็นเลย ป่ะ ไปเริ่มกันเลย!!!
เอางี้ เริ่มกันที่สถานีหัวลำโพง รวมตัวกันให้ครบก่อน คือเหตุผลที่มาที่นี้อ่ะเพราะมันง่าย มีทั้ง MRT รถไฟยันรถเมล์ รถบรรทุกก็มี แต่ไม่ขึ้น แฮร่!! เดินออกมาจาก MRT ทางออกที่ 2 มองหารถเมล์สาย 49(ปอ.สีส้มๆ)เดินขึ้นไปเลยจ่ะ คนละ 11 บาท นั่งชมวิวไปเลยชิวๆ 10 นาที แล้วก็ลงตรงป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนวัดสระเกศ เดินตรงไปเรื่อยๆ จะเจอป้ายบรมบรรพต แล้วก็เลี้ยวซ้ายค่ะ จะเจอวัดสระเกศอยู่ตรงหน้าเลย ไหนๆก็มาถึงละ ก้าวเข้าไปไหว้ สะสมแต้มบุญกันหน่อยวัยรุ่น แต่อยากจะบอกนะว่าวัดเนี้ยมีประวัติที่มาที่น่าสนใจสุดอ่ะเธอ ก็คือว่ารัชกาลที่1 ทรงปฏิสังขรณ์ “วัดสะแก“แล้วต่อมาพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดสระเกศ” หลังจากนั้น ในสมัยรัชกาลที่3 ได้มีการสร้างภูเขาทอง และทรงปฏิสังขรณ์วัดสระเกศอีกครั้ง ในสมัยรัชกาลที่4 ทรงพระราชนามใหม่ว่า “บรมบรรพต” ในที่สุด ภูเขาทองก็สร้างเสร็จในสมัยรัชกาลที่5 อีกครั้งมีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งมาจากประเทศอินเดีย
เดินต่อไปอีกหน่อย ก็จะเจอกับทางเข้าภูเขาทอง บอกเลยว่าเป็นวัดที่สงบจริงๆ สงบมาก บรรยากาศสวย ร่มรื่น มีทัศนียภาพที่สามารถสะกดสายตาให้หยุดอยู่ตรงนั้นได้เลย เพราะบันไดมันสูงมากกกกก โอ้วแม่เจ้า ตอนนั้นก็คิดในใจว่าจะถ่ายรูปอยู่แค่ที่ตีนภูเขาดีมั้ย 555555 แต่เอาหน่า ไหนๆก็ไหนๆล้ะ อุตส่าห์มา เอาให้สุดดิ ก้าวเลยจ้า บึ๊ดจ้ำบึ๊ดจ้ำบึ๊ดจ้ำบึ๊ด ด้วยแรงศรัทธาอันแรงกล้าก้หอบร่างขึ้นมาจนได้ เห้ยคุ้มหว่ะมายเฟรนนน เดินถ่ายรูป ไหว้พระให้พอใจ แล้วหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็เดินลง แต่เอาจริงๆนะ 344 ขั้นไม่เหนื่อยเท่าไหร่เลยนะ ลองไปดูๆแนะนำ
หาทางออกให้เจอแล้วเดินไปข้ามสะพานมหาดไทยอุทิศ ผ่านป้อมมหากาฬ ระหว่างทางก็จะได้พบวิถีชีวิตผู้คนที่อยู่ริมถนน บ้านเรือนต่างๆคือคงรูปแบบความโบราณไว้ชัดเจนอ่ะแกร
ไม่ถึง 10 นาทีก็มาโผล่ที่วัดราชนัดดา วัดนี้สะอาดมากเลยนะ พื้นลื่นปรื๊ดดดด เดินดีๆระวังล้ม วัดเนี่ยมีประวัติที่น่าสนใจอย่างเยอะอ่ะ คือว่าวัดราชนัดดารามวรวิหาร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2389 ตรงกับปลายรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว บนสวนผลไม้เก่าเนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ พระราชทานเป็นเกียรติแก่พระราชนัดดา คือ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าหญิงโสมนัสวัฒนาวดี ข้างๆวัดราชนัดดานี้เป็นโลหะปราสาท พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโลหะปราสาทแทนการสร้างเจดีย์ นับเป็นโลหะปราสาทแห่งแรกของไทย โดยสร้างเป็นอาคาร 7 ชั้น มียอดปราสาท 37 ยอด หมายถึงโพธิปักขิยธรรมในพระพุทธศาสนา 37 ประการ ยอดปราสาทชั้น 7 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ กลางปราสาทเป็นช่องกลวง มีบันไดเวียน 86 ขั้น ให้เดินขึ้นไปดูทิวทัศน์ข้างบนได้ คือชาเลนจ์ใหม่มาและ ต้องพาตัวเองขึ้นบันไดเวียน 86 ขั้น ตอนชั้นแรกๆก็พอได้อยุ่นะ พอมาชั้นที่ 3-4 นี้ ลมแทบจับเลยจ้า คือแบบชั้นไม่ไหวอ่ะแก จะเป็นลมเอาไงดีขึ้นหรือลง แต่มาถึงตอนนี้ละ ขึ้นเหอะ บอกเลยว่ากว่าจะถึงนี้มือตะกายบันได แต่ก็ถึงจนได้ คือวิวสวยมากกกกกกกก เห็นมุมกว้าง 360 องศาเลยค่ะ โซเลิศอ่ะ แต่ยัง ยังไม่พอนะจ๊ะ มีบันไดอีกตั้ง 3 ขั้น เพื่อไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ คุ้มค่ะพี่คุ้ม อ่ะถ่ายรูปๆแล้วก็หายใจเข้าลึกๆอีกครั้ง แล้วก็ลง แต่ๆๆๆระวังตกบันไดนะ คือทั้งลื่นทั้งชัน เวลาตอนนั้นคือประมาณ 9 โมงเกือบ 10 ละ แล้วแบบเห้ยยย นิทรรศน์รัตโกสินทร์อยู่ใกล้ๆนี่เอง ก็เลยเดินต่อไปไม่ถึง 2 นาที มาถึงแล้ววววว
เดินเข้ามาก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับแล้วจะบอกว่าเราควรซื้อบัตรแบบไหน ห้องไหน ทางเดินไหน ทางเดินเนี่ยจะมี 2 ทาง ทางแรกจะเกี่ยวกับกรุงเทพ รัตนโกสินทร์ ส่วนทางเดินที่2 จะเป็นเกี่ยวกับในหลวง เพื่อนๆในกลุ่มก็เออออจะไปทางเดินที่1 กัน เลยเดินเข้าไปซื้อบัตร เซอไพร์สสสสสสส ราคาบัตร 0 บาทถ้วน ย้ำนะคะ 0 บาทถ้วน แต่ตอนนัน่าจะเป็นคนละ 100 บาทละนะ แต่ 100 บาทกับความรู้ที่กำลังจะได้มามันคุ้มค่ากว่านั้นเยอะถ้าไม่จริงนะ เอาเท้ามาเหยียบหน้าเลย แต่เบาๆนะ5555 แต่ก่อนเข้าถ้าใครหิว ทีนี่เค้ามีทรูคอฟฟี่ นั่งชิวๆค่ะรอเวลา สำหรับใครที่อยากอ่านหนังสือ ก็เดินขึ้นไปชึ้นชั้นบน มีหนังสือมากมายให้เลือกอ่าน มีตั้งแต่ฝุ่นจับยันใหม่เอี่ยม กระดาษยังหอมเหมือนไม่เคยได้จับ ตาลุกวาวอ่ะ มีที่นั่งที่สามารถนอนได้ตามสบายยย5555 พอถึงเวลาที่จะเข้าไป บอกก่อนนะ ใช้เวลาทั้งหมดเกือบ2 ชั่วโมง แค่ 7 ห้องนะเนี่ย เอาล่ะ เข้าไปกันเลย ขอสรุปสั้นๆแต่ไม่สปอยนะจ๊ะ ไปดูเอาเองย่ะ
เริ่มต้นด้วย การยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 หลังจากนั้นจะเข้าสู่อุโมงค์กาลเวลา ซึ่งเป็นการนำเสนอในรูปแบบของทามไลน์ โดยมีทั้งไทย และสากล แต่ๆ ไม่ได้เดินคนเดียวนะจ๊ะ ระหว่างทางจะมีพี่ไกด์เดินนำทางและอธิบายเส้นทางต่างๆตลอด เพราะฉะนั้นถ้าไปคนเดียว ไม่ต้องกลัวจะเหงาเลยนะ
1.ห้องดื่มด่ำย่านชุมชน เป็นห้องที่นำเสนอเกี่ยวกับเอกลักษณ์และอาชีพของแต่ละชุมชนของกรุงเทพในสมัยอดีตนู้นนนนน
2.รัตนโกสินทร์เรืองโรจน์ เป็นห้องดูภาพยนตร์ นำเสนอในรูแบบสี่มิติ บอกเลยว่าพอภาพยนตร์จบปู๊ป จะอเมซิ่งมาก ขออุบไว้นะ ไม่บอกๆ
3.เกียรติยศแผ่นดินสยาม เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงพระบรมราชวังตามยุคสมัย
4.เรืองนามมหรสพศิลป์ เป็นการนำเสนอภาพจิตรกรรมจากวัดต่างๆและมีวิดีโอ 360 องศา เวลาประมาณ 6 นาที
5.เยี่ยมยลถิ่นกรุง แต่ๆก่อนจะเข้าไป เจ้าหน้าที่เค้าจะให้เราถ่ายรูปกับกล้องโบราณ ตอนแรกก็เอ๊ะ จะเอารูปเราไปทำอะไร ถ่ายใกล้จนสิวตกใจเลยทีเดียว เป็นห่วงอยู่อย่างเดียวว่า จะเสียเงินมั้ยเนี่ย และในที่สุด เค้าจะเอารูปของพวกเราไปทำอะไรก็ต้องไปดูนะเองนะฮ้าฟฟฟฟฟ
6.ลือระบิลพระราชพิธี ห้องนี้เกี่ยวกับเรือพระราชพิธี รวมถึงช้างประจำรัชกาล ซึ่งเป็นการนำเสนอที่แตกต่างจากที่อื่นเหอะบอกเลอออ
7.สง่าศรีสถาปัตยกรรม เกี่ยวกับวัดต่างๆและวิถีชีวิตคนไทยในอดีต
ออกมาก็เที่ยงกว่า ท้องนี้ร้องเป็นเพลงได้เลย เอาละค่ะ ต้องหาที่กิน ต้องนี่เลยๆ ก๋วยจั๊บญวนท่าพระอาทิตย์ คุณแดงก๋วยจั๊บญวณ เจ้านี้ดังอยู่นะ คือน้ำซุปใสมากกก หอมอ่ะ ถ้ายังไม่อิ่มที่นี่มีมากกว่าก๋วยจั๊บญวนอีกนะจ๊าาา มีปอเปี๊ยะทอดด้วยแหละเธอ บอกเลยว่าเด็ดๆ ยกเป็นเมนูเปรี้ยวปาก ก็เรามันสายกินอยู่แล้วนี่คะ5555 เอ้า เอารูปไปปปปป
[CR] 1 วันรู้จักกรุงเทพให้มากขึ้น ><
คือจริงๆอ่ะนะพวกเราวางแผนไปเที่ยวกัน ก็คิดกันว่าจะไปที่ไหนดี ที่ใช้งบน้อย ใกล้ๆ และมีคุณค่าต่อการจดจำ คิดแล้วคิดอีก แต่คิดไม่ออก แต่บังเอิ๊ญมีเพื่อนชวนไปสนามหลวง ระหว่างทางที่เดินผ่านก็เห็นสถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยมากมายที่น่าสนใจ แล้วก็บังเอิ๊ญญญญญญญญญญญ ดันมารู้อีกว่าช่วงนี้สถานที่ท่องเที่ยวมากมายเปิดให้เข้าชมฟรี ไม่คิดเงินสักบาทเลยจ้าาาาาาาาาาาาา เข้าทางดิแบบนี้ เลยรวมกลุ่มเพื่อนจัดทริปไปเที่ยว 1 วัน กะว่าจะเอาให้คุ้ม ไปตั้งแต่เช้ายันเย็นเลย ป่ะ ไปเริ่มกันเลย!!!
เอางี้ เริ่มกันที่สถานีหัวลำโพง รวมตัวกันให้ครบก่อน คือเหตุผลที่มาที่นี้อ่ะเพราะมันง่าย มีทั้ง MRT รถไฟยันรถเมล์ รถบรรทุกก็มี แต่ไม่ขึ้น แฮร่!! เดินออกมาจาก MRT ทางออกที่ 2 มองหารถเมล์สาย 49(ปอ.สีส้มๆ)เดินขึ้นไปเลยจ่ะ คนละ 11 บาท นั่งชมวิวไปเลยชิวๆ 10 นาที แล้วก็ลงตรงป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนวัดสระเกศ เดินตรงไปเรื่อยๆ จะเจอป้ายบรมบรรพต แล้วก็เลี้ยวซ้ายค่ะ จะเจอวัดสระเกศอยู่ตรงหน้าเลย ไหนๆก็มาถึงละ ก้าวเข้าไปไหว้ สะสมแต้มบุญกันหน่อยวัยรุ่น แต่อยากจะบอกนะว่าวัดเนี้ยมีประวัติที่มาที่น่าสนใจสุดอ่ะเธอ ก็คือว่ารัชกาลที่1 ทรงปฏิสังขรณ์ “วัดสะแก“แล้วต่อมาพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดสระเกศ” หลังจากนั้น ในสมัยรัชกาลที่3 ได้มีการสร้างภูเขาทอง และทรงปฏิสังขรณ์วัดสระเกศอีกครั้ง ในสมัยรัชกาลที่4 ทรงพระราชนามใหม่ว่า “บรมบรรพต” ในที่สุด ภูเขาทองก็สร้างเสร็จในสมัยรัชกาลที่5 อีกครั้งมีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งมาจากประเทศอินเดีย
เดินต่อไปอีกหน่อย ก็จะเจอกับทางเข้าภูเขาทอง บอกเลยว่าเป็นวัดที่สงบจริงๆ สงบมาก บรรยากาศสวย ร่มรื่น มีทัศนียภาพที่สามารถสะกดสายตาให้หยุดอยู่ตรงนั้นได้เลย เพราะบันไดมันสูงมากกกกก โอ้วแม่เจ้า ตอนนั้นก็คิดในใจว่าจะถ่ายรูปอยู่แค่ที่ตีนภูเขาดีมั้ย 555555 แต่เอาหน่า ไหนๆก็ไหนๆล้ะ อุตส่าห์มา เอาให้สุดดิ ก้าวเลยจ้า บึ๊ดจ้ำบึ๊ดจ้ำบึ๊ดจ้ำบึ๊ด ด้วยแรงศรัทธาอันแรงกล้าก้หอบร่างขึ้นมาจนได้ เห้ยคุ้มหว่ะมายเฟรนนน เดินถ่ายรูป ไหว้พระให้พอใจ แล้วหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็เดินลง แต่เอาจริงๆนะ 344 ขั้นไม่เหนื่อยเท่าไหร่เลยนะ ลองไปดูๆแนะนำ
หาทางออกให้เจอแล้วเดินไปข้ามสะพานมหาดไทยอุทิศ ผ่านป้อมมหากาฬ ระหว่างทางก็จะได้พบวิถีชีวิตผู้คนที่อยู่ริมถนน บ้านเรือนต่างๆคือคงรูปแบบความโบราณไว้ชัดเจนอ่ะแกร
ไม่ถึง 10 นาทีก็มาโผล่ที่วัดราชนัดดา วัดนี้สะอาดมากเลยนะ พื้นลื่นปรื๊ดดดด เดินดีๆระวังล้ม วัดเนี่ยมีประวัติที่น่าสนใจอย่างเยอะอ่ะ คือว่าวัดราชนัดดารามวรวิหาร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2389 ตรงกับปลายรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว บนสวนผลไม้เก่าเนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ พระราชทานเป็นเกียรติแก่พระราชนัดดา คือ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าหญิงโสมนัสวัฒนาวดี ข้างๆวัดราชนัดดานี้เป็นโลหะปราสาท พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโลหะปราสาทแทนการสร้างเจดีย์ นับเป็นโลหะปราสาทแห่งแรกของไทย โดยสร้างเป็นอาคาร 7 ชั้น มียอดปราสาท 37 ยอด หมายถึงโพธิปักขิยธรรมในพระพุทธศาสนา 37 ประการ ยอดปราสาทชั้น 7 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ กลางปราสาทเป็นช่องกลวง มีบันไดเวียน 86 ขั้น ให้เดินขึ้นไปดูทิวทัศน์ข้างบนได้ คือชาเลนจ์ใหม่มาและ ต้องพาตัวเองขึ้นบันไดเวียน 86 ขั้น ตอนชั้นแรกๆก็พอได้อยุ่นะ พอมาชั้นที่ 3-4 นี้ ลมแทบจับเลยจ้า คือแบบชั้นไม่ไหวอ่ะแก จะเป็นลมเอาไงดีขึ้นหรือลง แต่มาถึงตอนนี้ละ ขึ้นเหอะ บอกเลยว่ากว่าจะถึงนี้มือตะกายบันได แต่ก็ถึงจนได้ คือวิวสวยมากกกกกกกก เห็นมุมกว้าง 360 องศาเลยค่ะ โซเลิศอ่ะ แต่ยัง ยังไม่พอนะจ๊ะ มีบันไดอีกตั้ง 3 ขั้น เพื่อไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ คุ้มค่ะพี่คุ้ม อ่ะถ่ายรูปๆแล้วก็หายใจเข้าลึกๆอีกครั้ง แล้วก็ลง แต่ๆๆๆระวังตกบันไดนะ คือทั้งลื่นทั้งชัน เวลาตอนนั้นคือประมาณ 9 โมงเกือบ 10 ละ แล้วแบบเห้ยยย นิทรรศน์รัตโกสินทร์อยู่ใกล้ๆนี่เอง ก็เลยเดินต่อไปไม่ถึง 2 นาที มาถึงแล้ววววว
เดินเข้ามาก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับแล้วจะบอกว่าเราควรซื้อบัตรแบบไหน ห้องไหน ทางเดินไหน ทางเดินเนี่ยจะมี 2 ทาง ทางแรกจะเกี่ยวกับกรุงเทพ รัตนโกสินทร์ ส่วนทางเดินที่2 จะเป็นเกี่ยวกับในหลวง เพื่อนๆในกลุ่มก็เออออจะไปทางเดินที่1 กัน เลยเดินเข้าไปซื้อบัตร เซอไพร์สสสสสสส ราคาบัตร 0 บาทถ้วน ย้ำนะคะ 0 บาทถ้วน แต่ตอนนัน่าจะเป็นคนละ 100 บาทละนะ แต่ 100 บาทกับความรู้ที่กำลังจะได้มามันคุ้มค่ากว่านั้นเยอะถ้าไม่จริงนะ เอาเท้ามาเหยียบหน้าเลย แต่เบาๆนะ5555 แต่ก่อนเข้าถ้าใครหิว ทีนี่เค้ามีทรูคอฟฟี่ นั่งชิวๆค่ะรอเวลา สำหรับใครที่อยากอ่านหนังสือ ก็เดินขึ้นไปชึ้นชั้นบน มีหนังสือมากมายให้เลือกอ่าน มีตั้งแต่ฝุ่นจับยันใหม่เอี่ยม กระดาษยังหอมเหมือนไม่เคยได้จับ ตาลุกวาวอ่ะ มีที่นั่งที่สามารถนอนได้ตามสบายยย5555 พอถึงเวลาที่จะเข้าไป บอกก่อนนะ ใช้เวลาทั้งหมดเกือบ2 ชั่วโมง แค่ 7 ห้องนะเนี่ย เอาล่ะ เข้าไปกันเลย ขอสรุปสั้นๆแต่ไม่สปอยนะจ๊ะ ไปดูเอาเองย่ะ
เริ่มต้นด้วย การยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 หลังจากนั้นจะเข้าสู่อุโมงค์กาลเวลา ซึ่งเป็นการนำเสนอในรูปแบบของทามไลน์ โดยมีทั้งไทย และสากล แต่ๆ ไม่ได้เดินคนเดียวนะจ๊ะ ระหว่างทางจะมีพี่ไกด์เดินนำทางและอธิบายเส้นทางต่างๆตลอด เพราะฉะนั้นถ้าไปคนเดียว ไม่ต้องกลัวจะเหงาเลยนะ
1.ห้องดื่มด่ำย่านชุมชน เป็นห้องที่นำเสนอเกี่ยวกับเอกลักษณ์และอาชีพของแต่ละชุมชนของกรุงเทพในสมัยอดีตนู้นนนนน
2.รัตนโกสินทร์เรืองโรจน์ เป็นห้องดูภาพยนตร์ นำเสนอในรูแบบสี่มิติ บอกเลยว่าพอภาพยนตร์จบปู๊ป จะอเมซิ่งมาก ขออุบไว้นะ ไม่บอกๆ
3.เกียรติยศแผ่นดินสยาม เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงพระบรมราชวังตามยุคสมัย
4.เรืองนามมหรสพศิลป์ เป็นการนำเสนอภาพจิตรกรรมจากวัดต่างๆและมีวิดีโอ 360 องศา เวลาประมาณ 6 นาที
5.เยี่ยมยลถิ่นกรุง แต่ๆก่อนจะเข้าไป เจ้าหน้าที่เค้าจะให้เราถ่ายรูปกับกล้องโบราณ ตอนแรกก็เอ๊ะ จะเอารูปเราไปทำอะไร ถ่ายใกล้จนสิวตกใจเลยทีเดียว เป็นห่วงอยู่อย่างเดียวว่า จะเสียเงินมั้ยเนี่ย และในที่สุด เค้าจะเอารูปของพวกเราไปทำอะไรก็ต้องไปดูนะเองนะฮ้าฟฟฟฟฟ
6.ลือระบิลพระราชพิธี ห้องนี้เกี่ยวกับเรือพระราชพิธี รวมถึงช้างประจำรัชกาล ซึ่งเป็นการนำเสนอที่แตกต่างจากที่อื่นเหอะบอกเลอออ
7.สง่าศรีสถาปัตยกรรม เกี่ยวกับวัดต่างๆและวิถีชีวิตคนไทยในอดีต
ออกมาก็เที่ยงกว่า ท้องนี้ร้องเป็นเพลงได้เลย เอาละค่ะ ต้องหาที่กิน ต้องนี่เลยๆ ก๋วยจั๊บญวนท่าพระอาทิตย์ คุณแดงก๋วยจั๊บญวณ เจ้านี้ดังอยู่นะ คือน้ำซุปใสมากกก หอมอ่ะ ถ้ายังไม่อิ่มที่นี่มีมากกว่าก๋วยจั๊บญวนอีกนะจ๊าาา มีปอเปี๊ยะทอดด้วยแหละเธอ บอกเลยว่าเด็ดๆ ยกเป็นเมนูเปรี้ยวปาก ก็เรามันสายกินอยู่แล้วนี่คะ5555 เอ้า เอารูปไปปปปป