เริ่มตอนไปที่สเปน เมื่อโคลสันกับแม็กซ์ออกไปตามหาหญิงสาวที่ชื่อ Agnes Kitsworth (แอ๊กเนส คิตสเวิร์ธ) อดีตคนใกล้ชิดสนิทสนมมากๆของดร.เร้ดคลิฟฟ์
และทั้งสองก็ต้องแปลกใจ เมื่อแอ๊กเนสมีใบหน้ารูปร่างเหมือนเอด้าเปี๊ยบ เพราะแอ๊กเนสคือร่างต้นแบบLMDเอด้า ที่ดร.เร้ดคลิฟฟ์สร้างขึ้นนั่นเอง โคลสันต้องการให้แอ๊กเนสช่วยตามล่าดร.เร้ดคลิฟฟ์ และช่วยเมย์ออกมา
ด้านทางเอด้านั้น นำความรู้ในดาร์คโฮลด์มาสร้างโลกเสมือนจริงในความฝันที่ไม่มีขอบเขตได้ (ที่ผ่านมามีขอบเขตจุดสิ้นสุด แต่ครั้งนี้เอด้าสร้างโลกทั้งใบขึ้นมาในนั้นเลย) ส่วนดร.เร้ดคลิฟฟ์ก็สกัดเทอริเก้นคริสตัลบริสุทธ์ขึ้นมาได้สำเร็จ (นำคริสตัลมาจากตอนช่วยไฮฟ์สร้างอินฮิวแมน) แอนทอนผู้นำวอชด็อก จึงต้องการใช้เทอริเก้นคริสตัลนี้เพื่อพิสูจน์และตรวจสอบมนุษย์ที่ปนเปื้อนเชื้ออินฮิวแมน จะได้กำจัดแต่เนิ่นๆ
ที่ฐานชิลด์ ฟิทซ์ก็สร้างทางเข้าฐานที่สแกนLMDขึ้นมา เพื่อป้องกันดร.เร้ดคลิฟฟ์จะส่งLMDมาสอดแนม พร้อมกับที่เจมม่าตรวจพบว่าสูตรยาจอมพลังของผอ.เมซนั้นไม่สเถียร ผอ.เมซอาจจะตายได้ถ้าใช้เรื่อยๆ
Terrence Shockley (เทอเรนซ์ ช็อคลีย์) มือขวาของแอนทอนนำเทอริเก้นคริสตัลไปหาสว.นาเดียร์ที่ห้องทำงาน เพราะต้องการพิสูจน์ว่าสว.นาเดียร์เป็นอินฮิวแมนหรือไม่? ทันที่ที่คริสตัลแตกและเกิดเทอริเก้นมิสไปทั่วห้อง ช็อคลีย์กลับเข้าสู่กระบวนการเทอริเจเนซิสและมีโคคูนหินล้อมรอบตัวซะเอง ทันใดนั้นพลังอินฮิวแมนของช็อคลีย์ก็ระเบิดออกมาตู้มต้าม ผลทำให้ห้องทำงานสว.นาเดียร์ระเบิดเละ ตายหมดห้อง ยกเว้นช็อคลีย์คนเดียว
ชิลด์รีบรุดไปที่เกิดเหตุระเบิดทันที และเดซี่ก็พบจากกล้องวงจรปิดว่า ก่อนเกิดระเบิด ช็อคลีย์คือคนสุดท้ายที่มาขอพบสว.นาเดียร์ เดซี่จึงรีบสะกดรอยช็อคลีย์ไปจนถึงเซฟเฮ้าส์ และจับตัวช็อคลีย์กลับมาที่ไซเฟอร์วันได้ (ตอนนี้เดซี่ยังไม่รู้ว่าช็อคลีย์คืออินฮิวแมน) ก่อนจะสอบสวนถึงที่ซ่อนของดร.เร้ดคลิฟฟ์ต่อไป..
ระหว่างการสอบสวน ช็อคลีย์นั้นก็กำลังคิดจะระเบิดพลังตัวเอง จังหวะเดียวกับที่ฟิทซ์กับเจมม่าคิดออกว่าช็อคลีย์คืออินฮิวแมน ฟิซท์กับผอ.เมซจึงช่วยกันดันร่างช็อคลีย์เข้าตู้โมดูลและรีบทิ้งลงพื้น ทันใดนั้นช็อคลีย์ก็ระเบิดตู้มกลางอากาศ ก่อนที่ร่างจะกลับมาหลอมรวมกันเหมือนเดิมที่พื้นโลก
ด้านทางแอ๊กเนสนั้นบอกโคลสันว่า เธอเป็นแฟนเก่าดร.เร้ดคลิฟฟ์และโดนทิ้งไปเพราะเธอเป็นเนื้องอกในสมอง วันรุ่งขึ้นแอ๊กเนสจึงติดต่อไปหาดร.เร้ดคลิฟฟ์ตามแผนโคลสัน
แต่ดร.เร้ดคลิฟฟ์ก็บอกว่าค้นพบวิธีให้แอ๊กเนสไม่ต้องตายได้แม้มไม่ได้เอาเนื้องอกออก โดยการส่งแอ๊กเนสเข้าไปในเฟรมเวิร์คเหมือนเมย์ ในนั้นแอ๊กเนสจะมีชีวิตอมตะ แอ๊กเนสจึงยอมตามดร.เร้ดคลิฟฟ์ไป โคลสันจึงถึงทางตันอีกครั้ง แต่ก็ยังมีความหวัง เพราะคำพูดดร.เร้ดคลิฟฟ์ที่บอกว่า มีตัวทดลองคนแรกอยู่ในเฟรมเวิร์ค
ส่วนทางช็อคลีย์ก็โดนเดซี่ถ่วงเวลา จนกระทั้งฟิทซ์กับเจมม่าจับใส่เครื่องกักพลังระเบิดที่ทั้งสองคิดค้นขึ้นมาได้สำเร็จ แต่ต้องแลกกับที่ผอ.เมซโดนแอนทอนจับตัวกลับไป
หลังจากแอ๊กเนสเข้าสู่เฟรมเวิร์ค (คนละโลกกับเมย์นะ) ร่างแอ๊กเนสก็หยุดการทำงานลงไป แต่สติสัมปชัญญะของแอ๊กเนสยังคงอยู่ในเฟรมเวิร์คเช่นนั้นตลอดกาล และเอด้าก็นำสร้อยคอที่มีแหวนของแอ๊กเนสมาใส่ตนเอง
จบตอนที่ 13 สวัสดีครับ
[SPOIL] Agents of S.H.I.E.L.D. SS 4 ep.13 ‘BOOM’ ดูจบแล้วมาคุยกันครับ by หลวงจีนหอไตร
เริ่มตอนไปที่สเปน เมื่อโคลสันกับแม็กซ์ออกไปตามหาหญิงสาวที่ชื่อ Agnes Kitsworth (แอ๊กเนส คิตสเวิร์ธ) อดีตคนใกล้ชิดสนิทสนมมากๆของดร.เร้ดคลิฟฟ์
และทั้งสองก็ต้องแปลกใจ เมื่อแอ๊กเนสมีใบหน้ารูปร่างเหมือนเอด้าเปี๊ยบ เพราะแอ๊กเนสคือร่างต้นแบบLMDเอด้า ที่ดร.เร้ดคลิฟฟ์สร้างขึ้นนั่นเอง โคลสันต้องการให้แอ๊กเนสช่วยตามล่าดร.เร้ดคลิฟฟ์ และช่วยเมย์ออกมา
ด้านทางเอด้านั้น นำความรู้ในดาร์คโฮลด์มาสร้างโลกเสมือนจริงในความฝันที่ไม่มีขอบเขตได้ (ที่ผ่านมามีขอบเขตจุดสิ้นสุด แต่ครั้งนี้เอด้าสร้างโลกทั้งใบขึ้นมาในนั้นเลย) ส่วนดร.เร้ดคลิฟฟ์ก็สกัดเทอริเก้นคริสตัลบริสุทธ์ขึ้นมาได้สำเร็จ (นำคริสตัลมาจากตอนช่วยไฮฟ์สร้างอินฮิวแมน) แอนทอนผู้นำวอชด็อก จึงต้องการใช้เทอริเก้นคริสตัลนี้เพื่อพิสูจน์และตรวจสอบมนุษย์ที่ปนเปื้อนเชื้ออินฮิวแมน จะได้กำจัดแต่เนิ่นๆ
ที่ฐานชิลด์ ฟิทซ์ก็สร้างทางเข้าฐานที่สแกนLMDขึ้นมา เพื่อป้องกันดร.เร้ดคลิฟฟ์จะส่งLMDมาสอดแนม พร้อมกับที่เจมม่าตรวจพบว่าสูตรยาจอมพลังของผอ.เมซนั้นไม่สเถียร ผอ.เมซอาจจะตายได้ถ้าใช้เรื่อยๆ
Terrence Shockley (เทอเรนซ์ ช็อคลีย์) มือขวาของแอนทอนนำเทอริเก้นคริสตัลไปหาสว.นาเดียร์ที่ห้องทำงาน เพราะต้องการพิสูจน์ว่าสว.นาเดียร์เป็นอินฮิวแมนหรือไม่? ทันที่ที่คริสตัลแตกและเกิดเทอริเก้นมิสไปทั่วห้อง ช็อคลีย์กลับเข้าสู่กระบวนการเทอริเจเนซิสและมีโคคูนหินล้อมรอบตัวซะเอง ทันใดนั้นพลังอินฮิวแมนของช็อคลีย์ก็ระเบิดออกมาตู้มต้าม ผลทำให้ห้องทำงานสว.นาเดียร์ระเบิดเละ ตายหมดห้อง ยกเว้นช็อคลีย์คนเดียว
ชิลด์รีบรุดไปที่เกิดเหตุระเบิดทันที และเดซี่ก็พบจากกล้องวงจรปิดว่า ก่อนเกิดระเบิด ช็อคลีย์คือคนสุดท้ายที่มาขอพบสว.นาเดียร์ เดซี่จึงรีบสะกดรอยช็อคลีย์ไปจนถึงเซฟเฮ้าส์ และจับตัวช็อคลีย์กลับมาที่ไซเฟอร์วันได้ (ตอนนี้เดซี่ยังไม่รู้ว่าช็อคลีย์คืออินฮิวแมน) ก่อนจะสอบสวนถึงที่ซ่อนของดร.เร้ดคลิฟฟ์ต่อไป..
ระหว่างการสอบสวน ช็อคลีย์นั้นก็กำลังคิดจะระเบิดพลังตัวเอง จังหวะเดียวกับที่ฟิทซ์กับเจมม่าคิดออกว่าช็อคลีย์คืออินฮิวแมน ฟิซท์กับผอ.เมซจึงช่วยกันดันร่างช็อคลีย์เข้าตู้โมดูลและรีบทิ้งลงพื้น ทันใดนั้นช็อคลีย์ก็ระเบิดตู้มกลางอากาศ ก่อนที่ร่างจะกลับมาหลอมรวมกันเหมือนเดิมที่พื้นโลก
ด้านทางแอ๊กเนสนั้นบอกโคลสันว่า เธอเป็นแฟนเก่าดร.เร้ดคลิฟฟ์และโดนทิ้งไปเพราะเธอเป็นเนื้องอกในสมอง วันรุ่งขึ้นแอ๊กเนสจึงติดต่อไปหาดร.เร้ดคลิฟฟ์ตามแผนโคลสัน
แต่ดร.เร้ดคลิฟฟ์ก็บอกว่าค้นพบวิธีให้แอ๊กเนสไม่ต้องตายได้แม้มไม่ได้เอาเนื้องอกออก โดยการส่งแอ๊กเนสเข้าไปในเฟรมเวิร์คเหมือนเมย์ ในนั้นแอ๊กเนสจะมีชีวิตอมตะ แอ๊กเนสจึงยอมตามดร.เร้ดคลิฟฟ์ไป โคลสันจึงถึงทางตันอีกครั้ง แต่ก็ยังมีความหวัง เพราะคำพูดดร.เร้ดคลิฟฟ์ที่บอกว่า มีตัวทดลองคนแรกอยู่ในเฟรมเวิร์ค
ส่วนทางช็อคลีย์ก็โดนเดซี่ถ่วงเวลา จนกระทั้งฟิทซ์กับเจมม่าจับใส่เครื่องกักพลังระเบิดที่ทั้งสองคิดค้นขึ้นมาได้สำเร็จ แต่ต้องแลกกับที่ผอ.เมซโดนแอนทอนจับตัวกลับไป
หลังจากแอ๊กเนสเข้าสู่เฟรมเวิร์ค (คนละโลกกับเมย์นะ) ร่างแอ๊กเนสก็หยุดการทำงานลงไป แต่สติสัมปชัญญะของแอ๊กเนสยังคงอยู่ในเฟรมเวิร์คเช่นนั้นตลอดกาล และเอด้าก็นำสร้อยคอที่มีแหวนของแอ๊กเนสมาใส่ตนเอง
จบตอนที่ 13 สวัสดีครับ