เพชรกลางไฟผ่านไปแล้ว 4 ตอน และเรตติ้งก็ออกมาน้อยอย่างน่าใจหาย จนพระเอก-นางเอก แม้แต่ช่องยังโดนลากมารุมแล้วค่าาา กะให้หญิงหลงกะอนลเจอทั้งศึกนอกวังในวังเลยหรออ ใจเย็นๆกันนะทุกคนนน 5555
เห็นมีกระทู้ข้างนอกบ้างแล้ว เลยอยากจะชวนมาลองวิเคราะห์กันดูสักหน่อย ว่าทำไมคนดูถึงไม่ถูกใจเรื่องนี้มากเท่าที่ควร ทั้งๆที่ภาพรวมมันดี และทีมนักแสดงก็ได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว
มองในมุมคนดู อาจจะเป็นได้ว่า....
1.การพบกันของพระเอก-นางเอกน้อยเกินไป น้อยที่สุดในประวัติศาสจร์การถ่ายละครไทย จนจะได้เข้ากินเนสบุ๊คแล้ววว 555 คนดูไม่รู้จะลุ้นใครดี เพราะโครงสร้างของละครสมัยนี้ส่วนใหญ่ ฉากเข้าพระเข้านางให้ฟิน ให้จิ้นมีผลต่อการติดตามของคนดูละครจริงๆ มันจะต้องให้มีการลุ้นว่าจะรักกันยังไง จะโกรธกันมั้ย จะดีกันเมื่อไหร่ แต่เพชรกลางไฟ 1 ตอน พระนางเจอกันน้อยมาก บางตอนเจอกันฉากเดียว!
2.การแคสติ้งทีมนักแสดงแบบแน่นมาก จึงทำให้บทถูกกระจายให้ทุกตัวละครมีเรื่องราวของตัวเอง จนคนดูลืมพระนาง
แม้แต่บทเล็กๆ เรายังรู้ว่าสำอาง บ่าวที่วังเสด็จป้า ชอบไปดูละครปรีดาลัยกับท่านหญิงนิด อ้ายคล้าวกะอ้ายถึก บ่าวของอนลกับเกื้อชอบแอบดูคุณอนลพูดคนเดียว หรือรู้ว่าอิแปลกชอบกินข้าวนานๆและสอดรู้สอดเห็นเรื่องเรือนอื่นเร็วยิ่งกว่า4G ฯลฯ คอสตูมและทรงผมของตัวละครฝั่งเจ้าใกล้เคียงกัน ทำให้แยกไม่ค่อยออก และ จำชื่อไม่ค่อยได้
3.เพชรกลางไฟมีนักแสดงเยอะแต่ไม่มีพระนางคู่รองที่ชัดเจน ใกล้เคียงที่สุดก็คู่ท่านหญิงเล็กกับท่านชายสุรคม ซึ่งก็ยังไม่มีเคมีให้ฟินมากนัก นิสัยใจคอของพระเอก-นางเอกมั่นคงมาก การแทรกแซงของคู่รองหรือดวงแขเลยแทบไม่ได้มีผลกระทบทางตรงกับพระนางเท่าไหร่ ณ ตอนนี้
4.บทละครโทรทัศน์ของคุณเอกลิขิตที่ดัดแปลงน้อยไป ขาดความกระชับ การตัดต่อที่ไม่ฉูดฉาด จนดึงคนดูยุคนี้ให้ติดตามละครที่ดำเนินเรื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไปไม่อยู่ บทโทรทัศน์สมัยนี้คงต้องแต่งเสริมเติมแต่งเข้าไปเพื่อให้การดำเนินเรื่องกระฉับกระเฉงขึ้น อันนี้คงขึ้นอยู่กับเจ้าของบทประพันธ์ด้วยล่ะมั้ง
5.เป็นเรื่องราวของชนชั้นสูงเข้าถึงยาก พูดกันแต่คำราชาศัพท์ เลยทำให้ไม่อิน
6.ผังวันพุธ/พฤหัส ช่องอื่นมี Content ที่น่าติดตาม จับฐานคนดูไว้ได้สักพักแล้ว และต้องดูสดๆ อย่าง I can see your voice และ The Mask Singer ของ ช่อง Workpoint จะว่าไปช่องวางผังเอาละครพีเรียด ที่พระนางคู่ใหม่ที่ไม่เคยเล่นด้วยกันมาก่อนมาชนแบบนี้ น่าเห็นใจละครเหมือนกันนะ เหมือนรู้ทั้งรู้ว่าไม่น่าจะชนไหว แต่ก็ยังจับลง ถ้าสลับเอาคลื่นชีวิตมาลง พ-พฤแทน เราว่าทรงละครและหน้าละคร ที่มีพระนางหลายคู่ยังพอฟัดพอเหวี่ยงกับรายการเกมส์โชว์ได้ (เอ๊ะ หรือจะไม่ได้ 5555 เพราะคลื่นชีวิตก็เครียดอยู่ เนื้อหาไม่แมสเท่าละครรัก)
เราให้น้ำหนัก ข้อ 6>4>1 ตามลำดับ นอกนั้นพอๆกัน
หญิงหลง คนงาม: คือ บทที่นักแสดงนำต้องแบกทั้งเรื่องก็ว่าได้ เพราะเพชรกลางไฟ มันคือวิบากกรรมชีวิตของหม่อมเจ้าหญิงอุรวศีเต็มๆ มิวเล่นละเอียดขึ้นเยอะ ตีความความนึกคิดของหญิงหลง เด็กสาวที่มีนิสัยน้ำนิ่งไหลลึก ผ่านภาษากายออกมาแบบที่ไม่ต่างจากการอ่านคำบรรยายเท่าไหร่เลย สไตล์การแสดงของมิวในละคร ก็จะไม่ได้คมชัดแบบละค๊อนละครมาตั้งแต่แรก จะว่าไปเราว่าวิธีการแสดงของมิวเล่นคล้ายๆซีรี่ด้วยซ้ำ คือ อยู่ตรงกลางระหว่าง ละคร และ ภาพยนตร์ ถ้าจะให้ถูกใจคนดูในบทแบบนี้ มิวอาจจะต้องปรับวิธีการแสดงให้ชัดเจนและดึงenergyหญิงหลงให้สู้คนมากกว่านี้อีก มิวยังมีอะไรที่ยังต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ ซึ่งเจ้าตัวก้รู้ดี แต่ในทุกๆงาน เราเห็นนะว่ามันค่อยๆ step up ยังไง
แต่ถ้าบอกเล่นไม่ดี เล่นไม่ถึง ไม่น่าสงสาร ไม่มีพาวเวอร์พอ หรือแบกละครไม่ไหว อาจจะต้องมองหลายๆส่วนประกอบกัน ความถูกใจของผู้กำกับ การตัดต่อ หรือ บทละครด้วย
เราว่าจริงๆแล้วบทหม่อมเจ้าหญิงอุรวศี เด็กสาววัยไม่น่าเกิน 20 ชันษา ไม่ใช่คนน่าสงสารเลย แต่เป็นคนที่น่าเห็นใจมากกว่า หญิงหลงไม่เคยยอมถูกกระทำฝ่ายเดียว ถ้าเห็นว่าเรื่องไหนไม่ผิดก็พร้อมปะทะแบบเชือดนิ่มๆทันที แต่ไม่ได้ก้าวร้าว ถ้ารู้ว่าเรื่องไหนผิดจริง อย่างการเก็บจดหมายของอนลไว้ แล้วถูกเสด็จป้ากริ้ว ก็พร้อมยอมรับผิดแบบไม่มีข้อแม้
อนล คนดี : แอบเห็นหลายความเห็นที่บอกว่าไม่ดู เพราะพระเอกไม่หล่อ พระเอกเล่นไม่ดี ไม่เหมาะสมกับพระเอกหลังข่าว ทั้งๆที่ตอนเปิดแคสมีแต่คนว่าดี 555 ถ้ามองกันตามเนื้อผ้า บทอนล ผู้ชายซื่อตรง มั่นคง รักเดียวใจเดียว ก็เหมาะสมกับการดันไม้ขึ้นมาหลังข่าวเต็มตัวแล้วจริงๆ เพราะบทนี้เหมือนเป็นบทพระเอกที่ตัวบทรองจากนางเอกที่เป็นคนเดินเรื่องอยู่นิดๆ ช่องจึงเลือกที่จะใช้พระเอกที่คนดูมีความรู้สึกว่า 2 คนนี้ไม่น่าจะเหมาะสมกันได้ แต่ถ้าวัดกันที่คาแรคเตอร์ และ อายุ เราว่ามีนักแสดงอีก 2 คนที่น่าจะมีอินเนอร์อนลได้ดีเหมือนกัน คือ หมาก ปริญ กับ กรรณ สวัสดิวัตน์
ไม้ใช้จุดแข็งเรื่องสายตาได้ดี อาจจะยังขาดๆอยู่ในบางฉาก ในนิยายอนลสุขุมกว่านี้ สายตาวิบวับกว่านี้ เพราะแสดงออกได้แค่นั้น แต่เราว่าไม้ก็ทำได้ดี ไม่ได้เล่นขัดตาอะไรเลย เราชอบการใช้สายตาของไม้ในฉากเล่นจะเข้ถวายท่านหญิงครั้งที่ 2 มากกว่าครั้งแรก
ชอบที่ไม้พูดในรายการ ทูเดย์โชว์ ว่าพี่ดุลย์ ผู้กำกับบอกว่า ความรักของ2คนนี้ คือ "คนที่มีศีลเสมอกัน" เพราะกว่าจะถึงวันที่มีโอกาสได้รักกัน ก็ต้องผ่านการรอคอยและโชคช่วยด้วย เป็นคาแรคเตอร์พระเอก-นางเอกที่ใช้ชี้นำสังคมได้เลย ทำไมผู้หญิงคนนึงถึงมีความยับยั้งชั่งใจได้ เมื่อเห็นว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันไม่เหมาะสม ทำไมผู้ชายคนนึงถึงเต็มใจทำทุกอย่างให้คนที่ตัวเองรัก ทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีวันรักกันได้ก็ตาม
บางฉากที่พระนางเล่นดนตรีไทย แล้วคนรู้สึกว่าใส่ก็ได้ ไม่ใส่ก็ได้ ทำบทเนือย จริงๆแล้วฉากเล่นดนตรีของคนคู่นี้ มันคือเครื่องถ่ายทอดเดียวที่จะบอกความรู้สึก บอกผ่านความคิดถึงไปยังอีกฝ่าย โดยไม่ให้ใครรู้ หรือ การที่หญิงหลงสีซอกับขับเพลงเพื่อให้เสด็จป้าทรงพระสำราญจนลืมๆอาการป่วยไปบ้าง มันตัดออกมากไม่ได้หรอก มันมีบริบทของมันอยู่นะ
ฉากเล่นดนตรียังพอถูไถถ้าดูไม่เนียน เพราะเวลาฝึกคงไม่มากนัก แต่เราแอบตัดคะแนนมิวในฉากร้องเพลง ถ้ารู้ว่าต้องลิปซิงค์ ควรจะฝึกร้องให้เข้าปากและร้องตามจริงๆไปด้วยในจังหวะที่ถ่าย เพราะยังไงเค้าก็ต้องพากษ์เสียงทับ ถึงจะได้ภาพที่ดูเสมือนว่าร้องได้สมจริงกว่านี้ และแอบตัดคะแนนอาปิ่นที่เลือกคนมาร้องแทนได้เสียงเกินวัยหญิงหลงไปมาก ฟังยังไงก็จินตนาการเป็นเสียงมิวไม่ได้เลยค่าา 5555
คงต้องรอดูกันต่อไปค่ะว่ามิวกับไม้จะจับมือกันแบกละครเรื่องนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่งมั้ย เพราะคาแรคเตอร์พระเอก-นางเอกที่ไม่ฉูดฉาด ต้องเล่นให้มันพอดีจริงๆ ถึงจะจับใจคนอยู่
ส่วนนักแสดงคนอื่น อย่างน้ำฝน พัชรินทร์ ที่พลิกมาเล่นร้ายเรื่องแรก เราว่าน้ำฝนเล่นร้ายแล้วดูเชื่อกว่าตอนเป็นนางเอกอีก ร้ายแบบผู้ดีแค่ตวัดสายตาก็รู้ว่าคนนี้หยิ่งและเหยียดคนแค่ไหน บทเจ้านางหลวงปัทมสุดา ในรากนครได้โชว์ฝีมือแน่ๆ
พี่เอ้ ชุติมา รับบทหม่อมต่วนที่ดูสวยเกินกว่าบทไปเยอะ ถึงจะไม่ค่อยชอบการที่ใช้สีปากนี้แสดงคาแรคเตอร์ก็เถอะ แต่อย่างว่าแหละ หม่อมต่วนก็ร้ายแบบเปิดเผย รังสีอำมหิตก็แผ่ซ่านปกคลุมทั้งซีนได้เวลาเกรี้ยวกราดใคร
หม่อมต่วนเป็นตัวละครที่น่าวิเคราะห์มาก ว่าเพราะอะไรคนที่มีทุกอย่างทั้งบารมีและทรัพย์สินเงินทอง ชาติตระกูลก็ไม่ต่ำต้อย ถึงยังมีความริษยา อาฆาต คนที่ด้อยกว่าได้ตลอดเวลา จนถึงกับฆ่าแกงกันได้ จะว่าไปคนที่น่าสงสารมากกว่าหญิงหลงก็น่าจะเป็นหม่อมต่วนนี่แหละ
เสด็จพระองค์ชาย น่าจะยกย่องหม่อมใหญ่ที่เป็นเมียแต่งเพราะความเหมาะสมทางสังคม เพราะหม่อมคนแรกที่รับมาอยู่ด้วย คือ หม่อมเรี่ยม แต่ไม่ใช่เมียแต่ง ได้สมบัติเยอะกว่าคนอื่นเพราะให้โอรส-ธิดาเป็นทายาทมากถึง 5 องค์ แต่คงไม่ได้รักเลย น้ำเสียงพระองค์ชายตอนที่สั่งเสียก่อนสิ้นฯบ่งบอกได้เป็นอย่างดี และต่อให้หม่อมต่วนเป็นคนสีดำ สีเทามากแค่ไหน แต่การใช้ชีวิตคู่แบบไม่ได้รับความรัก และเห็นสามีของตัวเองรักแต่คนอื่น คงเจ็บช้ำน้ำใจไม่ใช่น้อย ลูกๆก็เหมือนจะมีแต่ความกลัวแม่ เกรงแม่ แต่ไม่ใช่ความรักแม่แบบสนิทชิดเชื้อสักองค์
ประเด็นสำคัญที่ละครเรื่องนี้หยิบมาพูดอีกอย่าง คือ กบฎ ร.ศ. 130 จริงๆในนิยายไม่ได้แตะเรื่องนี้มากนัก แต่บทละครโทรทัศน์ปรับให้อนึก เป็นนักเรียนนายร้อยที่จบจากเมืองฝรั่ง เห็นการเปลี่ยนแปลงจากเมืองตะวันตก หรือ ประเทศอื่นในเอเชียเองที่เจริญแล้วอย่างญี่ปุ่น ว่าใช้ระบอบไหนในการปกครองแล้วประเทศพัฒนา พอบวกกับอาเกื้อที่เป็นนักคิดนักเขียนในยุคนั้น เลยพร้อมใจกันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เมืองสยามต้องเปลี่ยนแปลง ความขัดแย้งช่วงนี้เป็นชนวนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในภายหลัง บทบาทของอนลจะทำให้เห็นเลยว่าพระเอกเป็นคนอ่อนนอกแข็งในยังไง
นิยายของอ.วินิตาส่วนมากจะเขียนให้พื้นเพตัวละครดูจริงแบบตามยุคตามสมัย ชอบที่ตัวละครทุกตัวดูจับต้องได้แม้ว่าจะย้อนไปมากกว่า100ปีก็ตาม ไม่เหมือนละครสมัยใหม่ ที่บางเรื่องพื้นฐานตัวละครดูไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงได้เลย
ไม่รู้ว่าทางช่องและทีวีซีนจะใช้วิธีอะไรพลิกวิกฤตนี้ เพื่อดึงฐานคนดูกลับมา หลังจากนี้คงต้องเปลี่ยนวิธีเล่าเรื่องและตัดต่อบางฉากให้น่าดูมากขึ้น แต่เราดีใจนะที่อาปิ่นเลือกนิยายเรื่องใหม่ๆมาทำ การได้เห็นวิถีชีวิตสังคมหลากหลายชนชั้น ตั้งแต่บ่าวไพร่ ยันเจ้านาย ได้เรียนรู้วัฒนธรรม ได้ซึมซับศิลปะดนตรีวรรณกรรมในยุคนั้นผ่านละคร ถึงเพชรกลางไฟอาจจะเป็นประเภทละครที่คนดูน้อย แต่ไม่ใช่ไม่มีคนดู เรายังรอดูอยู่ทุกตอน ถ้าช่องจะทำพีเรียดแนวโรแมนติกอีก คงต้องปรับบทและจับคู่พระนางให้มีเคมีมากกว่าละครแนวอื่นมากๆ คงจะช่วยได้เยอะ
รักซึมลึกของหญิงหลงคนงาม กับ อนลคนดี : วีคนี้จับมือกันโกยใจคนดูให้ได้นะ
เพชรกลางไฟผ่านไปแล้ว 4 ตอน และเรตติ้งก็ออกมาน้อยอย่างน่าใจหาย จนพระเอก-นางเอก แม้แต่ช่องยังโดนลากมารุมแล้วค่าาา กะให้หญิงหลงกะอนลเจอทั้งศึกนอกวังในวังเลยหรออ ใจเย็นๆกันนะทุกคนนน 5555
เห็นมีกระทู้ข้างนอกบ้างแล้ว เลยอยากจะชวนมาลองวิเคราะห์กันดูสักหน่อย ว่าทำไมคนดูถึงไม่ถูกใจเรื่องนี้มากเท่าที่ควร ทั้งๆที่ภาพรวมมันดี และทีมนักแสดงก็ได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว
มองในมุมคนดู อาจจะเป็นได้ว่า....
1.การพบกันของพระเอก-นางเอกน้อยเกินไป น้อยที่สุดในประวัติศาสจร์การถ่ายละครไทย จนจะได้เข้ากินเนสบุ๊คแล้ววว 555 คนดูไม่รู้จะลุ้นใครดี เพราะโครงสร้างของละครสมัยนี้ส่วนใหญ่ ฉากเข้าพระเข้านางให้ฟิน ให้จิ้นมีผลต่อการติดตามของคนดูละครจริงๆ มันจะต้องให้มีการลุ้นว่าจะรักกันยังไง จะโกรธกันมั้ย จะดีกันเมื่อไหร่ แต่เพชรกลางไฟ 1 ตอน พระนางเจอกันน้อยมาก บางตอนเจอกันฉากเดียว!
2.การแคสติ้งทีมนักแสดงแบบแน่นมาก จึงทำให้บทถูกกระจายให้ทุกตัวละครมีเรื่องราวของตัวเอง จนคนดูลืมพระนาง
แม้แต่บทเล็กๆ เรายังรู้ว่าสำอาง บ่าวที่วังเสด็จป้า ชอบไปดูละครปรีดาลัยกับท่านหญิงนิด อ้ายคล้าวกะอ้ายถึก บ่าวของอนลกับเกื้อชอบแอบดูคุณอนลพูดคนเดียว หรือรู้ว่าอิแปลกชอบกินข้าวนานๆและสอดรู้สอดเห็นเรื่องเรือนอื่นเร็วยิ่งกว่า4G ฯลฯ คอสตูมและทรงผมของตัวละครฝั่งเจ้าใกล้เคียงกัน ทำให้แยกไม่ค่อยออก และ จำชื่อไม่ค่อยได้
3.เพชรกลางไฟมีนักแสดงเยอะแต่ไม่มีพระนางคู่รองที่ชัดเจน ใกล้เคียงที่สุดก็คู่ท่านหญิงเล็กกับท่านชายสุรคม ซึ่งก็ยังไม่มีเคมีให้ฟินมากนัก นิสัยใจคอของพระเอก-นางเอกมั่นคงมาก การแทรกแซงของคู่รองหรือดวงแขเลยแทบไม่ได้มีผลกระทบทางตรงกับพระนางเท่าไหร่ ณ ตอนนี้
4.บทละครโทรทัศน์ของคุณเอกลิขิตที่ดัดแปลงน้อยไป ขาดความกระชับ การตัดต่อที่ไม่ฉูดฉาด จนดึงคนดูยุคนี้ให้ติดตามละครที่ดำเนินเรื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไปไม่อยู่ บทโทรทัศน์สมัยนี้คงต้องแต่งเสริมเติมแต่งเข้าไปเพื่อให้การดำเนินเรื่องกระฉับกระเฉงขึ้น อันนี้คงขึ้นอยู่กับเจ้าของบทประพันธ์ด้วยล่ะมั้ง
5.เป็นเรื่องราวของชนชั้นสูงเข้าถึงยาก พูดกันแต่คำราชาศัพท์ เลยทำให้ไม่อิน
6.ผังวันพุธ/พฤหัส ช่องอื่นมี Content ที่น่าติดตาม จับฐานคนดูไว้ได้สักพักแล้ว และต้องดูสดๆ อย่าง I can see your voice และ The Mask Singer ของ ช่อง Workpoint จะว่าไปช่องวางผังเอาละครพีเรียด ที่พระนางคู่ใหม่ที่ไม่เคยเล่นด้วยกันมาก่อนมาชนแบบนี้ น่าเห็นใจละครเหมือนกันนะ เหมือนรู้ทั้งรู้ว่าไม่น่าจะชนไหว แต่ก็ยังจับลง ถ้าสลับเอาคลื่นชีวิตมาลง พ-พฤแทน เราว่าทรงละครและหน้าละคร ที่มีพระนางหลายคู่ยังพอฟัดพอเหวี่ยงกับรายการเกมส์โชว์ได้ (เอ๊ะ หรือจะไม่ได้ 5555 เพราะคลื่นชีวิตก็เครียดอยู่ เนื้อหาไม่แมสเท่าละครรัก)
เราให้น้ำหนัก ข้อ 6>4>1 ตามลำดับ นอกนั้นพอๆกัน
หญิงหลง คนงาม: คือ บทที่นักแสดงนำต้องแบกทั้งเรื่องก็ว่าได้ เพราะเพชรกลางไฟ มันคือวิบากกรรมชีวิตของหม่อมเจ้าหญิงอุรวศีเต็มๆ มิวเล่นละเอียดขึ้นเยอะ ตีความความนึกคิดของหญิงหลง เด็กสาวที่มีนิสัยน้ำนิ่งไหลลึก ผ่านภาษากายออกมาแบบที่ไม่ต่างจากการอ่านคำบรรยายเท่าไหร่เลย สไตล์การแสดงของมิวในละคร ก็จะไม่ได้คมชัดแบบละค๊อนละครมาตั้งแต่แรก จะว่าไปเราว่าวิธีการแสดงของมิวเล่นคล้ายๆซีรี่ด้วยซ้ำ คือ อยู่ตรงกลางระหว่าง ละคร และ ภาพยนตร์ ถ้าจะให้ถูกใจคนดูในบทแบบนี้ มิวอาจจะต้องปรับวิธีการแสดงให้ชัดเจนและดึงenergyหญิงหลงให้สู้คนมากกว่านี้อีก มิวยังมีอะไรที่ยังต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ ซึ่งเจ้าตัวก้รู้ดี แต่ในทุกๆงาน เราเห็นนะว่ามันค่อยๆ step up ยังไง
แต่ถ้าบอกเล่นไม่ดี เล่นไม่ถึง ไม่น่าสงสาร ไม่มีพาวเวอร์พอ หรือแบกละครไม่ไหว อาจจะต้องมองหลายๆส่วนประกอบกัน ความถูกใจของผู้กำกับ การตัดต่อ หรือ บทละครด้วย
เราว่าจริงๆแล้วบทหม่อมเจ้าหญิงอุรวศี เด็กสาววัยไม่น่าเกิน 20 ชันษา ไม่ใช่คนน่าสงสารเลย แต่เป็นคนที่น่าเห็นใจมากกว่า หญิงหลงไม่เคยยอมถูกกระทำฝ่ายเดียว ถ้าเห็นว่าเรื่องไหนไม่ผิดก็พร้อมปะทะแบบเชือดนิ่มๆทันที แต่ไม่ได้ก้าวร้าว ถ้ารู้ว่าเรื่องไหนผิดจริง อย่างการเก็บจดหมายของอนลไว้ แล้วถูกเสด็จป้ากริ้ว ก็พร้อมยอมรับผิดแบบไม่มีข้อแม้
อนล คนดี : แอบเห็นหลายความเห็นที่บอกว่าไม่ดู เพราะพระเอกไม่หล่อ พระเอกเล่นไม่ดี ไม่เหมาะสมกับพระเอกหลังข่าว ทั้งๆที่ตอนเปิดแคสมีแต่คนว่าดี 555 ถ้ามองกันตามเนื้อผ้า บทอนล ผู้ชายซื่อตรง มั่นคง รักเดียวใจเดียว ก็เหมาะสมกับการดันไม้ขึ้นมาหลังข่าวเต็มตัวแล้วจริงๆ เพราะบทนี้เหมือนเป็นบทพระเอกที่ตัวบทรองจากนางเอกที่เป็นคนเดินเรื่องอยู่นิดๆ ช่องจึงเลือกที่จะใช้พระเอกที่คนดูมีความรู้สึกว่า 2 คนนี้ไม่น่าจะเหมาะสมกันได้ แต่ถ้าวัดกันที่คาแรคเตอร์ และ อายุ เราว่ามีนักแสดงอีก 2 คนที่น่าจะมีอินเนอร์อนลได้ดีเหมือนกัน คือ หมาก ปริญ กับ กรรณ สวัสดิวัตน์
ไม้ใช้จุดแข็งเรื่องสายตาได้ดี อาจจะยังขาดๆอยู่ในบางฉาก ในนิยายอนลสุขุมกว่านี้ สายตาวิบวับกว่านี้ เพราะแสดงออกได้แค่นั้น แต่เราว่าไม้ก็ทำได้ดี ไม่ได้เล่นขัดตาอะไรเลย เราชอบการใช้สายตาของไม้ในฉากเล่นจะเข้ถวายท่านหญิงครั้งที่ 2 มากกว่าครั้งแรก
ชอบที่ไม้พูดในรายการ ทูเดย์โชว์ ว่าพี่ดุลย์ ผู้กำกับบอกว่า ความรักของ2คนนี้ คือ "คนที่มีศีลเสมอกัน" เพราะกว่าจะถึงวันที่มีโอกาสได้รักกัน ก็ต้องผ่านการรอคอยและโชคช่วยด้วย เป็นคาแรคเตอร์พระเอก-นางเอกที่ใช้ชี้นำสังคมได้เลย ทำไมผู้หญิงคนนึงถึงมีความยับยั้งชั่งใจได้ เมื่อเห็นว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันไม่เหมาะสม ทำไมผู้ชายคนนึงถึงเต็มใจทำทุกอย่างให้คนที่ตัวเองรัก ทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีวันรักกันได้ก็ตาม
บางฉากที่พระนางเล่นดนตรีไทย แล้วคนรู้สึกว่าใส่ก็ได้ ไม่ใส่ก็ได้ ทำบทเนือย จริงๆแล้วฉากเล่นดนตรีของคนคู่นี้ มันคือเครื่องถ่ายทอดเดียวที่จะบอกความรู้สึก บอกผ่านความคิดถึงไปยังอีกฝ่าย โดยไม่ให้ใครรู้ หรือ การที่หญิงหลงสีซอกับขับเพลงเพื่อให้เสด็จป้าทรงพระสำราญจนลืมๆอาการป่วยไปบ้าง มันตัดออกมากไม่ได้หรอก มันมีบริบทของมันอยู่นะ
ฉากเล่นดนตรียังพอถูไถถ้าดูไม่เนียน เพราะเวลาฝึกคงไม่มากนัก แต่เราแอบตัดคะแนนมิวในฉากร้องเพลง ถ้ารู้ว่าต้องลิปซิงค์ ควรจะฝึกร้องให้เข้าปากและร้องตามจริงๆไปด้วยในจังหวะที่ถ่าย เพราะยังไงเค้าก็ต้องพากษ์เสียงทับ ถึงจะได้ภาพที่ดูเสมือนว่าร้องได้สมจริงกว่านี้ และแอบตัดคะแนนอาปิ่นที่เลือกคนมาร้องแทนได้เสียงเกินวัยหญิงหลงไปมาก ฟังยังไงก็จินตนาการเป็นเสียงมิวไม่ได้เลยค่าา 5555
คงต้องรอดูกันต่อไปค่ะว่ามิวกับไม้จะจับมือกันแบกละครเรื่องนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่งมั้ย เพราะคาแรคเตอร์พระเอก-นางเอกที่ไม่ฉูดฉาด ต้องเล่นให้มันพอดีจริงๆ ถึงจะจับใจคนอยู่
ส่วนนักแสดงคนอื่น อย่างน้ำฝน พัชรินทร์ ที่พลิกมาเล่นร้ายเรื่องแรก เราว่าน้ำฝนเล่นร้ายแล้วดูเชื่อกว่าตอนเป็นนางเอกอีก ร้ายแบบผู้ดีแค่ตวัดสายตาก็รู้ว่าคนนี้หยิ่งและเหยียดคนแค่ไหน บทเจ้านางหลวงปัทมสุดา ในรากนครได้โชว์ฝีมือแน่ๆ
พี่เอ้ ชุติมา รับบทหม่อมต่วนที่ดูสวยเกินกว่าบทไปเยอะ ถึงจะไม่ค่อยชอบการที่ใช้สีปากนี้แสดงคาแรคเตอร์ก็เถอะ แต่อย่างว่าแหละ หม่อมต่วนก็ร้ายแบบเปิดเผย รังสีอำมหิตก็แผ่ซ่านปกคลุมทั้งซีนได้เวลาเกรี้ยวกราดใคร
หม่อมต่วนเป็นตัวละครที่น่าวิเคราะห์มาก ว่าเพราะอะไรคนที่มีทุกอย่างทั้งบารมีและทรัพย์สินเงินทอง ชาติตระกูลก็ไม่ต่ำต้อย ถึงยังมีความริษยา อาฆาต คนที่ด้อยกว่าได้ตลอดเวลา จนถึงกับฆ่าแกงกันได้ จะว่าไปคนที่น่าสงสารมากกว่าหญิงหลงก็น่าจะเป็นหม่อมต่วนนี่แหละ
เสด็จพระองค์ชาย น่าจะยกย่องหม่อมใหญ่ที่เป็นเมียแต่งเพราะความเหมาะสมทางสังคม เพราะหม่อมคนแรกที่รับมาอยู่ด้วย คือ หม่อมเรี่ยม แต่ไม่ใช่เมียแต่ง ได้สมบัติเยอะกว่าคนอื่นเพราะให้โอรส-ธิดาเป็นทายาทมากถึง 5 องค์ แต่คงไม่ได้รักเลย น้ำเสียงพระองค์ชายตอนที่สั่งเสียก่อนสิ้นฯบ่งบอกได้เป็นอย่างดี และต่อให้หม่อมต่วนเป็นคนสีดำ สีเทามากแค่ไหน แต่การใช้ชีวิตคู่แบบไม่ได้รับความรัก และเห็นสามีของตัวเองรักแต่คนอื่น คงเจ็บช้ำน้ำใจไม่ใช่น้อย ลูกๆก็เหมือนจะมีแต่ความกลัวแม่ เกรงแม่ แต่ไม่ใช่ความรักแม่แบบสนิทชิดเชื้อสักองค์
ประเด็นสำคัญที่ละครเรื่องนี้หยิบมาพูดอีกอย่าง คือ กบฎ ร.ศ. 130 จริงๆในนิยายไม่ได้แตะเรื่องนี้มากนัก แต่บทละครโทรทัศน์ปรับให้อนึก เป็นนักเรียนนายร้อยที่จบจากเมืองฝรั่ง เห็นการเปลี่ยนแปลงจากเมืองตะวันตก หรือ ประเทศอื่นในเอเชียเองที่เจริญแล้วอย่างญี่ปุ่น ว่าใช้ระบอบไหนในการปกครองแล้วประเทศพัฒนา พอบวกกับอาเกื้อที่เป็นนักคิดนักเขียนในยุคนั้น เลยพร้อมใจกันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เมืองสยามต้องเปลี่ยนแปลง ความขัดแย้งช่วงนี้เป็นชนวนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในภายหลัง บทบาทของอนลจะทำให้เห็นเลยว่าพระเอกเป็นคนอ่อนนอกแข็งในยังไง
นิยายของอ.วินิตาส่วนมากจะเขียนให้พื้นเพตัวละครดูจริงแบบตามยุคตามสมัย ชอบที่ตัวละครทุกตัวดูจับต้องได้แม้ว่าจะย้อนไปมากกว่า100ปีก็ตาม ไม่เหมือนละครสมัยใหม่ ที่บางเรื่องพื้นฐานตัวละครดูไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงได้เลย
ไม่รู้ว่าทางช่องและทีวีซีนจะใช้วิธีอะไรพลิกวิกฤตนี้ เพื่อดึงฐานคนดูกลับมา หลังจากนี้คงต้องเปลี่ยนวิธีเล่าเรื่องและตัดต่อบางฉากให้น่าดูมากขึ้น แต่เราดีใจนะที่อาปิ่นเลือกนิยายเรื่องใหม่ๆมาทำ การได้เห็นวิถีชีวิตสังคมหลากหลายชนชั้น ตั้งแต่บ่าวไพร่ ยันเจ้านาย ได้เรียนรู้วัฒนธรรม ได้ซึมซับศิลปะดนตรีวรรณกรรมในยุคนั้นผ่านละคร ถึงเพชรกลางไฟอาจจะเป็นประเภทละครที่คนดูน้อย แต่ไม่ใช่ไม่มีคนดู เรายังรอดูอยู่ทุกตอน ถ้าช่องจะทำพีเรียดแนวโรแมนติกอีก คงต้องปรับบทและจับคู่พระนางให้มีเคมีมากกว่าละครแนวอื่นมากๆ คงจะช่วยได้เยอะ