[CR] เที่ยวเวียดนามเหนือ-กลาง Backpacker ไฮฟอง-ฮาลอง-ซาปา-ฮานอย-ดานัง-ฮอยอัน-เว้ ตอนที่ 5 ฟานซีปานดินแดนในเทพนิยาย

ความเดิมตอนที่ 4 คลิก https://ppantip.com/topic/36087510
-----------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 5 ฟานซีปานดินแดนในเทพนิยาย

มาถึงตอนที่ 5 แล้วนะครับ..ตอนนี้จะขอนำท่านสู่ฟานซีปาน ยอดเขาที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น "หลังคาอินโดจีน" สัมผัสดินแดนที่เคยมีหิมะตก เล่าขานกันว่าทั้งสวยทั้งหนาว เป็นดินแดนสวรรค์ในเทพนิยาย สายหมอก แสงแดด หนาวเหน็บ สร้างความประทับใจกันไปไม่น้อย
Say Hi Morning...เช้าการเดินทางวันที่ห้า (16 ธันวาคม 2559) ยังอยู่ที่เมืองซาปา ผมกับอาเฮียเดินไปหาพี่บอลกับลุง Nam ที่ Guest House ฝั่งตรงกันข้าม  เนื่องจากเมื่อวานเขาทั้ง 2 คน ต้องย้ายโรงแรมเนื่องจากห้องที่เขาพักอยู่นั้นมีนักท่องเที่ยวที่จองมาก่อนหน้านี้จะมาเข้าพัก เพราะพี่บอลไม่ได้จองห้องพักมาล่วงหน้าเหมือนพวกผม เลยต้องได้ย้ายออกไปนอนโรงแรมฝั่งตรงกันข้าม (ห้องพักไม่ค่อยโอเค) แต่ Guest House นี้เขามีมอไซต์ให้เราเช่าด้วย ราคาตามป้ายเลย (เติมน้ำมันเอง) เราเช่า 2 คัน จากปกติคันล่ะ 100,000 VND เราต่อเหลือคันล่ะ 80,000 VND (เติมน้ำมันเอง) มีปั๊มน้ำมันเล็กหน้า Guest House เลย สะดวกมาก คันเราเติมไป 2 ลิตร หมดไป 50,000 VND ก่อนที่จะขับไปกินเฝอ (อีกแล้ว) แถวๆ ตลาดสดเมืองซาปา จ่ายไปถ้วยล่ะ 30,000 VND

สถานที่เช่ารถกับสถานที่เติมน้ำมันอยู่หน้า Guest House เลย (อยากเช่าก็ติดต่อ Guest House ได้เลย)

โฮสเทลของเรา (หลังคาแดงๆ หลังเล็กๆ รั้วขาว) ข้างนอกอาจจะเล็ก แต่เข้าไปข้างในมันจะลึกลงไปต่ามไหล่เขา (ถ่ายจากหน้า Guest House ที่เช่ารถมอไซต์)

วิวหน้า Guest House วันนี้อากาศดีขึ้นมานิดหน่อยแต่อุณหภูมิลดลง พยากรณ์อากาศบอกวันนี้อาจจะต่ำสุด 0-1 องศา (วิวด้านหลังโฮสเทลที่ผมพัก ก็มองเห็นเหมือนกะนะ 55+ .. Go sapa Hostel)

เราเเว้นมอไซต์มาทางจุดขึ้นกระเช้าฟานซีปาน ซึ่งจากโรงแรมของเราก็ตรงขึ้นเนินเขามาเรื่อยๆ ห่างจากที่พักของเราประมาณ 5 กิโลเมตร ไม่ไกล พอมาถึงวงเวียน (ในรูป) จะมีรูปกระเช้าและชื่อของทางไปฟานซีปาน ให้ขับออกซ้ายนะครับ ถ้าขับออกทางวาจะไปน้ำตกเวินหรือ Thac Bac (Silver Waterfall)

อาคารใหญ่ๆสีขาวที่เห็นไกลๆ คือ จุดขึ้นกระเช้า เพิ่งสร้างเสร็จและเปิดใช้งานในปี 2559 นี่เอง ของใหม่แน่นอน เนื่องจากในอดีตการเดินทางไปพิชิตยอดเขาฟานซีปานต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 -4 วัน และต้องมีคนนำทางด้วย

ขับรถมาอีกสักพักก็ถึงทางเข้าพอดี จะมีที่จอดรถและเขาจะเอาบัตรจอดรถให้เราเพื่อความปลอดภัยป้องกันรถหาย #จอดฟรี ข้างๆกันก็เจอเจอสวนดอกไม้สไตล์ตะวันตกพร้อมวิว 360 องศา อากาศเย็นจัด ได้บรรยากาศสุดๆ

เมื่อมาถึงบริเวณหน้าทางจากเข้าไปในตัวอาคารขึ้นกระเช้า ตรงกันข้ามจะมีวัดเวียดนามหรือศาลก็ไม่รู้ เพิ่งสร้างใหม่ (หารูปเฉพาะวัดที่ไม่มีคนไม่เจอ ลืมถ่าย มัวถ่ายแต่คน 55+) #ชมฟรี

ตัวอาคาร จุดขึ้นกระเช้า ใหญ่มาก สวยด้วย

ทางเข้าไปในอาคาร จะมีบันไดเลื่อนลงไป ก่อนจะไปขึ้นกระเช้าต้องซื้อบัตรก่อนนะครับ ไป-กลับปรัมาณ 600,000 ดอง หรือเกือบๆ 1,000 บาทกันเลยทีเดียว ให้ทายว่าเราจะขึ้นไปไหมยอดเขาฟานซีปานราคานี้กับตังค์ในกระเป๋าอันน้อยนิด 55+ ตอนแรกคยกับเพื่อน เรามาถึงทั้งทีจะขึ้นดีไหม แต่ค่ากระเช้าแพงมาก เราจึงประเมินสภาพอากาศ เราคิดว่าถ้าด้านล่างยังไม่เห็นแดด แถมมีแต่หมอกปกคลุมมาก ทั้งฝน ถ้าขึ้นไปคงมองไม่เห็นอะไรอยู่ดี ได้แต่สัมผัสความเย็นเยือกกว่า ในที่สุดผมกับอาเฮียเก่งจึงตัดสินใจไม่ขึ้นไป ลง Nam ก็ไม่ขึ้น เพราะร่างกายไม่ไหว แต่พี่บอลของเราขึ้นครับ (สุดยอดเลยพี่) นึกในใจ (อีกแล้ว 55+) มีตัวแทนขึ้นไปดูลาดลาวให้แล้ว ถ้าเขากลับลงมามันเจ๋งเราถึงจะขึ้นไป

2 ชั่วโมงผ่านไปที่เรานั่งรออยู่ด้านล่าง รุ่นพี่ของเราที่ขึ้นไปพิชิตยอดเขาฟานซีปานก็กลับลงมา หน้าตาดูพี่เขาตื่นเต้นมาก เราเลยขอดูรูป .. มันใช่ เป็นไปอย่างที่ผมคิดจริงๆ มองไม่เห็นอะไรเลย พี่เขาบอกเห็นเเสงแดดอยู่บ้าง 55+ นิดเดียว ด้านบนเหมือนมีประตูสวรรค์ในเทพนิยายเลย อากาศหนาวเยือกเย็นหรรมหด (สุดยอดเลยพี่) พวกผมขอเรามาครั้งหน้าเเล้วกัน คิคิ จากนั้นเราก็จะแว้นกันไปที่น้ำตกเงิน บ่ายกว่าๆ แล้ว ก็ว่าจะให้พี่บอลกับลุงหาไรกินที่นู้นเลย ส่วนเรากินมันปิ้งไปแล้ว 2 หัว ตอนที่รออยู่ด้านล่าง (หัวล่ะ 10,000) ประหยัดๆ น้ำตก Thac Bac (Silver Waterfall) ห่างจากจุดขึ้นหกระเช้าไป 9 km

พี่บอล..ผู้พิชิตยอดเขาฟานซีปาน "หลังคาอินโดจีน"

หืมมม ขนาดผมจะถ่ายป้ายเฮียเขายังมาแอปเข้าเฟรมกล้อง

แว้นไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางเจอวงเวียนก็ตรงไปเลย วิวข้างทางโคตะระสวยงามมาก ระหว่างทางก็มรแก๊งมอไซต์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแว้นมอไซต์ผ่านกันตลอดเส้นทาง เขาก็จะไปดูน้ำตกเหมือนกัน ว่ากันว่าเป็นน้ำตกที่สูงมากกว่า 100 เมตร ไหลลงมาแต่บนเขาสูง

นี่ล่ะครับคือน้ำตกเงินที่เขาเล่าขานว่าสวย เอิ่มมม สงสัยมันไม่ใช่หน้าฝน ค่าเข้าตั้ง 25,000 VND/คน ยืนถ่ายมันข้างนอกนี่ล่ะ ไม่ต้องไปเสียตังค์ 55+

ข้างถนนบริเวณน้ำตกจะมีชาวเขามาขายของกันเยอะเเยะ

มีทั้งโสม (ปลอมรึเปล่านิถูกมาก 30,000 VND/มัด) น้ำผึ้งก็มี (30,000 VND/ขวด) ผมเลยซื้อน้ำผึ้งมาก 1 ขวด ตอนชิมก็รสชาติเเปลกๆ นึกในใน..ตามป่าตามดงขนาดนี้คงจะเป็นน้ำผึ้งจริงๆแน่นอน ซื้อมาผสมน้ำอื่มเท่านั้นล่ะ นี้มันน้ำตาลอ้อยชัดๆ เปรี้ยวๆหวานๆจัด เอิ่มมม โดนหลอกจนได้ เขดหลาบไปอีกนาน

ขากลับแวะเก็บบรรยากาศข้างถนน สวยมาก

แว้นมาอีกสักพัก เจอไร่ชาขนาดใหญ่ เราตื่นเต้นมาก เเวะสิครับ 55+ ไม่รู้ไร่ชาใคร

เราขับมอไซต์ลงมาตามคันนา แล้วปืนรั้วแอปเดินเข้ามา มีทั้งสวนกุหลาบ ไร่ชา เราถ่ายบนเนินเขาไกลๆ บ้านคน เด๋วเค้าจะวิ่งไล่จับ 55+

มาถึงแล้วก็ต้องรีบถ่ายภาพเก็บไว้

ถ่ายภาพเก็บไว้ หืมมม วันนี้อากาศดี มองเห็นชาเป็นหลายร้อยไร่เลย ตอนที่เราไปดูนาขั้นบันไดนี่นึกว่าอยู่ในห้องสีขาว มองไม่เห็นอะไรเลย

สักพักมีคนมองเห็นเรา น่าจะผู้ดูแลสวน ผมกับฮาเฮียเลยรีบวิ่งออกมาแว้นรถต่อ 55+ แอบบยืนถ่ายไกลๆ ก็ได้วะ

เวลาใกล้จะค่ำแล้ว (17.00) วิวยังสวย แต่ความหนาวไม่เป็นใจ

ขับรถเข้ามาในเมืองซาปา ว่าจะหามุมสูงถ่ายเอาเมืองสักหน่อย ได้มุมมาแค่นี่

ตอนแรกจะขับรถไปนาขั้นบันไดอีกแห่งที่มีเหมือนในรูปปกหนังสือ (ดูในตอนที่ 4) แต่ค่ำมาก กลัวไปถึงแล้วมองเห็นแต่ความมืด เรามอไซต์เราก็ไฟตายหรือว่าเราเปิดไม่เป็นก็ไม่ทราบ 55+ เลยมาเก็บบรรยากาศบริเวณริมทะเลสาบของเมืองซาปา ฟินมาก (ที่ไม่ถอดหมวกเพราะกลัวหายอะนะ)

ตกค่ำมากลับไปเอาเสื้อแขนยาวมาเพิ่ม มันหนาวมากยิ่งขึ้น เราได้ยินมาว่าวันนี้มีถนนคนเดิน (วันศุกร์) มาเดินเอาบรรยากาศสักหน่อย

เขาขายกันอย่างงี้เลย

เดินหาไรกินสักพัก (เฝออีกแล้ว) ก็กลับมาที่พักเนื่องจากระเบิดชุดใหญ่กำลังมาเยือน มาพร้อมกันทั้งสองคนเลย 55+ เลยมาปิดท้ายยามค่ำคืนอันหนาวเหน็บ ณ เตาไฟของโฮสเทลที่เราพัก คืนนี้เราครองเตา แต่ด้านบนมีการจัดปาตี้ของชาวเวียดนามกลุ่มหนึ่ง เสียงดังมาก นึกว่าแก๊งพี่จีน

เป็นค่ำคืนสุดท้ายที่สนุกสนาน ทางโฮสเทลมีกีต้าให้เราเล่นด้วย คงเเป็นความทรงจำค่ำคืนสุดท้ายที่ซาปาจริงๆ แล้วสินะ เพราะในวันรุ่งขั้นเราต้องเดินทางไปเที่ยวฮานอยต่อ

สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับวันนี้
- อาหารเช้า (เฝอ) ชามละ 35,000 VND
- ข้าวสวย 1 ถ้วย 5,000 VND
- ค่าเช่ามอไซต์ คันละ 80,000 VND/วัน
- เติมน้ำมัน 2 ลิตร 50,000 VND/คัน
- มันปิ้ง (อาหารเที่ยงของเรา) 25,000 VND/2หัว
- น้ำผึ้ง 30,000 VND
- น้ำเปล่าไม่ได้ซื้อเพราะเหลือตั้งแต่ตอนที่ 4
- อาหารเย็น (เฝออีกแล้ว) ชามละ 35,000 VND
- ค่าที่พักตกคืนละประมาณ 154 บาท/คน (จองมาทาง agoda.com)
เฉลี่ยค่าใช้จ่ายหมดคนละ 282,330 VND หรือประมาณ 450 บาท
----------------------
จะจดจำไว้ว่าครั้งหนึ่งเคยมาซาปา และจะมาอีกแน่นอน

**สอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่ https://www.facebook.com/jo.coner.9

ตอนที่ 6 สว่างคาตาที่ฮานอย คลิก https://ppantip.com/topic/36092711
ชื่อสินค้า:   เที่ยวเวียดนามด้วยตัวเอง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่