ความเดิมตอนที่ 3 คลิก
https://ppantip.com/topic/36081974
-----------------------------------------------------------------
ตอนที่ 4 หลงทางท่ามกลางนาขั้นบันได
ซินจ่าวซาปา 15 ธันวาคม 2559 เป็นตอนเช้าที่ตื่นขึ้นมาโคตรจะหนาวเหน็บ เจอทั้งฝนทั้งหมอก ก่อนจะออกเดินทางท่องเที่ยวก็ต้องเติมพลังกันก่อนครับ ด้วยเหตุที่โรงแรม GO SAPA ที่เราพักไม่มีอาหารเช้า แต่เราเอามาม่าคัฟต้มยำกุ้งบ้านเรามาด้วย สุดยอดแห่งความอร่อยที่ประหยัดไปอีกมื้อ
ส้ม+มาม่าคัฟ+นม เตรียมมาจากบ้าน
ซาปาเป็นเมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือของเวียดนาม ติดกับชายแดนจีน ซึ่งในอดีตเมืองซาปาเคยถูกให้สร้างขึ้นเป็นเมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาปกครองในสมัยยุคอาณานิคม เราจึงไม่แปลกใจเลยว่าสถาปัตยกรรมส่วนใหญ่จะออกแนวตะวันตก รวมทั้งอากาศหนาวเย็นทั้งปี ล้อมรอบไปด้วบหุบเขา จึงทำให้ซาปาได้รับฉายาว่า “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย”
ไม่รู้มาแอบถ่ายรูปหน้าบ้านใคร เห็นวิวสวยบรรยาการอารมณ์มันมา คิคิ
ในช่วงเช้าเราพาทีมงานขาเลาะอีกสองคนออกไปกินข้าวข้างนอกเพราะเขามีตังค์มากกว่าเรา และในระหว่างนั้นเราก็ปล่อยให้ทีมงานได้เชิญแซบไปกับเฝอร้อนๆ (คล้ายก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา) เราก็เดินออกสำรวจเมืองต่อเพื่อรอในระหว่างที่ทีมงานกินข้าว อนึ่ง ร้านอาหารในเมืองมีเยอะแยะครับ แต่ต้องดูราคาหน้าร้านก่อนเดินเข้าไปสักนิดนะ
ระหว่างรอทีมงานกินข้าวเช้า ก็หาที่ถ่ายรูปตามระเบียบ 55+
มาถึงซาปาทั้งทีก็ต้องไปดูสิ่งที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่กัน นั่นก็คือนาขั้นบันได จากข้อมูลที่เราศึกษาในหนังสือ หมู่บ้านนาขั้นบันไดที่ใกล้ตัวเมืองที่สุดคือ Cat Cat Village ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไม่ถึง 3 กิโลเมตร ผมกับเพื่อน 2 คนตัดสินใจเดินไปเพราะจะได้ไม่เปลืองเงินค่ารถ และให้ทีมงานอีก 2 คน ที่มีเงินเยอะกว่าเราและชอบความสะดวกเช่ามอร์ไซต์ไป ค่าเช่ามอไซต์ระบบออโต้ในราคา 100,000 VND/1 วัน (เติมน้ำมันเอง) สถานที่เช่ามอไซต์อยู่แถวๆ ลานกิจกรรมของเมือง มุมร้านซุปเปอร์มาเก็ต ให้เดินทางไปตามถนน Fansipan เข้าถนน cat cat ก็จะถึงหมู่บ้านนาขั้นบันได
ทางไป Cat Cat Village
บรรยากาศระหว่างทาง หืมมมสวยมาก อารมณ์มันมา สายหมอก อายฝน สถาปัตยกรรมตะวันตก+ต้นสนเมืองหนาว
ระหว่างทาง
ทางเข้าหมู่บ้านกัตกัตจะมีทางเข้า 2 ทาง ทางแรกคือตรงป้ายยินดีต้องรับคนไทย (เพราะคนไทยมาเที่ยวเยอะ) แล้วมันจะให้เลี้ยวซ้ายลงไปเลย แต่เรามองไม่เห็นมัวแต่เดินตามคนอื่น แบบเพลินๆ (เอาที่เข้าใจคือไม่สังเกต 55+) เลยได้ไปเข้าทางออกอีกฟาก พี่บอลมาจอดรอเข้าอยู่ตรงป้ายยินดีต้อนรับคนไทย จากจุดนี้เข้าหมู่บ้าน ลุง Nam ที่มากับเราจะเมืองไฮฟองบอกว่าไม่ไหวลุงแกจะรออยู่บริเวณนี้ ผมเห็นลุงเดินเข้าไปในร้านอาหารแล้วไปนั่งผิงไฟกับคนท้องถิ่นเฉยเลย อ่อคนที่นี่เขาเข้ากันง่ายครับ เป็นกันเอง ตอนนี้เหลือเรา 3 คน ผม เก่ง และพี่บอล ตอนแรกเราว่าจะเดินไป พอเดินไปสักพัก ไปๆมาๆ เปลี่ยนใจให้นายเก่งกลับไปเอารถมอไซต์ที่จอดไว้ตรงลุง Nam อยู่ ระหว่างขับมาใกล้จะถึงพวกผมแล้วนั้นเขาพามอไซต์ล้ม (ไม่ได้ประจารนะเพื่อนเก่ง คิคิ) โอ้ยยยน้อ ไม่รู้จะขำหรือสงสารดี คือแบบว่าฝนมันตกถนนมันลื่นและเป็นทางชันลงเขาด้วย (อันตรายมากสำหรับคนต่างถิ่นอย่างเรา) แต่ดีที่ไม่เป็นอะไรมากครับ พากันไปล้างตัวโดยใช้น้ำจากภูเขาล้าง โคตรเย็นจัด
ทางเข้าหมู่บ้านกัตกัตอีกฝั่ง ตอนอ่านมาในหนังสือเขียนไว้ 30,000 มาเจอป้ายทางเข้า 50,000 แต่ได้จ่ายจริงๆแค่คนละ 25,000 VND งงมาก แต่ดีไป 55+
แผนที่ท่องเที่ยวหมู่บ้านกัตกัต
เราไม่เข้าทางออกก็เลยมาเจอสะพานนี้เป็นด่านแรก ตามแผนที่แล้วคือจุดที่ 11
ระหว่างทางจะมีชิงช้าแบบนี้ให้นั่งพัก
เดินมาสักพัก..ไม่ใช่สิ พักใหญ่เลย จะเจอกังหันแบบนี้ แถวๆ โรงแสดงวัฒนธรรมชนเผ่าม้งซึ่งจะรับรู้ได้จากเสียงที่ออกจากบักอะโหลมาแต่ไกลเลย
ระหว่างทางก็จะเต็มไปด้วยร้านขายของฝากกกเอาไว้ในโถส้วมบ้านเธอ (เพลงนะ 55+)..หลอนหนักมาก
กังหันน้ำบริเวณน้ำตกซิลเวอร์ นี่ลงทุนลงน้ำเลย เพราะเฮียเขาใส่เกิบแตะมา ชิวแบบไม่เกรงใจอากาศหนาวเย็นกันเลยทีเดียว
การแสดงของชาวม้ง
เจอแนวสวยๆงามๆ จขกท. ก็ต้องเซลฟี่เก็บไว้สักนิด คิคิ
สักพักมองเห็นขาวๆ พร้อมละอองขาวๆปรอยๆลงมา นึกในใจ..โอ้วดีใจหนักมาก หิมะตก .. ที่ไหนได้ เครื่องพ่นฟองน้ำ 55+
การแสดงของชาวม้งครับ ชมฟรี แต่ถ้าให้ดีใส่ Tip Box ให้เขาด้วยนะครับ เปิดเเสดงเป็นรอบ วันหนึ่งก็มีหลายบรอบอยู่ครับ ผมก็ไม่ได้ยืนนับดูเพราะต้องไปตามล่าหานาขั้นบันไดต่อ
ของฝากส่วนใหญ่จะเป็นสินค้า Handmade นะครับ อย่างในรูปนี้เขาใช้เหมือนขี้ผึ้งวาดลวดลายลงบนผ้า ตกผืนล่ะเป็นแสน (VND)
เดินออกมาแถวๆ น้ำตกเริ่มจะหิว ได้มันปิ้งมาคนล่ะหัว (10,000 VND) น้ำเหล่า 1 ขวดเล็ก (ฟรี) แม่ค้าลืมคิดตังค์ค่าน้ำด้วย 55+ ส่วนเราก็ไม่รู้ว่าอะไรราคายังไงเพราะแค่ให้เงินใบแสนไปแล้วเขาก็ทอนๆ มา (รับเงินไทยด้วยนะ) แม่ค้าส่วนใหญ่ยังใช้ภาษาพื้นเมืองอยู่ครับไม่รุพูดอัลไร
ควายซาปา เอามาเลี้ยงซะหน้าผาเลย
เดินไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าตัวเองกำลังเดินขึ้นเขา แต่ที่ไหนได้กำลังเดินออกไปทางเข้าจุดที่ 1 ที่เราเดินผ่านในช่วงแรกๆ นู้นน (ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าทางเดินมันไปถึงไหน) แวะซื้อของผากพักหนึ่ง ต่อเป็นต่อ ต่อไปเลย 70%
เมื่อรู้ว่ากำลังเดินไปทางออกหมู่บ้านอีกทาง(เข้าเมือง) จึงพากันเดินย้อนกลับลงมาเจอทางแยกเขียนว่า old village จึ้งลองเลี้ยวเข้าไป ทำให้เราเจอนาขั้นบันไดอีกแห่ง
สภาพหมู่บ้าน old village ถนนเละมาก ทั้งขี้หมู ขี้ไก่ ขี้เป็ด ขี้ควาย ตุ้มเปะมาก (เอิ่มมม รองเท้าไม่อยากบรรยายสภาพ)
เริ่มเดินออกนอกเส้นทางมาก็เริ่มไม่ค่อยเจอนักเที่ยว นึกในใจ..เราหลงทางปะวะ
เดินลึกมาเรื่อยๆ
ลึกเขามาอีกหลาย km แล้ว เหมือนพาพ่อตามาดูผืนนายังไงยังงั้น 55+
คือเราตามหานาขั้นบันไดในภาพหน้าหนังสือที่เราพกมาด้วย ตามหาแบบลืมถามคนท้องถิ่นซะงั้น เลยต้องหลงทางโง่หาต่อไป
และแล้วเราก็เดินอ้อมเขามาเจอที่เดิม บริเวณกังหัน 55+
เราลองเปลี่ยนเส้นทางลองเดินไปตามถนนข้างๆ โรงแสดงวัฒนธรรมชนเผ่า ตอนแรกจะไปถ่ายมุมน้ำตกสูงๆ แต่ไปเจอป้ายทางไป Golden Stream นึกในใจมันน่าจะมีอะไรเจ๋งๆอยู่ข้างหน้า ลุย..
ป่าไผ่บนเส้นทาง Golden Stream บรรยากาศมันได้เว้ยเฮ้ยย
เราเดินย้อนตามลำน้ำขึ้นไปเรื่อยๆ
หืมมม เฮียเขากลมกลืนกับพื้นที่จริงๆ เท่ห์สุดๆ หรือว่าด้วยเหตุนี้ชาวม้งถึงไปเดินขายของตามเรา เพราะปกติถ้าเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินเข้ามาในหมู่บ้านกัตกัตเขาก็จะเดินตามเราเพื่อขายของชวนคุยอะไรประมาฯนี้ (ผมดูมาจากยูทูป)
เดินมาสักพักเริ่มหิวน้ำ เอาแล้วไงไม่ใช่แบกิวซะด้วย เดินลึกเข้ามาในหุบเขากว่า 2 ชั่วโมงแล้ว เจอเเค่เด็กมาหาของป่า 2 คน ไม่เจอใครเลย เริ่มหวั่นๆใจ
หิวน้ำจัด ลงไปกินน้ำในลำธารซะเลย เล่นด้วยซะงั้น น้ำโคตรเย็นเจี๊ยบเหมือนน้ำช่องฟิตตู้เย็น
ในที่สุดเรา 2 คนก็ตัดสินใจเดินกลับมาเส้นเดิมข้ามเขา 2 ลูก ท่ามกลางฝนรินๆ ระหว่างทางที่เราเดินย้อนกลับมา มีฝรั่ง 2 คนกำลังเดินไปทางที่เราพึ่งไปมา 55+ เราเงียบ เพราะคิดภาษาอังกฤษไม่ออกว่าต้องพูดยังไงว่าห้ามไปมันไม่มีทางออก ก็เลยได้แค่เดินสวนทางกัน
ขากลับไปโรงแรมเราเดินกลับเพราะรุ่นพี่ของเรากลับไปก่อนนานแล้ว ระหว่างทางเจอด่านควายในม่านหมอก หลอนมาก
พอมาถึงในเมือง ต้องหาอะไรร้อนๆ นึกถึงเฝอขึ้นมาทันที 35,000 VND
ตกค่ำมาก็หาถ่ายรูในเมือง อากาศเริ่มจะดี
ลองกินปิ้นย่างร้อนๆ หมดเป็นแสน (VND)
พิซซ่าหน้าโบสถ์ เจ้าของร้านเป็นกันเองมาก
เจ้าของร้านชวนให้ลอง (บุหรี่นะไม่ใช่สายเขียว) ฉุนมาก
นี่เลยราคาเช่ามอไซต์
---------------
สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าเข้าหมู่บ้าน 25,000 VND/คน
มันปิ้ง+น้ำเปล่า 35,000 VND
ปิ้งย่าง 100,000 VND (7 ไม้ กิน 2 คน)
น้ำอ้อย 10,000 VND (1 แก้ว)
เฝอ 35,000 VND/คน
กะหรี่ปั๊บเวียดนาม 20,000 VND (1 ชิ้น)
น้ำเปล่า 15,000 VND/คน
มันปิ้ง 10,000 VND/คน
ซื้อของฝาก 90,000 VND
ค่าที่พักคืนละ 154 บาท/คน (จองผ่าน Agoda)
**เฉลี่ยวันนี้หมดไปคนละ 284,330 VND (ของฝากส่วนตัว 90,000 VND)
-------------
เป็นวันที่เหนื่อยขาลากแต่คุ้มมาก
สอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่
https://www.facebook.com/jo.coner.9
ตอนที่ 5 ฟานซีปานดินแดนในเทพนิยาย คลิก
https://ppantip.com/topic/36090525
[CR] เที่ยวเวียดนามเหนือ-กลาง Backpacker ไฮฟอง-ฮาลอง-ซาปา-ฮานอย-ดานัง-ฮอยอัน-เว้ ตอนที่ 4 หลงทางท่ามกลางนาขั้นบันได
-----------------------------------------------------------------
ตอนที่ 4 หลงทางท่ามกลางนาขั้นบันได
ซินจ่าวซาปา 15 ธันวาคม 2559 เป็นตอนเช้าที่ตื่นขึ้นมาโคตรจะหนาวเหน็บ เจอทั้งฝนทั้งหมอก ก่อนจะออกเดินทางท่องเที่ยวก็ต้องเติมพลังกันก่อนครับ ด้วยเหตุที่โรงแรม GO SAPA ที่เราพักไม่มีอาหารเช้า แต่เราเอามาม่าคัฟต้มยำกุ้งบ้านเรามาด้วย สุดยอดแห่งความอร่อยที่ประหยัดไปอีกมื้อ
ส้ม+มาม่าคัฟ+นม เตรียมมาจากบ้าน
ซาปาเป็นเมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือของเวียดนาม ติดกับชายแดนจีน ซึ่งในอดีตเมืองซาปาเคยถูกให้สร้างขึ้นเป็นเมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาปกครองในสมัยยุคอาณานิคม เราจึงไม่แปลกใจเลยว่าสถาปัตยกรรมส่วนใหญ่จะออกแนวตะวันตก รวมทั้งอากาศหนาวเย็นทั้งปี ล้อมรอบไปด้วบหุบเขา จึงทำให้ซาปาได้รับฉายาว่า “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย”
ไม่รู้มาแอบถ่ายรูปหน้าบ้านใคร เห็นวิวสวยบรรยาการอารมณ์มันมา คิคิ
ในช่วงเช้าเราพาทีมงานขาเลาะอีกสองคนออกไปกินข้าวข้างนอกเพราะเขามีตังค์มากกว่าเรา และในระหว่างนั้นเราก็ปล่อยให้ทีมงานได้เชิญแซบไปกับเฝอร้อนๆ (คล้ายก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา) เราก็เดินออกสำรวจเมืองต่อเพื่อรอในระหว่างที่ทีมงานกินข้าว อนึ่ง ร้านอาหารในเมืองมีเยอะแยะครับ แต่ต้องดูราคาหน้าร้านก่อนเดินเข้าไปสักนิดนะ
ระหว่างรอทีมงานกินข้าวเช้า ก็หาที่ถ่ายรูปตามระเบียบ 55+
มาถึงซาปาทั้งทีก็ต้องไปดูสิ่งที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่กัน นั่นก็คือนาขั้นบันได จากข้อมูลที่เราศึกษาในหนังสือ หมู่บ้านนาขั้นบันไดที่ใกล้ตัวเมืองที่สุดคือ Cat Cat Village ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไม่ถึง 3 กิโลเมตร ผมกับเพื่อน 2 คนตัดสินใจเดินไปเพราะจะได้ไม่เปลืองเงินค่ารถ และให้ทีมงานอีก 2 คน ที่มีเงินเยอะกว่าเราและชอบความสะดวกเช่ามอร์ไซต์ไป ค่าเช่ามอไซต์ระบบออโต้ในราคา 100,000 VND/1 วัน (เติมน้ำมันเอง) สถานที่เช่ามอไซต์อยู่แถวๆ ลานกิจกรรมของเมือง มุมร้านซุปเปอร์มาเก็ต ให้เดินทางไปตามถนน Fansipan เข้าถนน cat cat ก็จะถึงหมู่บ้านนาขั้นบันได
ทางไป Cat Cat Village
บรรยากาศระหว่างทาง หืมมมสวยมาก อารมณ์มันมา สายหมอก อายฝน สถาปัตยกรรมตะวันตก+ต้นสนเมืองหนาว
ระหว่างทาง
ทางเข้าหมู่บ้านกัตกัตจะมีทางเข้า 2 ทาง ทางแรกคือตรงป้ายยินดีต้องรับคนไทย (เพราะคนไทยมาเที่ยวเยอะ) แล้วมันจะให้เลี้ยวซ้ายลงไปเลย แต่เรามองไม่เห็นมัวแต่เดินตามคนอื่น แบบเพลินๆ (เอาที่เข้าใจคือไม่สังเกต 55+) เลยได้ไปเข้าทางออกอีกฟาก พี่บอลมาจอดรอเข้าอยู่ตรงป้ายยินดีต้อนรับคนไทย จากจุดนี้เข้าหมู่บ้าน ลุง Nam ที่มากับเราจะเมืองไฮฟองบอกว่าไม่ไหวลุงแกจะรออยู่บริเวณนี้ ผมเห็นลุงเดินเข้าไปในร้านอาหารแล้วไปนั่งผิงไฟกับคนท้องถิ่นเฉยเลย อ่อคนที่นี่เขาเข้ากันง่ายครับ เป็นกันเอง ตอนนี้เหลือเรา 3 คน ผม เก่ง และพี่บอล ตอนแรกเราว่าจะเดินไป พอเดินไปสักพัก ไปๆมาๆ เปลี่ยนใจให้นายเก่งกลับไปเอารถมอไซต์ที่จอดไว้ตรงลุง Nam อยู่ ระหว่างขับมาใกล้จะถึงพวกผมแล้วนั้นเขาพามอไซต์ล้ม (ไม่ได้ประจารนะเพื่อนเก่ง คิคิ) โอ้ยยยน้อ ไม่รู้จะขำหรือสงสารดี คือแบบว่าฝนมันตกถนนมันลื่นและเป็นทางชันลงเขาด้วย (อันตรายมากสำหรับคนต่างถิ่นอย่างเรา) แต่ดีที่ไม่เป็นอะไรมากครับ พากันไปล้างตัวโดยใช้น้ำจากภูเขาล้าง โคตรเย็นจัด
ทางเข้าหมู่บ้านกัตกัตอีกฝั่ง ตอนอ่านมาในหนังสือเขียนไว้ 30,000 มาเจอป้ายทางเข้า 50,000 แต่ได้จ่ายจริงๆแค่คนละ 25,000 VND งงมาก แต่ดีไป 55+
แผนที่ท่องเที่ยวหมู่บ้านกัตกัต
เราไม่เข้าทางออกก็เลยมาเจอสะพานนี้เป็นด่านแรก ตามแผนที่แล้วคือจุดที่ 11
ระหว่างทางจะมีชิงช้าแบบนี้ให้นั่งพัก
เดินมาสักพัก..ไม่ใช่สิ พักใหญ่เลย จะเจอกังหันแบบนี้ แถวๆ โรงแสดงวัฒนธรรมชนเผ่าม้งซึ่งจะรับรู้ได้จากเสียงที่ออกจากบักอะโหลมาแต่ไกลเลย
ระหว่างทางก็จะเต็มไปด้วยร้านขายของฝากกกเอาไว้ในโถส้วมบ้านเธอ (เพลงนะ 55+)..หลอนหนักมาก
กังหันน้ำบริเวณน้ำตกซิลเวอร์ นี่ลงทุนลงน้ำเลย เพราะเฮียเขาใส่เกิบแตะมา ชิวแบบไม่เกรงใจอากาศหนาวเย็นกันเลยทีเดียว
การแสดงของชาวม้ง
เจอแนวสวยๆงามๆ จขกท. ก็ต้องเซลฟี่เก็บไว้สักนิด คิคิ
สักพักมองเห็นขาวๆ พร้อมละอองขาวๆปรอยๆลงมา นึกในใจ..โอ้วดีใจหนักมาก หิมะตก .. ที่ไหนได้ เครื่องพ่นฟองน้ำ 55+
การแสดงของชาวม้งครับ ชมฟรี แต่ถ้าให้ดีใส่ Tip Box ให้เขาด้วยนะครับ เปิดเเสดงเป็นรอบ วันหนึ่งก็มีหลายบรอบอยู่ครับ ผมก็ไม่ได้ยืนนับดูเพราะต้องไปตามล่าหานาขั้นบันไดต่อ
ของฝากส่วนใหญ่จะเป็นสินค้า Handmade นะครับ อย่างในรูปนี้เขาใช้เหมือนขี้ผึ้งวาดลวดลายลงบนผ้า ตกผืนล่ะเป็นแสน (VND)
เดินออกมาแถวๆ น้ำตกเริ่มจะหิว ได้มันปิ้งมาคนล่ะหัว (10,000 VND) น้ำเหล่า 1 ขวดเล็ก (ฟรี) แม่ค้าลืมคิดตังค์ค่าน้ำด้วย 55+ ส่วนเราก็ไม่รู้ว่าอะไรราคายังไงเพราะแค่ให้เงินใบแสนไปแล้วเขาก็ทอนๆ มา (รับเงินไทยด้วยนะ) แม่ค้าส่วนใหญ่ยังใช้ภาษาพื้นเมืองอยู่ครับไม่รุพูดอัลไร
ควายซาปา เอามาเลี้ยงซะหน้าผาเลย
เดินไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าตัวเองกำลังเดินขึ้นเขา แต่ที่ไหนได้กำลังเดินออกไปทางเข้าจุดที่ 1 ที่เราเดินผ่านในช่วงแรกๆ นู้นน (ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าทางเดินมันไปถึงไหน) แวะซื้อของผากพักหนึ่ง ต่อเป็นต่อ ต่อไปเลย 70%
เมื่อรู้ว่ากำลังเดินไปทางออกหมู่บ้านอีกทาง(เข้าเมือง) จึงพากันเดินย้อนกลับลงมาเจอทางแยกเขียนว่า old village จึ้งลองเลี้ยวเข้าไป ทำให้เราเจอนาขั้นบันไดอีกแห่ง
สภาพหมู่บ้าน old village ถนนเละมาก ทั้งขี้หมู ขี้ไก่ ขี้เป็ด ขี้ควาย ตุ้มเปะมาก (เอิ่มมม รองเท้าไม่อยากบรรยายสภาพ)
เริ่มเดินออกนอกเส้นทางมาก็เริ่มไม่ค่อยเจอนักเที่ยว นึกในใจ..เราหลงทางปะวะ
เดินลึกมาเรื่อยๆ
ลึกเขามาอีกหลาย km แล้ว เหมือนพาพ่อตามาดูผืนนายังไงยังงั้น 55+
คือเราตามหานาขั้นบันไดในภาพหน้าหนังสือที่เราพกมาด้วย ตามหาแบบลืมถามคนท้องถิ่นซะงั้น เลยต้องหลงทางโง่หาต่อไป
และแล้วเราก็เดินอ้อมเขามาเจอที่เดิม บริเวณกังหัน 55+
เราลองเปลี่ยนเส้นทางลองเดินไปตามถนนข้างๆ โรงแสดงวัฒนธรรมชนเผ่า ตอนแรกจะไปถ่ายมุมน้ำตกสูงๆ แต่ไปเจอป้ายทางไป Golden Stream นึกในใจมันน่าจะมีอะไรเจ๋งๆอยู่ข้างหน้า ลุย..
ป่าไผ่บนเส้นทาง Golden Stream บรรยากาศมันได้เว้ยเฮ้ยย
เราเดินย้อนตามลำน้ำขึ้นไปเรื่อยๆ
หืมมม เฮียเขากลมกลืนกับพื้นที่จริงๆ เท่ห์สุดๆ หรือว่าด้วยเหตุนี้ชาวม้งถึงไปเดินขายของตามเรา เพราะปกติถ้าเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินเข้ามาในหมู่บ้านกัตกัตเขาก็จะเดินตามเราเพื่อขายของชวนคุยอะไรประมาฯนี้ (ผมดูมาจากยูทูป)
เดินมาสักพักเริ่มหิวน้ำ เอาแล้วไงไม่ใช่แบกิวซะด้วย เดินลึกเข้ามาในหุบเขากว่า 2 ชั่วโมงแล้ว เจอเเค่เด็กมาหาของป่า 2 คน ไม่เจอใครเลย เริ่มหวั่นๆใจ
หิวน้ำจัด ลงไปกินน้ำในลำธารซะเลย เล่นด้วยซะงั้น น้ำโคตรเย็นเจี๊ยบเหมือนน้ำช่องฟิตตู้เย็น
ในที่สุดเรา 2 คนก็ตัดสินใจเดินกลับมาเส้นเดิมข้ามเขา 2 ลูก ท่ามกลางฝนรินๆ ระหว่างทางที่เราเดินย้อนกลับมา มีฝรั่ง 2 คนกำลังเดินไปทางที่เราพึ่งไปมา 55+ เราเงียบ เพราะคิดภาษาอังกฤษไม่ออกว่าต้องพูดยังไงว่าห้ามไปมันไม่มีทางออก ก็เลยได้แค่เดินสวนทางกัน
ขากลับไปโรงแรมเราเดินกลับเพราะรุ่นพี่ของเรากลับไปก่อนนานแล้ว ระหว่างทางเจอด่านควายในม่านหมอก หลอนมาก
พอมาถึงในเมือง ต้องหาอะไรร้อนๆ นึกถึงเฝอขึ้นมาทันที 35,000 VND
ตกค่ำมาก็หาถ่ายรูในเมือง อากาศเริ่มจะดี
ลองกินปิ้นย่างร้อนๆ หมดเป็นแสน (VND)
พิซซ่าหน้าโบสถ์ เจ้าของร้านเป็นกันเองมาก
เจ้าของร้านชวนให้ลอง (บุหรี่นะไม่ใช่สายเขียว) ฉุนมาก
นี่เลยราคาเช่ามอไซต์
---------------
สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าเข้าหมู่บ้าน 25,000 VND/คน
มันปิ้ง+น้ำเปล่า 35,000 VND
ปิ้งย่าง 100,000 VND (7 ไม้ กิน 2 คน)
น้ำอ้อย 10,000 VND (1 แก้ว)
เฝอ 35,000 VND/คน
กะหรี่ปั๊บเวียดนาม 20,000 VND (1 ชิ้น)
น้ำเปล่า 15,000 VND/คน
มันปิ้ง 10,000 VND/คน
ซื้อของฝาก 90,000 VND
ค่าที่พักคืนละ 154 บาท/คน (จองผ่าน Agoda)
**เฉลี่ยวันนี้หมดไปคนละ 284,330 VND (ของฝากส่วนตัว 90,000 VND)
-------------
เป็นวันที่เหนื่อยขาลากแต่คุ้มมาก
สอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่ https://www.facebook.com/jo.coner.9
ตอนที่ 5 ฟานซีปานดินแดนในเทพนิยาย คลิก https://ppantip.com/topic/36090525
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น