5 วิธีกำจัดสารพัดสัตว์ตัวร้ายแบบ ไม่ผิดศีล
ด้วยความห่วงใย ไม่อยากให้ท่านผู้อ่านทำผิดศีลข้อ 1 คือ ไม่ฆ่าสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ที่ทำให้เราเดือดเนื้อร้อนใจอย่างยุง หนู แมลงสาบ ฯลฯ Secret จึงขอเสนอวิธีไล่เจ้าสัตว์ตัวร้ายจอมกวนแบบไม่ให้ผิดศีล เผื่อว่าบรรดาสัตว์และคุณแมลงทั้งหลายจะได้ขนย้ายข้าวของออกจากบ้านของคุณไปโดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ
1.สวดมนต์และแผ่เมตตาช่วยได้!
เมื่อสวดมนต์ทุกครั้ง ให้หมั่นแผ่เมตตาให้สัตว์ที่คอยรบกวนเราบ่อย ๆในที่สุดสัตว์เหล่านี้จะจากลาเราไปด้วยดีบทสวดที่ Secret แนะนำในการต่อกร (ด้วยความรัก) กับเหล่าสัตว์จอมรบกวนทั้งหลายคือ ขันธปริตร แม้ว่าวิธีการเหล่านี้อาจจะใช้เวลาเนิ่นนานกว่าจะให้ผล แต่ก็เป็นวิธีที่ทั้งสุขกายสบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ขันธปริตรเป็นบทสวดที่ใช้ป้องกันสัตว์มีพิษและไม่มีพิษทั้งหลาย อาทิ งูแมงป่อง ตะขาบ ฯลฯ ให้สามารถอยู่ร่วมกับเราได้อย่างสันติสุข บทสวดนี้เกิดจากการที่มีพระภิกษุรูปหนึ่งถูกงูกัดที่เท้า ทนพิษไม่ไหวถึงแก่มรณภาพเมื่อพระพุทธเจ้าทรงทราบเรื่อง จึงตรัสสอนพระภิกษุทั้งหลายให้รู้จักแผ่เมตตาแก่สกุลพญางูและสัตว์มีพิษทั้งหลาย
คลิกที่นี่!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
]“หนูกับลูกประคำ” อานิสงส์ของการ แผ่เมตตา เรื่องเล่าจากหลวงพ่อจรัญ
แผ่เมตตา อาจมีอานิสงส์มากกว่าที่คุณคิด ดังเรื่องเล่าตอนหนึ่งของหลวงพ่อจรัญ ที่ว่า “อาตมามีลูกประคำอยู่เส้นหนึ่ง อาตมารักลูกประคำเส้นนี้มาก เคยใช้สวดมนต์รัตนมาลาเมื่อสมัยเดินธุดงค์
ที่กุฏิอาตมามีหนูตัวหนึ่ง หนูนี่ไปกัดหมอน กัดพรมเกลื่อนกลาดหมด ครั้งหนึ่งอาตมาเคยพูดเล่น ๆ ว่า
" ไอ้หนูไม่มีดี ฆ่ามันเลย ให้เด็กไปซื้อกรงมาดักเลย หนูไม่ดี เดี๋ยวคืนนี้จะฆ่ามันให้หมด”
อาตมาพูดลอย ๆ ไปอย่างนั้นแหละ พูดด้วยความโมโห แต่จิตใจเราอาจไม่ถึงขนาดนั้น
คืนนั้นอาตมาเอาลูกประคำมาวางไว้ที่ข้าง ๆ ที่อาตมาจำวัด ปรากฏว่าหนูมากัดลูกประคำอาตมาแหลกเลย พอมานับดูไม่พอร้อยแปด ขาดไป 8-9 เม็ด จึงให้พระช่วยมาหา
พระท่านบอกว่า ‘หลวงพ่อ ลูกประคำอยู่ใต้ฝ้าเอาไม่ได้ ถ้าจะเอาก็ต้องงัดพื้นออก’ อาตมาก็คิดว่าจะเอาอย่างไร ถ้างัดก็เสียหายหมดน่ะสิ มันเป็นกุฏิเก่าตอกตะปูไว้แน่น มีร่องนิดเดียว พอเม็ดลูกปะคำลงได้ แม้เห็น แต่ก็ล้วงขึ้นมาไม่ได้
คืนนั้นอาตมาจุดธูปเทียนเดินจงกรมนั่งสมาธิเสร็จเรียบร้อยแล้วก็พูดว่า
“พ่อหนูเอ๋ย พ่อหนู เมื่อคืนวานนี้ที่เราพูดกับเจ้าว่า หนูไม่มีดีจะฆ่าให้หมดเลยนั้น ขอโทษด้วยเหอะ จงอโหสิกรรมให้เราหน่อยนะ เราขอแผ่เมตตาให้เจ้า เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอากล้วยให้กิน อย่ามากัดหมอน กัดเสื่อ กัดพรม เป็นของสงฆ์ เป็นบาปเป็นกรรมนะ พ่อหนูนะ ขอแผ่เมตตา เจ้าจงอโหสิกรรมให้แก่เราเถิด ที่เราพูดพลั้งเผลอสติไป”
ปรากฏว่าเช้าขึ้นมา อาตมาได้ลูกประคำคืนหมด หนูคาบมาให้ที่นอนเลย อาตมาไปเรียกพระลัดประสิทธิ์มา เรียกลูกศิษย์มา แล้วก็เรียกหมอเยื้อน ชโลภัมถ์ หมอตำรวจที่เป็นสมาชิกสมาคมสิงห์บุรีมา แล้วบอกว่า
“หนูเอามาคืนหมด ด้วยการแผ่เมตตาน่ะ โยมจำไว้ หนูเอามาคืน”
นี่คืออำนาจ เมตตา ตั้งแต่นั้นมาหนูไม่เคยมากัดหมอนมุ้งอีกเลย
เรื่องเล่านี้เรียบเรียงมาจากหนังสือ กรรมและการแก้กรรม โดย กานต์ ชลอาภา
เพื่ออ่านบทความ “หนูกับลูกประคำ” อานิสงส์ของการ แผ่เมตตา เรื่องเล่าจากหลวงพ่อจรัญ
https://www.youtube.com/watch?v=jvlsCwXrQeM
2. พูดเพราะ ๆ กับเจ้าสัตว์จอมรบกวน
การสื่อสารกับสัตว์ทั้งหลายด้วยวจีไพเราะถือเป็นการเจริญเมตตาอีกทางหนึ่งคนเราชอบวาจาหวานหูฉันใด สัตว์ทั้งหลายแม้แต่สัตว์อย่างแมลงสาบ หนู ยุง ฯลฯย่อมชอบวาจาหวานหูฉันนั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม เคยทำสงครามกับหนูสมัยที่ท่านยังเป็นพระบวชใหม่ ด้วยการพูดไม่ดีใส่หนูตลอดเวลาที่มันทำข้าวของเสียหายหรือคาบของหายไป และพบว่าการทำเช่นนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลย เมื่อมีของหายอีก ท่านจึงพูดขึ้นมาลอย ๆ ด้วยถ้อยคำไพเราะว่า
“พี่หนูจ๋า…เอาของมาคืนเถอะนะจ๊ะ” ไม่น่าเชื่อว่าต่อมาท่านก็ได้ของคืนจริง ๆหลวงพ่อกล่าวว่า
“นี่เป็นพลังของเมตตาธรรม เราคิดไม่ดีกับเขา เขาก็คิดไม่ดีกับเรา เราคิดดีกับเขา เขาก็คิดดีกับเรา” ที่สำคัญ คำพูดที่สุภาพ จริงใจต้องออกมาจากจิตที่เมตตาและไม่ปรารถนาจะเบียดเบียนเพื่อนร่วมโลกอย่างแท้จริงจึงจะได้ผล
3. สมุนไพร…หาง่ายแต่ได้ผลจริง!
สมุนไพรหลายชนิดมีกลิ่นหรือสรรพคุณที่ช่วยไล่เหล่าสัตว์จอมรบกวนทั้งหลายให้โบกมือบ๊ายบายจากเราได้สมุนไพรพวกนี้หาได้ง่ายตามท้องตลาดหรืออาจจะปลูกไว้ในสวนหลังบ้านก็ได้ ขอเพียงจับคู่สมุนไพรกับสัตว์เจ้าปัญหาให้ถูกรับรองว่าเอาอยู่
แมลงสาบ : ให้วาง กานพลูหรือพริกไทยเม็ด ประมาณ 4 - 5 เม็ดตามจุดต่าง ๆ ที่แมลงสาบชอบออกมาแอบกินเศษอาหารไม่นานแมลงสาบจะเริ่มหายไป เพราะมันไม่ถูกกับกลิ่นพริกไทย (ที่สำคัญอย่าลืมเปลี่ยนพริกไทยเม็ดใหม่เมื่อกลิ่นเริ่มจางลงด้วย)
ยุงหรือแมลงตัวเล็ก : นำ การบูร มาแขวนไว้ใกล้ ๆ กับหลอดหรือโคมไฟ ความร้อนจะช่วยให้กลิ่นการบูรค่อย ๆ ระเหิดออกมา ยุงและแมลงทั้งหลายซึ่งขยาดกลิ่นการบูรจะจรลีหนีไป เรียกว่าเป็นวิธีไล่อย่างสันติ
หนู : นำ น้ำมันระกำผสมกับนํ้ามันสะระแหน่ ในอัตรา 10 : 90 ก่อนนำไปทาตามทางเดินของหนู รับรองว่ากองทัพหนูจะไม่กลับมาอีก
มด : นำ มะนาวฝาน หรือ เปลือกมะนาวที่บีบน้ำแล้ว มาวาง หรือโรย การบูร ตามเส้นทางเดินของมด เท่านี้ก็หายห่วงไปได้
4.ของใช้ใกล้ครัว…ก็ช่วยได้นะ
หลายสิ่งในห้องครัวที่คุณอาจมองข้ามไป สามารถนำมาช่วยไล่สัตว์จอมรบกวนได้ด้วยเช่นกัน อาทิเช่น ผงฟู น้ำส้มสายชู
มดและแมลงสาบ : นำน้ำส้มสายชูมาผสมน้ำให้เจือจางแล้วนำไปเช็ดตามทางเดินของมดและแมลงสาบ หรือหากใครชอบกวาดบ้าน ก็สามารถโรยพริกป่น สะระแหน่แห้ง กากกาแฟผงฟู บนทางเดิน ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยไล่แมลงพวกนี้ได้ แต่โรยแล้วก็อย่าลืมเก็บกวาดให้สะอาดด้วยก็แล้วกัน
มอด : แมลงตัวน้อยที่ชอบสิงสถิตอยู่ในถังข้าวสาร ให้นำช้อนสเตนเลสหมกไว้ในข้าวสาร ทิ้งไว้สักครู่ มอดก็จะอพยพหนีออกมานอกถังเอง
แมลงวัน : นำน้ำอุ่นใส่แก้วกึ่งหนึ่งแล้วใส่น้ำส้มสายชูลงไป 2 - 3 ช้อนโต๊ะเติมน้ำตาลอีกนิดหน่อย รัดปากแก้วด้วยถุงพลาสติกเจาะรูไว้หลาย ๆ รู เท่านี้แมลงวันที่ไม่ชอบกลิ่นน้ำส้มสายชูก็จะไม่มารบกวนใจ
แมงมุม : ให้วางชามใส่เกลือไว้ตามซอกที่แมงมุมชอบมาสร้างบ้านเรือนอยู่ เกลือจะดูดความชื้น ทำให้แมงมุมสร้างใยไม่สำเร็จ
5.สร้างนวัตกรรมใหม่ DIY ไล่แมลง
หากเราหมั่นสังเกตนิสัยของสัตว์จอมกวน หรือหาความรู้เรื่องนวัตกรรมต่าง ๆ ในการไล่แมลงอยู่เนือง ๆ บางครั้งเราเองก็สามารถพลิกแพลงนำของใช้ในบ้านมาทำเป็นกับดักหรือเครื่องป้องกันสัตว์จอมรบกวนพวกนี้ไม่ให้บุกรุกเข้ามาในบ้านได้ด้วย
มด : หาเศษผ้าที่ไม่ใช้แล้วมาตัดเป็นชิ้น ๆ ความยาวพอประมาณ ชุบน้ำมันเครื่องพอหมาดหรือชุบจาระบีแล้วนำมาพันรอบขาตู้หรือโต๊ะ หรือจะใช้ปูนขาวใส่ภาชนะรองขาตู้ เท่านี้ทั้งตู้ โต๊ะก็จะปราศจากมดไปอีกนาน
หรือจะใช้นำมันชุบกับ แผ่นรองขาตู้ได้เลย
แมลงสาบ : เทน้ำมันหมูลงในขวดแก้วแล้วเคล้าให้น้ำมันหมูเกาะทั่วขวดจากนั้นใช้น้ำมันหมูป้ายขอบด้านในคอขวดให้พอลื่นก่อนจะนำไปตั้งทิ้งไว้กลางห้องครัว หรือแหล่งชุมนุมของเหล่าแมงสาบ ทิ้งไว้ประมาณ 8 ชั่วโมงเมื่อแมลงสาบมาเยือนกับดักดีไอวายของเรา ก็นำไปปล่อยหรือฝากรถขยะพาแมลงสาบไปเที่ยว เท่านี้ก็สบายอุราไปอีกนาน
ยุง : ให้ปลูกต้นแก้ว ต้นราตรีหรือตะไคร้หอมบริเวณปากประตูหน้าต่างที่เจ้ายุงชอบเล็ดลอดเข้ามา
มด : ลองปลูกสะระแหน่ไว้รอบบ้านนอกจากช่วยไล่มดแล้ว สะระแหน่ยังสามารถนำมากินเป็นผักเคียง อาหารได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายวิธีที่จะทำให้แมลงหรือสัตว์จอมรบกวนต่าง ๆโบกมือลาบ้านของเรา โดยเราจะต้องหมั่นศึกษาหาวิธีป้องกันและปราบปรามอย่างเหมาะสม ที่สำคัญคือต้องกำจัดต้นตอที่ทำให้เจ้าตัวร้ายเหล่านี้บุกรุกมาถึงบ้านของเราเสียก่อน ด้วยการปัดกวาดบ้านเรือนให้สะอาด อย่าปล่อยให้รกรุงรัง และอย่าลืมเก็บเศษอาหารทิ้งให้หมดเป็นดีที่สุด
อย่าลืมลองไปทำกันดูนะคะ ดีไม่ดีอย่างไรก็นำมาแบ่งปันกัน แต่เจ้าของกระทู้ว่ามันต้องมีสักวิธีที่ได้ผลแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลดีดีมีประโยชน์จาก :
http://www.goodlifeupdate.com/12232/healthy-mind/rid-off-animal/ คุณณัฐนภ ตระกลธนภาส
5 วิธีกำจัดสารพัดสัตว์ตัวร้ายแบบ ไม่ผิดศีล
ด้วยความห่วงใย ไม่อยากให้ท่านผู้อ่านทำผิดศีลข้อ 1 คือ ไม่ฆ่าสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ที่ทำให้เราเดือดเนื้อร้อนใจอย่างยุง หนู แมลงสาบ ฯลฯ Secret จึงขอเสนอวิธีไล่เจ้าสัตว์ตัวร้ายจอมกวนแบบไม่ให้ผิดศีล เผื่อว่าบรรดาสัตว์และคุณแมลงทั้งหลายจะได้ขนย้ายข้าวของออกจากบ้านของคุณไปโดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ
1.สวดมนต์และแผ่เมตตาช่วยได้!
เมื่อสวดมนต์ทุกครั้ง ให้หมั่นแผ่เมตตาให้สัตว์ที่คอยรบกวนเราบ่อย ๆในที่สุดสัตว์เหล่านี้จะจากลาเราไปด้วยดีบทสวดที่ Secret แนะนำในการต่อกร (ด้วยความรัก) กับเหล่าสัตว์จอมรบกวนทั้งหลายคือ ขันธปริตร แม้ว่าวิธีการเหล่านี้อาจจะใช้เวลาเนิ่นนานกว่าจะให้ผล แต่ก็เป็นวิธีที่ทั้งสุขกายสบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ขันธปริตรเป็นบทสวดที่ใช้ป้องกันสัตว์มีพิษและไม่มีพิษทั้งหลาย อาทิ งูแมงป่อง ตะขาบ ฯลฯ ให้สามารถอยู่ร่วมกับเราได้อย่างสันติสุข บทสวดนี้เกิดจากการที่มีพระภิกษุรูปหนึ่งถูกงูกัดที่เท้า ทนพิษไม่ไหวถึงแก่มรณภาพเมื่อพระพุทธเจ้าทรงทราบเรื่อง จึงตรัสสอนพระภิกษุทั้งหลายให้รู้จักแผ่เมตตาแก่สกุลพญางูและสัตว์มีพิษทั้งหลาย
คลิกที่นี่! [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เพื่ออ่านบทความ “หนูกับลูกประคำ” อานิสงส์ของการ แผ่เมตตา เรื่องเล่าจากหลวงพ่อจรัญ
https://www.youtube.com/watch?v=jvlsCwXrQeM
2. พูดเพราะ ๆ กับเจ้าสัตว์จอมรบกวน
การสื่อสารกับสัตว์ทั้งหลายด้วยวจีไพเราะถือเป็นการเจริญเมตตาอีกทางหนึ่งคนเราชอบวาจาหวานหูฉันใด สัตว์ทั้งหลายแม้แต่สัตว์อย่างแมลงสาบ หนู ยุง ฯลฯย่อมชอบวาจาหวานหูฉันนั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม เคยทำสงครามกับหนูสมัยที่ท่านยังเป็นพระบวชใหม่ ด้วยการพูดไม่ดีใส่หนูตลอดเวลาที่มันทำข้าวของเสียหายหรือคาบของหายไป และพบว่าการทำเช่นนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลย เมื่อมีของหายอีก ท่านจึงพูดขึ้นมาลอย ๆ ด้วยถ้อยคำไพเราะว่า “พี่หนูจ๋า…เอาของมาคืนเถอะนะจ๊ะ” ไม่น่าเชื่อว่าต่อมาท่านก็ได้ของคืนจริง ๆหลวงพ่อกล่าวว่า “นี่เป็นพลังของเมตตาธรรม เราคิดไม่ดีกับเขา เขาก็คิดไม่ดีกับเรา เราคิดดีกับเขา เขาก็คิดดีกับเรา” ที่สำคัญ คำพูดที่สุภาพ จริงใจต้องออกมาจากจิตที่เมตตาและไม่ปรารถนาจะเบียดเบียนเพื่อนร่วมโลกอย่างแท้จริงจึงจะได้ผล
3. สมุนไพร…หาง่ายแต่ได้ผลจริง!
สมุนไพรหลายชนิดมีกลิ่นหรือสรรพคุณที่ช่วยไล่เหล่าสัตว์จอมรบกวนทั้งหลายให้โบกมือบ๊ายบายจากเราได้สมุนไพรพวกนี้หาได้ง่ายตามท้องตลาดหรืออาจจะปลูกไว้ในสวนหลังบ้านก็ได้ ขอเพียงจับคู่สมุนไพรกับสัตว์เจ้าปัญหาให้ถูกรับรองว่าเอาอยู่
แมลงสาบ : ให้วาง กานพลูหรือพริกไทยเม็ด ประมาณ 4 - 5 เม็ดตามจุดต่าง ๆ ที่แมลงสาบชอบออกมาแอบกินเศษอาหารไม่นานแมลงสาบจะเริ่มหายไป เพราะมันไม่ถูกกับกลิ่นพริกไทย (ที่สำคัญอย่าลืมเปลี่ยนพริกไทยเม็ดใหม่เมื่อกลิ่นเริ่มจางลงด้วย)
ยุงหรือแมลงตัวเล็ก : นำ การบูร มาแขวนไว้ใกล้ ๆ กับหลอดหรือโคมไฟ ความร้อนจะช่วยให้กลิ่นการบูรค่อย ๆ ระเหิดออกมา ยุงและแมลงทั้งหลายซึ่งขยาดกลิ่นการบูรจะจรลีหนีไป เรียกว่าเป็นวิธีไล่อย่างสันติ
หนู : นำ น้ำมันระกำผสมกับนํ้ามันสะระแหน่ ในอัตรา 10 : 90 ก่อนนำไปทาตามทางเดินของหนู รับรองว่ากองทัพหนูจะไม่กลับมาอีก
มด : นำ มะนาวฝาน หรือ เปลือกมะนาวที่บีบน้ำแล้ว มาวาง หรือโรย การบูร ตามเส้นทางเดินของมด เท่านี้ก็หายห่วงไปได้
4.ของใช้ใกล้ครัว…ก็ช่วยได้นะ
หลายสิ่งในห้องครัวที่คุณอาจมองข้ามไป สามารถนำมาช่วยไล่สัตว์จอมรบกวนได้ด้วยเช่นกัน อาทิเช่น ผงฟู น้ำส้มสายชู
มดและแมลงสาบ : นำน้ำส้มสายชูมาผสมน้ำให้เจือจางแล้วนำไปเช็ดตามทางเดินของมดและแมลงสาบ หรือหากใครชอบกวาดบ้าน ก็สามารถโรยพริกป่น สะระแหน่แห้ง กากกาแฟผงฟู บนทางเดิน ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยไล่แมลงพวกนี้ได้ แต่โรยแล้วก็อย่าลืมเก็บกวาดให้สะอาดด้วยก็แล้วกัน
มอด : แมลงตัวน้อยที่ชอบสิงสถิตอยู่ในถังข้าวสาร ให้นำช้อนสเตนเลสหมกไว้ในข้าวสาร ทิ้งไว้สักครู่ มอดก็จะอพยพหนีออกมานอกถังเอง
แมลงวัน : นำน้ำอุ่นใส่แก้วกึ่งหนึ่งแล้วใส่น้ำส้มสายชูลงไป 2 - 3 ช้อนโต๊ะเติมน้ำตาลอีกนิดหน่อย รัดปากแก้วด้วยถุงพลาสติกเจาะรูไว้หลาย ๆ รู เท่านี้แมลงวันที่ไม่ชอบกลิ่นน้ำส้มสายชูก็จะไม่มารบกวนใจ
แมงมุม : ให้วางชามใส่เกลือไว้ตามซอกที่แมงมุมชอบมาสร้างบ้านเรือนอยู่ เกลือจะดูดความชื้น ทำให้แมงมุมสร้างใยไม่สำเร็จ
5.สร้างนวัตกรรมใหม่ DIY ไล่แมลง
หากเราหมั่นสังเกตนิสัยของสัตว์จอมกวน หรือหาความรู้เรื่องนวัตกรรมต่าง ๆ ในการไล่แมลงอยู่เนือง ๆ บางครั้งเราเองก็สามารถพลิกแพลงนำของใช้ในบ้านมาทำเป็นกับดักหรือเครื่องป้องกันสัตว์จอมรบกวนพวกนี้ไม่ให้บุกรุกเข้ามาในบ้านได้ด้วย
มด : หาเศษผ้าที่ไม่ใช้แล้วมาตัดเป็นชิ้น ๆ ความยาวพอประมาณ ชุบน้ำมันเครื่องพอหมาดหรือชุบจาระบีแล้วนำมาพันรอบขาตู้หรือโต๊ะ หรือจะใช้ปูนขาวใส่ภาชนะรองขาตู้ เท่านี้ทั้งตู้ โต๊ะก็จะปราศจากมดไปอีกนาน
หรือจะใช้นำมันชุบกับ แผ่นรองขาตู้ได้เลย แมลงสาบ : เทน้ำมันหมูลงในขวดแก้วแล้วเคล้าให้น้ำมันหมูเกาะทั่วขวดจากนั้นใช้น้ำมันหมูป้ายขอบด้านในคอขวดให้พอลื่นก่อนจะนำไปตั้งทิ้งไว้กลางห้องครัว หรือแหล่งชุมนุมของเหล่าแมงสาบ ทิ้งไว้ประมาณ 8 ชั่วโมงเมื่อแมลงสาบมาเยือนกับดักดีไอวายของเรา ก็นำไปปล่อยหรือฝากรถขยะพาแมลงสาบไปเที่ยว เท่านี้ก็สบายอุราไปอีกนาน
ยุง : ให้ปลูกต้นแก้ว ต้นราตรีหรือตะไคร้หอมบริเวณปากประตูหน้าต่างที่เจ้ายุงชอบเล็ดลอดเข้ามา
มด : ลองปลูกสะระแหน่ไว้รอบบ้านนอกจากช่วยไล่มดแล้ว สะระแหน่ยังสามารถนำมากินเป็นผักเคียง อาหารได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายวิธีที่จะทำให้แมลงหรือสัตว์จอมรบกวนต่าง ๆโบกมือลาบ้านของเรา โดยเราจะต้องหมั่นศึกษาหาวิธีป้องกันและปราบปรามอย่างเหมาะสม ที่สำคัญคือต้องกำจัดต้นตอที่ทำให้เจ้าตัวร้ายเหล่านี้บุกรุกมาถึงบ้านของเราเสียก่อน ด้วยการปัดกวาดบ้านเรือนให้สะอาด อย่าปล่อยให้รกรุงรัง และอย่าลืมเก็บเศษอาหารทิ้งให้หมดเป็นดีที่สุด
อย่าลืมลองไปทำกันดูนะคะ ดีไม่ดีอย่างไรก็นำมาแบ่งปันกัน แต่เจ้าของกระทู้ว่ามันต้องมีสักวิธีที่ได้ผลแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลดีดีมีประโยชน์จาก : http://www.goodlifeupdate.com/12232/healthy-mind/rid-off-animal/ คุณณัฐนภ ตระกลธนภาส