กลุ่มหัวรุนแรงไอเอส ขยายอิทธพลมาถึงสมาชิก BRN ของทาง ๓ จ.ใต้ แล้ว !!!

ผบ.ทบ.แจง มาเลฯ รวบผู้ต้องสงสัย "ไอเอส" เผย 1 ใน 6 เป็นกลุ่มบีอาร์เอ็นของไทย
เหตุมีหมายจับชัดเจน พร้อมประสานขอตัวกลับดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 7 ก.พ.60 ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)

จากการตรวจสอบในจำนวนผู้ต้องสงสัยทั้งหมดที่ถูกทางมาเลเซียจับกุม พบว่า มี 1 คน
ที่เป็นคนไทยและมีทะเบียนประวัติเกี่ยวข้องกับขบวนการกลุ่มบีอาร์เอ็น
และมีข้อมูลว่าเคยกระทำความผิดในประเทศไทย
ซึ่งอาจเป็นระดับรับทราบแนวความคิดจากการโฆษณาชวนเชื่อผ่านทางโซเชียล




และนอกจากนี้ ไอเอสได้เริ่มเกณฑ์หญิงร่วมก่อการร้ายเพิ่มอีกด้วย

รายงานชี้ การผงาดขึ้นของไอเอสและเทคโนโลยีการสื่อสารทำให้บทบาทเพศหญิงในกลุ่มสุดโต่งเปลี่ยนแปลงไป

แนวคิดนี้เปลี่ยนแปลงไปจากนักรบกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยะห์ (เจไอ) เป็นอย่างมาก
ผู้นำกลุ่มเจไอไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเข้ามามีบทบาทสำคัญในเครือข่ายก่อการร้าย ยกเว้นภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินจริง ๆ
หรือเพื่อป้องกันตนเอง แต่เมื่อแอพพลิเคชันส่งข้อความเข้ารหัสลับผ่านโทรศัพท์มือถืออย่าง “เทเลแกรม” ได้รับความนิยมมากขึ้น
ทำให้ผู้หญิงอินโดนีเซีย ทั้งผู้ประกอบวิชาชีพและที่ไปทำงานเป็นแม่บ้านในต่างแดน เริ่มสนใจไอเอส

ตัวอย่างเช่น ไดแอน อดีตผู้ช่วยแม่บ้านทำงานในสิงคโปร์และไต้หวัน  ซึ่งถูกจับก่อนถูกส่งตัวไปก่อเหตุหนึ่งวัน
เล่าว่า เธอรู้จักแนวคิดสุดโต่งบนโซเชียลมีเดียครั้งแรกในปี 2557สอดคล้องกับนายบาห์รุน นาอิม นักรบจากอินโดนีเซีย
ที่ร่วมรบกับไอเอสในซีเรีย เล่าว่า เขาเคยใช้เทเลแกรมสอนผู้หญิงคนหนึ่งให้ปฏิบัติการก่อการร้าย




การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เกิดขึ้นเพราะนักรบไอเอสในซีเรีย รวมทั้งนายบาห์รุน มองว่า
ผู้หญิงมีประโยชน์สำหรับการก่อการร้าย เนื่องจากตกเป็นเป้าสนใจน้อยกว่า

นางสาวนาวาสรุปว่า ผู้นำในกลุ่มญิฮัดส่วนใหญ่ยังมองว่า ผู้หญิงเป็นสิงโตตัวเมียที่ต้องอยู่บ้านให้กำเนิดลูก
แต่ชัดเจนแล้วว่าผู้หญิงอินโดนีเซียบางคนกระหายจะต่อสู้ถึงแก่ชีวิต เพื่อพี่สาวน้องสาวของพวกเธอทั่วโลก


ที่มา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่