(CR) รู้เท่าทันคลินิกความงาน Part 2 (รักษาสิวฮอร์โมนด้วยMadeCollagen)

กระทู้สนทนา
Part 1 จุดเริ่มต้นของสิว
https://ppantip.com/topic/35851892

ย้อนความ Part แรก แบบย่อ สำหรับคนขี้เกียจอ่าน Part 1

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

หัวใจหลักในการดูแลหน้าคือ ทำให้ผิวแข็งแรง ถ้าผิวเราแข็งแรง สิว ริ้วรอย ฝ้า กระ ก็จะเกิดได้น้อยลง เพราะผิวเราดูแลตัวเองได้

หลักในการดูแลหน้า คือ 1.สะอาด 2.บำรุง 3.กันแดด

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้รักษากับที่นี่ มีเพียงเจลล้างหน้าผสมน้ำมันมะพร้าว ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ไม่มีฟอง ที่อ่อนโยนมากๆจะช่วยปรับสภาพผิว ช่วงนี้ไม่ได้แต่งหน้าเลย เลยไม่ได้ใช้ cleansing

การบำรุงที่ดีจริงๆ ใช้แค่มอยซ์เจอไรซ์เซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นผิวที่เพียงพอ สำหรับเราใช้ ezzera

และกันแดดใช้ของยูเชอรีน จริงๆแดดเป็นตัวร้ายในการทำร้ายหน้าอย่างมาก มากกว่าการกินเหล้าสูบบุหรี่ซะอีก เพราะเราต้องเจอแดดตลอดเวลา แม้แต่อยู่ในบ้าน รังสียูวีก็เข้ามาได้นะ ใครที่แบบอยู่บ้านไม่ต้องทากันแดดหรอก ควรเปลี่ยนความคิดนะ หมอแนะนำให้ทา แม้แต่อยู่ในบ้าน

มีใช้แป้งฝุ่นของ chanel หลังลงกันแดด ที่แต้มสิวของยูเซอรีนสำหรับสิวอักเสบมาก และรอยสิวที่ชัด

ต่อมาเราเริ่มรู้สึกเซ็งกับชีวิตการทำงาน เลยหาเรื่องไปเที่ยวสยามทุกอาทิตย์ ทำให้หลวมตัวไปเจอคลินิก At medical clinic ที่บอกจะให้เราทำทรีตเม้นท์หน้าฟรี ซึ่งเรากะทำฟรี เพราะรอน้องสาวเลิกเรียน จะไปกินข้าวด้วยกัน กลายเป็นหว่านล้อมจนซื้อคอร์สมาจนได้ แถมตัดคอร์สเรา ไอ่ทรีตเม้นท์ที่ว่าฟรีเลยไม่ได้ฟรี

ที่นี่แรกๆเราทำ กดสิว มาร์คสิวให้สิวแห้ง และเลเซอร์ IPL ลดรอยแดง ซึ่งคุณภาพไม่เท่ากับ The demis หรอก แต่ราคาสบายกระเป๋ากว่ามาก เพราะถูกลงเกือบครึ่ง และเราว่างแค่อาทิตย์ละวัน ถ้าเรามาเที่ยวสยาม จะไม่สามารถไป the demis ได้ ก็เลยเข้าที่นี่ขำๆแทน

หมอที่ The demis บอกว่า มีสิวอุดตัน ควรรีบกดออก เพราะปล่อยทิ้งวัน ก็เหมือนระเบิดเวลารอการอักเสบ ถ้ามันอักเสบไปแล้ว จะทิ้งรอยหนักกว่ารอยกดซะอีก เลยมากำจัดอย่างสม่ำเสมอที่ at medical แทน

ต่อมาที่นี่ทำให้เรารู้จัก made collagen เพราะเรายังคงมีปัญหา สิวฮอร์โมน พอประจำเดือนจะมา สิวมา 3-4 เม็ด พอรักษาเสร็จ เดือนถัดไปมาใหม่ ตอนนี้รักษากับ the demis มา 18 เดือนแล้ว (เม.ย2014) ที่ At medical 6 เดือน (ธ.ค2014) หน้าแข็งแรงขึ้น แต่ยังไม่พอที่จะรักษาสิวฮอร์โมนตัวเอง ยาคุมหมอก็บอกเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ

ตอนนี้ค่ารักษาที่ At medical ในช่วงสามเดือนคือ 20,000 บาท

Made collagen คือสารธรรมชาติที่จะช่วยดีท๊อกซ์ผิว เพราะเพิ่มการไหลเวียนเลือด ด้วยการฉีดตามจุดต่อมน้ำเหลืองบนใบหน้า 16 จุด คู่กับตัวน้ำยาที่จะช่วยฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรง แก้สิวสเตียอร์ สิวฮอร์โมนได้ (เริ่มฉีด มีนา 2015)

รูปเอามาจากในเน็ตนะคะ

พอเซลล์พูดถึงสิวฮอร์โมนเท่านั้นแหละ รู้สึกว่าแบบมันคือปัญหาคาใจเรา อยากกลับมาหน้าใสแบบเดิม

เค้าบอกว่าต้องทำสิบครั้ง คอร์สนึง 30,000 บาท

ตอนนั้นกลัวเจ็บก็กลัว กลัวโดนหลอกก็กลัว

เลยบอกเค้าของลองทำก่อน เค้าบอกรายครั้งมัน 4,000 ซื้อคอร์สเถอะคุ้ม

เราเลยต่อลอง ขอลองทำซัก 3 ครั้งก่อน ด้วยราคารายครั้งในราคาครั้งละ 3,000 แต่ถ้ามันดี เราค่อยซื้อคอร์ส ไม่ดีเราจะจ่ายเพิ่มให้เท่ากับราคารายครั้งปกติ

ครั้งแรกทายาชาก่อน แล้ววนน้ำแข็งอีกรอบตามจุดที่จะฉีด ผลคือเจ็บมากกกกกกกกกกกกกกกกก

ยาชาช่วยแค่ตอนแทงเข็มไม่รู้สึก พอเดินยาเท่านั้นแหละ ปวดมาก ร้องไห้น้ำตามซึมเลย จุดพีคๆก็ข้างจมูก แล้วก็ตรงคาง

ไม่มีภาพประกอบ เนื่องจากเจ็บปวดมาก

ตอนแรกทำครั้งแรกก็คิดจะถอยแล้ว เจ็บแบบคิดหนักอ่ะ แต่เพื่อความสวย เลยไปลุยอีกครั้ง ก่อนไปเกาหลี ซึ่งตอนนั้นรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง ว่าหน้าแข็งแรงขึ้นชัดเจน แบบปกติเจออากาศหนาวหน้าจะลอก แดง คัน นี่แบบปกติเลย ชิวเลย

กลับไปเลยไปซื้อคอร์ส แล้วฉีดจนครบ 4 ครั้ง คือถึงรอบประจำเดือนพอถึง แบบว่า เห้ย....เดือนนี้สิวไม่ขึ้นอ่ะ

จะมโนรึเปล่า ตอนนี้เว้นเป็นฉีดสองทิตย์ครั้ง คือได้ 6 ครั้ง เดือนต่อมาสิวก็ไม่มาใหม่อีก คือแบบดีอ่ะ รอยสิวเก่าก็รักษาไป สิวใหม่ไม่มา ชีวิตไม่ดีขึ้นมา

พอมาถึงตอนนี้หน้าเริ่มดีแล้ว เริ่มขี้เกียจ ไม่อยากไปฉีดอีก เพราะเจ็บ แต่เสียดายเงิน เว้นห่างไปฉีด 1-2 เดือนจนจบคอร์ส

ตอนนี้ฉีดตั้งแต่ครบ 10 ครั้งมาได้ 1 ปีพอดี (ก.พ 2016) คือสิวอักเสบไม่มีอีกเลย อุดตัน ผดก็ไม่พบ มีอยู่ 2 ครั้ง ที่ผิวดูบวมๆแดงๆ เหมือนสิวจะขึ้น แต่แต้ม Tomei ไป ตื่นเช้ามาหายเลย


ซ้ายเริ่มฉีดเข็มที่ 1 ขวาคือฉีดครบ 10 ครั้ง

ระหว่างนี้เราใช้ผลิตภัณฑ์เป็นสิวรักษาสิวของยูเชอรีนทั้งหมด ตั้งแต่คลีนซิ่ง โทนเนอร์ เจลล้างหน้า day cream Night cream แต่มีเจลแต้มสิวตอนนั้นใช้ของ smooth E ไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่ ยังไม่ได้เริ่มครีมรักษารอยเลย

หมอที่ The demis บอกอยากให้สิวหายหมดก่อน ถึงค่อยเริ่มทายาลดรอยสิว แต่ตอนนี้ก็ใช้เลเซอร์คู่ไปก่อน

ส่วนตัวเราคือประทับใจมาเด้มาก ราคาในปัจจุบันนั้น ลดถูกลง จนเราแบบอิจฉา แต่ไม่รู้ของที่ At medical ราคาเหลือเท่าไหร่แล้วนะคะ เพราะจบคอร์สตรงนั้น ก็ไม่ได้ไปอีก เราแนะนำคนรอบข้าง ไปทำก็เห็นผลดีกัน แต่จำนวนครั้งต่างกัน บางครั้ง 1-2 ครั้งก็เห็นผล แต่บางคนกว่าจะเห็นผลก็ครั้งที่ 7-8 ก็มี

ค่าใช้จ่ายในการรักษากับที่ At medical clinic ธันวาคม 2014 - ก.พ 2016 = 100,000

ในช่วงปี 2015 ยังมีไปทำ V-beam ที่ The demis เดือนละครั้ง

เดี่ยวมาต่อ Part 3 การรักษารอยสิวนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่