ตอนเราเข้าไปอยู่แรกๆ เราทำงานบ้านให้หมดนะคะ บ้นแฟนอยู่กันมี แม่ สองพี่สาว อายุก็สามสิบกลางๆแล้วค่ะ แฟนเรา 30 เรายี่สิบ ตอนเราเข้าไปแรกเราทำกับข้าวให้แฟนเรากินิชวนที่บ้านเชากิน แรกๆเขาก็กินนะคะ จานชามเราเลยเก็บเพราะไหนๆก็กินด้วยกัน อีกอย่างจานไม่กี่ใบ สบายอยู่แล้ว เพราะที่บ้านเราพ่อแม่เราขายกับข้าวยี่สิบสามสิบหม้อ ยังไม่รวมอุปกรณ์ที่ใช้ทำอีก เราเป็นนักมวยค่ะ เลิกซ้อมก็สองทุ่มกว่า มาถึงบ้านก็รอช่วยแม่เก็บร้าน เก็บทุกอย่างเราทำคนเดียว เพราะไม่อยากใฟ้พ่อกับแม่เหนื่อยมาก จากนั้นก็ล้างทั้งหมด กว่าจะเสร็จอาบน้ำนอนก็เที่ยงคืนกว่าแล้วค่ะ ดังนั้นจานไม่กี่ใบกินรวมกันสามวันเราก็ล้างได้ สบายๆบอกได้เลย ที่บ้านแฟนขี้เกียจมากค่ะ กินเสร็จไม่ล้าง ทิ้งไว้บนโต๊ะมั่ง ซิงค์มั่ง เราเลิกงานกลับมาเห็นแม่แฟนล้าง ก็รู้สึกสงสาร แม่แกก็แก่แล้า ห้าสิบจะหกสิบแล้ว โรคก็เป็นเยอะแยะ สองพี่น้องก็อยู่ไหนไม่รู้ค่ะ เราเลยเก็บแทนแม่ทุกอย่าง ล้างให้ แต่แฟนเราก็บอกตลอดนะว่าถ้าพี่เขากินแล้วทิ้งไว้อย่างนี้ อย่าไปทำเลย เขารู้นิสัยพี่ตัวเองดี ต่อไปก็ได้ใจ ไม่ทำอะไรเลย เราก็บอกไม่เป็นไรหรอก เรามาอยู่บ้านเค้า แค่นี้ทำๆไปเถอะ แล้วหลังค่ะเวลาทำกับข้าวที่บ้านก็ไม่กินกัน ล่นอ้วนบ้าง ลดน้ำหนักบ้าง เราก็โอเค ไม่ทำเผื่อละ เพราะทำเผื่อแล้วไม่มีใครกิน กลับมาเห็นเต็มหม้อเหมือนเดิม เสีย ทิ้ง เราก็เลยไม่ทำ ตอนทำอาหารแฟนเราก็ถามพี่เขานะคะว่ากินไหม พี่แกก็บอกไม่กิน อ้วน เราก็ทำมาเฉพาะกินกันสองคน พอทำเสร็จ ก็ชวนตามมารยาท แต่พี่เขากลับกินจริงซะงั้น เอาไงล่ะ ทำมานิดเดียว เป็นมาม่าซะด้วยวันนั้น แฟนเราโมโหมั้งคะ เลยโพร่งไปว่า เมื่อกี้ตอนถามว่ากินไหม ทำไมบิกว่าไม่กิน? พี่แกก็หยุดกึ้ก แล้วโกรธค่ะ ลุกขึ้นเดินไปแล้วตะโกนใส่หน้าว่า ไม่กินก็ได้วะ เราก็ได้แต่เงียบ เราเป็นคนที่ไม่กล้าคุยกะใครก่อนนะคะถ้าไม่สนิทจริง จะนิ่ง เงียบ ถ้าคุยพี่กับพี่เขาเราก็ฟัง และหัวเราะตาม
มันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่สะสมกันมาอ่ะค่ะ แฟนเราก็ไม่ถูกกับที่บ้านเขาอยู่แล้ว เพราะพ่อแม่เขาให้แฟนเราไปทำงานกรุงเทพตั้งแต่เล็กๆ เมื่อก่อนแฟนรายได้ดี แต่ตอนนั้นเรากับแฟนยังไม่รู้จักกันนะคะ เมื่อประมาณห้าหกปีที่แล้ว ที่บ้านแฟนก็ถือว่ารวยเลยอ่ะค่ะ แต่แฟนเราก็ส่งเงินให้ที่บ้านตลอด จนวันนึง แฟนเราเปิดคาร์แคร์ที่สมุย สาขาแรกก็เป็นไปได้ด้วยดีค่ะ แฟนเราเลยเปิดสาขาสอง สุดท้ายดูแลไม่ทั่วถึง ก็เจ๊งไป เป็นหนี้หลายแสนกับแฟนเก่าเค้า จนต้องเลิกรากันไป พ่อแม่แฟนก็เลยบอกให้แฟนเรากลับมาอยู่บ้าน บ้านอยู่เชียงรายค่ะ แฟนเราก็ไม่อยากกลับ เพราะกลับมาก็ไม่มีอะไรทำ ไม่มีงาน แต่ที่บ้านแฟนก็บอกให้กลับมาๆ แฟนเราก็เลยกลับมา พอกลับมา ที่บ้านแฟนก็บอกให้แฟนเราเอารถยนต์แฟนเราไปขาย เพื่อใช้หนี้ไปก่อน (แต่หนี้ก็ยังคงค้างอยู่หลายแสนเหมือนเดิม) แล้วค่อยใช้รถที่บ้านก็ได้ แฟนเราก็เลยขาย สุดท้ายพอแฟนเราจะใช้รถจริงๆก็ไม่ได้ให้ยืมเลย จนวันนึงเรากับแฟนก็ได้มาพบกันค่ะ คบกันไม่นาน แฟนเราก็บอกให้เรามาอยู่ด้วย เพราะเขาอยากอยู่กับเรา เราก็โอเคร แรกๆก็อยู่หอพักที่ทำงานเราค่ะ พอออกจากงานเก่าก็มาอยู่กับแฟน แต่ค่อยๆมานะคะ ไม่ได้มาพรวดเดียว ที่บ้านแฟนก็ไม่ว่าไรค่ะ ออกจะชอบเราด้วยซ้ำ เราก็ไม่ได้อะไร พาแฟนไปให้พ่อกับแม่เรารู้จัก พ่อแม่ก็ถามว่าอยู่ด้วยกันหรอ เราก็บอกไม่ได้อยู่ ยังไม่พร้อมบอกอ่ะค่ะ แต่ในใจคือรู้ค่ะว่าพ่อกับแม่รู้ ค่ะ เรื่องมันเริ่มขึ้นค่ะ ในวันที่แฟนเรายืมรถพี่สาวเขาไปเอาเงิน พี่สาวบอกไม่ให้ เราก็บอกไม่เป็นไร แฟนเรายืมไปหาลูกค้า แฟนเราเป็นที่ปรึกษาการขายบริษัทรถยนต์นิสสันค่ะ พี่เขาก็ไม่ให้เอา และ
เป็นเรื่องที่ขอความช่วยเหลือ ซึ่งเราก็ไม่ได้ขอเอง ซึ่งคิดในใจอยู่แล้ว ว่า ได้ก็บ้าแล้ว เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้ แต่แฟนอยากลองขอ ก็ตามใจ
ครั้งแรก วานให้คุณพี่เอารถมารับคอมที่เราเอาไปทำงานกลับบ้านให้หน่อย เพราะฝนตกหนัก พี่เขาก็แน่นอนอนอยู่แล้วค่ะว่าไม่ได้ โอเค ไม่ได้ไม่เป็นไร
ครั้งที่สอง พี่ชายเราเข้าโรงบาล วานให้คุณพี่พาพ่อกะแม่เราและเราไปโรงบาลในตัวเมือง แต่ก็รู้อยู่แล้วค่ะว่าไม่ได้ เราบอกกับแฟนตลอดๆๆว่าไม่ต้องไปขอ ที่ผ่านขอเคยได้ไหมก็ไม่เคยได้ ไม่รู้จะขอทำไม ไม่ได้ ไม่เป็นไร
หลังจากนั้นไม่กี่อาทิตย์แฟนพี่เขามาจากกรุงเทพ พี่สาวแฟนโทรมาบอกว่า ให้เอารถไปรับอาที่สนามบินให้หน่อย แฟนเราเลยบอกไปว่า ไม่ เนี่ยแหละค่ะ เราคิดในใจนะคะว่า ตอนเราขอยืมไม่ให้ แต่พอจะใช้นู่นนี่ กลับเป็นอย่างนี้ เรียกเราคนสวยอย่างนั้นอย่างนี้ เวลามีปัญหาอะไรก็เรียกใช้แต่พวกเรานี่แหละค่ะ แฟนเราก็เลยหลังจากนั้นมา แฟนเราก็เลยไม่ยุ่งกับที่บ้านค่ะ บอกเราว่าไม่ต้องไปตามเก็บตามเช็ดให้
แค่นี้ก็ไม่ต้องพูดไรแล้วจ้า ความมีน้ำใจ อย่าไปพูดถึง
คุณพี่วานให้เราตื่นตีห้าหกโมงมาแต่งหน้าเพื่อให้คุณพี่ไปงานแต่งเพื่อนแฟน เราไม่ว่าไร แค่นี้ทำได้ ก็ทำให้
อยากกินอะไรคุณพี่บอกเรา โอเค เราทำให้
ให้ทำให้กินไม่พอ เราต้องไปซื้อวัตถุดิบเอง ตอนทำคุณพี่ยังไม่มาช่วยทำ ไม่เป็นไร กินเสร็จปุ้บ คนนึงเดินไปดูแลคุณลูกในห้องจ้า อีกคนเดินเข้าห้องไปคุยโทรศัพท์ อ้าว ให้ตายสิโรบิ้น!! ต้องเก็บจานไปล้างให้ด้วยค่าาาาาา โอเค้ ไม่เป็นไร จานไม่กี่ใบ เมื่อก่อนล้างเยอะกว่านี้ บ้านแม่เราขายกับข้าวเนาะ ยี่สิบกว่าหม้อเราล้างเองจ้า ยังไม่รวมพวกกระทะ จานชามนะจ้ะไม่อยากเห็นพ่อกับแม่มานั่งล้าง เพราะฉะนั้นแค่นี้สบายๆจ้า ก็เป็นแบบนี้กันเรื่อยมา แต่มาวันนึงวันที่เรากลับจากที่ทำงานดึก และเหนื่อยมาก กลับมาเห็นซิงค์ล้างจานที่เต็มไปด้วยจาน คือในใจเราตกใจมากว่า แบบ เฮ้ย รอเราล้างหรอ??? แฟนเราก็บอก บอกแล้ว ว่าอย่าไปล้างให้ เป็นไงเคยตัวกัน ต่อไปไม่ต้องทำแล้ว เราก็คิดในใจ เฮ้ย ขนาดนี้เลยหรอ ไม่ว่างกันขนาดนี้เลยหรอ ต้องดูแลลูกขนาดนี้เลยหรอ คุยกับแฟนขนาดนี้เลยหรอ หรือว่ายังไงกัน ทั้งๆที่ลูกของคุณพี่คนโตก็อายุไม่น้อยๆแล้วนะ ป.สี่แล้ว ตัวก็โต ทำไมไม่สอนให้ทำบ้าง เคยมีนะครั้งนึง เรากะลังยืนล้างอยู่ คุณลูกแกเดินยื่นจานมาให้เราล้างเลยจ้า คือ งง อ่ะ เด็กอ่ะมันสอนได้อยู่แล้ว ทำไมไม่สอน กินแล้วล้างสิ จานสองสามใบเอง โอเคไม่ได้ว่าอะไร หลังจากวันนั้นที่แฟนบอกไม่ต้องล้างจานให้แล้ว พี่ๆแกก็มีเอฟเฟคกันจ้า สะสมสะสมมาเรื่อยๆ จากเรื่องนึงก็ลามไปเรื่องนึง ตอนนี้ก็กลายเป็นทุกเรื่องละค่ะ เราทำอะไรก็แย่ไปซะหมด แต่ลอกเลยเราไม่กลับสักนิด ไปเล่าให้ใครฟังก็มีแต่คนบอกปัญญาอ่อน จะขี้เกียจกันไปหน๊ายยยยย ครั้งนึง พี่แกทำไก่ทอดมั้ง แล้วกินไม่หมด ก็ใส่ถ้วยเล็กๆวางไว้บนไมโครเวฟ เราก็รอดูว่าวันไหนจะเอาไปล้าง สองวันก็แล้ว สามวันก็แล้ว สี่วันก็แล้ว จนราขึ้นเป็นสีเขียวหมดอ่ะค่ะ คิดดูว่ามันนานขนาดไหน นานจนเราลืมนับไปเลย ทุเรศมาก บอกตรงๆ นิสัยแค่นี้ฝึกกันไม่ได้เลยเนอะ แค่กินเสร็จแล้วล้าง เราล้างให้ได้นะไม่มีปัญหา แต่พอเห็นเราทำให้ กลับยิ่งไม่มีความเกรงใจ กินเสร็จละกองทิ้งไว้รอให้เรามาล้างอย่างเดียวอ่ะ เกินไปบางทีก็ อยากได้คนใช้ก็จ้างสิคะ หรือก็ใช้ลูกตัวเองล้างสิคะ เรามาอยู่บ้านนี้ไม่เค้ย ไม่เคยยุ่งไรกับพวกพี่แกเลยจ้า ถ้าพี่เขาไม่มาคุยด้วย เราก็ไม่กล้าเข้าไปคุยหรอก ขนาดพี่แกมานั่งเล่าแต่เรื่องแฟนสุดแสนดีของแก เรายังทำได้แต่นั่งฟัง และหัวเราะตามอย่างเดียว พี่แกก็เก่งมากก เล่าได้ทุกวัน ว่าแฟนพี่แกนะ ส่งเงินมาให้ทุกเดือน ซื้อทองให้พี่อก ให้แม่แก บลาบลา เพิ่งจะมารู้ทีหลังจ้าว่า ซื้อทองให้จริง และเงินที่ส่งมาให้พี่แกนั่นน่ะ ไม่ได้เอาให้ใช้นะคะ เอาไปผ่อนทองต่อ อุ้ยยย อยากจะหัวเราะ ทำแบบนี้ให้ก็ทำได้จ้า อวดรวย มิหนำซ้ำเงินที่แฟนพี่แกส่งให้ ยังผ่อนทองไม่พอเลยจ้า ยังมีอีกนะ แฟนพี่มาขอยืมเงินพี่แกไปไม่รู้เท่าไหร่เป็นเท่าไหร่ เรื่องนี้พี่แกไม่เห็นจะมาอวดเลยจ้า แฟนพี่แกเป็นคนดีมาก ประจบพ่อ ประจบแม่ซื้อนู่นให้ซื้อนี่ให้ สุดท้ายเป็นไงคะ แฟนพี่แกแอบไปมีคนอื่น เรานี่สมน้ำหน้าาา แบบนั้นใช่ไหมถึงจะเป็นคนดีในสายตาพวกพี่ๆ พี่แกมาว่าให้เรา ว่าตั้งแต่แฟนเราคบแฟนมาเรานี่แย่สุด เรายอมแย่จ้า เรารู้นิสัยเราเองดีที่สุด เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำมันไม่มีอะไรผิดเลย พ่อแม่พี่แกก็คงจะรู้สันดานลูกตัวเองอยู่แล้วล่ะค่ะ ถึงเราจะไม่ได้ดูเป็คนดีในสายตาครอบครัวแฟน อีกเหตุผลหนึ่งคงเป็นเพราะ เราไม่ชอบพูดค่ะ ชอบนิ่งๆเงียบๆ จะคุยก็แต่กับแฟน คือคนที่ไม่สนิทจะดูว่าเราหยิ่ง แต่ถ้าคนที่เราไว้ใจและเปิดใจให้แล้ว เราไม่หยิ่งเลย แฟนเรารู้นิสัยเราค่ะ เราต้องขอโทษครอบครัวแฟนด้วยค่ะ ที่ประจบไม่เป็น พูดจาชื่นชมไม่เป็น ซื้อทองให้ไม่ได้ พาไปกินเอ็มเคไม่ได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือ เราคอยทำอาหารให้แม่ในตอนเย็นและทำเผื่อให้แม่เอาไปกินในตอนเช้าและเที่ยงในทุกๆวัน เราทำได้แค่นี้ค่ะ ซึ่งไม่เคยมีใครมองจุดนี้เลย คงเป็นเพราะมันไม่ต้องตาเหมือนแสงของทองของเงินมั้งคะ เรายอมให้ทุกคนมองเราแย่ค่ะ เพราะพ่อแม่ และแฟนเรา เขารู้ค่ะว่าสันดานเราเป็นยังไง เราไม่สนใจค่ะ คิดเสมอว่า เราไม่ได้ขอข้าวพวกเขากิน บ้านเรามีให้อยู่ แต่ที่มาอยู่บ้านแฟนเพราะแฟนอยากให้เราอยู่ด้วย ครอบครังแฟนเรารวยค่ะ แต่แฟนเราไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไร เงินเดือน 7,xxx เป็นที่ปรึกษาการขายรถยนต์ค่ะ บางเดือนขายเยอะ ก็ได้ค่าคอมเยอะ บางเดือนขายไม่ได้ลย ก็ตามมีตามเกิดค่ะ 7,xxx กว่า หักค่าประกัน ค่าหนี้ ค่าผ่อนแอร์ ช่วยค่าไฟ ค่าไวไฟ ก็ปาไปหกพันกว่าแล้วค่ะ แต่ก็พอมีเงินเดือนเรานิดหน่อยหกพัน ช่วงนั้นไม่มีเงินเก็บเลยค่ะ เพราะเป็นหน้าฝน ขายรถไม่ได้ แฟนเราก็มีหนี้อยู่หลายแสนบาทค่ะ เป็นหนี้ที่สร้างมากับแฟนเก่าเค้า เราก็โอเค ไม่เป็นไร ช่วยๆกัน ที่ทำทั้งหมดไม่ใช่โง่หรืออะไรค่ะ แต่รักเค้าค่ะ ต้องทนอยู่บ้านแฟน ต้องพบเจอแต่เรื่องแบบนี้ พี่ๆของเค้า อึดอัดมากค่ะ ทน แฟนบอกให้อดทนนะ เดี๋ยวเราจะไปอยู่ที่อื่นกัน เราก็ทนค่ะ ร้องไห้ทุกคืน อึดอัด อยากจะด่าให้หมด แต่เห็นแก่เเฟนค่ะ จนวันนึงสองพี่น้องแกก็โพสต์ค่ะว่า อย่าไปยุ่งกับมัน หรือ อย่าเนรคุณ ซึ่งถ้าได้อ่านแล้วมาเจอสถานการณ์ที่สองพี่น้องแกทำนะคะ ทั้งแขวะทั้งไม่มองหน้า มีหมดค่ะ ก็รู้ได้เลยว่าพี่แกด่าเรา เราก็งง อ่าว ว่าเราแบบนี้ได้ไง ใช้คำแบบนี้กับเราหรอ เราก็เลยโพสบ้างค่ะว่า อย่าเอาเรื่องไร้สาระมาคิด พอเช้ามาเอฟเฟคเต็มเฟสจ้า สองศรีพี่น้องโพสต์เฟสแกตอบโพสต์เฟสเราเลยจ้า ใช้คำหยาบขึ้นกูกับเรา ทำให้รู้ว่า พี่เขาด่าเราจริงๆ หลังจากนั้นเราไม่ยอมค่ะ ทนไม่ไหว ยอมมาหมดทุกอย่าง อยู่ๆจะมาด่าแบบนี้ได้ไง เรามีพ่อมีแม่นะ คนเหมือนกัน ด่ามาด่ากลับสิคะ ไม่โกง พอเห็นเราตอบโต้ พี่แหรับไม่ได้ค่า วิ่งแจ้นไปฟ้องพ่อแม่แก ว่าเราทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ ซึ่งพ่อแม่แกก็ไม่เคยมาถามฝั่งเราเลยว่าจริงไหม? เราน้อยใจ เสียใจมากค่ะ ที่ทั้งครอบครัวแฟนไม่มีใคนชอบเราเลย เพียงเพราะเราไม่ชอบประจบเหมือนแฟนคุณพี่เขา เราซื้อทองให้ไม่ได้ พาไปกินอาหารดีๆไม่ได้ เสียใจจริงๆ ก็ต้องทนโดนสองพี่น้องว่าเราให้พ่อแม่แกฟังทุกวัน ตอนนั้นทำอะไรก็ไม่ดีสักอย่างแล้วค่ะ เราเลยตัดสินใจไม่ทำมันละช่างเถอะ อะไรจะเกิดก็ปล่อยมันเกิด เราทนมาพอแล้วกับนิสัยแย่ๆของพวกพี่แกมาเกือบหนึ่งปี อดทนจริงๆเลยเรา ถึงวันที่ต้องแตกหักค่ะ เราบอกพ่อแกว่า มาคุยกันเลย พอได้คุยกันอย่างว่านะคะ พ่อแม่ก็ต้องเข้าข้างลูก เราพูดไรไม่ได้เลย พี่สองคนพูดแทรกตลอด กลัวเราพูดแย่ง ไม่มีมารยาทมากค่ะ คนปากตลาด น่ารำคาญ หนวกหูเสียงดังแว้ดๆ พี่แกบอกออกมาเต็มปากค่ะว่า เมื่อก่อนก็ทำดี แต่เดี๋ยวนี้ จานแค่ใบสองใบก็ไม่ล้างให้ เราคิดในใจ อ้าว ทำไมกินเสร็จไม่เก็บไปล้างเลยอ่ะ ต้องรอให้เรามาล้างใช่ไหม? หรือ ทำไมไม่สอนให้ลูกคุณล้าง? เรางงค่ะ เราไม่ใช่คนใช้ ที่ต้องคอยตามเช็ดตามถูให้ เราเลยบอกแฟนว่าเราไม่ทนแล้ว แฟนเราก็ทนช้านนี้ไม่ไหวเหมือนกันค่ะ ใจแคบ แล้งน้ำใจ หวังจะให้คนอื่นให้พวกเขาอย่างเดียว ก็เลยตัดสินใจ มาบอกพ่อเราตาะ ว่าขอไปอยู่บ้านอีกหลังของเรา เราก็บอกพ่อถึงเรื่องราวทั้งหมด พ่อเราก็เข้าใจในทันทีค่ะ พ่อเราเลยบอกว่า ไม่เป็นไร ในเมื่อเราเลือกแฟนเราแล้ว และแฟนเรารับปากกับพ่อว่าจะดูแลเราแล้ว พ่ออนุญาตให้ไปอยู่ ไม่ต้องสนใจใคร มันไม่ถูก แต่มันคือความสุขของลูก ถึงลูกจะอยู่บ้านนั้นต่อก็ไม่มีความสุข ญาติพี่น้อ
สองพี่สาวแฟนไม่ชอบเรา เพราะเราไม่ล้างจานให้
มันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่สะสมกันมาอ่ะค่ะ แฟนเราก็ไม่ถูกกับที่บ้านเขาอยู่แล้ว เพราะพ่อแม่เขาให้แฟนเราไปทำงานกรุงเทพตั้งแต่เล็กๆ เมื่อก่อนแฟนรายได้ดี แต่ตอนนั้นเรากับแฟนยังไม่รู้จักกันนะคะ เมื่อประมาณห้าหกปีที่แล้ว ที่บ้านแฟนก็ถือว่ารวยเลยอ่ะค่ะ แต่แฟนเราก็ส่งเงินให้ที่บ้านตลอด จนวันนึง แฟนเราเปิดคาร์แคร์ที่สมุย สาขาแรกก็เป็นไปได้ด้วยดีค่ะ แฟนเราเลยเปิดสาขาสอง สุดท้ายดูแลไม่ทั่วถึง ก็เจ๊งไป เป็นหนี้หลายแสนกับแฟนเก่าเค้า จนต้องเลิกรากันไป พ่อแม่แฟนก็เลยบอกให้แฟนเรากลับมาอยู่บ้าน บ้านอยู่เชียงรายค่ะ แฟนเราก็ไม่อยากกลับ เพราะกลับมาก็ไม่มีอะไรทำ ไม่มีงาน แต่ที่บ้านแฟนก็บอกให้กลับมาๆ แฟนเราก็เลยกลับมา พอกลับมา ที่บ้านแฟนก็บอกให้แฟนเราเอารถยนต์แฟนเราไปขาย เพื่อใช้หนี้ไปก่อน (แต่หนี้ก็ยังคงค้างอยู่หลายแสนเหมือนเดิม) แล้วค่อยใช้รถที่บ้านก็ได้ แฟนเราก็เลยขาย สุดท้ายพอแฟนเราจะใช้รถจริงๆก็ไม่ได้ให้ยืมเลย จนวันนึงเรากับแฟนก็ได้มาพบกันค่ะ คบกันไม่นาน แฟนเราก็บอกให้เรามาอยู่ด้วย เพราะเขาอยากอยู่กับเรา เราก็โอเคร แรกๆก็อยู่หอพักที่ทำงานเราค่ะ พอออกจากงานเก่าก็มาอยู่กับแฟน แต่ค่อยๆมานะคะ ไม่ได้มาพรวดเดียว ที่บ้านแฟนก็ไม่ว่าไรค่ะ ออกจะชอบเราด้วยซ้ำ เราก็ไม่ได้อะไร พาแฟนไปให้พ่อกับแม่เรารู้จัก พ่อแม่ก็ถามว่าอยู่ด้วยกันหรอ เราก็บอกไม่ได้อยู่ ยังไม่พร้อมบอกอ่ะค่ะ แต่ในใจคือรู้ค่ะว่าพ่อกับแม่รู้ ค่ะ เรื่องมันเริ่มขึ้นค่ะ ในวันที่แฟนเรายืมรถพี่สาวเขาไปเอาเงิน พี่สาวบอกไม่ให้ เราก็บอกไม่เป็นไร แฟนเรายืมไปหาลูกค้า แฟนเราเป็นที่ปรึกษาการขายบริษัทรถยนต์นิสสันค่ะ พี่เขาก็ไม่ให้เอา และ
เป็นเรื่องที่ขอความช่วยเหลือ ซึ่งเราก็ไม่ได้ขอเอง ซึ่งคิดในใจอยู่แล้ว ว่า ได้ก็บ้าแล้ว เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้ แต่แฟนอยากลองขอ ก็ตามใจ
ครั้งแรก วานให้คุณพี่เอารถมารับคอมที่เราเอาไปทำงานกลับบ้านให้หน่อย เพราะฝนตกหนัก พี่เขาก็แน่นอนอนอยู่แล้วค่ะว่าไม่ได้ โอเค ไม่ได้ไม่เป็นไร
ครั้งที่สอง พี่ชายเราเข้าโรงบาล วานให้คุณพี่พาพ่อกะแม่เราและเราไปโรงบาลในตัวเมือง แต่ก็รู้อยู่แล้วค่ะว่าไม่ได้ เราบอกกับแฟนตลอดๆๆว่าไม่ต้องไปขอ ที่ผ่านขอเคยได้ไหมก็ไม่เคยได้ ไม่รู้จะขอทำไม ไม่ได้ ไม่เป็นไร
หลังจากนั้นไม่กี่อาทิตย์แฟนพี่เขามาจากกรุงเทพ พี่สาวแฟนโทรมาบอกว่า ให้เอารถไปรับอาที่สนามบินให้หน่อย แฟนเราเลยบอกไปว่า ไม่ เนี่ยแหละค่ะ เราคิดในใจนะคะว่า ตอนเราขอยืมไม่ให้ แต่พอจะใช้นู่นนี่ กลับเป็นอย่างนี้ เรียกเราคนสวยอย่างนั้นอย่างนี้ เวลามีปัญหาอะไรก็เรียกใช้แต่พวกเรานี่แหละค่ะ แฟนเราก็เลยหลังจากนั้นมา แฟนเราก็เลยไม่ยุ่งกับที่บ้านค่ะ บอกเราว่าไม่ต้องไปตามเก็บตามเช็ดให้
แค่นี้ก็ไม่ต้องพูดไรแล้วจ้า ความมีน้ำใจ อย่าไปพูดถึง
คุณพี่วานให้เราตื่นตีห้าหกโมงมาแต่งหน้าเพื่อให้คุณพี่ไปงานแต่งเพื่อนแฟน เราไม่ว่าไร แค่นี้ทำได้ ก็ทำให้
อยากกินอะไรคุณพี่บอกเรา โอเค เราทำให้
ให้ทำให้กินไม่พอ เราต้องไปซื้อวัตถุดิบเอง ตอนทำคุณพี่ยังไม่มาช่วยทำ ไม่เป็นไร กินเสร็จปุ้บ คนนึงเดินไปดูแลคุณลูกในห้องจ้า อีกคนเดินเข้าห้องไปคุยโทรศัพท์ อ้าว ให้ตายสิโรบิ้น!! ต้องเก็บจานไปล้างให้ด้วยค่าาาาาา โอเค้ ไม่เป็นไร จานไม่กี่ใบ เมื่อก่อนล้างเยอะกว่านี้ บ้านแม่เราขายกับข้าวเนาะ ยี่สิบกว่าหม้อเราล้างเองจ้า ยังไม่รวมพวกกระทะ จานชามนะจ้ะไม่อยากเห็นพ่อกับแม่มานั่งล้าง เพราะฉะนั้นแค่นี้สบายๆจ้า ก็เป็นแบบนี้กันเรื่อยมา แต่มาวันนึงวันที่เรากลับจากที่ทำงานดึก และเหนื่อยมาก กลับมาเห็นซิงค์ล้างจานที่เต็มไปด้วยจาน คือในใจเราตกใจมากว่า แบบ เฮ้ย รอเราล้างหรอ??? แฟนเราก็บอก บอกแล้ว ว่าอย่าไปล้างให้ เป็นไงเคยตัวกัน ต่อไปไม่ต้องทำแล้ว เราก็คิดในใจ เฮ้ย ขนาดนี้เลยหรอ ไม่ว่างกันขนาดนี้เลยหรอ ต้องดูแลลูกขนาดนี้เลยหรอ คุยกับแฟนขนาดนี้เลยหรอ หรือว่ายังไงกัน ทั้งๆที่ลูกของคุณพี่คนโตก็อายุไม่น้อยๆแล้วนะ ป.สี่แล้ว ตัวก็โต ทำไมไม่สอนให้ทำบ้าง เคยมีนะครั้งนึง เรากะลังยืนล้างอยู่ คุณลูกแกเดินยื่นจานมาให้เราล้างเลยจ้า คือ งง อ่ะ เด็กอ่ะมันสอนได้อยู่แล้ว ทำไมไม่สอน กินแล้วล้างสิ จานสองสามใบเอง โอเคไม่ได้ว่าอะไร หลังจากวันนั้นที่แฟนบอกไม่ต้องล้างจานให้แล้ว พี่ๆแกก็มีเอฟเฟคกันจ้า สะสมสะสมมาเรื่อยๆ จากเรื่องนึงก็ลามไปเรื่องนึง ตอนนี้ก็กลายเป็นทุกเรื่องละค่ะ เราทำอะไรก็แย่ไปซะหมด แต่ลอกเลยเราไม่กลับสักนิด ไปเล่าให้ใครฟังก็มีแต่คนบอกปัญญาอ่อน จะขี้เกียจกันไปหน๊ายยยยย ครั้งนึง พี่แกทำไก่ทอดมั้ง แล้วกินไม่หมด ก็ใส่ถ้วยเล็กๆวางไว้บนไมโครเวฟ เราก็รอดูว่าวันไหนจะเอาไปล้าง สองวันก็แล้ว สามวันก็แล้ว สี่วันก็แล้ว จนราขึ้นเป็นสีเขียวหมดอ่ะค่ะ คิดดูว่ามันนานขนาดไหน นานจนเราลืมนับไปเลย ทุเรศมาก บอกตรงๆ นิสัยแค่นี้ฝึกกันไม่ได้เลยเนอะ แค่กินเสร็จแล้วล้าง เราล้างให้ได้นะไม่มีปัญหา แต่พอเห็นเราทำให้ กลับยิ่งไม่มีความเกรงใจ กินเสร็จละกองทิ้งไว้รอให้เรามาล้างอย่างเดียวอ่ะ เกินไปบางทีก็ อยากได้คนใช้ก็จ้างสิคะ หรือก็ใช้ลูกตัวเองล้างสิคะ เรามาอยู่บ้านนี้ไม่เค้ย ไม่เคยยุ่งไรกับพวกพี่แกเลยจ้า ถ้าพี่เขาไม่มาคุยด้วย เราก็ไม่กล้าเข้าไปคุยหรอก ขนาดพี่แกมานั่งเล่าแต่เรื่องแฟนสุดแสนดีของแก เรายังทำได้แต่นั่งฟัง และหัวเราะตามอย่างเดียว พี่แกก็เก่งมากก เล่าได้ทุกวัน ว่าแฟนพี่แกนะ ส่งเงินมาให้ทุกเดือน ซื้อทองให้พี่อก ให้แม่แก บลาบลา เพิ่งจะมารู้ทีหลังจ้าว่า ซื้อทองให้จริง และเงินที่ส่งมาให้พี่แกนั่นน่ะ ไม่ได้เอาให้ใช้นะคะ เอาไปผ่อนทองต่อ อุ้ยยย อยากจะหัวเราะ ทำแบบนี้ให้ก็ทำได้จ้า อวดรวย มิหนำซ้ำเงินที่แฟนพี่แกส่งให้ ยังผ่อนทองไม่พอเลยจ้า ยังมีอีกนะ แฟนพี่มาขอยืมเงินพี่แกไปไม่รู้เท่าไหร่เป็นเท่าไหร่ เรื่องนี้พี่แกไม่เห็นจะมาอวดเลยจ้า แฟนพี่แกเป็นคนดีมาก ประจบพ่อ ประจบแม่ซื้อนู่นให้ซื้อนี่ให้ สุดท้ายเป็นไงคะ แฟนพี่แกแอบไปมีคนอื่น เรานี่สมน้ำหน้าาา แบบนั้นใช่ไหมถึงจะเป็นคนดีในสายตาพวกพี่ๆ พี่แกมาว่าให้เรา ว่าตั้งแต่แฟนเราคบแฟนมาเรานี่แย่สุด เรายอมแย่จ้า เรารู้นิสัยเราเองดีที่สุด เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำมันไม่มีอะไรผิดเลย พ่อแม่พี่แกก็คงจะรู้สันดานลูกตัวเองอยู่แล้วล่ะค่ะ ถึงเราจะไม่ได้ดูเป็คนดีในสายตาครอบครัวแฟน อีกเหตุผลหนึ่งคงเป็นเพราะ เราไม่ชอบพูดค่ะ ชอบนิ่งๆเงียบๆ จะคุยก็แต่กับแฟน คือคนที่ไม่สนิทจะดูว่าเราหยิ่ง แต่ถ้าคนที่เราไว้ใจและเปิดใจให้แล้ว เราไม่หยิ่งเลย แฟนเรารู้นิสัยเราค่ะ เราต้องขอโทษครอบครัวแฟนด้วยค่ะ ที่ประจบไม่เป็น พูดจาชื่นชมไม่เป็น ซื้อทองให้ไม่ได้ พาไปกินเอ็มเคไม่ได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือ เราคอยทำอาหารให้แม่ในตอนเย็นและทำเผื่อให้แม่เอาไปกินในตอนเช้าและเที่ยงในทุกๆวัน เราทำได้แค่นี้ค่ะ ซึ่งไม่เคยมีใครมองจุดนี้เลย คงเป็นเพราะมันไม่ต้องตาเหมือนแสงของทองของเงินมั้งคะ เรายอมให้ทุกคนมองเราแย่ค่ะ เพราะพ่อแม่ และแฟนเรา เขารู้ค่ะว่าสันดานเราเป็นยังไง เราไม่สนใจค่ะ คิดเสมอว่า เราไม่ได้ขอข้าวพวกเขากิน บ้านเรามีให้อยู่ แต่ที่มาอยู่บ้านแฟนเพราะแฟนอยากให้เราอยู่ด้วย ครอบครังแฟนเรารวยค่ะ แต่แฟนเราไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไร เงินเดือน 7,xxx เป็นที่ปรึกษาการขายรถยนต์ค่ะ บางเดือนขายเยอะ ก็ได้ค่าคอมเยอะ บางเดือนขายไม่ได้ลย ก็ตามมีตามเกิดค่ะ 7,xxx กว่า หักค่าประกัน ค่าหนี้ ค่าผ่อนแอร์ ช่วยค่าไฟ ค่าไวไฟ ก็ปาไปหกพันกว่าแล้วค่ะ แต่ก็พอมีเงินเดือนเรานิดหน่อยหกพัน ช่วงนั้นไม่มีเงินเก็บเลยค่ะ เพราะเป็นหน้าฝน ขายรถไม่ได้ แฟนเราก็มีหนี้อยู่หลายแสนบาทค่ะ เป็นหนี้ที่สร้างมากับแฟนเก่าเค้า เราก็โอเค ไม่เป็นไร ช่วยๆกัน ที่ทำทั้งหมดไม่ใช่โง่หรืออะไรค่ะ แต่รักเค้าค่ะ ต้องทนอยู่บ้านแฟน ต้องพบเจอแต่เรื่องแบบนี้ พี่ๆของเค้า อึดอัดมากค่ะ ทน แฟนบอกให้อดทนนะ เดี๋ยวเราจะไปอยู่ที่อื่นกัน เราก็ทนค่ะ ร้องไห้ทุกคืน อึดอัด อยากจะด่าให้หมด แต่เห็นแก่เเฟนค่ะ จนวันนึงสองพี่น้องแกก็โพสต์ค่ะว่า อย่าไปยุ่งกับมัน หรือ อย่าเนรคุณ ซึ่งถ้าได้อ่านแล้วมาเจอสถานการณ์ที่สองพี่น้องแกทำนะคะ ทั้งแขวะทั้งไม่มองหน้า มีหมดค่ะ ก็รู้ได้เลยว่าพี่แกด่าเรา เราก็งง อ่าว ว่าเราแบบนี้ได้ไง ใช้คำแบบนี้กับเราหรอ เราก็เลยโพสบ้างค่ะว่า อย่าเอาเรื่องไร้สาระมาคิด พอเช้ามาเอฟเฟคเต็มเฟสจ้า สองศรีพี่น้องโพสต์เฟสแกตอบโพสต์เฟสเราเลยจ้า ใช้คำหยาบขึ้นกูกับเรา ทำให้รู้ว่า พี่เขาด่าเราจริงๆ หลังจากนั้นเราไม่ยอมค่ะ ทนไม่ไหว ยอมมาหมดทุกอย่าง อยู่ๆจะมาด่าแบบนี้ได้ไง เรามีพ่อมีแม่นะ คนเหมือนกัน ด่ามาด่ากลับสิคะ ไม่โกง พอเห็นเราตอบโต้ พี่แหรับไม่ได้ค่า วิ่งแจ้นไปฟ้องพ่อแม่แก ว่าเราทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ ซึ่งพ่อแม่แกก็ไม่เคยมาถามฝั่งเราเลยว่าจริงไหม? เราน้อยใจ เสียใจมากค่ะ ที่ทั้งครอบครัวแฟนไม่มีใคนชอบเราเลย เพียงเพราะเราไม่ชอบประจบเหมือนแฟนคุณพี่เขา เราซื้อทองให้ไม่ได้ พาไปกินอาหารดีๆไม่ได้ เสียใจจริงๆ ก็ต้องทนโดนสองพี่น้องว่าเราให้พ่อแม่แกฟังทุกวัน ตอนนั้นทำอะไรก็ไม่ดีสักอย่างแล้วค่ะ เราเลยตัดสินใจไม่ทำมันละช่างเถอะ อะไรจะเกิดก็ปล่อยมันเกิด เราทนมาพอแล้วกับนิสัยแย่ๆของพวกพี่แกมาเกือบหนึ่งปี อดทนจริงๆเลยเรา ถึงวันที่ต้องแตกหักค่ะ เราบอกพ่อแกว่า มาคุยกันเลย พอได้คุยกันอย่างว่านะคะ พ่อแม่ก็ต้องเข้าข้างลูก เราพูดไรไม่ได้เลย พี่สองคนพูดแทรกตลอด กลัวเราพูดแย่ง ไม่มีมารยาทมากค่ะ คนปากตลาด น่ารำคาญ หนวกหูเสียงดังแว้ดๆ พี่แกบอกออกมาเต็มปากค่ะว่า เมื่อก่อนก็ทำดี แต่เดี๋ยวนี้ จานแค่ใบสองใบก็ไม่ล้างให้ เราคิดในใจ อ้าว ทำไมกินเสร็จไม่เก็บไปล้างเลยอ่ะ ต้องรอให้เรามาล้างใช่ไหม? หรือ ทำไมไม่สอนให้ลูกคุณล้าง? เรางงค่ะ เราไม่ใช่คนใช้ ที่ต้องคอยตามเช็ดตามถูให้ เราเลยบอกแฟนว่าเราไม่ทนแล้ว แฟนเราก็ทนช้านนี้ไม่ไหวเหมือนกันค่ะ ใจแคบ แล้งน้ำใจ หวังจะให้คนอื่นให้พวกเขาอย่างเดียว ก็เลยตัดสินใจ มาบอกพ่อเราตาะ ว่าขอไปอยู่บ้านอีกหลังของเรา เราก็บอกพ่อถึงเรื่องราวทั้งหมด พ่อเราก็เข้าใจในทันทีค่ะ พ่อเราเลยบอกว่า ไม่เป็นไร ในเมื่อเราเลือกแฟนเราแล้ว และแฟนเรารับปากกับพ่อว่าจะดูแลเราแล้ว พ่ออนุญาตให้ไปอยู่ ไม่ต้องสนใจใคร มันไม่ถูก แต่มันคือความสุขของลูก ถึงลูกจะอยู่บ้านนั้นต่อก็ไม่มีความสุข ญาติพี่น้อ