เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ 13 ปีที่แล้ว...
บ้านของคนต่างจังหวัดส่วนมากจะเป็นครึ่งตึกครึ่งไม้ โดยชั้นล่างจะเป็นปูนชั้นสองจะเป็นไม้ บ้านของเราก็เช่นกัน
ที่บ้านเราเมื่อก่อนได้ทำธุรกิจขายเรือนไม้เก่า คือจะไปหารื้อบ้านไม้เก่า พวกศาลาวัด หรือโรงเรียนที่เป็นไม้ มาวางขายเป็นแผ่นๆที่บ้าน
ตอนนั้นเราประมาณ 10 ขวบ พ่อก็ได้ทำห้องนอนให้เราใหม่ ให้แยกนอนกับพ่อแม่ โดยใช้ไม้อัดมาขั้นห้องให้ติดกับห้องท่านบนชั้นสอง
แต่ช่วงนั้นพ่อกับแม่ไม่นอนที่ห้องนั้นเเล้ว เนื่องจากมีน้องก็ได้มานอนชั้นล่าง เราก็ย้ายไปนอนห้องใหม่ที่พ่อทำให้
ประตูห้องนอนก็เป็นประตูไม้ดูเก่าแต่สภาพดี มีรอยปากกาเมจิกเขียนเป็นเหมือนรูปยันต์ไว้บนประตู
ไปนอนคืนแรกได้ยินเสียงเหมือนคนตัดเล็บอยู่ที่ปลายเตียง เเต็บ..เเต็บ..เเต็บ
เราก็ไม่สนใจคิดว่าไม้คงดีดตัวมั้งเลยเกิดเสียงซักพักก็หลับไป
วันต่อมาเข้านอนปกติก็ได้ยินเสียงเหมือนเดิม แต่มีวันนึงนอนไม่หลับเพราะมันดังกว่าทุกวันที่ได้ยิน
เลยลุกมานั่งมองไปที่ปลายเตียงเสียงก็เงียบไปเลย พอนอนลงอีกครั้งก็มีเสียงขึ้นมาอีก เป็นแบบนี้ประมาณสามรอบ
ก็เริ่มกลัวเลยคิดว่าจะไปนอนกับแม่ที่ชั้นล่าง พอก้าวขาลงจากเตียงได้ ก็เกิดอาการขาสั่นและเย็บวูบขึ้นมา เลยรีบวิ่งลงบันไดไป
เช้ามาเล่าให้แม่และป้าฟัง ว่าได้ยินเหมือนเสียงคนตัดเล็บเลยอยู่บนห้องพอลุกขึ้นนั่งมองดูเสียงก็เงียบไปเลย
ป้าเลยพูดแทรกขึ้นว่า เอ้อ..ที่บ้านก็ไม่รู้ใครมาตัดเล็บใส่เต็มเตียงหน้าบ้านเยอะเลยกวาดทิ้งเมื่อเช้าหนิ (ป้าไม่อยู่บ้านหลายวัน)
เราก็ไม่คิดอะไรต่อเลยบอกพ่อว่าเปลี่ยนประตูห้องนอนให้ได้มั้ยรู้สึกกลัวเห็นมียันต์ละมีเสียงแปลกๆ ได้ประตูมาจากไหน
ตาเลยบอกว่าประตูนั้นเอามาจากวัดที่พึ่งไปรื้อมา พ่อก็ทำการเปลี่ยนประตูให้ใหม่วันต่อมา
หลังจากเปลี่ยนประตูใหม่เราก็กลับเข้าไปนอนก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเลย
แต่ทุกวันนี้ไม่มีใครนอนห้องนั้นเเล้วและที่บ้านก็เลิกขายไม้เก่าเปลี่ยนมาขายไม้ใหม่
......นั่นแหละเสียงที่ได้ยิน เเต็บ..เเต็บ..เเต็บ เสียงตัดเล็บชัดๆแต่ไม่รู้ใคร
เสียงอะไรที่ปลายเตียง
บ้านของคนต่างจังหวัดส่วนมากจะเป็นครึ่งตึกครึ่งไม้ โดยชั้นล่างจะเป็นปูนชั้นสองจะเป็นไม้ บ้านของเราก็เช่นกัน
ที่บ้านเราเมื่อก่อนได้ทำธุรกิจขายเรือนไม้เก่า คือจะไปหารื้อบ้านไม้เก่า พวกศาลาวัด หรือโรงเรียนที่เป็นไม้ มาวางขายเป็นแผ่นๆที่บ้าน
ตอนนั้นเราประมาณ 10 ขวบ พ่อก็ได้ทำห้องนอนให้เราใหม่ ให้แยกนอนกับพ่อแม่ โดยใช้ไม้อัดมาขั้นห้องให้ติดกับห้องท่านบนชั้นสอง
แต่ช่วงนั้นพ่อกับแม่ไม่นอนที่ห้องนั้นเเล้ว เนื่องจากมีน้องก็ได้มานอนชั้นล่าง เราก็ย้ายไปนอนห้องใหม่ที่พ่อทำให้
ประตูห้องนอนก็เป็นประตูไม้ดูเก่าแต่สภาพดี มีรอยปากกาเมจิกเขียนเป็นเหมือนรูปยันต์ไว้บนประตู
ไปนอนคืนแรกได้ยินเสียงเหมือนคนตัดเล็บอยู่ที่ปลายเตียง เเต็บ..เเต็บ..เเต็บ
เราก็ไม่สนใจคิดว่าไม้คงดีดตัวมั้งเลยเกิดเสียงซักพักก็หลับไป
วันต่อมาเข้านอนปกติก็ได้ยินเสียงเหมือนเดิม แต่มีวันนึงนอนไม่หลับเพราะมันดังกว่าทุกวันที่ได้ยิน
เลยลุกมานั่งมองไปที่ปลายเตียงเสียงก็เงียบไปเลย พอนอนลงอีกครั้งก็มีเสียงขึ้นมาอีก เป็นแบบนี้ประมาณสามรอบ
ก็เริ่มกลัวเลยคิดว่าจะไปนอนกับแม่ที่ชั้นล่าง พอก้าวขาลงจากเตียงได้ ก็เกิดอาการขาสั่นและเย็บวูบขึ้นมา เลยรีบวิ่งลงบันไดไป
เช้ามาเล่าให้แม่และป้าฟัง ว่าได้ยินเหมือนเสียงคนตัดเล็บเลยอยู่บนห้องพอลุกขึ้นนั่งมองดูเสียงก็เงียบไปเลย
ป้าเลยพูดแทรกขึ้นว่า เอ้อ..ที่บ้านก็ไม่รู้ใครมาตัดเล็บใส่เต็มเตียงหน้าบ้านเยอะเลยกวาดทิ้งเมื่อเช้าหนิ (ป้าไม่อยู่บ้านหลายวัน)
เราก็ไม่คิดอะไรต่อเลยบอกพ่อว่าเปลี่ยนประตูห้องนอนให้ได้มั้ยรู้สึกกลัวเห็นมียันต์ละมีเสียงแปลกๆ ได้ประตูมาจากไหน
ตาเลยบอกว่าประตูนั้นเอามาจากวัดที่พึ่งไปรื้อมา พ่อก็ทำการเปลี่ยนประตูให้ใหม่วันต่อมา
หลังจากเปลี่ยนประตูใหม่เราก็กลับเข้าไปนอนก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเลย
แต่ทุกวันนี้ไม่มีใครนอนห้องนั้นเเล้วและที่บ้านก็เลิกขายไม้เก่าเปลี่ยนมาขายไม้ใหม่
......นั่นแหละเสียงที่ได้ยิน เเต็บ..เเต็บ..เเต็บ เสียงตัดเล็บชัดๆแต่ไม่รู้ใคร