อะไร จะง่ายซะไม่มี !!  ทำได้จริงเหรอ ? ทำได้จริง ๆ ครับ ผมขอคอนเฟอร์ม ผมทำมาแล้ว ยุคนี้เป็นยุคดิจิตอล ยุคนี้เป็นยุค 4 G อะไร ๆ ก็อีซี่ สะดวกขึ้น ง่ายขึ้น มโนมยิทธิ แท้ที่จริงอยู่ในตัวของทุกคน ก็แค่ปลุกมันขึ้นมา   รู้ตัวหรือไม่ คุณกำลังคิดจะปลุกยักษ์ที่หลับใหลให้ลุกขึ้นมาใช้งาน ถ้าคิดผิด คิดใหม่ได้ครับ
     มโนมยิทธิ มีดีอย่างไง ฝึกไปแล้วได้อะไร?...มโนมยิทธิ เป็นกรรมฐานที่ทรงพลัง เกิดสมาธิง่าย เป็นทางลัดไปทัวร์นรก-สวรรค์ เข้าถึงแก่นพระสัทธรรมคำสอนง่ายขึ้น ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่สูงขึ้น แก้ทุกข์ กำจัดภัย ทำให้อายุยืน เพิ่มโชคลาภ อำนาจวาสนา เมื่อหมดอายุไขก็ได้ไปเสวยสุขบนสรวงสวรรค์  
     มโนมยิทธิ เช่นเดียวกับคำสอนอื่น ๆ มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก แต่คงตกหล่นหดหายตั้งแต่เมื่อใดไม่ปรากฏชัด เพราะแค่เรียนรู้เข้าใจตำราแล้วสอบผ่านยังไม่พอ ต้องปฏิบัติให้ถึงแก่น หลวงพ่อฤาษีลิงดำใช้เวลาค้นคว้าวิชานี้อยู่นานถึง ๒๓ ปีและได้รวบรวมสรุปให้ง่ายต่อการปฏิบัติ นี่คือโอกาสดีที่พวกเราลูกหลานจะได้ปฏิบัติให้ถึงแก่นธรรม  นี่คือโอกาสดีที่พวกเราลูกหลานจะได้นำพระธรรมคำสอนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตจริง  และนี่คือโอกาสดีที่พวกเราลูกหลานจะได้ทดแทนบุญคุณต่อพระศาสนาที่ทำให้บ้านเมืองสงบร่มเย็น ผู้ที่มีความกตัญญู รู้คุณ ชีวิตจะไม่ตกต่ำย่ำแย่กว่าที่เป็นอยู่ มีแต่จะเฟื่องฟูรุ่งเรืองยิ่งขึ้น นี่คือกฎธรรมชาติ
      การพิจารณาปล่อยวางทางโลกชั่วขณะ ยอมรับความเป็นจริง ยอมรับกฎธรรมดา ยอมรับกฎแห่งกรรม บางคนหนีนรกได้ แต่ไม่มีใครหนีเวรกรรมพ้น มาโดยกรรมและไปโดยกรรม ร่างกายและขันธ์๕ มันจะเกิดดับก็เป็นเรื่องของมัน เราไม่มีในขันธ์๕ ขันธ์๕ ไม่มีในเรา ร่างกายก็คือที่รวมของดิน น้ำ ลม ไฟเป็นที่อยู่ที่อาศัยชั่วคราว เมื่อถึงเวลาต่างคนก็ต่างไปตามทิศทางของตน  ไม่ยึดติด ไม่ตึงเครียด ไม่ทุกข์ ปล่อยวาง ช่างมัน ปล่อยอารมณ์สบาย ๆ จิตผ่องใส ใจเป็นสุขทุกที่ทุกเวลานาที  นี่คือการเตรียมตัวเตรียมอารมณ์ให้พร้อม  นี่คือพื้นฐานสำคัญก่อนฝึกมโนมยิทธิ ถ้าก้าวข้ามได้ ก้าวต่อไปไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่แน่ ๆ ก่อนการเตรียมอารมณ์ให้พร้อม ต้องพิจารณาอสุภกรรมฐานกับแผ่เมตตา พิจารณาให้เห็นความสกปรกโสโครกของร่างกายที่เป็นความจริงที่ซุกซ่อนอยู่ และก่อนพิจารณาอสุภกรรมฐานกับแผ่เมตตา ก็จะต้องนึกถึงความตายกับรักษาศีล๕ครบบริบูรณ์ เป็นธรรมดาทุกคนต้องตาย เมื่อตายเราขอมุ่งตรงสู่นิพพานแห่งเดียว ไปถึงหรือไม่ ไม่สำคัญ เมื่อวาสนาบารมีแก่กล้าพอก็จะไปถึงเอง ขอเพียงแต่ต้องตั้งเข็มทิศไว้ก่อนเท่านั้น
     บางท่าน พอจับภาพพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยภาวนา “นะ มะ พะ ธะ”ไม่นานเกินวันก็ทำได้ ถือว่าเป็นผู้โชคดี ถือว่ามีต้นทุนสูงพกบุญมามาก ถือว่ากรรมเก่าขวางกั้นน้อยหรือไม่มีเลย แต่สำหรับท่านที่พยายามทำแล้ว หลายครั้งหลายหน หลายครูบาอาจารย์ นานเป็นเดือนเป็นปี ก็ยังไม่มีวี่แวว ก็อย่าเพิ่งท้อ อย่าเพิ่งล้มเลิกนะครับ ผมคนหนึ่งหละที่เหมือนกับท่าน ผมถือว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ผมถือว่า ยังไม่ได้ ไม่เป็นไร ขอให้ได้ทำ ขอให้ได้ฝึกเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชาเพื่อทดแทนคุณต่อพระศาสนา ทำความดีง่าย ๆ แค่นี้ ก็ได้บุญบารมีเพิ่มขึ้นแล้วครับ
สรุปขั้นตอนย่อ ๆ
     ๑) “พิจารณา”ปล่อยวาง ช่างมัน(ชั่วคราว) ไม่ยึดติด ไม่เคร่งเครียด ไม่ตั้งใจเกินไป ทำตัวสบาย ๆ นั่งท่าสบาย ๆ ปล่อยอารมณ์สบาย ๆ ทำจิตให้ผ่องใส ทำใจให้เป็นสุข แม้แต่ชั่วขณะก็ยังดี นี่คือข้อบังคับที่จำเป็นเบื้องต้นขาดไม่ได้
     ๒) “เพ่ง”ภาพพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า หายใจเข้าภาวนา “นะ มะ” หายใจออกภาวนา “พะ ธะ” ทำซ้ำ ๆบ่อย ๆ จนกว่าจะเกิดภาพพระพักตร์ฯติดอยู่ในใจ
     ๓)กฎการฝึกมโนมยิทธิของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ “ใจกล้า อย่าอยาก อย่าสงสัย ได้หรือไม่ ไม่สำคัญ”ขอให้ตั้งใจฝึกอย่างต่อเนื่องทุกวัน ในที่สุดก็จะทำได้เองทุกคน หลวงพ่อฯการันตีไว้แล้ว
     เมื่อมีเวลาว่างระหว่างวันก็ให้ “พิจารณา”ในข้อ ๑)และ “เพ่ง”ในข้อ๒) ทำสลับกันไปมา ระยะแรกอาจต้องลืมตาแล้วนึกถึงภาพพระพักตร์ฯ ต่อเมื่อจำภาพได้แล้ว ก็ให้เปลี่ยนเป็นหลับตาแล้วนึกถึงภาพ ก็จะเกิดภาพขึ้นในใจ ภาพจะค่อย ๆ ชัดขึ้น ๆ จนชัดเท่ากับมองเห็นด้วยตา ทั้งหลับตาและลืมตาก็สามารถนึกภาพเห็นชัดแจ่มใสเหมือนกัน เมื่อนึกปั๊บก็เห็นภาพพระพักตร์ฯทันทีจึงจะถือว่าใช้ได้ เมื่อเห็นภาพชัดแล้วให้ตัดคำภาวนา “นะ มะ พะ ธะ”ทิ้งไปหรือมันจะลืมไปเองก็ถือว่าดี เมื่อได้แล้วให้ฝึกบ่อย ๆ ทำจน “คล่อง”นึกปั๊บต้องเห็นภาพพระพักตร์ฯชัดเจนแจ่มใสทันที หลวงพ่อฤาษีลิงดำใช้คำว่า “เหมือนเข้าเฝ้าเฉพาะพระพักตร์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า อยู่เป็นประจำ”
     เป็นธรรมดาครับฝึกใหม่ ๆ ย่อมติดขัดบ้าง แต่ถ้าฝึกต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ทุก ๆ วันก็จะค่อย ๆ ลื่นไหล จะง่ายขึ้นไปเองครับ อย่างไรซะ การสวดมนต์กราบพระ ขอขมาพระรัตนตรัย สมาทานศีล และสมาทานพระกรรมฐาน ถือว่าทุกท่านต้องทำเป็นกิจวัตรทุกเช้า-ค่ำก่อนฝึกอยู่แล้ว ที่สำคัญต้องอาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกครั้ง เพราะลำพังบารมีของเรามีจำกัด แต่บางท่านต้องเพิ่มอาราธนา “ฉัพพรรณรังสีพระพุทธเจ้า”อีกด้วย เพราะมีกรรมเก่าขวางกั้น...ขอให้ทุกท่านฝึกมโนมยิทธิได้สำเร็จสมปรารถนาคร้าบบบบ


หมายเหตุ: ควรยกครู มโนมยิทธิ ก่อฝึก
Facebook: Manomayittii For Life