ขอเกริ่นนิดค่ะว่า
ปรกติดิฉันทำงานอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา กลับบ้านเมืองไทยปีเว้นปี
ความตั้งใจมากในคราวนี้คือ นอกจากจะไปเยี่ยมบุพการีแล้วต้องการพาคุณแม่ไปเที่ยวญี่ปุ่นให้ได้
การไปญี่ปุ่นคราวนี้ นี่เป็นครั้งแรกของเราทั้งคู่ ในเวลาที่จำกัดแค่ 3 คืน 4 วัน ดิฉันจึงตั้งใจจะพาท่านเที่ยวแค่ใน Tokyo ที่เดียว
ดิฉันตัดสินใจไป แอร์เอเชียเอ็กซ์ เพราะความสะดวกของสนามบินดอนเมืองที่เล็กดี ใกล้บ้าน และราคาไม่แพง
การทำจองดิฉันทำจองเอง โดยแยกเป็นสองบุ๊คกื้ง
อันเเรกของตัวเอง ดิฉันจองผ่านเว็บ kiwi.com จองไปแค่ขาเดียว เพราะดิฉันจะบินตรงจากนาริตะกลับมาอเมริกาเลย ราคาค่าตั๋ว 5,434.00 ค่าเลือกที่นั่งจ่ายที่สนามบิน 500.00 บาท
รวมเป็นเงิน 5,934.00 บาท
ส่วนอีกบุ๊คกื้ง ดิฉันซื้อให้คุณเเม่ ทีนี้ซื้อโดยตรงที่เว็บ airasia.com ซื้อตั๋วไปกลับให้คุณแม่
ค่าตั๋วไปกลับ 12,625.00 บาท
ค่าเลือกที่นั่ง 1,000.00 บาท
ค่าอาหารบนเครื่อง 2 มื้อ 300.00 บาท
ค่าน้ำหนักกระเป๋า 25 กก ไป กลับ 978.00 บาท
รวมเป็นเงิน 15,783.00 บาท
โดยตั๋วสองใบนี้ออกเดินทางในไฟลท์เดียวกันและบินออกจากสนามบินดอนเมืองไปนาริตะ
Mon Jan 30, 2017 XJ 606 วันเดินทาง คุณแม่และดิฉันได้ไปเช็คอินเป็นคนแรก เราสองคนมี carry on คนละใบ และกระเป๋าสำหรับโหลดใต้เครืองอีก 1 ใบ เราซื้อนนไว้ 25 กก
โดยกระเป๋า Carryon ของเราทั้งคู่ก็ว่างมาก เพราะเพื่อความสะดวก เราจึงเอาของเกือบทุกอย่าง
ใส่ลงในกระเป๋าใบใหญ่ใบเดียวกัน
เมื่อชั่งน้ำหนักเสร็จ ดิฉ้นก็ขอนั่งตืดกันกับคุณเเม่ โดยหลังจากนั้นดิฉันก็ต้องเดินไปจ่ายค่าธรรมเนียมค่าเลือกที่นั่งเพิ่มอีก ที่เคานเตอรด้านหลัง
จากนั้นทุกอย่างดูเหมือนจะดำเนินไปตามปกติ
จนเมิ่อไปถึงญี่ปุ่น คุณแม่และดิฉัน ก็ไปรอรับกระเป๋าจาก สายพานที่นาริตะเป็นคนแรกๆ
ดิฉันหยิบกระเป๋าที่หน้าตาเหมือนของเรา ลงมาจากสายพานถึง 3 รอบ แต่ทุกครั้งที่หยิบลงมา เจ้าหน้าที่คนญี่ปุ่นก็จะเข้ามาช่วยเช็คดูว่าชื่อที่ติดที่กระเป๋ามันคือชื่อเราหรือไม่ ปรากฏว่ามันชื่อคนอื่น เป็นอย่างงี้อยู่ทั้ง 3 รอบ
แล้วเราก็รอแล้วรออีก รอจนทุกคนกลับไปหมด เราก็ยังไม่ได้กระเป๋า แต่มันก็เหลืออยู่แค่ใบเดียว คือใบที่หน้าตาเหมือนของเราแต่ไม่ใช่ชื่อเรา ซึ่งเจ้าหน้าที่เค้าวางกองเเยกเอาไว้
เราก็ขอเจ้าหน้าที่เปิดเช็ค เเต่เค้าก็ไม่ให้บอกคำเดียวว่า No. It's not your name. You can't open it.
เค้าพยายามจะโทรหาคนที่มีชื่ออยู่บนกระเป๋าแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้
ดิฉันพยายามทั้งขอเปิด เเละขอเค้าเอาใบนั้นกลับเพื่อที่จะติดต่อสลับกระเป๋ากับคนที่หยิบผิดกันเอง
เจ้าหน้าที่เค้าก็ไม่ยอม
จากนั้นพนงคนเดิมก็ให้เรากรอกแบบฟอร์มเคลมกระเป๋า กรอกเบอรติดต่อ และอีเมลไว้
เค้าสงสัยว่าคนนั้นจะรีบและหยิบผิด บอกให้เรากลับบ้าน เเล้วเค้าจะติดต่อกลับ
เครื่องเเลนตั้งเเต่ 1 ทุ่ม นี่ก้อ 3 ทุ่มเเล้ว ก็เพิ่งจะได้ออกจากสนามบิน ...ตัวเปล่า
ที่พักของเราก็ไม่ได้ใกล้ๆ อยู่ตั้งเเถวตลาดปลา Tsukiji
ทำยังไงดีหนอ กลัวรถหมด กลัวหลง กลัวว่าจะทำให้ท่านเหนื่อยใจมากกว่านี้
เวลานั้นต้องคุมสติอย่างเดียว จำใจต้องกลับไปตัวเปล่า รู้สึกสงสารคุณแม่ที่สุด ที่ทริปนี้เริ่มต้นได้ทุลักทุเลมาก อากาศข้างนอกคืนนั้นก็หนาวมาก 5-10 องศาเซลเซส
เสื้อหนาวของเราทั้งสองคน ของใช้จำเป็น รวมทั้งกล้องถ่ายรูป
นอกจากนั้น ก้อยังมีของฝากจำพวกผ้าไหมจำนวน 20 ชิ้น, นาฬิกาที่เอาไปใส่ถ่านเมืองไทยอีก 8 เรือน และของจุกจินมากมายที่เพื่อนๆต่างประเทศฝากซื้อที่เราต้องการจะนำมาประเทศอเมริกาก้ออยู้ในนั้นด้วย
วันถัดมา/วันอังคาร เเอบหวังว่าเดี๋ยวเค้าก้อเอากระเป๋ามาส่งให้ เเต่เเล้วก้อเงียบไม่มีใครติดต่อมาทั้งสิ้น
จนเราคิดว่า เราต้องทำใจ เรื่มมีอาการปลง เแล้วจึงตัดสินใจยอมซื้อข้าวของเครืองใช้ โลชั่น เสื้อผ้า หมวกถุงมือ รวมทั้งกล้องถ่ายรูป ทุกอย่างใหม่หมด ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต้องจ่าย ก็ต้องเสียเพิ่มเยอะมากๆ
ในที่สุดวันพุธเย็น ก้อได้อีเมลจาก Baggage Service Agent, NRT Swissport Japan Ltd เขียนบอกว่า เราได้กระเป๋าคืนแล้ว ให้มารับได้ภายใน 3 ชม ไม่อย่างงั้นเค้าจะส่งกลับไปดอนเมือง
กว่าเราจะได้เห็นอีเมล เค้าก้อส่งไปเสียแล้ว
เค้าบอกว่า เค้าได้ติดต่อคนที่มีชื่อในกระเป๋าใบที่หน้าตาเหมือนเราได้แล้ว
ปรากฎว่าเค้าคนน้นไม่ได้มีกระเป๋าสีเขียวอย่างเรา และเค้าก้อไม่ได้หยิบผิด
สรุปว่า คนที่ผิดคือ พนักงานคนไทยที่เคานเตอรเช็คอินของ Air Asia X ที่ดอนเมือง
ที่เค้าใส่ชื่อคนอื่น บนกระเป๋าของเรา
ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเกิดขี้น มาก้อเพิ่งเคยพบ ทำงานสะเพร่าเป็นที่สุด
ทีนี้เราก้อรอดูต่อไปว่า สายการบินจะมีวิธีไหนที่จะทำให้เราหายโกรธ
ในวันพฤหส วันที่เดินทางกลับ ขณะที่คุณเเม่เช็คอิน ท่านก็ขอให้พนง ชดใช้ค่าเสียหาย
ปรากฎว่านอกจากจะไม่ได้ให้ compensate อะไรทั้งสิ้นแล้ว ก็ยังให้เราไปหาที่ไฟล complain ร้องเรียนออนไลนเอาเอง เเล้วใครจะรับผิดชอบค่าใช่จ่ายข้าวของที่เราจะเอามาอเมรืกา ถ้าส่งของมาจากไทยโดยไปรณีย ก็หลายพัน ดิฉันโกรธมาก
ส่วนตัวคือ เราเข้าใจว่าคนเราทำงาน ไม่ใช่เครืองจักร ย่อมมีบ้างที่จะทำงานผิดพลาด
แต่ก็ควรจะเรียนรู้ และทำพลาดให้น้อยที่สุด
แต่เมื่อเวลาที่ความผิดพลาดเกิดขึ้น คำว่าขอโทษคำเดียวจะทำให้หายโกรธไม๊
ตอบเลยว่า ไม่
ถามว่าโกรธใครที่สุด ตอบเลยว่า โกรธคนที่มีอำนาจรับผิดชอบในส่วนนี้
ไม่รู้ว่า หัวหน้าหายไปไหนกันหมด
คุณทำไมไม่ออกมาแก้ปัญหา และทำให้มันจบตอนวันที่คุณแม่เดินทางกลับ
คุณแม่ขอให้ชดใช้ค่าเสียหายไปแล้ว แล้วทำไมไม่ให้
ทำไมต้องให้เสียเวลามานั่งเขียนประนามตัวคุณเองออนไลน์อีก
ทำไมทางหัวหน้าไม่ออกมาหาเผชิญหน้าตรงนั้น?
ทำไมไม่ให่ compensate คืนเงิน ให้ตั๋ว
หรือทำอะไรสักอย่าง แทนคำว่า sorry คำเดียว
ดิฉันต้องจ่ายเงินเพิ่มไปมาก และก็ยังต้องเสียเงินเพิ่มใน
การ ship ของในกระเป๋ามาอเมริกาอีก เข้าใจว่ากิโลละอย่างต่ำก็ กิโลละ 1000 บาท
ของที่เหลือมีประมาณ 20 กิโล
ขอย้ำว่า ที่เขียนมาทั้งหมดนี่ไม่ได้อยากจะให้ไล่เด็กที่เคานเตอร์เช็คอินของ Air Asia X ออกนะคะ
แต่อยากให้คุณหัวหน้าทั้งหลาย ได้ปรับปรุง
Customer Service หรือหันมาดูเเลลูกค้าหลังการขายบ้าง
ของซื้อ ของขายนะคะ ผู้บรืโภคเค้าจ่ายเงินคูณนะคะ ถ้าคณทำให้ลูกค้า รู้สึกถูกเอาเปรียบ คุณก้อควรออกมาโชว์ spirit แสดงความรับผิดชอบกันหน่อย
ทำไมต้องเอาเปรียบผู้บริโภคกันอย่างนี้ ขาดจิตสำนึกเป็นที่สุด
ยิ่งคุณเเก้ปัญหาช้า ลูกค้าก้อยิ่งโกรธมาก มันก็ยิ่งเสียมากนะคะ
ไม่อยากให้ใครๆมาเจอกับเหตการณ์อย่างนี้เลย
จากประสบการณครั้งนี้กับสายการบิน Air Asia X มันทำให้เห็นว่า
องค์กรนี้ ห่วยทั้งรากเหง้า ห่วยตั้งแต่พนักงานเช็คอิน ไปถึงยันหัวหน้า รวมไปถึงผู้บริหาร
Cheap Shit ของจริง
เเต่ถ้าใครจำเป็นต้องใช้ ก้อขอเตือนให้ทุกท่านเพิ่มความระวัง อย่าให้พนงเช็คอินหรือใครๆ ติดชื่อชาวบ้านหรือชื่อคนอืนบนกระเป๋าเรา หรือท่านเองก็ต้องทำใจ ทำใจตั้งเเต่วินาทีที่เอากระเป๋าขึ้นชั่งน้ำหนัก โหลดใต้เครื่อง ว่ามันไปเเล้ว อาจไปลับนะคะ เพราะ Stupid Mistake สามารถเกิดขึ้นได้ที่นี่ Air Asia X
เดือดร้อนมากคะ
[CR] บทเรียนเพิ่มความระวังในระหว่างชั่งน้ำหนัก Air Asia X
ปรกติดิฉันทำงานอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา กลับบ้านเมืองไทยปีเว้นปี
ความตั้งใจมากในคราวนี้คือ นอกจากจะไปเยี่ยมบุพการีแล้วต้องการพาคุณแม่ไปเที่ยวญี่ปุ่นให้ได้
การไปญี่ปุ่นคราวนี้ นี่เป็นครั้งแรกของเราทั้งคู่ ในเวลาที่จำกัดแค่ 3 คืน 4 วัน ดิฉันจึงตั้งใจจะพาท่านเที่ยวแค่ใน Tokyo ที่เดียว
ดิฉันตัดสินใจไป แอร์เอเชียเอ็กซ์ เพราะความสะดวกของสนามบินดอนเมืองที่เล็กดี ใกล้บ้าน และราคาไม่แพง
การทำจองดิฉันทำจองเอง โดยแยกเป็นสองบุ๊คกื้ง
อันเเรกของตัวเอง ดิฉันจองผ่านเว็บ kiwi.com จองไปแค่ขาเดียว เพราะดิฉันจะบินตรงจากนาริตะกลับมาอเมริกาเลย ราคาค่าตั๋ว 5,434.00 ค่าเลือกที่นั่งจ่ายที่สนามบิน 500.00 บาท
รวมเป็นเงิน 5,934.00 บาท
ส่วนอีกบุ๊คกื้ง ดิฉันซื้อให้คุณเเม่ ทีนี้ซื้อโดยตรงที่เว็บ airasia.com ซื้อตั๋วไปกลับให้คุณแม่
ค่าตั๋วไปกลับ 12,625.00 บาท
ค่าเลือกที่นั่ง 1,000.00 บาท
ค่าอาหารบนเครื่อง 2 มื้อ 300.00 บาท
ค่าน้ำหนักกระเป๋า 25 กก ไป กลับ 978.00 บาท
รวมเป็นเงิน 15,783.00 บาท
โดยตั๋วสองใบนี้ออกเดินทางในไฟลท์เดียวกันและบินออกจากสนามบินดอนเมืองไปนาริตะ
Mon Jan 30, 2017 XJ 606 วันเดินทาง คุณแม่และดิฉันได้ไปเช็คอินเป็นคนแรก เราสองคนมี carry on คนละใบ และกระเป๋าสำหรับโหลดใต้เครืองอีก 1 ใบ เราซื้อนนไว้ 25 กก
โดยกระเป๋า Carryon ของเราทั้งคู่ก็ว่างมาก เพราะเพื่อความสะดวก เราจึงเอาของเกือบทุกอย่าง
ใส่ลงในกระเป๋าใบใหญ่ใบเดียวกัน
เมื่อชั่งน้ำหนักเสร็จ ดิฉ้นก็ขอนั่งตืดกันกับคุณเเม่ โดยหลังจากนั้นดิฉันก็ต้องเดินไปจ่ายค่าธรรมเนียมค่าเลือกที่นั่งเพิ่มอีก ที่เคานเตอรด้านหลัง
จากนั้นทุกอย่างดูเหมือนจะดำเนินไปตามปกติ
จนเมิ่อไปถึงญี่ปุ่น คุณแม่และดิฉัน ก็ไปรอรับกระเป๋าจาก สายพานที่นาริตะเป็นคนแรกๆ
ดิฉันหยิบกระเป๋าที่หน้าตาเหมือนของเรา ลงมาจากสายพานถึง 3 รอบ แต่ทุกครั้งที่หยิบลงมา เจ้าหน้าที่คนญี่ปุ่นก็จะเข้ามาช่วยเช็คดูว่าชื่อที่ติดที่กระเป๋ามันคือชื่อเราหรือไม่ ปรากฏว่ามันชื่อคนอื่น เป็นอย่างงี้อยู่ทั้ง 3 รอบ
แล้วเราก็รอแล้วรออีก รอจนทุกคนกลับไปหมด เราก็ยังไม่ได้กระเป๋า แต่มันก็เหลืออยู่แค่ใบเดียว คือใบที่หน้าตาเหมือนของเราแต่ไม่ใช่ชื่อเรา ซึ่งเจ้าหน้าที่เค้าวางกองเเยกเอาไว้
เราก็ขอเจ้าหน้าที่เปิดเช็ค เเต่เค้าก็ไม่ให้บอกคำเดียวว่า No. It's not your name. You can't open it.
เค้าพยายามจะโทรหาคนที่มีชื่ออยู่บนกระเป๋าแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้
ดิฉันพยายามทั้งขอเปิด เเละขอเค้าเอาใบนั้นกลับเพื่อที่จะติดต่อสลับกระเป๋ากับคนที่หยิบผิดกันเอง
เจ้าหน้าที่เค้าก็ไม่ยอม
จากนั้นพนงคนเดิมก็ให้เรากรอกแบบฟอร์มเคลมกระเป๋า กรอกเบอรติดต่อ และอีเมลไว้
เค้าสงสัยว่าคนนั้นจะรีบและหยิบผิด บอกให้เรากลับบ้าน เเล้วเค้าจะติดต่อกลับ
เครื่องเเลนตั้งเเต่ 1 ทุ่ม นี่ก้อ 3 ทุ่มเเล้ว ก็เพิ่งจะได้ออกจากสนามบิน ...ตัวเปล่า
ที่พักของเราก็ไม่ได้ใกล้ๆ อยู่ตั้งเเถวตลาดปลา Tsukiji
ทำยังไงดีหนอ กลัวรถหมด กลัวหลง กลัวว่าจะทำให้ท่านเหนื่อยใจมากกว่านี้
เวลานั้นต้องคุมสติอย่างเดียว จำใจต้องกลับไปตัวเปล่า รู้สึกสงสารคุณแม่ที่สุด ที่ทริปนี้เริ่มต้นได้ทุลักทุเลมาก อากาศข้างนอกคืนนั้นก็หนาวมาก 5-10 องศาเซลเซส
เสื้อหนาวของเราทั้งสองคน ของใช้จำเป็น รวมทั้งกล้องถ่ายรูป
นอกจากนั้น ก้อยังมีของฝากจำพวกผ้าไหมจำนวน 20 ชิ้น, นาฬิกาที่เอาไปใส่ถ่านเมืองไทยอีก 8 เรือน และของจุกจินมากมายที่เพื่อนๆต่างประเทศฝากซื้อที่เราต้องการจะนำมาประเทศอเมริกาก้ออยู้ในนั้นด้วย
วันถัดมา/วันอังคาร เเอบหวังว่าเดี๋ยวเค้าก้อเอากระเป๋ามาส่งให้ เเต่เเล้วก้อเงียบไม่มีใครติดต่อมาทั้งสิ้น
จนเราคิดว่า เราต้องทำใจ เรื่มมีอาการปลง เแล้วจึงตัดสินใจยอมซื้อข้าวของเครืองใช้ โลชั่น เสื้อผ้า หมวกถุงมือ รวมทั้งกล้องถ่ายรูป ทุกอย่างใหม่หมด ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต้องจ่าย ก็ต้องเสียเพิ่มเยอะมากๆ
ในที่สุดวันพุธเย็น ก้อได้อีเมลจาก Baggage Service Agent, NRT Swissport Japan Ltd เขียนบอกว่า เราได้กระเป๋าคืนแล้ว ให้มารับได้ภายใน 3 ชม ไม่อย่างงั้นเค้าจะส่งกลับไปดอนเมือง
กว่าเราจะได้เห็นอีเมล เค้าก้อส่งไปเสียแล้ว
เค้าบอกว่า เค้าได้ติดต่อคนที่มีชื่อในกระเป๋าใบที่หน้าตาเหมือนเราได้แล้ว
ปรากฎว่าเค้าคนน้นไม่ได้มีกระเป๋าสีเขียวอย่างเรา และเค้าก้อไม่ได้หยิบผิด
สรุปว่า คนที่ผิดคือ พนักงานคนไทยที่เคานเตอรเช็คอินของ Air Asia X ที่ดอนเมือง
ที่เค้าใส่ชื่อคนอื่น บนกระเป๋าของเรา
ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเกิดขี้น มาก้อเพิ่งเคยพบ ทำงานสะเพร่าเป็นที่สุด
ทีนี้เราก้อรอดูต่อไปว่า สายการบินจะมีวิธีไหนที่จะทำให้เราหายโกรธ
ในวันพฤหส วันที่เดินทางกลับ ขณะที่คุณเเม่เช็คอิน ท่านก็ขอให้พนง ชดใช้ค่าเสียหาย
ปรากฎว่านอกจากจะไม่ได้ให้ compensate อะไรทั้งสิ้นแล้ว ก็ยังให้เราไปหาที่ไฟล complain ร้องเรียนออนไลนเอาเอง เเล้วใครจะรับผิดชอบค่าใช่จ่ายข้าวของที่เราจะเอามาอเมรืกา ถ้าส่งของมาจากไทยโดยไปรณีย ก็หลายพัน ดิฉันโกรธมาก
ส่วนตัวคือ เราเข้าใจว่าคนเราทำงาน ไม่ใช่เครืองจักร ย่อมมีบ้างที่จะทำงานผิดพลาด
แต่ก็ควรจะเรียนรู้ และทำพลาดให้น้อยที่สุด
แต่เมื่อเวลาที่ความผิดพลาดเกิดขึ้น คำว่าขอโทษคำเดียวจะทำให้หายโกรธไม๊
ตอบเลยว่า ไม่
ถามว่าโกรธใครที่สุด ตอบเลยว่า โกรธคนที่มีอำนาจรับผิดชอบในส่วนนี้
ไม่รู้ว่า หัวหน้าหายไปไหนกันหมด
คุณทำไมไม่ออกมาแก้ปัญหา และทำให้มันจบตอนวันที่คุณแม่เดินทางกลับ
คุณแม่ขอให้ชดใช้ค่าเสียหายไปแล้ว แล้วทำไมไม่ให้
ทำไมต้องให้เสียเวลามานั่งเขียนประนามตัวคุณเองออนไลน์อีก
ทำไมทางหัวหน้าไม่ออกมาหาเผชิญหน้าตรงนั้น?
ทำไมไม่ให่ compensate คืนเงิน ให้ตั๋ว
หรือทำอะไรสักอย่าง แทนคำว่า sorry คำเดียว
ดิฉันต้องจ่ายเงินเพิ่มไปมาก และก็ยังต้องเสียเงินเพิ่มใน
การ ship ของในกระเป๋ามาอเมริกาอีก เข้าใจว่ากิโลละอย่างต่ำก็ กิโลละ 1000 บาท
ของที่เหลือมีประมาณ 20 กิโล
ขอย้ำว่า ที่เขียนมาทั้งหมดนี่ไม่ได้อยากจะให้ไล่เด็กที่เคานเตอร์เช็คอินของ Air Asia X ออกนะคะ
แต่อยากให้คุณหัวหน้าทั้งหลาย ได้ปรับปรุง
Customer Service หรือหันมาดูเเลลูกค้าหลังการขายบ้าง
ของซื้อ ของขายนะคะ ผู้บรืโภคเค้าจ่ายเงินคูณนะคะ ถ้าคณทำให้ลูกค้า รู้สึกถูกเอาเปรียบ คุณก้อควรออกมาโชว์ spirit แสดงความรับผิดชอบกันหน่อย
ทำไมต้องเอาเปรียบผู้บริโภคกันอย่างนี้ ขาดจิตสำนึกเป็นที่สุด
ยิ่งคุณเเก้ปัญหาช้า ลูกค้าก้อยิ่งโกรธมาก มันก็ยิ่งเสียมากนะคะ
ไม่อยากให้ใครๆมาเจอกับเหตการณ์อย่างนี้เลย
จากประสบการณครั้งนี้กับสายการบิน Air Asia X มันทำให้เห็นว่า
องค์กรนี้ ห่วยทั้งรากเหง้า ห่วยตั้งแต่พนักงานเช็คอิน ไปถึงยันหัวหน้า รวมไปถึงผู้บริหาร
Cheap Shit ของจริง
เเต่ถ้าใครจำเป็นต้องใช้ ก้อขอเตือนให้ทุกท่านเพิ่มความระวัง อย่าให้พนงเช็คอินหรือใครๆ ติดชื่อชาวบ้านหรือชื่อคนอืนบนกระเป๋าเรา หรือท่านเองก็ต้องทำใจ ทำใจตั้งเเต่วินาทีที่เอากระเป๋าขึ้นชั่งน้ำหนัก โหลดใต้เครื่อง ว่ามันไปเเล้ว อาจไปลับนะคะ เพราะ Stupid Mistake สามารถเกิดขึ้นได้ที่นี่ Air Asia X
เดือดร้อนมากคะ