สวัสดีค่ะสมาชิกห้องบลูแพลนเน็ต
ปกติเวลาขึ้นเหนือไปเชียงใหม่ที่ไร ป้าเกษจะจัดทริปพาหลานๆนั่งรถตู้ขึ้นไปเที่ยวกันแบบเข้าป่า ปีนเขา กันซะเป้นเรื่องปกติ โดยที่ไม่ค่อยแวะเข้าเมืองเชียงใหม่ซักเท่าไร อย่างเก่งก็แค่ไปชะโงก แวะเช็คอินที่กำแพงประตูท่าแพ เป็นอันจบทริปการมาเยือนเชียงใหม่
แต่คราวนี้พิเศษนิดตรงที่ อยากแวบมาเที่ยวแบบไร้หลานๆที่เคยตามกันเป็นสิบ แต่เดินตามกันแค่ 2-3 คนเท่านั้นเอง โดยเราไม่มีแพลนกันใดๆ ไปด้นกันสดๆหน้างานแบบอยากไปไหนก็ไป (แต่ป้าแอบอยากไปล่าเสือกันที่ขุนวาง อิอิ) ป้าอยากไปหาของกินพื้นเมืองบ้านๆ ที่คนเชียงใหม่ไปยืนเข้าคิว กินกันเยอะๆ
ส่วนเรื่องที่พักนั้น มีคนแนะนำที่พักใหม่ เก๋ไก๋สไตล์ล้านนาร่วมสมัย ที่ทำให้ป้าตาโตแบบนึกมโนกันเลยที่เดียวว่า ขอเจอเด็กยกกระเป๋า หน้าตาดีที่ชื่อ หนุ่มแทค ภรัณยุ ที่ว่างเว้นจากคิวหนัง คิวละครมาช่วยป่ะป๊าหารายได้พิเศษที่ เวียงงามล้านนา วิลล่า ที่เถอะ อิอิ เพราะที่พักเป็นของคุณพ่อดาราดัง ที่ทำรายการคนอวดผี ช่อง workpoint .. (แต่คนกลัวผีอย่างป้าไม่เคยดูนะ)
ป้าเกษและหลานชาย หลานสาว 3 คน ออกเดินทางในไฟล์นดึกสุดของสายการบินไล้อ้อนแอรื เที่ยว 21.50 น. ไปถึงเชียงใหม่ก็ดึกแล้วค่ะประมาณ ห้าทุ่มกว่าๆ ป้านั่งแท๊กซี่จากสนามบินไปถนนวัวลายเพื่อแวะค้างที่บ้านลูกสาว 1 คืน และ เพื่อยืมรถไปใช้ในขณะที่อยู่ที่เชียงใหม่ 3 วัน
เมื่อได้รถเรียบร้อย ยังค่ะ ไม่หลับไม่นอน ตั้งคุยกันตั้งแต่อยู่บนเครื่องแล้วล่ะว่าเราจะออกไปหาไรกินกันตอนเที่ยงคืน ไปกินที่คนเชียงใหม่เค้าไปกินกันเยอะๆ ร้านไก่ทอดเที่ยงคืน ที่ถนนกำแพงดิน เป็นที่หมายแรกของเราในการเยือนเชียงใหม่
ร้านหาไม่ยาก จากถนนวัวลาย ขับรถออกไปทางถนนศรีดอนไชย ผ่านร้านขายหนังสือสุริวงค์บุ๊คเซ็นเตอร์ จะมีซอยแยกขวามือค่ะ เลี้ยวรถไปไม่ไกล ร้านหาไม่ยาก ที่มีคนนั่งกินเยอะๆนั่นแร่ะ จอดรถเลย ..
กับข้าวที่สั่งก็ง่ายๆ ไส้อ่อนทอด ไก่ทอด ไข่ต้ม น้ำพริกหนุ่ม ข้าวนึ่งร้อนๆสองจาน เท่านี้ก็กั๊ตตีอง นอนหลับสบาย ค่าเสียหาย สองร้อยกว่าบาทค่ะมื้อนี้ (แอบแพงอ่ะ แต่เห็นคนกินเยอะ เลยคิดว่ามันคงราคาปกติของร้านเค้าล่ะ)
ตื่นสายเลย แถมยังไม่เจอลูกสาว ลูกเขย หลานชาย ออกไปทำงาน ไปโรงเรียน มีแต่โน๊ตทิ้งไว้ให้ เพราะเค้ารู้แต่แรกแล้วว่า แม่จะไปพักที่อื่นต่อ
จากบ้านลูกสาวที่ถนนวัวลาย ป้าใช้เส้นทางที่ผ่านวัดสวนดอก เลี้ยวขวาเข้าถนนนิมมาน เลยแยกเมญ่าประมาณ 1 กิโล ตรงไปทางวัดเจ็ดยอด จะมีซอยแยกซ้ายมือไป เ วี ย ง ง า ม ล้ า น น า วิ ล ล่ า ซึ่งนับว่าเป็นที่พักในเมืองที่การเดินทางสะดวกมากๆ แถมไม่ไกลจากแหล่งที่เที่ยว ที่กินในย่านฮิตอีกด้วย
ด้วยความที่ตื่นสาย กว่าจะมาถึงที่พักก็เกือบได้เวลามื้อเที่ยง ป้าเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาเช็คอิน ก็เลยมานั่งที่ห้อง เ วี ย ง ง า ม ค า เ ฟ่ ที่อยู่ด้านหน้าของตัววิลล่า ซึ่งใช้สำหรับมาทานมื้อเช้าด้วย ที่นี่มีกาแฟสด สมูตตี้ผลไม้รสต่างๆ และพวกเบเกอรีไว้บริการ พร้อมกะมื้อกลางวันที่เป็นอาหารจานเดียว ที่ราคาแพงกว่าร้านอาหารสั่งข้างทางไม่กี่สตางค์ ถูกกว่าร้านในถนนนิมมานที่ป้าเกษเคยไปสั่งกินซะอีก เมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของครัวเวียงงามคาเฟ่ คือ ส้มตำ ข้าวซอย และผัดไท (แต่วันนั้นป้าไม่ได้ส้มตำสั่งมากินอ่ะ)
หนังท้องตึง ได้เวลาไปพักสายตาตามประสาคนสูงวัยที่เค้าบอกว่าต้องมีงีบเพื่อสุขภาพในตอนกลางวันด้วย ๕๕๕ ไม่ใช่ล่ะ ... เข้าเช็คอินสิค่ะรออัลไล
เ วี ย ง ง า ม ล้ า น น า วิ ล ล่า .. ตามที่ป้าเคยดูทีวีรายการหนึ่งที่ตัวคุณแทค ภรัณยู ที่เป็นบ่าวหน้อยจาวเหนือแต่เกิดเคยให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้ที่พักเป็นวิลล่าสไตล์ล้านนาร่วมสมัย ให้คนมาพัก เมื่อเดินเข้ามาได้สัมผัสกะวิถีคนเมือง ตั้งแต่ซุ้มประตู ไปจนถึงการตกแต่งภายในห้องพัก ที่มีแค่ 17 ห้อง 3 เฮือน มีเฮือนดอกเอื้อง เฮือนโกศล เฮือนหลองข้าว ในราคาที่สัมผัสกันได้ ...
และเมื่อเดินผ่านซุ้มประตูใหญ่เข้าไป สิ่งแรกที่ดูคุ้นตาของสูงวัยจาวเหนือคนนี้ก็คือบ่อน้ำเก่าค่ะ ซึ่งแทบจะมีเกือบทุกบ้านในสมัยก่อน แต่ที่สะดุดตากว่านั้นคือ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่ชวนให้รีบเข้าห้องไปเปลี่ยนชุดว่ายน้ำลงเล่นน้ำในสระในยามที่ฟ้าโปร่ง แดดร้อนเปรี้ยง เหงื่อแตกเป็นยิ่งนัก
เ ฮื อ น ด อ ก เ อื้อง .. จะมีทั้งหมด 4 ห้อง การตกแต่งภายในจะแตกต่างกันตรงสีสันที่ให้เข้ากันกับชื่อห้อง มีห้องเอื้องผึ้ง- โทนเหลือง เอื้องงาม-โทนชมพุ ห้องไอยรา-โทนฟ้า ห้องฟ้ามุ่ย-โทนม่วง ป้าเกษคนวันจันทร์เลือกเข้าพักห้องเอื้องผึ้ง ที่มีภาพวาดเป็นรูปดอกเอื้องผึ้งที่ผนังของห้องเป็นสัญลักษณ์
ที่ชอบที่สุดของห้องเอื้องผึ้ง อยู่ที่โซนห้องน้ำค่ะ จะมีห้องอาบน้ำที่มีทั้ง indoor outdoor
ตู้เสื้อผ้าจะวางเสื้อคลุมผ้าฝ้ายพับวางไว้ในตระกร้า มีไดร์เป่าผม มีร่มแบบจาวเหนือสีแดงไว้กางเวลาออกจากร้อนเมื่อแดดร้อนหรือมีฝน มีตู้เก็บของมีค่าพร้อม
[SR] สูงวัยลุยไปทั่ว . . พานอนชิลๆ เก๋ๆ 3 วัน 2 คืน แบบอยากไปไหนก็ไป ที่ เวียงงามล้านนา วิลล่า by ป้าเกษ inhouse
ปกติเวลาขึ้นเหนือไปเชียงใหม่ที่ไร ป้าเกษจะจัดทริปพาหลานๆนั่งรถตู้ขึ้นไปเที่ยวกันแบบเข้าป่า ปีนเขา กันซะเป้นเรื่องปกติ โดยที่ไม่ค่อยแวะเข้าเมืองเชียงใหม่ซักเท่าไร อย่างเก่งก็แค่ไปชะโงก แวะเช็คอินที่กำแพงประตูท่าแพ เป็นอันจบทริปการมาเยือนเชียงใหม่
แต่คราวนี้พิเศษนิดตรงที่ อยากแวบมาเที่ยวแบบไร้หลานๆที่เคยตามกันเป็นสิบ แต่เดินตามกันแค่ 2-3 คนเท่านั้นเอง โดยเราไม่มีแพลนกันใดๆ ไปด้นกันสดๆหน้างานแบบอยากไปไหนก็ไป (แต่ป้าแอบอยากไปล่าเสือกันที่ขุนวาง อิอิ) ป้าอยากไปหาของกินพื้นเมืองบ้านๆ ที่คนเชียงใหม่ไปยืนเข้าคิว กินกันเยอะๆ
ส่วนเรื่องที่พักนั้น มีคนแนะนำที่พักใหม่ เก๋ไก๋สไตล์ล้านนาร่วมสมัย ที่ทำให้ป้าตาโตแบบนึกมโนกันเลยที่เดียวว่า ขอเจอเด็กยกกระเป๋า หน้าตาดีที่ชื่อ หนุ่มแทค ภรัณยุ ที่ว่างเว้นจากคิวหนัง คิวละครมาช่วยป่ะป๊าหารายได้พิเศษที่ เวียงงามล้านนา วิลล่า ที่เถอะ อิอิ เพราะที่พักเป็นของคุณพ่อดาราดัง ที่ทำรายการคนอวดผี ช่อง workpoint .. (แต่คนกลัวผีอย่างป้าไม่เคยดูนะ)
ป้าเกษและหลานชาย หลานสาว 3 คน ออกเดินทางในไฟล์นดึกสุดของสายการบินไล้อ้อนแอรื เที่ยว 21.50 น. ไปถึงเชียงใหม่ก็ดึกแล้วค่ะประมาณ ห้าทุ่มกว่าๆ ป้านั่งแท๊กซี่จากสนามบินไปถนนวัวลายเพื่อแวะค้างที่บ้านลูกสาว 1 คืน และ เพื่อยืมรถไปใช้ในขณะที่อยู่ที่เชียงใหม่ 3 วัน
เมื่อได้รถเรียบร้อย ยังค่ะ ไม่หลับไม่นอน ตั้งคุยกันตั้งแต่อยู่บนเครื่องแล้วล่ะว่าเราจะออกไปหาไรกินกันตอนเที่ยงคืน ไปกินที่คนเชียงใหม่เค้าไปกินกันเยอะๆ ร้านไก่ทอดเที่ยงคืน ที่ถนนกำแพงดิน เป็นที่หมายแรกของเราในการเยือนเชียงใหม่
ร้านหาไม่ยาก จากถนนวัวลาย ขับรถออกไปทางถนนศรีดอนไชย ผ่านร้านขายหนังสือสุริวงค์บุ๊คเซ็นเตอร์ จะมีซอยแยกขวามือค่ะ เลี้ยวรถไปไม่ไกล ร้านหาไม่ยาก ที่มีคนนั่งกินเยอะๆนั่นแร่ะ จอดรถเลย ..
กับข้าวที่สั่งก็ง่ายๆ ไส้อ่อนทอด ไก่ทอด ไข่ต้ม น้ำพริกหนุ่ม ข้าวนึ่งร้อนๆสองจาน เท่านี้ก็กั๊ตตีอง นอนหลับสบาย ค่าเสียหาย สองร้อยกว่าบาทค่ะมื้อนี้ (แอบแพงอ่ะ แต่เห็นคนกินเยอะ เลยคิดว่ามันคงราคาปกติของร้านเค้าล่ะ)
ตื่นสายเลย แถมยังไม่เจอลูกสาว ลูกเขย หลานชาย ออกไปทำงาน ไปโรงเรียน มีแต่โน๊ตทิ้งไว้ให้ เพราะเค้ารู้แต่แรกแล้วว่า แม่จะไปพักที่อื่นต่อ
จากบ้านลูกสาวที่ถนนวัวลาย ป้าใช้เส้นทางที่ผ่านวัดสวนดอก เลี้ยวขวาเข้าถนนนิมมาน เลยแยกเมญ่าประมาณ 1 กิโล ตรงไปทางวัดเจ็ดยอด จะมีซอยแยกซ้ายมือไป เ วี ย ง ง า ม ล้ า น น า วิ ล ล่ า ซึ่งนับว่าเป็นที่พักในเมืองที่การเดินทางสะดวกมากๆ แถมไม่ไกลจากแหล่งที่เที่ยว ที่กินในย่านฮิตอีกด้วย
ด้วยความที่ตื่นสาย กว่าจะมาถึงที่พักก็เกือบได้เวลามื้อเที่ยง ป้าเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาเช็คอิน ก็เลยมานั่งที่ห้อง เ วี ย ง ง า ม ค า เ ฟ่ ที่อยู่ด้านหน้าของตัววิลล่า ซึ่งใช้สำหรับมาทานมื้อเช้าด้วย ที่นี่มีกาแฟสด สมูตตี้ผลไม้รสต่างๆ และพวกเบเกอรีไว้บริการ พร้อมกะมื้อกลางวันที่เป็นอาหารจานเดียว ที่ราคาแพงกว่าร้านอาหารสั่งข้างทางไม่กี่สตางค์ ถูกกว่าร้านในถนนนิมมานที่ป้าเกษเคยไปสั่งกินซะอีก เมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของครัวเวียงงามคาเฟ่ คือ ส้มตำ ข้าวซอย และผัดไท (แต่วันนั้นป้าไม่ได้ส้มตำสั่งมากินอ่ะ)
หนังท้องตึง ได้เวลาไปพักสายตาตามประสาคนสูงวัยที่เค้าบอกว่าต้องมีงีบเพื่อสุขภาพในตอนกลางวันด้วย ๕๕๕ ไม่ใช่ล่ะ ... เข้าเช็คอินสิค่ะรออัลไล
เ วี ย ง ง า ม ล้ า น น า วิ ล ล่า .. ตามที่ป้าเคยดูทีวีรายการหนึ่งที่ตัวคุณแทค ภรัณยู ที่เป็นบ่าวหน้อยจาวเหนือแต่เกิดเคยให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้ที่พักเป็นวิลล่าสไตล์ล้านนาร่วมสมัย ให้คนมาพัก เมื่อเดินเข้ามาได้สัมผัสกะวิถีคนเมือง ตั้งแต่ซุ้มประตู ไปจนถึงการตกแต่งภายในห้องพัก ที่มีแค่ 17 ห้อง 3 เฮือน มีเฮือนดอกเอื้อง เฮือนโกศล เฮือนหลองข้าว ในราคาที่สัมผัสกันได้ ...
และเมื่อเดินผ่านซุ้มประตูใหญ่เข้าไป สิ่งแรกที่ดูคุ้นตาของสูงวัยจาวเหนือคนนี้ก็คือบ่อน้ำเก่าค่ะ ซึ่งแทบจะมีเกือบทุกบ้านในสมัยก่อน แต่ที่สะดุดตากว่านั้นคือ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่ชวนให้รีบเข้าห้องไปเปลี่ยนชุดว่ายน้ำลงเล่นน้ำในสระในยามที่ฟ้าโปร่ง แดดร้อนเปรี้ยง เหงื่อแตกเป็นยิ่งนัก
เ ฮื อ น ด อ ก เ อื้อง .. จะมีทั้งหมด 4 ห้อง การตกแต่งภายในจะแตกต่างกันตรงสีสันที่ให้เข้ากันกับชื่อห้อง มีห้องเอื้องผึ้ง- โทนเหลือง เอื้องงาม-โทนชมพุ ห้องไอยรา-โทนฟ้า ห้องฟ้ามุ่ย-โทนม่วง ป้าเกษคนวันจันทร์เลือกเข้าพักห้องเอื้องผึ้ง ที่มีภาพวาดเป็นรูปดอกเอื้องผึ้งที่ผนังของห้องเป็นสัญลักษณ์
ที่ชอบที่สุดของห้องเอื้องผึ้ง อยู่ที่โซนห้องน้ำค่ะ จะมีห้องอาบน้ำที่มีทั้ง indoor outdoor
ตู้เสื้อผ้าจะวางเสื้อคลุมผ้าฝ้ายพับวางไว้ในตระกร้า มีไดร์เป่าผม มีร่มแบบจาวเหนือสีแดงไว้กางเวลาออกจากร้อนเมื่อแดดร้อนหรือมีฝน มีตู้เก็บของมีค่าพร้อม