คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เป็นสัสสตทิฎฐิ... คือมีความเห็นว่า 'จิตเที่ยง'
จิตเป็นของไม่เที่ยง...
แม้จิตเหนี่ยวนิพพานเป็นอารมณ์เต็มที่แล้ว... จิตก็ไม่เที่ยงอยู่ดี...
อุปมาเหมือนเครื่องยนต์... เดิมมีเบนซินเป็นเชื้อเพลิง... ต่อมา... เลิกใช้น้ำมันเบนซิน แล้วเอาไฮโดรเจนใส่แทน...
ลูกสูบในกระบอกสูบมันก็ทำงานอย่างเดิม... คือ ชักขึ้นชักลงอยู่ในกระบอกสูบ...
คุณจขกท. จะกะเกณฑ์ให้ลูกสูบในกระบอกสูบมันหยุดนิ่งไปชั่วนิรันดรหรือ???
จิตเป็นของไม่เที่ยง...
แม้จิตเหนี่ยวนิพพานเป็นอารมณ์เต็มที่แล้ว... จิตก็ไม่เที่ยงอยู่ดี...
อุปมาเหมือนเครื่องยนต์... เดิมมีเบนซินเป็นเชื้อเพลิง... ต่อมา... เลิกใช้น้ำมันเบนซิน แล้วเอาไฮโดรเจนใส่แทน...
ลูกสูบในกระบอกสูบมันก็ทำงานอย่างเดิม... คือ ชักขึ้นชักลงอยู่ในกระบอกสูบ...
คุณจขกท. จะกะเกณฑ์ให้ลูกสูบในกระบอกสูบมันหยุดนิ่งไปชั่วนิรันดรหรือ???
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
ปัญญาเกิดแล้ว จักษุ เกิดแล้ว ญาณทัศนะเกิดแล้ว วิมุติเกิดแล้ว นิพพานเกิดแล้ว
นิพพานเกิดที่จิตแล้ว จิตเกิดแล้วไม่ดับอีกต่อไปแล้ว จิตเป็นนิพพานแล้ว
จิตเป็นอมตะ ไม่เกิดไม่ดับ จิตคือนิพพาน จิตไปอยู่ที่ไหน นิพพานก็ไปอยู่ที่จิต ไม่แยกจากกัน
นิพพานเกิดได้แต่ไม่ดับ นิพพานจะเกิดได้กับจิตที่ละสังโยชน์แล้ว
ธรรมทั้งหลายดับหมดแล้ว ไม่มีอะไรให้ดับแล้ว ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง
ไปกราบพระพุทธเจ้าที่จุฬามนี แดนนิพพานแล้ว